ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 310 จะไม่ให้แกมีชีวิตอยู่อย่างดี
บทที่ 310 จะไม่ให้แกมีชีวิตอยู่อย่างดี
“คุณหมายความว่าไอ้กระกรี่คนนั้นคนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองแท้งหรือ?”
เจียงนวลนวลขมวดคิ้วและมองมาที่คุณแม่
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ น่าจะเป็นเพื่อนตระกูลจิ้นตั้งใจจะปิดบังเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะเสียใจ”
พอพูดถึงที่นี่ เสิ่งซูหลันก็หัวเราะเยาะออกมา”ไม่ทราบว่าไอ้กระหรี่คนนั้นดีตรงไหนเลย ตระกูลจิ้นถึงใส่ใจเธอขนาดนั้น”
เจียงนวลนวลส่ายหน้า”ไม่ได้ เธอไม่รู้เรื่องที่ตัวเองแท้ง นั้นก็เปล่าประโยชน์สิ”
เธออดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา”ความทรมานของฉัน เธอก็ต้องได้รับด้วย”
“นวลนวล คุณอย่าเพิ่งตื่นเต้น”
เสิ่งซูหลันปลอบใจเธอ พร้อมพูดว่า”คุณแม่จะคิดวิธีไปบอกเรื่องนี้ให้เธอเอง คุณไม่ต้องห่วง”
“แม่ คนอย่างเธอยังสามารถได้รับการเอาใจใส่จากตระกูลจินเลย แล้วฉันล่ะ?”
เจียงนวลนวลรู้สึกไม่พอใจ
ตั้งแต่เธอแท้ง นอกจากสองวันแรกหลานซือเฉินยังมาเฝ้าเธอ วันหลังๆล้วนบอกว่าบริษัทงานหนักไม่มีเวลามา
พ่อแม่ของเขาก็อย่าไปพูดถึงเลย ไม่ได้มาเยี่ยมเธอแม้แต่สักครั้งหนึ่ง
ตอนนี้เธอมีท้อง พวกเขาดีต่อเธออย่างยิ่ง พวกอาหาร ผลนำเข้าและอีกอื่นๆล้วนส่งมาที่บ้านเธอเป็นลังๆ
แต่พอเด็กเสียไป ก็เปลี่ยนท่าทีอย่างสิ้นเชิง
น่าตลก และน่าโมโหหรือเกิน
ส่วนไอ้กระหรี่คนนั้นล่ะ แค่เพราะว่ากลัวเธอจะเสียใจ ทุกคนก็ปกปิดเรื่องแท้งไม่ให้เธอรู้
ใส่ใจเช่นนี้!
ไม่ได้!
เธอจะให้เจียงสื้อสื้อได้รับความทรมานจากการสูญเสียลูกไปอีกครั้งแน่นอน!
“แม่!”เธอจับมือของเสิ่นซูหลันเอาไว้”ตอนนี้คุณรีบไปบอกเรื่องให้แก่ไอ้กระหรี่คนนั้น!”
“นี่…….”เสิ่นซูหลันรู้สึกลำบากใจ
เจียงนวลนวลใจร้อนขึ้นมา”แม่ หรือว่าคุณไม่ยอม?”
“ไม่ใช่เป็นเพราะฉันไม่ยอม”เสิ่นซูหลันขมวดคิ้ว”เป็นเพราะว่าจิ้นเฟิงเฉินก็อยู่ ฉันพูดไม่ได้”
เจียงนวลนวลทำตาหยีขึ้นมา และหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา”นั้นก็รอเวลาที่เขาไม่อยู่ค่อยไป ฉันไม่เชื่อว่าเขาสามารถเฝ้าไอ้กระหรี่คนนั้นอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“โอเค นั้นก็รอเวลาที่เขาไม่อยู่ฉันค่อยไป”เสิ่นซูหลันตบมือของเธอเบาๆ และพูดปลอบใจเธอ”นวลนวล คุณไม่ต้องห่วง คุณแม่จะไม่ให้ไอ้กระหรี่คนนั้นมีชีวิตอยู่อย่างดีแน่นอน!”
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเธอคาดไม่ถึงก็คือ เจียงสื้อสื้อได้ย้ายโรงพยาบาลในวันนั้น
“อ๊ะ!”เจียงนวลนวลขว้างของบนโต๊ะข้างเตียงลงพื้นอย่างบ้าบอคอแตก และเนื่องจากโกรธสุดๆ ส่งผลให้ใบหน้าบิดเบี้ยวไปหมด ช่างน่ากลัวหรือเกิน
“น่าโมโหจริงๆ!”
