ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 376 จูบจนกว่าแกจะพูด
บทที่ 376 จูบจนกว่าแกจะพูด
แม่จิ้นขำและพูด “เห็นชัดๆเลยว่าคุณดูหมกมุ่นเกินไป ถึงไม่เห็นฉันมา”
แน่นอนจิ้นเฟิงเหราาเข้าใจความหมายที่แม่จิ้นพูด แต่ว่าเขาไม่อยากตอบ เลยทำแบบงงๆไป
เมื่อส้งหวั่นชีงเห็นแม่จิ้นมาแล้วก็เลยหาข้ออ้างออกไปเลย ปล่อยให้แม่และลูกคู่นี้พูดคุยกัน
ส่วนฝั่งนี้ เมื่อเจียงสื้อสื้อออกมาแล้วก็ได้เห็นร่างที่รีบร้อนของจิ้นเฟิงเฉิน เมื่อเห็นเขา เธอก็รู้สึกว่าความคับข้องใจทั้งหมดล้วนไม่เท่าไหร่แล้ว
“เฟิงเฉิน”เธอแค่เรียกเขาคำเดียว แล้วก็วิ่งไปหาจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินรีบยื่นมือออกไปเพื่อกอดไว้ในอ้อมแขน และปลอบโยนเธอสักพัก จากนั้นถามเบาๆว่า”เป็นอย่างไร มีอาการบาดเจ็บหรือไม่ ?”
นอกจากว่าเหนื่อยหน่อยก็ไม่มีอะไรอีกเลย ดังนั้นเจียงสื้อสื้อก็เลยส่ายหัวหัว พูดเสียงเบาๆ “ฉันไม่เป็นไร ดีจังที่ได้เห็นคุณ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้จิ้นเฟิงเฉินก็ถอนหายใจออกมาก่อน เเต่พอได้ยินเธอพูดแบบนี้เขาก็ยิ่งเป็นห่วง
มือที่จิ้นเฟิงเฉินกอดเธอไว้อยู่นั้นเพิ่มแรงอย่างเห็นได้ชัด อยากให้เธออยู่กับเขาตลอดไป
เจียงสื้อสื้อชอบความอบอุ่นในโอบกอดของเขา ก็เลยอยู่นิ่งๆในโอบกอดของเขา แต่สีหน้าเธอรู้สึกไม่ค่อยดี ดูแล้วเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดี
จิ้นเฟิงเฉินสังเกตเห็นรายละเอียดดังกล่าวของเธอ เขาขมวดคิ้วและถามเบาๆ “ สื้อสื้อ มีอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายหรอ”
เจียงสื้อสื้อส่ายหัว “ไม่ ฉันแค่ตกใจเฉยๆ”
แม้ว่าจะได้ยินจิ้นเฟิงเฉินเล่ามานานแล้วว่าถนนทุกสายของไม่ใช่การเดินเรือที่ราบรื่น แต่เธอก็ได้รับการปกป้องอย่างดีมาโดยตลอด ครั้งนี้เธอต้องเผชิญกับทุกสิ่งด้วยตัวเอง ดังนั้นเธอจึงยังคงมีความกลัวอยู่
ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ เขาก็ยิ่งเป็นห่วง นี่คือคนที่เขาวางอยู่ในหัวใจ ทำไมถึงต้องถูกคนอื่นทำให้หวาดกลัวโดยไร้เหตุผลล่ะ
เพราะเป็นห่วงเธอจะมีปมในใจ จิ้นเฟิงเฉินสาบานทันที “จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว อย่ากลัวแล้ว ได้ไหม”
แม้ว่าได้ยินเขาพูดแบบนี้ และสาบานด้วยแล้ว ถ้าปกติในใจของเจียงสื้อสื้อต้องไม่เป็นไร แต่ว่าคำพูดของจื่อเฟิงยังอยู่ในใจเธอ จะทำให้เธอไม่ห่วงมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
แต่กลัวจิ้นเฟิงเฉินคิดมาก เธอก็เลยพยักหน้า
เห็นเจียงสื้อสื้อพยักหน้า จิ้นเฟิงเฉินก็จับมือเธอและพาเธอไปที่บริษัท
พอถึงบริษัทแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ไปที่แผนกโดยตรง ไม่ได้เดินไปห้องทำงานพร้อมกับจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่ด้านหลังของเธอ รู้สึกแปลกๆ
อารมณ์ของเธอดูเหมือนยังเสียอยู่…
แต่ว่างานของจิ้นเฟิงเฉินในตอนนี้ก็เยอะมาก ก็เลยไม่สามารถใส่ใจความรู้สึกของเธอได้ตลอดเวลา เดิมทีเขาก้าวไปข้างหน้าเตรียมจะไปถามเธอ แต่ก็กลัวต้องไปนานมาก งานที่อยู่ในห้องทำงานก็เยอะอยู่ กลัวจะจัดการไม่เสร็จ สุดท้ายก็เดินเข้าไปห้องทำงาน
น่าจะเป็นเขาเองที่คิดมากไปแล้วหรือเปล่า
ตอนกลางคืน จิ้นเฟิงเฉินเห็นงานที่ยังไม่เสร็จที่อยู่บนโต๊ะ คิดในใจว่า อาจจะต้องทำงานดึกอีกแล้ว
นึกถึงแค่นี้ เขากลัวเจียงสื้อสื้อยังรอเขาอยู่บริษัท ก็เลยส่งข้อความไปให้เธอ ให้เธอกลับไปก่อน
แต่ว่าไม่ได้คำตอบ
ขณะนี้เจียงสื้อสื้ออ่านข้อความที่เขาส่งมา แล้วก็วางโทรศัพท์เลย
