ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 593 ทำได้ดีมาก มุมานะบากบั่นต่อไป
บทที่ 593 ทำได้ดีมาก มุมานะบากบั่นต่อไป
เจียงสื้อสื้อยิ้ม นี่จึงเข้าใจว่าอีหนูทำไมไม่ให้เธอซักกางเกงตัวนั้นแล้วล่ะ
นึกถึงเรื่องเมื่อกี้ที่เธอหลงกลอีหนูไปแล้ว ในใจทั้งโมโหทั้งอยากจะหัวเราะ
ในที่สุดก็โน้มน้าวลูกสาวบ้านตนเองไม่ได้ เธอกดตามหมายเลขที่เสี่ยวเป่าไว้ให้ เพิ่มเป็นเพื่อนบนWeChat
ฝั่งโน้นผ่านการขอเป็นเพื่อนอย่างรวดเร็วเลย
เจียงสื้อสื้อโทรวิดีโอคอลออกไป
ทันทีที่สายเพิ่งติด อีหนูก็ชูมือขึ้นจะแย่งโทรศัพท์ไป
“ให้ฉัน หม่ามี๊ให้ฉัน!”
เจียงสื้อสื้อส่งมือถือให้เธออย่างจนใจ
ผ่านไปไม่นาน ฝั่งโน้นปรากฏใบหน้าของเสี่ยวเป่าออกมา อีหนูโบกมืออย่างตื่นเต้นดีอกดีใจ “พี่ชาย! สามารถมองเห็นฉันได้ไหม?”
เสี่ยวเป่าแสยะปาก ยิ้มพูดว่า “มองเห็น ชัดมาก!”
ตอนที่จ้องมองไปยังเถียนเถียน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักใคร่โปรดปราน
เสี่ยวเป่าเหลือบมองไปยังข้างหลังหนึ่งที พบเห็นแขนของเจียงสื้อสื้อที่อยู่ในวิดีโอคอล บนใบหน้าเล็กปรากฏสีหน้าที่ประหลาดใจ
เขาตั้งใจถามอีหนูว่า “เถียนเถียน แกอยู่คนเดียวหรือ?”
“ไม่มีโอ้ว หม่ามี๊ก็อยู่ด้วยล่ะ ดู”
เสียงที่นิ่มนวลของเถียนเถียนดังขึ้น หมุนกล้องไปอย่างเชื่อฟัง ส่องไปยังใบหน้าของเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองเห็นเสี่ยวเป่า ฝั่งโน้นมีแค่เขาคนเดียวจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้อยู่ข้างๆ
เธอแอบโล่งอกหนึ่งที ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับจิ้นเฟิงเฉินยังไงล่ะ
นึกถึงใบหน้านั้น คลื่นในใจมักจะอดไม่ได้พลุ่งพล่านออกมา
ตอนที่เผชิญหน้ากับฝู้จิงเหวิน ล้วนไม่มีความรู้สึกแบบนี้ นี่ทำให้เธอรู้สึกใจวุ่นวาย ทำตัวไม่ถูก
แต่ว่าต่อเสี่ยวเป่าไม่เหมือนกัน เริ่มต้นก็รู้สึกรางๆว่าเด็กคนนี้สนิทสนมมาก
เหมือนกับเถียนเถียน ทำให้ความรักที่แม่มีต่อลูกของเธอเอ่อล้นจนท่วม
ความรักแบบนี้อยู่บนคุณธรรม เธอยังสามารถหลอกลวงตัวเองว่าเนื่องเพราะเสี่ยวเป่าหน้าตาน่ารักเกินไปตนเองจึงเป็นเช่นนี้
คราวนี้จ้องมองเสี่ยวเป่า บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่สนิทสนมโดยจิตใต้สำนึก “เสี่ยวเป่า สวัสดีจ๋า”
เสี่ยวเป่าได้ยินเจียงสื้อสื้อเรียกตนเอง ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย ดีใจจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ แฮ่ๆหัวเราะอย่างเดียว
“พี่ชาย เถียนเถียนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ คุณลองดมดูว่าแขนหอมหรือไม่!”
พูดจบ เถียนเถียนหมุนกล้องกลับมา ยื่นแขนไปยังหน้ากล้องอย่างไร้เดียงสา จ้องมองเสี่ยวเป่าอย่างจริงจังเต็มใบหน้า
เจียงสื้อสื้อพับเสื้ออยู่ข้างๆ แทรกประโยคหนึ่งเข้ามา เตือนสติเถียนเถียน “ผ่านวิดีโอคอลอยู่ล่ะ จะได้กลิ่นได้ยังไง”
ปากเล็กของหนูน้อยแบะหนึ่งที ไม่ค่อยพอใจ
“หอม! ดมได้กลิ่น บนกายเถียนเถียนมีกลิ่นของนม น่าดมมาก!”
