ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 713 จะชอบผมในวันนี้ไหม
บทที่ 713 จะชอบผมในวันนี้ไหม
“ขอบคุณครับแม่” ฝู้จิงเหวินพูดอย่างซาบซึ้งใจ
“เด็กคนนี้ พูดกับแม่ยังต้องขอบคุณอะไร เดินไปตามใจของตัวเอง มันจะไม่ผิด เอาหล่ะ แม่ไม่ทำให้เราเสียเวลาแล้ว คืนนี้นอนพักผ่อนเถอะ”
พูดจบ แม่ฝู้ก็ลุกขึ้นตบบ่าของเขาอย่างปลอบใจ ถึงเดินกลับห้องของตัวเองไป
หลังจากที่แม่ฝู้เดินออกไป ฝู้จิงเหวินก็นั่งอยู่บนโซฟาคนเดียวอีกสักพัก มองบันทึกข้อความที่คุยกับเจียงสื้อสื้อในโทรศัพท์ ตัวเองส่งข้อความวรรคใหญ่ที่เป็นห่วงเธอไป แต่เนื้อหาที่เธอตอบกลับมาทุกครั้งเป็นเพียงข้อความสั้นๆง่ายๆ
ความรู้สึกที่ทุ่มเทมอบให้ไป ไม่รู้จริงๆว่าเมื่อไรถึงจะได้ตอบรับ
ฝู้จิงเหวินคิดถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวด ปิดโทรศัพท์ ในหัวนึกย้อนไปถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้ของเธอ
ถ้าท้ายที่สุดเธอไม่ชอบตัวเองจะทำยังไงหล่ะ แค่เพียงผูกมัดเธอไว้ข้างๆตัวก็พอแล้ว
เมืองเป่ย
ในเวลานี้บ้านพักตระกูลจิ้น ความทุกข์ของเมื่อก่อนหายไปหมดสิ้น เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
เสี่ยวเป่าก็กลับมาร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน ตั้งใจส่งเสียงแปลกๆออกมาตลอดเวลา เพื่อล้อเล่นกับทุกคน
ทั้งกลับเข้าไปในห้องของเล่นของตัวเอง นำหุ่นยนต์ที่เก็บสะสมมานานออกมา
“คุณย่าครับ คุณย่าดูสิครับมันเดินเองได้ด้วย อันนี้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้วที่แด๊ดดี๊ให้”
เสี่ยวเป่าพูด พร้อมกับชี้ไปที่หุ่นยนต์ที่กำลังทำท่าทางต่างๆ ท่าทางน่าตลกมาก ทำให้แม่จิ้นหัวเราะไม่หยุด
เห็นหน้าผากของเสี่ยวเป่ามีเหงื่อออกบางๆ แม่จิ้นก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “หลานย่า ตอนนี้หิวไหมครับ ย่าจะให้คนไปทำอาหารมาให้”
เสี่ยวเป่าคิดอย่างตั้งใจ และหลังจากนั้นก็พูดว่า “ผมอยากกินปีกไก่โค้กที่คุณย่าทำครับ และก็หมูสามชั้นผัดซอสแดง แล้วก็เม็ดสนผัดข้าวโพดด้วย!”
ได้ฟังคำพูดของเสี่ยวเป่า แม่ฝู้ยิ้มจนตาหยี หัวเราะและพูดว่า “โอเคๆๆ ในเมื่อเสี่ยวเป่าอยากกินที่คุณย่าเป็นคนทำ งั้นคุณย่าก็จะทำให้หนูกินด้วยตัวเอง”
ตอนนี้เสี่ยวเป่าเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าเขาอยากจะได้ดาวบนท้องฟ้า แม่จิ้นก็จะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะไปเก็บมาแทนเขา
พ่อจิ้นเห็นอย่างนั้นก็เดินตามแม่จิ้นเข้าไปในห้องครัว เพื่อช่วยทำอะไร
ห้องนั่งเล่นจึงเหลือเพียงแค่เสี่ยวเป่า และสามีภรรยาจิ้นเฟิงเหรา จิ้นเฟิงเหราเห็นเสี่ยวเป่ามีท่าทีสนใจอย่างยิ่ง และพูดว่า “เสี่ยวเป่า วางแผนว่าจะไปฝรั่งเศสเมื่อไหร่ อาและอาสะใภ้จะเดินทางไปส่งหนูเอง”
“พรุ่งนี้ครับ พรุ่งนี้ผมจะไปหาหม่ามี๊ ใช่แล้วผมยังไม่ได้เก็บของเลย!”
