ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 764 ไม่เป็นไร ผมรอได้
บทที่ 764 ไม่เป็นไร ผมรอได้
“ผม……ไม่ค่อยดี หลังจากคุณจากไป คุณชายโมโห นำผมไปขัง”
ป๋ายหลี่เหมือนกับว่าไม่อยากทำให้จื่อเฟิงกังวล ไม่นานก็ยิ้มแย้มออกมา “แต่ว่าตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว ผมได้เจอคุณอีกแล้ว”
จื่อเฟิงมองด้วยสายตาเยือกเย็น มุมปากกระตุก
เหลือบมองไปเห็นที่ไหล่ของเขาอย่างไม่ตั้งใจ สามารถดูออกว่าในทีแรกเขาโดนลงโทษอะไร
แต่ว่า เธอไม่ได้แสดงออกอะไรมา คนของเหลวสีน้ำตาลในแก้วเบาๆให้เข้ากัน เยือกเย็นจนรู้สึกเย็นชา
ป๋ายหลี่ไม่รู้จะรับมือยังไง ถามอย่างตื่นเต้น “จื่อเฟิง คุณเป็นอะไร เจอผมคุณไม่ดีใจหรอ?”
จื่อเฟิงส่ายหน้า
ป๋ายหลี่ยิ้มออกมา พูดอย่างพึงพอใจ “คุณรู้ไหม ครั้งนี้ผมหาคุณไม่ง่ายเลย สายลับบอกผมก่อนว่าติดต่อคุณไม่ได้ ผมตกใจแทบแย่ ยังคิดว่าคุณเกิดอะไรขึ้น ยังดี ท้ายที่สุดยังหาคุณเจอ”
จื่อเฟิงส่งเสียง “อือ” ออกมาอย่างใจลอย ในใจกำลังไตร่ตรองว่าจะควรจะใช้คำพูดยังไง
ป๋ายหลี่ยังคงตกอยู่ในความตื่นเต้นดีใจเหมือนเดิม ดวงตาคู่นั้นก็กวาดอยู่บนตัวจื่อเฟิงตลอดเวลา มองด้วยความรักใคร่
จื่อเฟิงใจร้อนขึ้นมา วางส้อมลง “คุณกำลังมองอะไร?”
ป๋ายหลี่ตกใจ หลบสายตา “ไม่ ไม่มีอะไร”
เห็นป๋ายหลี่เป็นแบบนี้ อารมณ์ร้อนของจื่อเฟิงก็ไม่รู้ควรจะทำยังไง
หลับตา ใช้น้ำเสียงอ่อนนุ่มพูดว่า “ป๋ายหลี่ อดีตก็ผ่านไปแล้ว คุณรีบกลับไปเถอะ ทำเหมือนไม่เคยมาที่นี่ ฉันก็จะทำเหมือนไม่เคยเจอคุณ ไปเถอะ”
ได้ยินอย่างนั้น ป๋ายหลี่ส่ายหัวอย่างรุนแรง “ไม่ได้ จื่อเฟิง ผมจะไม่จากคุณไป กว่าผมจะออกมาได้นั้นไม่ง่ายเลย คุณอย่าให้ผมไปเลย”
จื่อเฟิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ให้ภาพด้านข้างที่ไร้ความรู้สึกกับเขา
“ฉันพูดแล้ว หลังจากนี้ไม่อยากเจออีก คุณไปเถอะ อย่าออกมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันไปอีกตลอดกาล”
ป๋ายหลี่มองเธออย่างโศกเศร้า ยื่นมือออกไป ราวกันต้องการจะจับมือของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ
จื่อเฟิงหดมือเข้ามา เพื่อหลีกเลี่ยง
ป๋ายหลี่ที่คว้าอากาศแทบจะวิงวอนขอพูดว่า “จื่อเฟิง ไม่เป็นไร ผมยังเหมือนเมื่อก่อน คุณก็อย่าเปลี่ยนไป ดีไหม?”
