ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 641 ไปให้พ้น!
บทที่ 641 ไปให้พ้น!
จิ้นเฟิงเฉินเข้าไปในโรงพยาบาล ถามเคาน์เตอร์พยาบาลเกี่ยวกับห้องพักผู้ป่วยของแม่ฝู้ ก่อนจะเดินตรงเข้าไป
ประตูถูกงับเอาไว้ จิ้นเฟิงเฉินที่เดินรีบมาตลอดทาง อดไม่ได้ที่จะชะลอฝีเท้าลง
มองผ่านประตูที่ไม่ได้ถูกล็อก สามารถเห็นเจียงสื้อสื้อที่กำลังยุ่งอยู่ด้านใน
เธอกำลังป้อนน้ำแม่ฝู้โดยหันหลังให้ประตู มองจากด้านหลังดูเหมือนจะผอมลงไม่น้อย
ดูเหมือนเอวของเธอจะสามารถถูกสองมือของเขาโอบรอบได้
เจียงสื้อสื้อป้อนน้ำแม่ฝู้เสร็จ ดูคนหลับตาลง
เธอถึงค่อยยืดตัวขึ้น พลางขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ดูแลคนป่วยเหนื่อยมาก มีเพียงคนที่ได้ลองทำมาแล้วถึงจะรู้
ในช่วงไม่กี่วันมานี้เจียงสื้อสื้อไม่ได้นอนหลับสบายเลยสักวัน ใต้ตาเธอดำคล้ำ
แต่เธอก็อดทนกับความเหนื่อยล้า จัดแจงทำความสะอาดโต๊ะ
ทันทีหลังจากนั้นเธอก็รู้สึกถึงสายตาที่แผดเผามาจากทางด้านหลังจนใจของเธอหวาดหวั่น
เมื่อหันไป ก็ประหลาดใจที่เห็นจิ้นเฟิงเฉินอยู่ตรงหน้าประตู
ความคิดเดียวภายในใจของเธอคือ: เขามาได้อย่างไร
บนร่างกายสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างประณีต และพิถีพิถัน
และเกิดมาพร้อมกับราศีของคนชนชั้นสูง ถึงแม้จะอยู่ในโรงพยาบาล ก็ไม่มีลดลงเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาสีเข้มทอดมองมายังร่างกายอย่างหนักหน่วง ใบหน้าหล่อเหลาแลดูมีความมืดมนบางๆ
เจียงสื้อสื้อตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย ราวกับทำเรื่องอะไรที่มีลับลมคมใน
เขามองออกไปยังแม่ฝู้ที่กำลังหลับตาอยู่
เหมือนแม่ฝู้จะเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
เจียงสื้อสื้อผ่อนคลายลงเล็กน้อย เธอถือแก้วไว้ในมือโดยไม่รู้ตัว และพยายามเลี่ยงสายตาของจิ้นเฟิงเฉิน แต่กลับรู้สึกไม่มีที่ให้หลบซ่อน
“ออกมา” จิ้นเฟิงเฉิน ใช้สัญญาณมือ และรูปปากบอกกับเธอ
เจียงสื้อสื้อส่ายหัวเล็กน้อย เธอตัดสินใจแล้วว่าจะหลีกเลี่ยงจิ้นเฟิงเฉิน แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาเจอกันอีก
ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินมืดลง ก่อนที่จะทำท่าทางเหมือนเดิมอีกครั้ง
เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากนิ่งไม่ขยับ นัยน์ตาพลันเย็นชา
ก้าวใหญ่ๆเพียงหนึ่งก้าว เขาก็เข้ามาในห้องได้โดยตรง
ถ้าหากเข้ามาทำเสียงดัง แม่ฝู้ต้องรู้แน่
เจียงสื้อสื้อไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอรีบเดินออกไป ก่อนถือโอกาสปิดประตูลง
จิ้นเฟิงเฉินโค้งริมฝีปาก แต่กลับไม่มีรอยยิ้มในแววตา
เจียงสื้อสื้อพาจิ้นเฟิงเฉินไปที่บันได เมื่อจะหันมาพูด จู่ๆทันใดเงามืดก็ทาบทับลงมา โดยทั้งตัวของเจียงสื้อสื้อถูกปกคลุมอยู่ด้านใน จนเธอเกือบล้ม
“คุณ… ….”