พูดจบ เสี่ยวเป่าก็วิ่งตึงตังๆขึ้นไปข้างบน และเริ่มจัดการกระเป๋าเดินทางตัวเองให้เรียบร้อย
ทั้งสองคนที่อยู่ข้างล่างมองเห็นท่าทีมีความสุขของเสี่ยวเป่า จิ้นเฟิงเหราก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“ดูแล้วในหัวใจของเสี่ยวเป่าคงบรรจุได้เพียงพี่สะใภ้ คนอื่นอยากจะเข้าไปในใจของเขาคงจะยาก ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของแม่ลูกคู่นี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ”
ส้งหวั่นชีงได้ยินดังนั้นก็รีบมองไปที่ทั้งสองคนในห้องครัว มองจิ้นเฟิงเหราอย่างเตือนๆ
“ตอนนี้พ่อและแม่ยังไม่รู้เรื่องที่พี่สะใภ้เป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่า คุณเบาเสียงหน่อย”
จิ้นเฟิงเหรารีบปิดปากในทันที เขาลืมไปเลยจริงๆ
เรื่องนั้นตอนนั้นจนถึงตอนนี้ยังตรวจสอบไม่ชัดเจน ถ้าหากว่าแม่จิ้นรู้ว่า
เจียงสื้อสื้อเป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่า ครั้งนี้คงขาดไม่ได้ที่จะตามไปด้วย
และอาจจะสร้างความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นให้กับจิ้นเฟิงเฉิน
วินาทีถัดมาจิ้นเฟิงเหรากลับมามีท่าทางที่ไม่สุภาพเหมือนเดิม พูดอย่างทะเล้นว่า “ชีงชีงของผมพิจารณาอย่างรอบคอบจริงๆ มาให้ผมจุ๊บสักทีเร็ว”
มองไปที่เขาเช่นนี้ ส้งหวั่นชีงให้หมัดเขาไปหนึ่งทีด้วยท่าทางที่ไม่ดี จากนั้นก็ไปช่วยที่ห้องครัวแล้ว
ในตอนเย็นๆ อาหารทำเสร็จแล้ว เสี่ยวเป่ากินอย่างเอร็ดอร่อย
เห็นเสี่ยวเป่าเจริญอาหารมากขึ้น คนบนโต๊ะก็รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นตามตามกัน
เสี่ยวเป่าคีบปีกไก่อันหนึ่งมาใส่ชาม หลังจากชิมไปหนึ่งคำ พูดอย่างดีใจว่า “คุณย่าครับ ปีกไก่โค้กอันนี้อร่อยมากๆ เสี่ยวเป่ามีความสุขมากๆเลย”
แม่จิ้นได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างปลื้มอกปลื้มใจ และคีบปีกไก่อีกอันวางไว้ในชามของเสี่ยวเป่า
“เสี่ยวเป่าชอบก็กินเยอะๆ แบบนี้ถึงจะตัวสูงๆ ถึงจะสามารถปกป้องหม่ามี๊กับน้องสาวได้”
แค่พูดถึงเจียงสื้อสื้อและเถียนเถียน เสี่ยวเป่าก็มีพลังขึ้นมาทันที ทำท่ากำหมัดเล็กๆและพูดว่า “คุณย่าวางใจได้ครับ ผมจะต้องตัวสูงอย่างแน่นอน ใครก็ไม่สามารถมารังแกหม่ามี๊และน้องสาวของผมได้”
เห็นเขามีท่าทางจริงจังแบบนี้ จิ้นเฟิงเหราก็เคาะหัวของเสี่ยวเป่าเบาๆ พูดอย่างจงใจว่า “นายดูรูปร่างผอมบางของนายตอนนี้ ยังจะปกป้องน้องสาว แม้แต่ตัวเองยังต้องให้คนอื่นมาปกป้องเลย”
โดนจิ้นเฟิงเหราดูถูก เสี่ยวเป่าไม่ยอมแพ้ ยกหัวขึ้นและพูดว่า “คุณอาอย่าดูถูกผม ผมต้องดูปกป้องน้องสาวได้อย่างแน่นอน รอผมโตขึ้นแล้ว และยังจะไปเรียนบริหาร มาช่วยแบ่งเบาภาระงานของแด๊ดดี๊!”
