ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 756 หมายจะเอาถึงตาย
บทที่ 756 หมายจะเอาถึงตาย
ข่ายสื้อลินที่นั่งอยู่ในรถแท็กซี่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อย
เธอให้คนขับแท็กซี่พาวนรอบเมืองอยู่หลายรอบแล้วไปจอดหน้าร้านฟาสฟู้ดลงรถไป
เห็นเธอเดินเข้าไป กู้เนี่ยนพึมพำเสียงเย็น ให้สิบสามออกไปและเข้าไปซื้อแฮมเบอเกอร์กลับมาหนึ่งชิ้น
ยังไม่ทันได้กิน ข่ายสื้อลินก็เดินออกมาพอดี
หลังจากออกมาแล้ว มองซ้ายมองขวา เปลี่ยนเรียกรถแท็กซี่อีกคัน
ขณะนี้ดึกดื่นค่ำคืนแล้ว รถรากลับไม่ลดน้อยลง แต่กำลังเป็นช่วงเวลาที่คึกคักสุดของค่ำคืน
กู้เนี่ยนรู้ว่าเมื่อเกิดการจราจรติดขัดขึ้นมา แม้แต่เทพทาโรก็ไม่สามารถติดปีกบินไปตามคนได้
โชคดีที่การจราจรติดขัดเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ด้านหลังติดแล้วด้านหน้าก็ไปไม่ได้เหมือนกัน
เมื่อเห็นการจราจรติดขัดหนาแน่น ข่ายสื้อลินเลยลงรถดีกว่า
พวกกู้เนี่ยนก็ตามขึ้นไปทันที มีอยู่คนหนึ่งยังเข็นรถเข็นเด็กน้อยที่ปิดอย่างมิดชิดด้วย
มีเพียงส่วนหนึ่งของผ้าห่มผืนเล็กๆโผล่ออกมาให้เห็น จริงๆแล้วข้างในเป็นตุ๊กตาผ้า
กู้เนี่ยนกระตุกที่มุมปาก รู้สึกว่าพี่น้องของตนเองกลุ่มนี้ความคิดสร้างสรรค์ช่าง…….
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดพวกนี้ มองดูข่ายสื้อลินลงจากรถ พวกเขาไม่กล้าจะล่าช้า
ข่ายสื้อลินเดินไปเข้าซอยนี้ออกซอยนั้นวนอยู่หลายรอบ ถึงได้เดินเข้าไปในเขตที่เป็นชุมชนสมัยเก่า
หลังจากพวกกู้เนียนมองดูเธอเดินเข้าไปในอาคารแล้ว ก็โบกไม้โบกมือ
ปิดทางออกทุกทาง ป้องกันข่ายสื้อลินจะหนีออกไปจากอีกด้าน
จากนั้น จัดคนไปเคาะประตูตำแหน่งที่มองเห็นชัดที่สุดซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
รออยู่ประมาณยี่สิบนาที ก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆที่ชั้นบน
ขณะที่กู้เนี่ยนกำลังคิดหาวิธี ทันใดนั้นรู้สึกมีจุดแดงแว็บผ่านหน้าไป
ทันใดนั้นเขาได้สติ และกดคนที่ซุ่มอยู่ข้างๆเขาลงกับพื้น
เห็นแต่ตำแหน่งที่หัวเขายื่นออกไปเมื่อกี้นี้ถูกกระสุนลูกหนึ่งตัดผ่านไปทะลุกำแพงสมัยเก่าดัง “เพี้ยง”
กู้เนี่ยนนอกจากจะตกตะลึงจนอ้าปากตาค้างแล้ว ในใจก็ระเบิดความเกี้ยวโกรธขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าข่ายสื้อลินจะไหวพริบดีเช่นนี้
ไม่กล้าลังเลต่อไป เริ่มเคลื่อนย้ายทันที
ขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับสั่งการพี่น้องค่อยๆล้อมขึ้นไป แต่พยายามอย่าทำให้ผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆตกใจ
ขณะเดียวกันไม่ลืมที่จะปิดบังหน้าไว้ อย่างน้อยก็ไม่ควรทิ้งหลักฐานที่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองไว้
