ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 419 อย่าปล่อยมือ
บทที่ 419 อย่าปล่อยมือ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอทั้งสองกำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่ แววตาเธอก็เป็นประกายและหยิบมีดวิ่งเข้ามา!
แต่เจียงสื้อสื้อและส้งหวั่นชีงกำลังให้ความสนใจกับปัญหาที่ว่าพวกเธอจะตกลงไปหรือไม่ ยังไม่ทันได้ระมัดระวังถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
จิ้นเฟิงเหราเห็นดังนั้นก็ตกตะลึงเบิกตากว้าง เขาไม่สนใจขาของตัวเองและพุ่งเข้าไปโยนไม้ค้ำในมือออกไป!
ผู้หญิงคนนั้นต้องมองไปที่เจียงสื้อสื้ออยู่ จึงไม่ได้สนใจการกระทำของจิ้นเฟิงเหรา
“ปึก!” เสียงไม้เท้ากระแทกเข้าให้กับขาของเธอ เธอไม่ได้ระวังตัวมาไว้ก่อนจึงทำให้ล้มลงไปที่พื้น
และการกระทำนี้ทำให้เจียงสื้อสื้อมีโอกาสและเวลาเพิ่มขึ้นอีกนิดหนึ่ง
บัดนี้มีเสียงกรีดร้องขึ้นมาจากด้านล่าง แพทย์พยาบาลและญาติของผู้ป่วยถือผ้าห่มและถุงลมออกมา
พวกเขารีบปูสิ่งเหล่านั้นลงที่พื้นกลัวว่าคนอยู่ข้างบนจะตกลงมา
เมื่อเห็นทั้งสองคนถูกแขวนอยู่บนดาดฟ้าและกำลังดิ้นรนขึ้นมาหัวใจของทุกคนก็ตกไปที่ตาตุ่ม
ในที่สุดจิ้นเฟิงเฉินก็มาถึงโรงพยาบาล
เขาคิดไม่ถึงว่าเมื่อเพิ่งลงจากรถก็เห็นเจียงสื้อสื้อห้อยอยู่ข้างบนคล้ายกับกำลังจะตกลงมาอย่างไรอย่างนั้น!!!
เขารู้สึกว่าเลือดในตัวของเขาแทบจะแข็งทันที สติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขาชี้ให้เขารีบขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อช่วยเจียงสื้อสื้อ
เขาวิ่งขึ้นไปอย่างไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่เห็นเขาวิ่งเข้ามาดังนั้นจึงได้ชี้ทางหนีไฟให้กับเขา
จิ้นเฟิงเฉินไม่มีเวลามากพอ เขาเพียงหวังว่าจะใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีขึ้นไปยังชั้นบนดาดฟ้าให้เร็วที่สุดและช่วยเจียงสื้อสื้อมาอย่างปลอดภัย
เขาเอาใจช่วยและภาวนาเหมือนกับทุกๆคน ขอให้เธออย่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ณ บนดาดฟ้า หมอและพยาบาลกำลังวิ่งขึ้นไปด้านบน เนื่องจากคนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มตกใจ
เธอลุกขึ้นยืนและกำมีดไว้ในมือขู่ว่า “พวกแกอย่าเข้ามานะ!”
เนื่องจากเธอไม่มีตัวประกันแล้ว ทุกคนจึงไม่สนใจเธอและยังเดินหน้าเข้าไป
ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าคำขู่ของเธอไม่มีประโยชน์ จึงได้แกว่งมีดไปมาและตะโกนออกมาว่า “ฉันบอกว่าอยากเข้ามาไง ไสหัวออกไป!ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาฉันฆ่าทุกคนแน่!”
เมื่อเธอพูดจบก็แกว่งมีดไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนจึงเริ่มหวาดกลัวและลังเล
สุดท้ายแล้วชีวิตก็สำคัญกว่าการแสดงความกล้าหาญเป็นฮีโร่
คนกลุ่มนั้นไม่กล้าขยับเขยื้อน เพียงมองไปที่พื้นและถอยหลังกลับ
พวกเขาแยกทางเดินออกมา
ผู้หญิงคนนั้นเห็นดังนี้ก็ถอนหายใจ เพียงแค่เธอหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้ก็คงไม่เกิดปัญหาร้ายแรง
เธอยังไม่ได้คลายความกังวลลงมากนัก เธอก้าวออกไปพร้อมกวัดแกว่งมีดในมืออย่างไม่หยุด กลัวว่าจะมีใครเข้ามาคว้าตัวเธอเอาไว้
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอ ทำได้แต่เพียงมองดูเธอเดินเข้าไปในลิฟต์และกดลิฟต์ลงไป
ใครก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกมา ข้างในก็ปรากฏจิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่
ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ทันมองชัดเจนว่าใครออกมาจากลิฟต์ ก็ถูกเขาเตะจนกระเด็นออกไปหลายเมตร มีดในมือของเธอกระเด็นออกไปไกล
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรู้สึกชื่นชมจิ้นเฟิงเฉินที่สามารถจัดการผู้ร้ายได้
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่ถึงวินาทีเท่านั้น!