“นวลนวล!”
เสิ่นซูหลันได้ยินเสียงของข้างในจึงรีบวิ่งเข้ามา เมื่อได้เห็นบนพื้นที่ยุ่งเหยิง เธอก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ และค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ก็ได้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเจียงนวลนวล
เธอรีบเดินเข้าไป ตบหลังของเธอเบาๆ และปลอบใจว่า”นวลนวล อย่าโกรธเลยนะลูก ไม่นั้นร่างกายจะรับไม่ไหว”
เธอเพิ่งเสียลูกไปคนหนึ่ง ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ฟื้นฟูร่างกายอยู่ จะสามารถโกรธหนักขึ้นมาขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ
“แม่”เจียงนวลนวลหันมาจ้องที่เธอ และค่อยๆพูดทีละอย่างชัดเจนและโกรธขรึม”ฉันจะไม่มีวันปล่อยไอ้กระหรี่คนนั้นแน่นอน”
“ใช่ พวกเราจะไม่มีวันปล่อยเธอไป!”เสิ่นซูหลันพูดคล้อยตาม จากนั้นพูดโน้มน้าวใจเธออีกว่า”นั้นคุณได้ดูแลร่างกายของตัวเองให้ดี ถ้าหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ไอ้กระหรี่คนนั้นคงเป็นคนที่ดีใจที่สุด”
พอได้ยินเช่นนี้ เจียงมองมาที่เธอตาหนึ่ง และจึงค่อยๆใจเย็นลงมาภายใต้การสะกิดของเธอ
อีกนาน เจียงนวลนวลถึงอ้าปากถามว่า”แม่ คุณรู้หรือเปล่าว่าย้ายไปโรงพยาบาลแห้งไหนไหม?”
“โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง”
“นั้นคุณหาเวลาว่างไปนะ ต้องบอกเรื่องนี้ให้เธอแน่นอน”
เสิ่นซูหลันพยักหน้า”โอเค ฉันรู้แล้ว”
เจียงนวลนวลจับมือของแม่อย่างแน่น ในสายตาเต็มไปด้วยความมืดมน
เจียงนวลนวล ว่าแกไปอยู่ที่ไหน ฉันล้วนไม่ให้แกมีชีวิตอยู่อย่างดีแน่นอน
……
“ทำไมถึงย้ายโรงพยาบาล?”
เมื่อได้ยินว่าจะย้ายโรงพยาบาล เจียงสื้อสื้อเกิดความสงสัยขึ้นมา
จิ้นเฟืองเฉินกำลังเก็บของอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของเธอจึงเลิกคิ้วขึ้นมามองเธอ และตอบอย่างราบเรียบ”ที่นู้นบรรยากาศดีกว่า”
“ตามจริงอีกไม่นานฉันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลแล้ว ไม่ต้องยุ่งยากเช่นนี้หรอก”
เจียงสื้อสื้อขี้เกียจย้ายไปย้ายมา โดยเฉพาะยังเป็นเวลาที่ร่างกายของเธอไม่สบาย
จิ้นเฟิงเฉินหยุดการกระทำในมือลง ก้มหน้าลง เหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่
มองไม่เห็นสีหน้าของเขา เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว”เฟิงเฉิน คุณคิดอะไรอยู่!”