จนถึงเวลาที่จิ้นเฟิงเฉินกลับถึงบ้าน เห็นเจียงสื้อสื้อกำลังเล่นกับเสี่ยวเป่าอยู่ แม่จิ้นดูอยู่ข้างๆ บางทีก็คุยกับพวกเขา
เห็นจิ้นเฟิงเฉินกลับมาแล้ว แม่จิ้นก็ถาม “เฟิงเฉิน แกกินข้าวยัง บนโต๊ะอาหารยังเหลือข้าวอยู่”
ได้ยินคำถามของแม่จิ้นแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกว่าหิวจริงด้วย เขาพยักหน้าและไปห้องทานอาหารเลย
เวลาที่เขากินข้าวเสร็จออกมา เจียงสื้อสื้อก็ไม่อยู่ห้องรับแขกแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินเกิดความสงสัยขึ้นในใจและรีบไปหาเธอ แต่ไม่ได้คิดว่าเจียงสื้อสื้อจะอยู่ในห้องของเสี่ยวเป่า
“สุดท้าย เจ้าชายและเจ้าหญิง ก็อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”เจียงสื้อสื้อปิดหนังสือ มองไปทางเสี่ยวเป่า ในขนาดนี้เสี่ยวเป่ารู้สึกง่วงนอนมาก ได้ยินเธอพูดเสร็จ เหมือนจะหลับไปเลย
“สื้อสื้อ”จิ้นเฟิงเฉินออกเสียงเบาๆ
แต่ไม่ได้คิดว่าเจียงสื้อสื้อ ไม่สนใจเขาเลย และเตรียมจะปิดผ้าห่มของเสี่ยวเป่าและหลับด้วยกับเขา
เห็นเธอทำแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็รู้แล้วว่า เธอก็คืออารมณ์เสีย
แต่ว่าเขาไม่เข้าใจ พวกเขาเคยชิมกับเรื่องเยอะขนาดนั้นแล้ว แค่มีคนติดตาม ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกมั้ง ทำไมรู้สึกวันนี้เธอผิดปกติหรือเกิน
เห็นเจียงสื้อสื้อเตรียมจะนอนอยู่ที่ห้องของเสี่ยวเป่าแล้ว จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะเดินไปหาเธอ อุ้มเธอขึ้นมาและเดินไปห้องนอนของเขา
ตอนแรกเจียงสื้อสื้อก็ดิ้นรน แต่กลัวปลุกเสี่ยวเป่าโดยเสียงดัง สุดท้ายก็ไม่ดิ้นรน พอถึงห้องนอนแล้วค่อยพูดว่า” ฉันจะนอนกับเสี่ยวเป่า”
จิ้นเฟิงเฉินไม่พอใจ“ แกก็อยู่กับเขานานขนาดนั้นแล้ว อยู่กับฉันไม่ได้หรอ”
เจียงสื้อสื้อเงียบ
“สื้อสื้อ แกพูดความจริงกับฉัน เป็นอะไรกันแน่”จิ้นเฟิงเฉินนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็เลยถาม
เจียงสื้อสื้อก็ยังคงเงียบอยู่
จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้แล้ว เขาจับหน้าของเจียงสื้อสื้อ และจูบเธอ จนถึงเธอหายใจไม่ไหวถึงปล่อย แล้วพูด “ถ้าวันนี้คุณไม่พูด ฉันจะจูบจนกว่าแกจะพูด”
เจียงสื้อสื้อไม่ไหวแล้ว ก็เลยพูดสิ่งทั้งหมดที่เธอคิดออกมา
“ฉันคิดว่าฉันไร้ประโยชน์เกิน เวลาที่เจอเรื่องแบบนี้ ฉันทำอะไรไม่ได้เลย”
ฟังเธอพูดเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้คิดว่าเธออารมณ์เสียเพราะว่าสิ่งนี้ เป็นคนโง่จริงๆเลย
เขากอดเธอและพูดเบาๆ “ ถ้าคุณสามารถทำได้ทุกอย่าง แล้วจะให้ฉันทำอะไรล่ะ ฉันอยู่กับแกก็เพื่อปกป้องแกไง ไว้ใจฉันเถอะ ฉันจะไม่ให้คุณถูกทำลายอีกแล้วแม้แต่ซะหน่อย”
เจียงสื้อสื้ออยู่ในอ้อมแขนของเขา พยักหน้าเบาๆ
เขาก็กลัวเธอคิดเยอะอีก ก็เลยพูดต่อ “เราสัญญาไว้ ไม่ว่าใครก็ห้ามเสียใจภายหลังนะ ทีหลังแกจะไปไหน ต้องบอกฉันด้วย ให้ฉันรู้ทุกเวลาว่าเธอทำอะไรอยู่ ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้น ฉันก็จะได้รู้ทันที ฉันไม่อยากเห็นอะไรที่คล้ายกับการลักพาตัวของเสี่ยวเป่าและการบาดเจ็บสาหัสของแกอีกแล้ว“
พอรับรู้ถึงความจริงจังของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เจียงสื้อสื้อก็สบายใจได้ พยักหน้า “งั้นเราก็สัญญาไว้นะ”
ต่อมาจิ้นเฟิงเฉินก็ขำแย่ๆ “ เรื่องก็พูดกันเสร็จแล้ว งั้นเรื่องที่ต้องทำก็ต้องทำให้เสร็จ”
เขาเพิ่งพูดเสร็จ เจียงสื้อสื้อยังงงอยู่เลย จิ้นเฟิงเฉินก็จูบเธอทันที
เมื่อจูบลึกขึ้น เจียงสื้อสื้อยังไม่รู้ตัวว่าเสื้อผ้าของเธอถูกถอดออกเมื่อไหร่
ความคลุมเครือปกคลุมไปทั่วห้อง