ผู้หญิงคนนั้นกระเด็นลงไปกองที่พื้นด้วยความมึนงงเล็กน้อย เธอเอามือจับที่หน้าผากของตนเองและกำลังจะตะโกนด่าออกมาถึงได้รู้ตัวว่ามีดที่เธอกำไว้แน่นเมื่อครู่กระเด็นไปทางไหนแล้วไม่รู้ จึงเกิดอาการลุกลี้ลุกลน
หากไม่มีมีดเล่มนั้นเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะต่อสู้อย่างไร
เธอวิตกกังวลและตื่นตระหนก กู้เนี่ยนพาบอดี้การ์ดเดินเข้ามา ไม่ต้องรอให้จิ้นเฟิงเฉินออกคำสั่ง พวกเขาก็ตรงเข้าไปจับผู้หญิงคนนั้นเอาไว้
ก่อนหน้านี้เธออาละวาดอย่างหนัก แต่ตอนนี้กลับถูกจับกะทันหัน ใครเล่าจะทนได้? เธอตะโกนออกมาว่า “พวกแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!ฉันจะฆ่าแก!”
กู้เนี่ยนเห็นดังนั้นก็มองไปที่เธอด้วยสายตาเยือกเย็นแล้วพูดว่า “อยู่เฉยๆดีกว่า เชื่อไหมว่าผมฆ่าคุณตอนนี้ก็ได้!”
ทางด้านจิ้นเฟิงเหราเมื่อไม่มีไม้เท้าค้ำไว้จึงได้แต่เดินกะเผลกๆเข้ามา แต่ละก้าวที่เขาเดินก็ส่งผลสะเทือนไปยังบาดแผลทำให้เขาเจ็บจนต้องกัดฟัน
แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินหน้าเข้ามา ไม่อย่างนั้นเจียงสื้อสื้อและส้งหวั่นชีงคงจะทนไม่ได้
เขาคล้ายกลับได้ยินเสียงของกู้เนี่ยนดังมาจากฝูงชน
พี่ชายของเขาอยู่ที่นี่หรือเปล่า?
เมื่อจิ้นเฟิงเหราคิดได้ดังนั้นก็หันกลับไปมอง เสียงของส้งหวั่นชีงก็ดังขึ้นมาว่า
“พี่สื้อสื้อ จับไว้นะคะ!”
ส้งหวั่นชีงแทบจะหมดแรงแล้ว หน้าของเธอซีดเผือดแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือ
เจียงสื้อสื้อมองดูเธอแล้วพูดว่า “ส้งหวั่นชีง รีบปล่อยฉันเถอะไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งสองคนจะตกลงไปข้างล่างนะ!”
ส้งหวั่นชีงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พี่สื้อสื้อคะ ไม่ว่าพี่จะพูดยังไงฉันก็จะไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด ถ้าฉันปล่อยมือพี่ ฉันยอมตกลงไปข้างล่างแทนที่ดีกว่า!”
คำพูดนี้ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกประทับใจมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมานั่งซาบซึ้ง เธอพยายามบังคับตัวเองให้ตั้งสติให้ได้และไม่ขยับเขยื้อน พยายามลดแรงเสียดทานเพื่อให้ส้งหวั่นชีงดึงเธอขึ้นไป
ในที่สุด จิ้นเฟิงเหราก็เดินเข้ามาด้วยความเจ็บปวดและยื่นมือออกมาจับส้งหวั่นชีงไว้
ตอนนี้น้ำหนักของผู้หญิงทั้งสองคนถ่ายมาที่ร่างกายของเขา และบาดแผลของเขาเองยังไม่หายดีทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนไม่อาจทนได้
เขาอดทนต่อความเจ็บปวดถึงขั้นสุดและตะโกนว่า “พี่สะใภ้ครับ ส้งหวั่นชีง! พวกคุณอย่าปล่อยมือเด็ดขาด ผมอยู่ที่นี่แล้ว พี่ชายของผมก็กำลังมา พวกคุณจะต้องอดทนไว้นะ!”
เหงื่อของเขาเปียกชุ่มไปทั่วหลัง เสื้อผ้าของเขาเปียกปอน
ต่อให้เป็นชายที่มีสุขภาพแข็งแรงดีเจอกับสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องใช้แรงพอสมควร นับประสาอะไรกับจิ้นเฟิงเหรา? เนื่องจากความเจ็บปวดของร่างกาย ความแข็งแกร่งของเขาจึงลดลงอย่างมาก
ทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งนั้นมีไม่เพียงพอ……