ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 651 คนที่แม้แต่รองเท้าผุพังก็ไม่คู่ควร
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 651 คนที่แม้แต่รองเท้าผุพังก็ไม่คู่ควร
บทที่ 651 คนที่แม้แต่รองเท้าผุพังก็ไม่คู่ควร
เมื่อคำพูดของพี่แอดไลน์จบลง รอบกายของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันเจียงสื้อสื้อ
“ยังมีลูกนอกสมรสด้วยเหรอ?ไม่ธรรมดาแบบที่คิดจริงๆ ชีวิตส่วนตัวเละเทะมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่จิงเหวินชอบหล่อนไปได้ยังไง”
“นั้นสิ ช่างเป็นคนที่สกปรกจริงๆ น่าเสียดายผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างพี่จิงเหวิน คนที่เหมาะสมกับเขามีเพียงพี่แอดไลน์เท่านั้น”
เมื่อคำพูดที่อึดอัดใจเข้าหู สีหน้าของเจียงสื้อสื้อเย็นยะเยือกขึ้นมา
อารมณ์โกรธขมวดอยู่ในใจ
ว่าเธอได้ แต่หากว่าเถียนเถียนเธอทนไม่ได้!
เถียนเถียนเป็นลูกสุดที่รักของเธอ ไม่ใช่ลูกนอกสมรสอะไรทั้งนั้น!
“ใช่แล้ว ชีวิตของฉันมันช่างเละเทะฝู้จิงเหวินยังถูกใจฉัน อยากจะแต่งงานกับฉัน พวกคุณอิจฉาล่ะสิ?”
“คิดว่าฉันเป็นรองเท้าที่ผุพังไม่ควรกับเขางั้นเหรอ?หากฉันเป็นรองเท้าเน่าที่ผุพังแล้วพวกคุณเป็นอะไรกัน?เป็นคนที่แม้แต่รองเท้าเน่าที่ผุพังก็ไม่คู่ควร?”
“พวกคุณก็แค่ขยะกองหนึ่งที่พึ่งพิงพ่อแม่ ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย เป็นแค่คนล้มเหลว”
แววตาของเจียงสื้อสื้อมองไปยังคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นชา ค่อยๆริมฝีปากแดงออกมา คำพูดแต่ละประโยคเฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ
พี่แอดไลน์รวมไปถึงเพื่อนของเธอตกตะลึง สีหน้าเขียวคล้ำ
เนื่องจากเป็นความจริง จึงไม่รู้ว่าจะพูดโต้แย้งอย่างไร
เรื่องที่เจียงสื้อสื้อมีลูกแล้ว ทุกคนต่างรู้ดี แต่ว่าฝู้จิงเหวินยังเต็มใจที่จะขอเธอแต่งงาน
ซึ่งไม่อาจจะสงสัยได้เลยว่านี่เป็นการตบหน้าแอดไลน์อย่างแรง……
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเจียงสื้อสื้อที่ดูอ่อนแอ แต่กลับมีศิลปะในการพูดขนาดนี้
อาศัยช่วงจังหวะที่พวกเขากำลังงุนงง เจียงสื้อสื้อก็ผลักพวกเธออย่างรำคาญใจ เดินพุ่งเข้าไปตรงกลาง และก้าวเท้าจากไป
เมื่อเดินออกไป ด้านหน้ามีพนักงานเสิร์ฟไม่ทันระวังชนคนเข้า ทำให้ขวดที่อยู่ในมือลงพื้นแตก
เจียงสื้อสื้อจ้องตาเขม็ง วางแผนที่จะเดินอ้อมไปข้างๆ
แต่พี่แอดไลน์กลับตามมาด้านหลัง เมื่อเห็นฉากฉากนี้ แววตาก็เผยความโหดเหี้ยมออกมา
คำพูดเมื่อสักครู่นี้ของเจียงสื้อสื้อ ยากที่จะทนได้
ราวกับตบที่หน้าของเธอไม่รู้จักกี่ครั้ง เจ็บแสบ ทำให้เธอไม่สามารถเงยหน้ามองเพื่อนของเธอได้
ไม่นาน แผนชั่วก็ผุดขึ้นมาเต็มหัวของเธอ
สีหน้าของพี่แอดไลน์โกรธแค้น จู่ๆก็เขเยิบไปข้างหน้า ผลักเจียงสื้อสื้อจากด้านหลังอย่างแรง
ไม่ทันไร ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อก็เหมือนจะค่อยๆแนบไปบนกระจกที่อยู่บนพื้น
“อา!พระเจ้า!”