“ไม่ดี!” จื่อเฟิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
พวกเขาไม่มีทางกลับไปเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างแน่นอน ป๋ายหลี่ชักช้ายืดยาดอยู่อย่างนี้ น่ารำคาญมาก
ป๋ายหลี่เก็บมือกลับไปอย่างหดหู่ พูดอย่างห่อเหี่ยวว่า “แต่ว่าผมอยากจะอยู่กับคุณ คุณไปที่ไหน ผมก็ไปที่นั่น ผมแค่อยากจะอยากจะอยู่ข้างๆคุณ”
ในที่สุดจื่อเฟิงก็ย้ายสายตาไปไว้บนหน้าของเขา เธอพูดอย่างเยือกเย็น “ที่นี่คืออิตาลี ไม่ใช่ในประเทศ ฉันตัดสินใจแล้วที่จะลืมทุกอย่างในอดีต คุณก็ลืมไปเถอะ”
ได้ยินอย่างนั้น ป๋ายหลี่ก็แสดงท่าทีออกมาในทันที “ไม่ว่าจะเป็นอิตาลีหรือที่ไหน คุณอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น”
เผชิญหน้ากับป๋ายหลี่ที่เป็นอย่างนี้ ทันใดนั้นจื่อเฟิงก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้ว
สายตาของเขาร้อนแรงมากเกินไป เหมือนกับว่ามีเพียงแค่เธอคนเดียว
ในใจ ในที่สุดก็เกิดคลื่นขึ้นมา
“คุณ……”
จื่อเฟิงก้มหัวลง กะพริบตาจนขนตากระพือด้วยความเร็ว ความเผด็จการน้อยลงไปเล็กน้อย ท่าทีเขินอายของหญิงสาวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ป๋ายหลี่มองตาไม่กะพริบ ความรักในดวงตาแทบจะไหลล้นออกมา
สมองของจื่อเฟิงกำลังหมุนไปรอบๆด้วยความรวดเร็ว ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนกำลังผสมปนเปกัน ความรู้สึกในตามืดมิดไม่สว่าง สุดท้ายทั้งหมดก็กลับมาเงียบสงบ
“คุณอย่าเสียเวลาอีกเลย”
จื่อเฟิงพูดอย่างไร้ความรู้สึก “ตอนนี้ฉันกลับไปไม่ได้อีกแล้ว แต่คุณ ยังมีอนาคตที่สดใส ดังนั้น ไปเถอะ”
เห็นเธอปฏิเสธ ป๋ายหลี่ส่ายหัวอย่างสุดชีวิต “จื่อเฟิง ผมไม่สนใจอนาคตอะไรทั้งนั้น ผมสนใจแค่คุณ”
คำพูดแบบนี้ มีผู้หญิงแค่ไม่กี่คนที่จะไม่สะเทือนใจ
ใจของจื่อเฟิง ก็อดไม่ได้ที่จะเต้น
“จริงๆ ผมชอบคุณ ชอบมาก มิเช่นนั้นในตอนแรกผมจะไม่ปล่อยคุณไป”
ป๋ายหลี่พูดอย่างจริงใจมาก
เห็นอารมณ์เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งของจื่อเฟิงมีแนวโน้มว่าจะละลาย เขาก็พยายามพูดอย่างไม่ลดละ “หลังจากผมปล่อยให้คุณไป ก็โดนคุณชายขังไว้ตลอด จริงๆแล้วผมก็รู้นานแล้ว ปล่อยคุณไป ผมก็หนีไม่ได้ แต่ผมก็ยังทำ ผมทำใจไม่ได้ที่คุณได้รับความทุกข์ทรมาน จื่อเฟิง คุณยังไม่เข้าใจจิตใจของผมอีกหรอ”
จื่อเฟิงพูดโพล่งออกมา “คุณรู้สึกเสียใจที่ปล่อยฉันไป?”
“แน่นอนว่าไม่ ผมไม่เคยเสียใจเลย ผมดีใจที่คุณหนีออกมาได้” ป๋ายหลี่พูดในทันที ให้เธอเชื่อว่าเขาไม่เคยเกิดความคิดนี้เลย
สายตาของจื่อเฟิงหยุดอยู่ที่ป๋ายหลี่ มองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ป๋ายหลี่ยิ้ม ซ่อนมือเอาไว้ตามจิตสำนึก
เห็นเขาหลบ จื่อเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะถาม “มือของคุณทำไมหัก ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
เดิมทีป๋ายหลี่ไม่อยากพูด เธอถามครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงพูดอย่างจำใจ “โดนคุณชายตีหัก บอกว่าจะให้บทเรียนกับผม แต่ว่า จื่อเฟิงคุณวางใจได้ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว”
ทำเพื่อเธอ ถูกหักแขนไปข้าง และยังถูกขังอยู่นานขนาดนี้ หลังจากออกมาในทันที ก็ยังมาหาเธอ……
ใจดวงนั้นของจื่อเฟิง ในที่สุดแล้วก็ยังสั่นคลอนเล็กน้อย
ป๋ายหลี่มองเธออยู่ตลอดเวลา เห็นความหวาดผวาในดวงตาของเธอ ก็พูดในทันที “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแม้แต่น้อยจริงๆ ขอเพียงแต่เพราะคุณ ทำอะไรผมก็ยอมหมด ดังนั้น จื่อเฟิง ให้ผมอยู่ข้างๆคุณ ตกลงไหม?”