เจียงสื้อสื้อก้าวถอยหลัง หัวใจของเธอเต้นแรง กลิ่นหอมเย็นของจิ้นเฟิงเฉินหอมอบอวลภายในจมูกของเธอ
“ทำไม?” จิ้นเฟิงเฉินถามอย่างเย็นชา
หัวใจของเจียงสื้อสื้อเต้นเร็วมาก เธอขมวดคิ้วหลังฟังจบ “ทำไม อะไร?”
แต่จิ้นเฟิงเฉินดูเหมือนจะหมดความอดทน เขาขยับเข้าไปใกล้ กัดฟันถาม “ทำไมถึงอยากแต่งงานกับเขา?”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” เจียงสื้อสื้อตอบกลับอย่างเย็นชา
ตอนนี้เธอเหนื่อยล้ามาก จิ้นเฟิงเฉินยังคงทำหน้าสงสัย ไม่ว่าใครก็คงมีสีหน้าที่ไม่ดีนัก
เรื่องการแต่งงานเธอต้องสามารถควบคุมมันให้ได้ จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในตอนนี้
แม้ว่าระหว่างพวกเขาจะเคยผ่านอะไรกันมา แต่อย่างไรมันก็ไม่เหมาะสม
เจียงสื้อสื้อคำนึงความคิดนี้ไว้ในใจ เธอแสร้งทำหน้าเฉยเมย “ในเมื่อคุณรู้แล้ว ทีหลังก็อย่าได้มาหาฉันอีก จิงเหวินจะโกรธเอาได้ ฉันก็ทำไม่ดี คราวหลังพวกเราสองคนทำเหมือนไม่รู้จักกันเถอะ”
เธอพูดประโยคเหล่านี้โดยไม่ได้หันไปมองจิ้นเฟิงเฉิน สายตาเธอมองไปยังทางอื่น แค่เพียงให้จิ้นเฟิงเฉินได้มองใบหน้าที่สง่างาม แต่แลดูเย็นชาไร้ความรู้สึกเท่านั้น
ขนตายาวทาบทับปิดบังอารมณ์ในดวงตาอย่างสมบูรณ์ ทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่สามารถรู้ถึงความในใจของเธอได้
“คุณเป็นภรรยาของผม ห้ามไปแต่งงานกับคนอื่น มันจะเป็นการแต่งงานซ้ำ”
จิ้นเฟิงเฉินเค้นคำพูดออกมาทีละคำ คล้ายกับกัดฟันพูดออกมา
เจียงสื้อสื้อได้ยินคำว่าภรรยา ไม่รู้ทำไม ในใจราวกับถูกอะไรบางอย่างสะกิดเบาๆ
เธอส่ายหัว ข่มอารมณ์ที่ไม่รู้ชื่อเรียก ก่อนพูดอย่างเย็นชา “คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ”
คำพูดของเธอราวกับแทงมีดเข้าไปในหัวใจของจิ้นเฟิงเฉิน ใบหน้าที่ปลอมขึ้นมาพลันพังทลายลงในพริบตา
ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยว กลิ่นอายรุนแรงปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากบางของเธอ มองสบดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินโดยตรง และไม่ถอยหลังสักนิด
ท่าทางดื้อรั้นยิ่งทำให้ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินแสบร้อน
เธอเสียใจต่อจิ้นเฟิงเฉิน แต่เธอไม่มีทางเลือก
ตอนนี้แม่ของฝู้จินเหวินยังไม่พ้นขีดอันตราย แล้วเธอจะเพิกเฉยได้อย่างไร
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเธอ และเธอไม่ควรไปรบกวนตระกูลจิ้น
แต่ถ้าตั้งแต่นี้ไปจิ้นเฟิงเฉินสามารถลืมเธอได้ และไม่ต้องทนทุกข์ เธอก็ยอมรับ
เธอจะเป็นคนเลว
ขนตาหนายาวสั่นไหวราวกับผีเสื้อที่กำลังจะตาย
ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อซีดขาว ริมฝีปากราวกับไม่มีสีเลือด
เธอก้มหัวเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอบอบบาง แต่กลับเป็นคนน่ารำคาญที่ดื้อดึง
จิ้นเฟิงเฉินเห็นท่าทางของเธอ หัวใจของเขาแทบจะฉีกออกเป็นชิ้นๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึก และชกไปยังกำแพงด้านหลังเจียงสื้อสื้อ
เขาเข้าหาเธอ ขังเธอเอาไว้ระหว่างเขากับกำแพง
เธอก้มหน้า หลับตาแน่น
“นี่สักนิดก็นึกไม่ออกเลยหรือ? จำผมไม่ได้จริงๆหรือ?” จิ้นเฟิงเฉินยังคงมีความหวังอันริบหรี่อยู่ภายในใจ
ระหว่างพวกเขาสองคนผ่านสิ่งต่างๆมามากมายด้วยกัน ทั้งสุขและทุกข์
สิ่งเหล่านี้เป็นของล้ำค่าของจิ้นเฟิงเฉิน เขาเก็บรักษาเอาไว้ในส่วนที่ลึกสุดในใจอย่างระมัดระวัง
แต่ตัวละครเอกอีกคนกลับลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างไปหมด และตอนนี้จะไปแต่งงานกับคนอื่นอีก เขาจะยอมรับมันได้อย่างไรกัน!
สบกับดวงตาที่ปวดร้าวของเขา เจียงสื้อสื้อยังคงพูดเสียงแข็งกร้าว “ฉันจำไม่ได้”
“ผมคือจิ้นเฟิงเฉิน สามีของคุณ ทำไมคุณถึงจำทุกอย่างไม่ได้ ทำได้อย่างไร!”
เสียงของจิ้นเฟิงเฉินเหมือนสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ
เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากของเธอแน่น กดแผ่นหลังของเธอเข้ากับกำแพง ปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ตัวเองอุดเข้าไปในกำแพง
เธอไม่พูดอะไร เบือนหน้าไปอีกทาง ก่อนสบสายตาของจิ้นเฟิงเฉินซึ่งเป็นการปฏิเสธ
เขาหัวเราะเยาะ เขาลดฝ่ามือลง ทันใดเขาก็จับท้ายทอยของเธอ
หลังจากนั้นเขาก็กดใบหน้าของตัวเองลงไปกัดริมฝีปากของเจียงสื้อสื้ออย่างรุนแรง
“คุณ!”
ดวงตาของเจียงสื้อสื้อเบิกกว้าง ความตื่นตระหนก ไม่เชื่อ และหวาดกลัวอัดแน่นภายในใจ
มันทำให้สับสนไปชั่วขณะหนึ่ง หลังจากตะลึง เธอก็พยายามอย่างสุดกำลังที่จะต่อสู้ดิ้นรน
น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของชายคนนั้นมีมากกว่า เธอก็ถูกกักขังไว้ในอ้อมแขนที่แน่นหนาของเขา
จูบเขานั้นรุนแรงอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับเป็นจุดจบของโลกก็มิปาน
ดวงตาของเจียงสื้อสื้อแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอกัดปากเขาอย่างรุนแรง
จิ้นเฟิงฉินเจ็บปวด ถูกบังคับให้ปล่อยเธอไป
ทันทีหลังจากนั้น เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณบันได
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆสงบลง แต่เขาไม่เสียใจเลยสักนิด
ดวงตาของเขาสบเข้ากับริมฝีปากสีแดงก่ำคล้ายเลือดของเจียงสื้อสื้อ สีหน้าเย็นยะเยือก
เจียงสื้อสื้อวางมือลง เธอจัดการผมเผ้าให้เรียบร้อย ท่าทางที่สงบเยือกเย็นถูกทำลายโดยสายตาของจิ้นเฟิงเฉิน
เธอเช็ดริมฝีปากอย่างรุนแรง ก่อนจะก่นด่าเขา “ไอ้ชั่วจิ้นเฟิงเฉิน ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก!”
พูดจบ เธอก็หมุนกาย วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว