ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 355 แดดดี๊เลว!แดดดี๊บ้า!
บทที่ 355 แดดดี๊เลว!แดดดี๊บ้า!
ถึงเวลาเย็น จิ้นเฟิงเหราก็ได้ฮัมเพลงไปจนถึงบ้านตระกูลฉิน เจียงสื้อสื้อที่อยู่ในห้องครัวก็โผล่หน้าออกมาแล้วพูดว่า “คุณชายรองของพวกเรานาน ๆ จะอารมณ์ดีอย่างนี้ สงสัยจะมีการพัฒนาที่ไม่เลวนะเนี้ย”
จิ้นเฟิงเหราได้ยินคำพูดนั้นก็รีบยืนตัวตรง พูดอย่างสมเหตุสมผลว่า “พี่สะใภ้ คุณอย่างพูดจามั่ว ๆ นะ ผมไม่ได้มีความหมายอย่างนั้นกับเขา”
“เหรอ จิ้นเฟิงเหราไม่ได้มีความหมายอย่างนั้นต่อหวั่นชีงซะหน่อย”
เจียงสื้อสื้อรู้ว่าจิ้นเฟิงเหราก็แค่ปากแข็งเท่านั้น และก็ได้หยิบจานผลไม้ที่อยู่ในมือส่งให้เขา แล้วเดินยิ้มออกไป
พร้อมกับหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมากัดสองคำ แล้วจิ้นเฟิงเหราก็นั่งบนโซฟาอย่างสบายอารมณ์
แม่จิ้นมองดูลูกชายคนเล็กแล้วอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เกิดอะไรขึ้น?เธอมีแฟนแล้วเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เสี่ยวเป่าที่อยู่ด้านข้างแย่งตอบว่า “เป็นน้าส้งคนสวยคนนั้น!คุณอาชอบเขา!” “เสี่ยวเป่าเธออย่าพูดจามั่ว ๆ ระวังฉันจะต่อยเธอ!”
ถูกเสี่ยวเป่าพูดแทงใจดำ จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองในทันที แกล้งทำเป็นต้องการจะตีเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าแลบลิ้นอย่างไม่กลัวเลยสักนิด แล้วก็ได้กระโดดไปบนตัวของเจียงสื้อสื้อ
พอแม่จิ้นได้ยินว่าเป็นพยาบาลเล็ก ๆ คนนั้น ในใจก็มีความสับสนเล็กน้อย ถึงแม้จะพูดว่าส้งหวั่นชีงเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ยังไงก็ไม่เหมาะสมกับตระกูลฉินของพวกเขา
อีกทั้งในใจของแม่จิ้น ถ้าอยากจะมาเป็นลูกสะใภ้ของเขาจะต้องเก่งกว่าคนอื่น ๆ ทุกด้าน ถ้าเป็นพยาบาลเล็ก ๆ นี่อาจ……
ขณะที่กำลังคิดสับสนอยู่นั้น แม่จิ้นก็ได้เงยหน้ามองท่าทางที่เป็นเพลย์บอยของจิ้นเฟิงเหรา ทันใดนั้นในใจก็มีความโมโหขึ้นมา ลูกชายคนนี้ดีทุกอย่างแต่มีพฤติกรรมที่ไม่เข้าท่า ถ้าพยาบาลเล็ก ๆ นั่นสามารถดูแลเขาได้ก็ถือว่าเป็นการแต่งงานที่ดี โตขนาดนี้แล้วยังเหมือนกับเด็กน้อยอยู่เลย
แม่จิ้นพูดอย่างอารมณ์เสียว่า “ถ้านี่สามารถอยู่มั่นคงได้ อย่าพูดถึงพยาบาลเล็ก ๆ เลยถึงเป็นผู้ชาย ฉันก็ยอมแล้ว”เจียงสื้อสื้อได้ยินแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา แม้กระทั่งจิ้นเฟิงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา มองสายตาของจิ้นเฟิงเหราที่มีความน่าสงสารเล็กน้อย
ได้ยินแม่ที่ทำต่อตัวเองอย่างนี้ จิ้นเฟิงเหราอดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าไม่มีความยุติธรรมไปบ้าง พูดโวยวายว่า “แม่ก็ลำเอียงมากไปแล้ว ทำไมแม่มีขอร้องเรียกกับพี่ชายของผมต่าง ๆ พอมาถึงผมทำไมแค่เป็นผู้ชายก็ได้แล้วล่ะ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!”