เขาภาวนาขออย่างต่ำต้อยแบบนี้ ใบหน้าประจบเอาใจ เพียงแค่ขอโอกาสที่จะได้อยู่กับเธอ
เงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดจื่อเฟิงก็ปล่อยปาก
“ตอนนี้ฉันไม่มีวิธีที่จะรับปากคุณ ยังไงคุณก็เป็นคนที่อยู่ข้างจิ้นเฟิงเฉิน ฉันจำเป็นต้องไปรายงานต่อเบื้องบน”
คำพูดนี้ก็เท่ากับตอบรับโดยอ้อมแล้ว
ป๋ายหลี่ดีใจมาก และไม่ได้สนใจเรื่องที่จื่อเฟิงบอกว่าต้องรายงาน พูดอย่างอารมณ์ดี “ผมไม่รีบ ผมรอได้”
จื่อเฟิงเปิดเปลือกตามองเขา ป๋ายหลี่จึงส่งยิ้มให้เธอ ยิ้มจนใจของจื่อเฟิงอ่อนไปตามๆกัน
เธอรีบย้ายสายตา ทำให้ความรู้สึกมั่นคง พูดอย่างเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง “งั้นคุณก็รอเถอะ”
“อือ ผมจะทำให้ดีๆ ขอเพียงแค่ผมพยายามแล้ว ต้องได้อยู่อย่างแน่นอน!” ป๋ายพูดอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ
จื่อเฟิงมองเขา ถามอย่างไม่เชื่อ “เพื่อที่จะได้อยู่ อะไรคุณก็ทำได้?”
“แน่นอน!” ป๋ายหลี่ตอบอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้น ก็มองจื่อเฟิงด้วยความรู้สึกลึกซึ้งและพูดว่า “ในใจของผม คุณถึงจะสำคัญที่สุด สิ่งอื่นสามารถทอดทิ้งได้ทั้งหมด จะมีเพียงแค่ที่คุณไม่ตกลงเท่านั้น ผมจะอยู่ข้างๆคุณ ปกป้องคุณ จะไม่ให้คุณได้รับความทุกข์ทรมานอีก”
“โอเคแล้ว”
จื่อเฟิงหยุดเขาไว้ในทันที “ไม่ต้องพูดแล้ว ดูสิ่งที่คุณแสดงออกมาเถอะ”
ป๋ายหลี่ดีใจมาก เห็นว่าจื่อเฟิงทานไปไม่มาก สั่งเค้กก้อนเล็กมาอย่างรู้ใจ
พอดีว่าเป็นสิ่งที่ปกติจื่อเฟิงชอบทานที่สุด ก็ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือว่าอะไร
ไม่อยากจะคุยอะไรกับป๋ายหลี่อีก จื่อเฟิงเชิญแขกออกไปอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
“คุณไปได้แล้ว”
ป๋ายหลี่ส่ายหัว พูดอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึก “รออีกสักครู่ ผมจะดูคุณกินเค้กให้หมด”
จื่อเฟิงพูดไม่ออก แต่ก็ยังทำตาม
เค้กหวานๆ เธอกินเข้าไปในปาก กลับไม่มีรสชาติอะไร เพียงเพราะคิดถึงคำพูดเมื่อกี้ของป๋ายหลี่อยู่ตลอด
คนนี้ที่อยู่ตรงหน้า เหมือนกับว่าในใจในตาล้วนมีแต่เธอคนเดียวเท่านั้น
ความรู้สึกร้อนแรงแบบนั้น แม้แต่เธอที่เป็นคนใจแข็งและเย็นชา ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงออก
ป๋ายหลี่ชอบเธอ เธอรู้มาโดยตลอด
แต่เพียงว่า ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ เธอจะไม่ยอมที่จะเชื่อเขาง่ายๆ
รอดูต่อไปเถอะ