เสี่ยวเป่าอยู่ฝั่งโน้นพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างวางมาดเอาจริงเอาจังในทันที กล่อมอีหนูยิ้มจนหน้าเบิกบาน
อีหนูหันหน้ากลับไป จ้องมองเจียงสื้อสื้อเหมือนดั่งท่านดูสิ สีหน้าที่ดมได้กลิ่น อวดเก่งเหลือเกิน
จ้องมองเสี่ยวเป่ารักใคร่โปรดปรานอีหนูถึงขนาดนี้ เจียงสื้อสื้อก็ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีกอย่างน่าขำ
เด็กทั้งสองคนพูดคุยจนเป็นเรื่องน่ายินดี เหมือนดั่งมีคำพูดที่พูดไม่จบสักที
คำพูดของอีหนูบางครั้งบางคราวแทรกเข้าไปหลายภาษา เจียงสื้อสื้อล้วนไม่สามารถมีปฏิกิริยาทันได้ ตอนที่เธออธิบายถึงอะไรอยู่ เสี่ยวเป่าที่อยู่ฝั่งโน้นก็ตอบคำถามอย่างคล่องแคล่วแล้ว
เข้าใจถึงคำพูดของอีหนูอย่างสบายมาก ใจตรงกันจนทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหลาดใจ
เด็กน้อยทั้งสองคน เข้ากันอย่างดีอย่างคาดไม่ถึงล่ะ
ระหว่างนี้ เธอก็จะแทรกบางประโยคด้วย
รับรู้ถึงว่าเสี่ยวเป่ากำลังเรียนประถมอยู่ ยังส่งเสริมให้กำลังใจเขาตั้งใจเรียน พูดคุยไปหนึ่งชั่วโมงกว่าอย่างไม่รู้ตัว
เห็นทั้งสองคนยังไม่มีความรู้สึกที่จะวางสาย เจียงสื้อสื้อหาเวลาเหมาะสมเดินเข้าไป
โผล่หน้าพูดอย่างเสียงอ่อนโยนกับเสี่ยวเป่าที่อยู่วิดีโอคอลฝั่งโน้นว่า “เถียนเถียนจะพักผ่อนแล้ว ถ้าไม่คราวหน้าค่อยพูดคุยอีกเถอะ แกก็ไปพักผ่อนเร็วหน่อยเช่นกัน”
เถียนเถียนได้ยินคำพูด ไม่ยินยอมในทันทีแล้ว
“ไม่เอาล่ะ ยังจะพูดคุยกับพี่ชายอยู่”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วเล็กน้อย มีความจริงจังเล็กน้อยจ้องมองไปยังอีหนู
เสี่ยวเป่าเห็นสภาพรีบหน้าบึ้งพูดกับเถียนเถียนว่า “เถียนเถียน ต้องเชื่อฟังคำพูดของหม่ามี๊ โอ้ว อย่าทำให้หม่ามี๊โมโห เด็กน้อยต้องนอนเร็วหน่อย!”
เมื่อกี้องค์หญิงน้อยที่ยังอยากจะใส่อารมณ์ไฟโมโหดับไปทันทีเลย โบกมือกับฝั่งโน้น “ได้ล่ะ งั้นเถียนเถียนไปนอนแล้ว พี่ชายอย่าโมโห บ๊ายบาย”
จากนั้นหลับตานอนดีๆอย่างเชื่อฟัง ห่มผ้าห่มน้อยไว้
ความเร็วรวดเร็วมาก ทำให้เจียงสื้อสื้อหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
“เถียนเถียนราตรีสวัสดิ์ หม่ามี๊ราตรีสวัสดิ์!”
เสี่ยวเป่าฝั่งโน้นก็โบกมือด้วย พูดกับคนทั้งสองประโยคหนึ่งอย่างรวดเร็วก็วางสายลง
ได้ยินคำหม่ามี๊ราตรีสวัสดิ์นั้น ใจของเจียงสื้อสื้อสั่นระริกเล็กน้อยหนึ่งที ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
เสี่ยวเป่าหลังจากวางสายเสร็จ รีบวิ่งไปหาจิ้นเฟิงเฉินในห้องหนังสือ
ทั้งยิ้มแหยๆ ทั้งชูมือถือขึ้นโอ้อวดกับจิ้นเฟิงเฉิน “แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ เมื่อกี้ผมวิดีโอคอลกับหม่ามี๊และน้องสาวล่ะ! ท่านดู!”