“ฉันวางใจไม่ได้”จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นมา มองเธออย่างจริงจัง”เจียงนวลนวลก็อยู่ที่นี่ด้วย”
“คุณกลัวว่าพวกเธอจะมาก่อความวุ่นวายอีกเหรอ?”เจียงสื้อสื้อถาม
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบโดยตรง แต่ได้พูดว่า”ร่างกายของคุณต้องการพักผ่อนอยู่ในบรรยากาศที่เงียบ”
“ฉันไม่ได้ป่วยหนักอย่างที่คุณคิดหรอก”เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าเขาคิดเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่มากไปแล้ว
“ฉันเป็นใหญ่ คุณทำตามก็พอ”
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเธอ
“คุณ……”เจียงสื้อสื้อจ้องเขาไว้ อยากจะพูดอะไร แต่ในที่สุดก็พูดไม่ออกซักกะอย่าง
“โอเค ฟังคุณละกัน”
เจียงสื้อสื้อไม่ปฏิเสธการย้ายโรงพยาบาลอีกแล้ว
เหตุผลที่สำคัญสุดคือขอให้เขาหมดห่วงก็พอ
ดังนั้น เจียงสื้อสื้อเลยย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่บรรยากาศดีกว่าหลายเท่า
เพิ่งมาถึงโรงพยาบาลได้ไหมนะ พ่อจิ้นแม่จิ้นก็มาแล้ว
“คุณลุงคุณป้าคะ”
เมื่อได้เห็นพวกเขา เจียงสื้อสื้อจึงคิดจะนั่งตัวตรงขึ้นมา
แม่จิ้นรีบเดินขึ้นมาห้ามเธอไว้”คุณนอนอยู่บนเตียงก็พอ ไม่ต้องลุกตัวขึ้นมา”
“ขอบคุณคุณป้าค่ะ”จียงสื้อสื้อยิ้มขึ้นมาอย่างเขินอาย
“นี่เป็นน้ำซุปไก่ที่ฉันสั่งให้คนทำ เดี๋ยวต้องกินลงไปนะ”
แม่จิ้นรับกระบอกฉนวนจากมือของพ่อจิ้นมาและวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง
เจียงสื้อสื้อมองไปดู จากนั้นกล่าวคำว่า”ขอบคุณค่ะ”ด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องเกรงใจกับฉันนะ”แม่จิ้นยิ้มใส่เธอ จากนั้นมองสังเกตเธอ พร้อมถามด้วยความห่วงใย”ร่างกายเป็นยังไงบ้างแล้ว ยังไม่สบายอยู่หรือเปล่า?”
“ดีขึ้นมาเยอะแล้วค่ะ”
แม่จิ้นพยักหน้า”ดีแล้ว เดี๋ยววันหลังฉันต้องไปขอเครื่องรางนำโชคให้คุณใส่ไว้ คุณเกิดเหตุติดต่อกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องเปลี่ยนโชคบ้าง”
“คุณป้าคะ ไม่ต้องค่ะ”เจียงสื้อสื้อจะกล้ารบกวนเธอได้ยังไงล่ะ”ทีหลังฉันระวังเองก็พอค่ะ”
“ไม่ได้ สิ่งที่จำเป็นยังต้องไปขอ”
“คุณป้า……”
“พอแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้อีก”แม่จิ้นขัดจังหวะการพูดของเธอโดยตรง
เจีนงสื้อสื้อรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
สมควรที่จะเป็นแม่ลูกกับจิ้นเฟิงเฉิน หยิ่งผยองเหมือนกับเลย
“สื้อสื้อ ถ้ายังมีสิ่งที่ต้องการอีก คุณต้องพูดมาตรงๆนะ เข้าใจไหม”พ่อจิ้นพูด
“ใช่ ไม่ต้องเกรงใจนะลูก”แม่จิ้นก็คล้อยตาม
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า”คุณป้าคุณลุงคะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนอีกแล้ว เมตตาต่อเธอ ความห่วงใยที่มีต่อเธอก็มาจากใจอย่างจริงจัง
เจียงสื้อสื้อรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ในขณะเดียวกันก็คิดอยู่ว่า คำพูดของจิ้นเจิ้งเฉินพูดถูกจ้องจริงๆ พวกเขาจะยอมรับเธอ
เพียงแค่ต้องใช้เวลาปรับตัวแค่นั้นเอง
พ่อจิ้นแม่จิ้นกลัวว่าจะรบกวนเธอพักผ่อน ไม่ได้อยู่นานก็จากไปแล้ว
เวลาที่จากไปยังเตือนเธอว่าอย่าลืมกินน้ำซุปไก่ลงมา
หลังจากจิ้นเฟิงเฉินส่งเธอมาที่โรงพยาบาลแล้วก็ถูกโทรศัพท์สายหนึ่งเรียกไปแล้ว พอพ้อจิ้นแม่จิ้นไปเสร็จ ในวอร์ดก็เหลือเธอเพียงคนเดียว
แต่นอกวอร์ดมีบอดี้การ์ด 2 คนเฝ้าอยู่
รู้สึกว่าครั้งนี้จิ้นเฟิงเฉินเหมือนจะระมัดระวังมากๆ ดูเหมือนป้องกันอะไรอยู่
น่าจะป้องกันไม่ให้โจรคนนั้นได้มาทำร้ายเธออีก
เจียงสื้อสื้อคิดอยู่แบบนี้ เพราะหลังจากเกิดเหตุแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไป หาไม่เจออีก