ที่ผิดคาดคือ พวกเขายังคิดว่าจะหาวิธีเปิดประตูเข้าไปอย่างไร ประตูกลับแง้มไว้เล็กน้อย คนได้หายไปแล้ว
ปล่อยให้พี่น้องสองสามคนอยู่ค้นห้อง กู้เนี่ยนเดินก้าวใหญ่ราวกับบินขึ้นไปชั้นบนต่อ
ชั้นล่างมีคนเฝ้าอยู่ เธออยากหนี ก็ทำได้เพียงเดินขึ้นชั้นบนไป
ตามคาด เมื่อถึงชั้นบนสุด ประตูได้ถูกงัดออกแล้ว เหลือไว้เพียงกุญแจขึ้นสนิมหนึ่งกอง
ลูกน้องอยากไปผลักประตู แต่กู้เนี่ยนส่ายหัว บอกให้เอาร่มมาแล้ว ค่อยๆใช้ร่มเปิดประตูออก
ทันทีที่ประตูเปิดออก ก็เห็นปืนสามกระบอกราวกับมีตา ยิงรัวใส่ไม่ยั้ง
กู้เนี่ยนทำสัญญาณมือบางอย่าง คนที่ฝีมือดีก็นำออกไปก่อน แล้วหาที่กำบังอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเขาเองก็ก้มต่ำลงและวิ่งราวธนูมาถึงอีกที่
เวลานี้ ข่ายสื้อลินหลบซ่อนอยู่หลังบังเกอร์ที่มีมุมมองดีที่สุดกำลังดูความเคลื่อนไหวของคนฝั่งตรงข้าม
เป็นเพราะกลางคืนที่มองไม่ค่อยชัด หรือกู้เนียนใจร้อน ไม่ทันระวังตัวก็เหยียบไปที่สิ่งของนิ่งๆอย่างหนึ่ง
วูบหนึ่งในใจ กลัวจะเป็นระเบิด ขาก็หยุดอยู่กับที่โดยไม่กล้าขยับ
คราวนี้เขาถูกเส้นด้ายเล็กพันขาไว้ จนคนทั้งคนเซล้มฟุบไปข้างหน้า
แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้ ถึงทำให้เขาพ้นเคราะห์ไป
ทันทีที่เขาล้มลงกับพื้น เห็นแต่ธนูเล็กเฉี่ยวแก้มเขาไปและตกลงที่พื้น เลือดไหนออกมา และรู้สึกเจ็บแสบ สิบเอ็ดเห็นกู้เนี่ยนเลือดไหล รีบเข้ามาถามไถ่ทันที “พี่เนี่ยน ท่านเป็นอะไร”
“ไม่เป็นไร ระวังตัวด้วย ผู้หญิงคนนี้มีฝีมือไม่เบา จำไว้ให้ระวัง ”กู้เนี่ยนสั่งเสียงต่ำ
ได้ยินเช่นนั้น สิบเอ็ดก็วิ่งไปสังเกตการณ์ข้างๆ แต่ว่าเมื่อกู้เนี่ยนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็เห็นเท้าลอยมาตกตรงหน้าตัวเองแล้ว
เมื่อเขารู้ตัวขึ้นมา หน้าเขาก็โดนเท้าเข้าไปเต็มๆแล้ว
ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นคาวหวานของเลือดในปาก
กู้เนี่ยนถุยเลือดในปากทิ้ง และก็เช็กที่มุมปาก
สายตาเย็นชามองไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ข่ายสื้อลินยกมีดในมือขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงยั่วยุว่า “พวกคุณกำลังตามหาฉันอยู่หรือ”
“คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องลงมือกับเจียงสื้อสื้อ”กู้เนี่ยนถามเสียงต่ำ
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่ปรานี
ข่ายสื้อลินยิ้มพร้อมกับเล่นมีดในมือ เลิกคิ้วพูดว่า “ฆาตกรฆ่าคนยังต้องมีเหตุผลด้วยหรือ”
พูดจบ สายตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นดุดัน ในไม่ช้าก็มาถึงตรงหน้ากู้เนี่ยนอย่างรวดเร็ว ทั้งหมัดทั้งเตะออกมาพร้อมกัน