อายุยังน้อย กลับวางแผนไปอย่างยาวไกล
ครั้งนี้กลับทำให้จิ้นเฟิงเหราไม่ค่อยสงบ เขาและพี่เขาแตกต่างกันมากก็จบแล้ว ตอนนี้เสี่ยวเป่ายังวางแผนจะไล่ตามเขา พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แม่ฝู้เห็นอย่างนั้นก็พูดเสริมอยู่ข้างๆ “เสี่ยวเป่าของพวกเราเก่งกว่าคุณอามากแล้ว ตอนเขาอายุเจ็ดขวบยังรู้จักแต่เล่นเกม แอบใส่กระโปรงของผู้หญิงอยู่เลย”
พอได้ยินแม่ตัวเองเปิดโปงเรื่องราวที่น่ารังเกียจของตัวเอง บนใบหน้าของ
จิ้นเฟิงเหราก็อดกลั้นไว้ไม่ได้ “แม่ เรื่องนี้ตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดถึงไม่ใช่เหรอ!”
แม่จิ้นมองค้อนเขา ชัดเจนว่ากำลังแสดงออกว่าใครให้เขารังแกหลานรักของตัวเอง
จิ้นเฟิงเหราร้องไห้ไม่ออกในทันที ตำแหน่งในครอบครัวของเขาทุกวันนี้ ยิ่งต่ำลงทุกวัน
ช่วงเวลาอาหารเย็นมีความสุขมาก และก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของตระกูลจิ้น
เช้าตรู่วันต่อมา เสี่ยวเป่าตื่นแต่เช้า อาบน้ำบ้วนปากอย่างเป็นเด็กดี และยังเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาก็ไปเคาะประตูห้องของจิ้นเฟิงเหราในทันที
“คุณอาครับ ตื่นขึ้นมาเร็ว วันนี้ต้องไปฝรั่งเศสกับผมนะ”
เวลานั้นจิ้นเฟิงเหราที่อยู่ในห้องยังคงนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่าก็รีบลุกขึ้นมาในทันที
เขาเกือบจะลืมเรื่องใหญ่ที่รออยู่ไปแล้ว
ในตอนนั้น ส้งหวั่นชีงเดินขึ้นมาจากข้างล่าง เดินไปดึงจิ้นเฟิงเหราออกมาจากห้องในทันที ทำให้จิ้นเฟิงเฉินร้องโหยหวน
หลังจากผ่านมื้อเช้าไป เสี่ยวเป่าก็บอกลาแม่จิ้นและพ่อจิ้น และเดินทางไปสนามบินกับสามีภรรยาจิ้นเฟิงเหรา
หลังจากสิบกว่าชั่วโมง เครื่องบินก็ลงสู่พื้นดินประเทศฝรั่งเศสอย่างปลอดภัย
เสี่ยวเป่าจูงมือส้งหวั่นชีงข้างหนึ่งจิ้นเฟิงเหราข้างหนึ่ง รีบไปโรงพยาบาลอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว
แต่ในตอนที่นั่งอยู่ในรถ กลับอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขี้ขลาด
“อาสะใภ้ครับ อาว่าหม่ามี๊จะชอบผมวันนี้ไหม?” เสี่ยวเป่าถามอย่างตื่นเต้น
ส้งหวั่นชีงอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา ลูบหัวของเสี่ยวเป่า พูดอย่างปลอบโยนว่า “หม่ามี๋จะต้องชอบเสี่ยวเป่าอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรเสี่ยวเป่าของพวกเราวันนี้หล่อขนาดนี้”
มีคำพูดของส้งหวั่นชีง เสี่ยวเป่าก็ไม่ขี้ขลาดอีก ในใจคิดเพียงแค่ว่าอยากจะเจอหม่ามี๊เร็วๆ
ไม่นานรถก็ถึงโรงพยาบาล ยังไม่ทันจะหยุดนิ่ง เสี่ยวเป่าก็เปิดประตูวิ่งลงไปแล้ว