จิ้นเฟิงเฉินวางปากกาที่อยู่ในมือลง มองเห็นเวลาความยาวที่พวกเขาคุยกัน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
ชื่นชมเสี่ยวเป่าพูดว่า “ทำได้ดีมาก มุมานะบากบั่นต่อไป”
เขารู้ว่าเสี่ยวเป่ากำลังโทรหาสื้อสื้อเถียนเถียนตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าคืออดใจไว้ไม่ปรากฏตัวโดยตลอด
ในด้านหนึ่งคือไม่อยากทำให้เจียงสื้อสื้อเกิดความรู้สึกไม่พอใจ ถึงยังไงก็มีการคงอยู่ของฝู้จิงเหวิน ทำให้เธอสับสนอย่างมาก
อีกด้านหนึ่งที่เขาไม่ปรากฏตัว ก็เพราะว่ายิ่งจะทำให้เสี่ยวเป่าง่ายที่จะตีเข้าไปภายใน ตีการป้องกันของเจียงสื้อสื้อแตกได้
“แฮ่ๆ” เสี่ยวเป่าได้ยินคำชื่นชม แยกเขี้ยวยิงฟันอย่างดีใจ
พ่อลูกทั้งสองสบตากัน ปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง
เทียบกับอารมณ์ที่แจ่มใสฝั่งนี้ ฝู้จิงเหวินฝั่งโน้นก็จะหมองคล้ำเยอะเลย
เหมือนดั่งเมฆครึ้มปกคลุมอยู่ ไม่ลบเลือนหายไปไหน
ฝู้จิงเหวินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ตาจ้องมองที่อยู่บนหน้าจอ ริมฝีปากบางๆเม้มจนแน่นมาก
ผลลัพธ์ที่เขาสืบก่อนหน้านั้นออกมาแล้ว ไม่ได้ผิดกับที่เขาคิดเลย
ความสัมพันธ์ของจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อเป็นสามีภรรยากันจริงๆ
วิดีโอที่เปิดอยู่ต่อหน้าเขาคือเขาค้นหาออกมาจากอินเทอร์เน็ต
วันที่เห็นได้ชัดว่าโพสต์ขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อนแล้ว
เจียงสื้อสื้อที่อยู่ในวิดีโอ มีลักษณะไม่ต่างกันกับตอนนี้เลย
สิ่งที่ทำให้เขามีสีหน้าแสดงถึงความประทับใจคือ ฉากที่จิ้นเฟิงเฉินปกป้องเจียงสื้อสื้อ
ภาพที่ทั้งสองคนพักพิงอยู่ด้วยกัน สันติเหลือเกินทำให้ใจคนเกิดความอิจฉา
พวกเขาเหมือนดั่งคนงดงามคู่หนึ่งที่ฟ้าดินบรรจงสร้างขึ้น คนข้างๆไม่สามารถแทรกเข้ามาแม้แต่น้อย
นี่ทำให้ฝู้จิงเหวินรู้สึกใจวุ่นวาย
เทียบกับเขา จิ้นเฟิงเฉินกับสื้อสื้อยิ่งคู่ควรกว่า ความคิดนี้ทำให้เขาไม่รู้จะทำยังไงดี
ตอนที่ในใจรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสองว่าเป็นสามีภรรยากัน สั่นไหวไปสักพักอย่างแท้จริง
รู้สึกว่าตนเองเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว อีกทั้งมีความต่ำช้าเล็กน้อย
แต่เร็วมาก ความรู้สึกหวาดผวาแบบนั้น หายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ถูกความเชื่อที่มั่นคงยืนหยัดอีกอย่างแทนที่แล้ว
เป็นสามีภรรยากันแล้วยังไงล่ะ สามปีนี้ คือเขาอยู่เป็นเพื่อนกับสื้อสื้อมาโดยตลอด
ไม่ใช่เขาจิ้นเฟิงเฉิน ถึงแม้ว่าเป็นเขา ก็ไม่สามารถพาสื้อสื้อไปได้!
เมาส์ที่อยู่ในมือแทบจะถูกเขาบีบแตก เส้นเลือดเขียวอยู่บนหลังมือฝู้จิงเหวินนูนขึ้น
หลังจากผ่านไปสักพัก เขา ปุ๊บ หนึ่งทีปิดคอมพิวเตอร์เลย ตัดภาพที่อยู่บนวิดีโอไป
“ขอโทษ สื้อสื้อ”
หลับตาลง มโนธรรมกับสติที่อยู่ในใจของฝู้จิงเหวินถูกไฟอิจฉาสลายไปทีละนิด
เขากระซิบไปหนึ่งประโยคอย่างเจ็บปวดทรมาน
หลังจากนั้นไม่นาน ทำการตัดสินใจ
ปล่อยให้จิ้นเฟิงเฉินดำเนินการอย่างตามใจไม่ได้ เขาก็จะลงมือแล้ว ถึงแม้ว่าไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลก็จะเอาเจียงสื้อสื้อให้อยู่กับตระกูลฝู้!
แต่อีกฝั่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเยือกเย็นเยอะเลย หลังจากจิ้นเฟิงเฉินกลับถึงประเทศฝรั่งเศส ก็ไม่ได้รีบไปหาเจียงสื้อสื้อถึงบ้านเลย
วางแผนให้เสี่ยวเป่าไปเรียนตามปกติ ควรทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ลักษณะเหมือนดั่งไม่รีบไม่ร้อน