กู้เนี่ยนหลบหลีก ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะฝีมือเฉียบขาดขนาดนี้
ในใจก็เริ่มรับรู้ถึงความสามารถของเธอ จึงไม่กล้าประมาท
ต้องใช้พลังเกินสิบในการจัดการ แต่ว่าหลายรอบผ่านไป เขายังค่อนข้างจะสู้ข่ายสื้อลินไม่ได้
สิบเอ็ดเห็นความไม่ชอบมาพากลของฝั่งนี้ จึงรีบเก็งพี่น้องมาทางนี้
ทันทีที่ข่ายสื้อลินเห็นกลุ่มคนที่กรูล้อมเข้ามา รู้ว่าตัวคนเดียวสู้ศัตรูไม่ได้แน่นอน จึงกระโดดไปที่ดาดฟ้าอาคารฝั่งตรงข้าม อาศัยความมืดหลบหนีไป
ทันทีที่ป้ายตกหล่นก็ถูกกู้เนี่ยนสังเกตเห็นแล้ว จึงเดินไปเก็บขึ้นมา
ตรงกลางของป้ายมีพิมพ์ลักษณะรูปร่างคล้ายดอกลิลลี่แมงมุมหนึ่งดอก ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ความเป็นมาของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
มองตามทิศทางที่ผู้หญิงคนนั้นจากไป สิบเอ็ดถามอย่างกังวล “พี่เนี่ยน ตอนนี้จะทำอย่างไรดี ”
กู้เนี่ยนฝีมือดีสุดในบรรดาพวกเขา แม้แต่เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงคนนี้ ต่อให้คนหลายคนรวมกันก็ยากที่จะจับเธออยู่
“กลับไปรายงานนายก่อน เรื่องนี้ไม่ง่าย ”
กู้เนี่ยนพูดไปพร้อมกับถุยคราบเลือดในปากออก
ผู้หญิงคนนี้ ทุกกระบวนท่ากะจะเอาถึงแก่ชีวิตเลยจริงๆ
ขาของเขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่เบา เวลาเดินรู้สึกลำบากเล็กน้อย
เมื่อสิบเอ็ดเห็น ก็แบกเขาขึ้นหลังเดินไปขึ้นรถทันที
วันรุ่งขึ้น กู้เนี่ยนมาถึงวิลล่าจิ้นแต่เช้า
พ่อบ้านเห็นเขาสภาพขากะเผลกๆ จึงรีบพาขึ้นไปชั้นบน
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินเห็นสภาพกู้เนี่ยน ก็ขมวดคิ้วขึ้น
“ทำไมเป็นสภาพแบบนี้”
ฟังออกว่าในคำพูดเขามีความไม่ชอบใจ กู้เนี่ยนก็น้ำท่วมปากแต่พูดไม่ได้
นำป้ายที่ข่ายสื้อลินทำตกไว้เมื่อคืนมอบให้จิ้นเฟิงเฉิน และกล่าวว่า “คุณชาย ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นคนของสำนักหมิงหยานป้ายดอกลิลลี่แมงมุมนี้ก็ตกลงมาจากตัวของเธอ ”
ที่สำคัญฝีมือเธอดีมาก แต่ละท่ากะจะเอาถึงแก่ชีวิต โหดเหี้ยมไร้คนเปรียบ แม้แต่ผมก็ต้านเธอไม่อยู่
รับป้ายไปแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ดูอย่างละเอียด เป็นคนของสำนักหมิงหยานจริงๆ
เกี่ยวกับสำนักหมิงหยานเขาก็พอจะรู้จักดี เป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฝึกฝนทหารรับจ้างระดับแนวหน้าของโลกโดยเฉพาะ
ปฏิบัติการส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานที่คนธรรมดาทั่วไปทำไม่ได้ สมาชิกในนั้นส่วนใหญ่จะใช้ชื่อดอกไม้แทนชื่อ
เมื่อมองไปที่บาดแผลบนตัวกู้เนี่ยน ก็แน่ใจได้ว่าเป็นคนของที่นั่นโดยไม่ต้องสงสัยเลย