เห็นท่าทางที่เขาโวยวาย แล้วมองครอบครัวของจิ้นเฟิงเฉินอีกด้านหนึ่ง จู่ ๆ แม่จิ้นก็รู้สึกถอนใจเล็กน้อย
ค่อย ๆ พูดอย่างถอนหายใจว่า “ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีขอเรียกร้อง เมื่อก่อนคิดว่าฐานะเท่าเทียมกันสำคัญมากที่สุด แต่ว่าผ่านเรื่องมามากอย่างนี้รู้สึกว่าหาคนที่รักเธอเข้าใจเธอก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อยมีความสุขแบบนี้ เมื่อก่อนบ้านของพวกเราโดยปกติแล้วก็ไม่เคยมี สิ่งเหล่านี้ต้องขอบคุณสื้อสื้อ เป็นเขาที่ทำให้เสี่ยวเป่าเริ่มต้นมีความรักจากแม่อีกครั้ง กลายเป็นเด็กที่ปกติคนหนึ่ง”
เจียงสื้อสื้อได้ยินก็อุ้มเสี่ยวเป่านั่งลงด้านข้างของแม่จิ้น ยิ้มแล้วพูดว่า “น้า คุณก็สรรเสริญฉันมากไปแล้ว เป็นฉันที่ควรจะขอบคุณพวกคุณที่ทำให้ฉันมีครอบครัวที่ดีอย่างนี้ ทำให้ฉันมีชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง”
แม่จิ้นกุมมือเจียงสื้อสื้ออย่างปลื้มใจ เวลานี้เสี่ยวเป่าก็ได้กระโดดลงมาจากอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ พูดด้วยความทะเล้นว่า “ไม่ต้องขอบคุณใครทั้งนั้น พวกคุณควรจะขอบคุณเสี่ยวเป่า โชคดีที่มีหนู พวกคุณถึงเบิกบานใจอย่างนี้”
“ใช่ใช่ใช่ ต่างก็เป็นความดีความชอบของเสี่ยวเป่า ถ้าไม่มีเสี่ยวเป่าครอบครัวของพวกเราก็คงจะไม่เบิกบานใจอย่างนี้” แม่จิ้นยิ้มแล้วอุ้มเสี่ยวเป่าไว้ในอ้อมกอด
“หลังจากนี้ไปพวกเราจะดีกว่านี้”ไม่รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินมานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วกอดคอเจียงสื้อสื้อประคอง และลูบผมของเขาอย่างอ่อนโยน
เจียงสื้อสื้อได้ยินแล้วจึงเอาหัวพิงกับไหล่ของจิ้นเฟิงเฉิน อย่างใจที่รู้สึกอบอุ่น
ฉากนี้ปรากฏอยู่ในความฝันของเขามาตลอด ไม่คิดว่าวันนี้จะกลายเป็นเรื่องจริง
เงยหน้ามองแก้มของจิ้นเฟิงเฉิน ตอนนี้เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะเลือนรางเล็กน้อย
ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานผู้ชายที่ดีอย่างนี้มาให้
จิ้นเฟิงเหราที่อยู่ด้านข้างมองฉากที่มีความสุขนี้ ก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย แล้วมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มแห่งความสุขของพี่ชายเราแล้ว ใบหน้าของเขาก็มีความอิจฉาเล็กน้อย
หาคนที่รักเจอคนหนึ่ง ดีอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?
เขาจะโชคดีอย่างนั้น หาคนที่รักตัวเองด้วยความจริงใจเจอไหม?
หรือว่าความรักสำหรับเขาแล้วมันจะฟุ่มเฟือยมากเกินไป?
สองสามคนอื่น ๆ กำลังตกอยู่ในภวังค์ของบรรยากาศที่มีความสุข ก็ไม่ได้รู้สึกถึงจิ้นเฟิงเหราที่หมดอาลัยตายอยาก
ถึงกลางดึก เสี่ยวเป่ายังคงไม่ยอมออกห่างจากเจียงสื้อสื้อ นี่ทำให้จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
“ พอแล้ว เสี่ยวเป่าตอนนี้หนูเป็นเด็กโตแล้ว ติดพันกับหม่ามี๊ไม่ได้ตลอด ตัวเองควรที่จะไปนอนแล้ว”จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างจริงจัง
“หนูไม่สน แดดดี๊ก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ แล้วทำไมไม่นอนเองยังต้องมาแย่งหม่ามี๊กับเสี่ยวเป่าอีก!”
เสี่ยวเป่าไม่ได้กลัวจิ้นเฟิงเฉินเลยสักนิด มือเล็กพอสะบัดก็เอาตัวของเจียงสื้อสื้อไว้ด้านหลังไม่ยอมให้เลยแม้แต่นิดเดียว
มองท่าทางทั้งสองคนตาใหญ่จ้องตาเล็ก เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออก ทั้งสองคนเป็นผีน้อยปัญญาอ่อนจริง ๆ
ขณะที่เขาอยากจะพูดอะไรอยู่นั้น แค่เห็นจิ้นเฟิงเฉินยกปกคอของเสี่ยวเป่าขึ้นมาแล้วโยนไปด้านนอก
‘ปึ้ง’เสียงประตูห้องที่ปิดลง
“แดดดี๊เลว!แดดดี๊บ้า!”
เสี่ยวเป่าที่ถูกโยนไปด้านนอกทุบประตูห้องอย่างไม่ยินยอม แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย
ผ่านไปสักพัก เสียงที่ทุบประตูถึงค่อย ๆ หายไป จิ้นเฟิงเฉินเปิดประตูเห็นเสี่ยวเป่ากลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วก็เพยิดมุมปากขึ้นมา
“คุณก็จริง ๆ เลย ทำไมหยาบด้านแบบนี้”เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะพูดบ่น
“ถ้าหากไม่ทำแบบนี้ เด็กผีนั่นก็จะไม่กลับห้องไป ผมไม่อยากให้เขาครอบครองคุณต่อไป”
จิ้นเฟิงเฉินพูดพลางก็โอบเขาเข้ามาในอ้อมกอด หัวของเจียงสื้อสื้อก็ชนกับหนวดเคราสีดำ ไม่เคยเห็นว่าจะมีหึงหวงกับลูกชายตัวเองอย่างนี้ด้วย นอนหลับสบายทั้งคืน วันที่สองเจียงสื้อสื้อก็ถูกเสียงโทรศัพท์ปลุกให้ตื่นมองเห็นชื่อที่กระพริบมาบนหน้าจอเป็น ลู่เจิง เขารีบรับขึ้นมา
“รุ่นพี่ มีอะไรหรือเปล่า?”
ได้ยินเสียงที่อยากนอนของเจียงสื้อสื้อ ลู่เจิงเอ่ยปากอย่างเขินอายเล็กน้อย
“ขอโทษนะสื้อสื้อ รบกวนคุณหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ที่วางแผนโครงการนั้น ตอนนี้เริ่มโปรโมทแล้วนะ ผลลัพธ์ออกมาดีมาก ๆ อีกทั้งพรุ่งนี้เย็นมีงานเลี้ยงมีโครงการหนึ่งผมอยากต่อสู้เพื่อให้ได้มาหน่อย แต่ว่ายังต้องการให้คุณช่วย ไม่รู้ว่าคุณจะมีเวลาหรือเปล่า?”
เจียงสื้อสื้อคิดแต่แล้วก็ไม่ได้ปฎิเสธ ยังไงนี่ก็คืองาน
เวลานี้จิ้นเฟิงเฉินได้ตื่นนอนแล้ว ถามอย่างงัวเงียว่า“ใครเหรอ?”
“เป็นรุ่นพี่ลู่เจิง โครงการก่อนหน้านี้ที่ฉันรับผิดชอบเริ่มดำเนินการแล้ว พรุ่งนี้เย็นมีงานเลี้ยงเขาหวังว่าฉันจะสามารถไปได้”
หลังได้ยินเจียงสื้อสื้อพูดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย โอบเอวของเขาแน่นแล้วถามว่า “ไม่กลับไปบริษัทเดิมแล้วเหรอ?ผมไม่อยากให้คุณทำงานเพื่อผู้ชายคนอื่น”
“คุณลืมไปแล้วเหรอ ก่อนที่ฉันจะออกมา เข้าไปที่บริษัทของรุ่นพี่ เวลานั้นยังไม่ได้ลาออก”
มองท่าทางเขาที่เหมือนกับเด็ก เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มของเขาสักหน่อย พูดอย่างหัวเราะว่า “นี่คุณกำลังหึงอยู่ใช่ไหม?น่ารักจริง ๆ ”