“รีบช่วยผู้หญิงคนนี้เร็ว!”
คนที่เห็นฉากนี้ต่างเอามือกุมไว้ที่หน้าแล้วกรีดร้อง
เจียงสื้อสื้อหากล้มลงไป หน้าไม่เสียโฉม ร่างกายก็ต้องได้รับบาดเจ็บบ้างล่ะ
เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยที่เจียงสื้อสื้อคาดไม่ถึง สองมือกุมหน้าด้วยสัญชาตญาณแล้วหลับตาอย่างไร้ความหวัง
แต่วินาทีต่อมากลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่คิดไว้
ด้านหน้าที่เงาร่างของคนคนหนึ่งพุ่งเข้ามา
ในช่วงเวลาคับขันนี้ เอวของเจียงสื้อสื้อมีมือข้างหนึ่งมาโอบไว้ คว้าเธอไว้ด้วยความรีบร้อน
ทั้งสองหมุนไปหนึ่งรอบ แล้วหยุดลงข้างๆกับเศษแก้ว
แต่ว่ายังมีเศษแก้วบางส่วนที่กระเด็กมาใส่ ทำให้ขาของเจียงสื้อสื้อได้รับบาดเจ็บ
อากาศบริสุทธิ์เข้าไปในจมูก เจียงสื้อสื้อลืมตาขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ
เมื่อเงยหน้าเห็นคนที่มาช่วยชัดเจนแล้ว ก็ตะลึงงันอยู่ที่เดิม
เดิมทีจิ้นเฟิงเฉินคิดว่า ทำไมเจียงสื้อสื้อถึงอยู่ในห้องน้ำนานขนาดนั้น กลัวว่าเธอจะเกิดเรื่อง ดังนั้นก็เลยตามหา
แต่กลับเห็นเจียงสื้อสื้อกำลังล้มทับกระจกที่แตกอยู่
เขาจึงรีบพุ่มเข้ามาช่วย สีหน้าคล้ำหมองและใบหน้าบึ้งตึง รู้สึกทั้งกลัวและเครียด
หากเมื่อสักครู่นี้ตนไม่อยู่ เขาไม่กล้าคิดเลยจริงๆว่าจะเกิดผลลัพธ์แบบไหนขึ้น
เวลานี้สายตาของเขาเหลือบเห็นขาของเจียงสื้อสื้อเลือดออก พลางเผยสายตาเย็นชาออกมา
ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะกลัวจนหัวหด ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เดิมทีสายตาของจิ้นเฟิงเฉินที่เย็นชาอยู่แล้วก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นพลางมองที่พี่แอดไลน์ที่กำลังตะลึงงันอยู่ด้านหลัง
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนก่อเรื่อง
โอบผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดแน่น จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองพี่แอดไลน์ที่อยู่เบื้องหน้าพลางถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของคุณโฟร์เริงต์เหรอ?”
เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อยู่ในสายตาของคนรอบข้างเป็นจำนวนมาก คนรับใช้รีบรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับโฟร์เริงต์ฟัง
เมื่อเห็นจิ้นเฟิงเฉินโกรธ โฟร์เริงต์ก็รีบเดินออกมา
เนื่องจากจิ้นเฟิงเฉินเป็นแขกวีไอพีของที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าละเลยต่อหน้าที่
เมื่อเห็นจิ้นเฟิงเฉินโอบกอดหญิงไว้ในอ้อมกอดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธโฟร์เริงต์รีบขอโทษ“คุณจิ้นอย่าเพิ่งโกรธเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบให้เธอมาขอโทษท่านเดี๋ยวนี้ครับ”
ก่อนจะมาที่นี่โฟร์เริงต์ก็พอที่จะทราบเรื่องบางอย่างแล้ว ทำให้เขามองพี่แอดไลน์ด้วยความไม่พอใจ
“รีบขอโทษคุณจิ้นซ่ะ คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?เขาเป็นถึงประธานกรรมการของJSกรุ๊ป แม้แต่พ่อของเธอก็ไม่กล้าล่วงเกินเขา คุณล่วงเกินคนใหญ่คนโตเข้าแล้ว รีบขอโทษเขาซ่ะ!”
