ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 588 ไปกับฉัน ได้ไหม
บทที่ 588 ไปกับฉัน ได้ไหม
อุณหภูมิวันนี้สูงกว่าปกติ แต่ว่าลมแรง ออกไปเดินเล่นก็เป็นความคิดที่ไม่เลว
เจียงสื้อสื้ออยู่หน้ากระจกเม้นปาก แล้วก็วางลิปสติกลง
เดิมเถียนเถียนนั่งอยู่ที่เตียง พอเห็นก็ได้ถามออกไปเสียงอ้อนว่า “หม่ามี๊ทาลิปสติกอยู่หรือเปล่าคะ? เถียนเถียนก็อยากทา”
เจียงสื้อสื้อได้ยิ้มออกมา หันไปอุ้มเถียนเถียน อุ้มเธอหมุนไปหนึ่งรอบ แล้วก็พูดออกไปอย่างใจเย็นว่า “นี่เป็นลิปมันค่ะ เพราะว่าตอนนี้อาการค่อนข้างแห้ง เพราะงั้นต้องทาหน่อย ไม่อย่างนั้นริมฝีปากจะแตก เจ็บมาก”
เถียนเถียนเหมือนจะเข้าใจ แล้วก็พยักหน้า พูดต่อว่า “งั้นเถียนเถียนก็จะทา”
เจียงสื้อสื้อก็ได้เอาลิปมันเด็กออกมา ได้ช่วยเธอทาด้วยการกระทำเบาๆ แล้วก็ได้มัดผมทรงถักเปียขนาดเล็กให้เธอ
แล้วก็ผูกริบบิ้นตรงปลายๆ มองแล้วน่ารักมากๆ นี่ถึงได้ถือว่าเสร็จสิ้น จูงมือน้อยๆ แล้วเตรียมตัวออกไป
เถียนเถียนกลับออกแรงดิ้น แล้วก็ได้หลุดออกจากแขนเธอ เจียงสื้อสื้อแปลกใจมากๆ ก็ได้นั่งลงถาม “เป็นไรไปค่ะ ยังมีเรื่องอื่นเหรอคะ?”
เถียนเถียนได้ก้าวเท้าสองเท้าเล็กๆ เดินไปข้างหน้า แล้วก็หันมาพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “เมื่อวานหนูเห็นแดดดี๊ซื้อเยลลี่อร่อยๆ มาเยอะมาก! เถียนเถียนกินคนเดียวไม่หมด อยากจะเอาให้พี่ชายไม่กี่อัน”
เจียงสื้อสื้ออยากจะหัวเราะ แตะไปที่ผมของเธอ แล้วพูด “งั้นเถียนเถียนเตรียมเอาไปกี่อัน แล้วเตรียมที่จะกินกี่อันค่ะ?”
เถียนเถียนได้ทำปากจู๊ ยกนิ้วขึ้นมานับแล้วก็พูดว่า “เจ็ดอันค่ะ หนูกินสี่ ให้พี่ชายกินสาม”
ตอนที่กำลังพูด เสี่ยวเป่าก็ได้เข้ามาในห้องแล้ว ได้เรียกชื่อเถียนเถียนเสียงดัง
แล้วก็ได้ยินเสียงของฝู้จิงเหวินพูดคุยรางๆ
เจียงสื้อสื้อไม่อยากที่จะเสียเวลาอีก ก็ได้รีบอุ้มเด็กขึ้น แล้วก็ก้าวออกประตู
ไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกัน ฝู้จิงเหวินไม่ได้กีดกั้นเสี่ยวเป่าขนาดนั้นแล้ว เพราะงั้นพวกเขาก็ถือว่าสนิทแล้ว
เจียงสื้อสื้ออุ้มเถียนเถียนเดินสักพัก ก็รู้สึกว่าเริ่มเมื่อยแขน ฝู้จิงเหวินก็ได้ยื่นมือ เป็นการบอกว่าเด็กเขาอุ้มให้ได้
เสี่ยวเป่ากับเอียงคอ พูดกับเถียนเถียนว่า “น้อง พวกเราลงมาเดินกันเถอะ พี่จูงมือน้องเอง”
เถียนเถียนได้ยินก็ได้ยิ้มออกมา แล้วก็ได้กระโดดลงไปทันที
ฝู้จิงเหวินเห็นว่าข้างๆ มีแค่เด็กแล้วก็ผู้หญิง ก็ได้เดินอยู่ข้างนอก ให้พวกเธอเดินข้างใน
เดินไปสักพักก็ได้ถาม “วันนี้อยากจะไปเที่ยวที่ไหน? ถ้าเกิดไกลมาก ขับรถไปดีกว่า”
เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วก็ส่ายหน้า พูดว่า “ดูความชอบของเด็กชอบสองคนนี้ดีกว่า ฉันไม่มีที่ที่อยากไป”
เสี่ยวเป่าฉลาดมากๆ ก็ได้จับคำพูดของเธอแล้วก็พูดว่า “คุณอา ผมรู้จักร้านไอศกรีมที่เปิดใหม่ร้านหนึ่ง อร่อยมากๆ พวกเราไปที่นั่นนั่งก่อนเถอะ ชั้นบนยังมีโรงหนัง”
ได้ยินว่ามีไอศกรีมให้กิน เถียนเถียนก็ตะโกนว่าอยากไป
ทุกคนได้ค่อยๆ เดินไปที่แห่งนั้น หนังเรื่องเก่าพึ่งฉากเสร็จ อีกเรื่องอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะฉาก ก็ได้นั่งพักผ่อนที่นั่นพอดี
ฝู้จิงเหวินได้ซื้อไอศกรีมหัวมิกกี้ สองอันถ้วยเล็กให้เด็กสองคน แล้วก็ซื้อไอศกรีมแก้วใหญ่สีแดงให้เจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อได้ค่อยๆ ทานไปครึ่งหนึ่ง ก็ได้ถูกเถียนเถียนกระชากแขนเสื้อ เลอะเสื้อไม่น้อย
เธอได้เอากระดาษทิชชูเช็ดไปสักพัก ก็ยังมีรอยเหนียวๆ เลอะอยู่ที่เสื้อนอก เพราะงั้นก็ได้ลุกขึ้นพูดกับฝู้จิงเหวิน “ฉันไปห้องน้ำก่อน จะได้ไปล้างด้วย”
ฝู้จิงเหวินพยักหน้า เป็นการบอกให้เธอรีบไปรีบกลับ
เจียงสื้อสื้อถึงได้วางใจแล้วเดินไป ใครจะรู้พอปิดประตูห้องน้ำแล้วก็เปิดไม่ได้แล้ว
เจียงสื้อสื้อพยายามที่จะบิดลูกบิด แต่ได้ยินแต่เสียงกึงๆ ดังวงไป
เธอได้ตะโกนออกไปไม่กี่ครั้ง ก็ไม่มีคนตอบเธอ คิ้วสวยได้ขมวดแน่น
ตอนที่กำลังเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ส่งข้อความให้ฝู้จิงเหวิน
ประตูข้างนอกก็ได้มีเสียง แล้วก็เปิดออก
เธอรู้สึกโชคดี ก็ได้พูดไปว่า “สวัสดีค่ะ เป็นคนทำความสะอาดที่นี่หรือเปล่าคะ? ตรงนี้มีคนอยู่ รบกวนคุณช่วยเปิดประตูให้หน่อย”
แต่ว่าพอเธอพูดจบ บรรยากาศก็ได้เงียบแปลกๆ
เจียงสื้อสื้อยังคิดว่ามีคนได้แกล้งเธอ อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
ตอนที่กำลังคิดว่าใครเป็นคนทำ ประตูบานนี้ก็ถูกเปิดออก
พอมองเห็น คือใบหน้าที่หล่อเหลาของจิ้นเฟิงเฉิน
แต่ว่ามาเจอกันที่ห้องน้ำ รู้สึกว่าทั้งตลกแล้วก็เลวร้าย
เจียงสื้อสื้อได้เอียงตัว อยากที่จะเดินผ่านช่องที่ว่างข้างๆ เขาไป แต่กลับถูกเขาจับมือไว้แน่น
ตาของจิ้นเฟิงเฉินได้ตก พูดเสียงเบา “เจอผม คุณก็หงุดหงิด แล้วไม่เต็มใจขนาดนี้เลยเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อออกแรงสะบัด แต่ก็สะบัดออกมาไม่ได้
แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินกลัวเธอเจ็บ ก็ได้คลายออกไม่น้อย
เธอโมโหจนขำ พูดอย่างเย็นชา “คุณจิ้น ต้องให้ฉันเตือนคุณไหมคะว่านี่เป็นห้องน้ำหญิง? คุณทำแบบน้ำไม่เหมาะหรือเปล่า
อีกอย่าง พวกเราก็ได้เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องความสัมพันธ์ ความรู้สึกกับฉันจริงไหม?”
เจียงสื้อสื้อพูดเร็วมาก สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินได้ซีดเล็กน้อย ก็ได้พูดยืนยันว่า “ผมรู้ว่าเรื่องบางเรื่อง คุณนั้นจำมันไม่ได้แล้ว
แต่ผมเชื่อว่าความรู้สึกคนนั้นไม่ได้ที่จะลืมกันง่ายๆ หรอก แล้วก็จะไม่หายไปตามความทรงจำ สื้อสื้อ วันนี้ผมมาหาคุณ หวังว่าพวกเรานั้นจะได้คุยกันดีๆ ตอนนี้คุณไปกับผม ดีไหมครับ?”
เจียงสื้อสื้อได้ยินก็ได้เสียวสันหลังอย่างห้ามไม่ได้ พูดไม่ถูกว่าเป็นเพราะแตะตัวกับชายแปลกหน้า หรือว่าความดื้อรั้นและอ่อนโยนของจิ้นเฟิงเฉิน
ผู้ชายคนนี้……ผู้ชายคนนี้ได้เย็นชากับคนอื่นแบบนั้น ทำไมต้องมาอ่อนโยนทำดีต่อหน้าเธอด้วย?
เธอได้มีลูกแล้ว แล้วก็…… ฝู้จิงเหวิน
คิดถึงลูก น้ำเสียงของเจียงสื้อสื้อก็ได้หนักแน่น “ขอโทษนะคะ วันนี้ฉันออกมาเที่ยวกับลูก พวกเราไม่ถือว่าเป็นเพื่อน และก็ไม่มีหน้าที่มาคุณเล่นกับคุณ ถ้าเกิดคุณยังไม่ปล่อยมือ ฉันจะตะโกนเรียกคนอื่นแล้วนะคะ”
เจียงสื้อสื้อพูดถึงตรงนี้ สายตาก็ได้มองไปสักพัก ได้แสดงถึงความสวยแล้วก็เย่อหยิ่ง “ลูกของฉันยังอยู่ข้างนอก เธอต้องการคนดูแล คุณจิ้น ต้องการให้ฉันนั้นเตือนคุณที่ว่าการกักขังเสรีภาพส่วนบุคคลมันผิดกฎหมายไหมคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินเงียบอยู่นาน ไม่ตอบ
เจียงสื้อสื้อคิดว่าเขานั้นได้เปลี่ยนใจแล้ว ตอนที่กำลังเดินออกไป ชายหนุ่มก็ได้แย่งเปิดประตูก่อน แล้วก็ลากเธอออกไป
เธอเซไปสักพัก เห็นว่าชายหนุ่มได้โอบหลังคอของเธอด้วยท่าทางที่อ่อนโยน
เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกว่าร่างกายได้อ่อน คอก็เหมือนได้มีปุ้ยฝ้ายกองหนึ่งอุดอยู่ พูดอะไรไม่ออก
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้กอดเธอกลายๆ ในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน คนนอกดูแล้วเหมือนกับคู่รักที่รักกันมากๆ คู่หนึ่ง
เขาได้พูดเสียงเบา ท่าทางได้จริงจัง “โทษทีที่ต้องใช้วิธีนี้พาตัวคุณไป ฤทธิ์ยาอยู่ได้แป๊บเดียว ไม่นานพวกเราก็ถึง เด็กนั้นมีคนดูแลอยู่ คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
เจียงสื้อสื้ออยากจะด่าเขาว่าหน้าไม่อาย แต่เสียงได้อ่อนไป อยู่ในปากพูดไม่ออก
จิ้นเฟิงเฉินได้กอดเธอตลอดทาง ไม่นานก็ได้ถึงลิฟต์ที่อยู่อีกด้านของตึก
แล้วก็เอาเจียงสื้อสื้อไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับอย่างระวัง คาดเข็มขัดให้ ถึงได้เสียบกุญแจแล้วขับรถ