เมื่อได้ยินว่าบุคคลที่อยู่ข้างหน้าคือประธานกรรมการของJSกรุ๊ป รอยยิ้มบนใบหน้าของพี่แอดไลน์ก็แข็งทื่อ
แม้ว่าอำนาจของตระกูลเธอจะยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับJSกรุ๊ปแล้ว ก็เป็นสิ่งที่เล็กน้อยมาก
เดิมทีพ่อของเธอก็ตั้งใจที่จะใช้โอกาสในงานนี้ ทำความรู้จักกับJS แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะทำมันพังหมดแล้ว
เธอรีบพูดขึ้นกับจิ้นเฟิงเฉินว่า“ขอโทษค่ะคุณจิ้น ฉันมีตาหามีแววไม่ ไม่ทันระวังทำให้ผู้หญิงของคุณได้รับบาดเจ็บ หวังว่าคุณจะให้อภัย”
เมื่อพูดจบพี่แอดไลน์ก็โค้งเอวลงทำมุม 90 องศา แสดงถึงความเคารพอย่างที่สุด
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับไม่เห็นใจเลยแม้แต่น้อย พูดขึ้นอย่างปฏิเสธว่า“คนที่คุณควรขอโทษไม่ใช่ผม คุณโฟร์เริงต์ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนี้ในงานแบบนี้อีกแล้ว”
ประโยคนี้ทำให้ครอบครัวของพี่แอดไลน์ถูกขับไล่ออกจากวงการ
และเมื่อได้รับคำสั่งจากโฟร์เริงต์ก็ไม่มีใครไม่กล้าทำตาม รีบชี้ไปที่รปภ.พลางพูดขึ้นว่า“รีบไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไป อย่าให้มาขวางหูขวางตาคุณจิ้น”
คนที่อยู่ในงานต่างมองเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยสายตาที่เย็นชา ทุกคนต่างมองไปที่พี่แอดไลน์
สายตาเหล่านี้ขับไล่ให้เธอออกไปจากงานพี่แอดไลน์รู้สึกขายหน้า
ยังไม่ทันรอให้รปภ.มาขับไล่เธอ เธอก็ค่อยๆออกจากงานมาด้วยตนเอง
เมื่อคนในงานเห็นว่าไม่มีอะไรสนุกๆดูแล้วต่างก็แยกย้าย
เมื่อคนรอบข้างแยกย้ายกันหมดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินมองเจียงสื้อสื้อด้วยความกังวล เขยิบเข้ามาตรวจเช็กร่างกายของเธอ
เธอถูกเขาจ้องมองอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง เจียงสื้อสื้อค่อยๆออกจากอ้อมกอดของเขา สีหน้าแดงก่ำ รีบพูดขึ้นว่า“ฉัน……ฉันไม่เป็นอะไร……”
แต่ว่าเธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินโอบเอวอุ้มขึ้น
พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า“เลือดออกขนาดนั้นแล้วยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก?แล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะที่เป็นเรื่องใหญ่?”
เนื่องจากรอบข้างยังมีสายตาของคนอื่นจ้องมองอยู่ ดังนั้นเจียงสื้อสื้อจึงไม่กล้าส่งเสียงออกมา และอยู่ในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงเฉินอย่างเชื่อฟัง
เลือดที่ขาของเธอเปื้อนที่เสื้อเชิ้ตสีขาวของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อเห็นแล้วรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายลำบากในเรื่องเล็กน้อย
จึงพูดขึ้นเสียงเบาว่า“จริงๆแล้วฉันเดินเองก็ได้ คุณไม่ต้อง……”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็อย่าฝืนเลย”จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธ