ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 768 คนมักจะเห็นแก่ตัว
บทที่ 768 คนมักจะเห็นแก่ตัว
ตามองสีหน้าของฝู้จิงเหวิน เปลี่ยนเป็นสีดำมืดที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ข่ายสื้อลินรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
“ฉันมีวิธีแล้ว วันเกิดพ่อของคุณไม่ใช่ว่าใกล้จะถึงแล้วหรอ ทำไมไม่ฉวยโอกาสนี้ล่ะ?”
ฝู้จิงเหวินไม่ได้ตอบคำถามของเธอ ไม่ปริปากพูดสักคำ เพียงแต่จ้องมองเธอตรงๆ
ข่ายสื้อลินก็ไม่ได้สนใจ พูดอย่างสนใจแต่เรื่องตัวเอง “พอถึงตอนนั้น พวกคุณจัดงานเลี้ยงให้ใหญ่สักหน่อย เชิญจิ้นเฟิงเฉินมา อย่ามองฉันแบบนั้น ตระกูลฝู้และตระกูลจิ้นเคยไปมาหาสู่กันทางธุรกิจ ถ้าหากว่าเป็นวันเกิดนายท่าน เชิญเขามาก็คงไม่แปลก”
เพื่อช่วงเวลานี้ ข่ายสื้อลินพิจารณาปัญหาทุกๆด้านไว้หมดแล้ว
จนหาช่องโหว่ไม่เจอ
ฝู้จิงเหวินอ้าปาก ไม่พูดอะไรออกมา
ข่ายสื้อลินหัวเราะอย่างน่ารัก พูดต่อว่า “เรื่องราวหลังจากไปที่งานเลี้ยงแล้วคุณไม่ต้องสนใจ ส่งมอบให้ฉันก็พอแล้ว”
ในตอนนี้ แสงไฟในบาร์สว่างวิบวับ เสียงเพลงดังกึกก้องในหู
ใบหน้าด้านหนึ่งของฝู้จิงเหวินอยู่ในเงามืด ข่ายสื้อลินมองเห็นสีหน้าท่าทางของเขาไม่ชัดเจน
ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าเธอก็ไม่รีบ ถึงอย่างไร ครั้งนี้ก็ไม่มีผลดีสำหรับเขาแม้แต่น้อย
เห็นเขาไม่พูด ข่ายสื้อลินก็เข้าไปใกล้ตัวของเขา แต่ฝู้จิงเหวินแม้แต่ปลายหางตาก็ไม่มองเธอ ยังคงเงียบไม่พูดไม่จา
หลังจากนั้นสักพัก ฝู้จิงเหวินก็ไม่ได้พูดว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอของข่ายสื้อลิน
หยิบเสื้อที่วางอยู่บนม้านั่งขึ้น และหมุนตัวเดินออกไป
มองภาพของเขาที่เดินจากไป มุมปากของข่ายสื้อลินก็ปรากฏรอยยิ้มที่ลึกลับออกมาให้เห็น
ผู้ชายคนนี้ไม่มีทางไม่เห็นด้วย คนมักจะเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น
วันต่อมา เจียงสื้อสื้อล้างหน้าบ้วนปากออกมาจากห้องน้ำ หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งซับหยดน้ำบนใบหน้า
มีหยดน้ำไหลจากใบหน้าที่ใสสะอาดของเธอ หยุดอยู่ที่บริเวณหลังคอที่สวยงามของเธอ
นอกหน้าต่าง แสงแดดที่อบอุ่นส่องมา
เถียนเถียนยังนอนอยู่ เจียงสื้อสื้อจึงดึงผ้าม่านปิด เพื่อกีดขวางไม่ให้แสงส่องเข้ามา
ทันใดนั้นโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวเตียงก็สั่นขึ้นมา เจียงสื้อสื้อรีบเดินไป
หลังจากเห็นชื่อคนที่ติดต่อมานั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเดินออกไประเบียงด้านนอก
เธอกดรับสาย พูดด้วยน้ำเสียงต่ำกับทางนั้นไป “มีอะไร?”
เช้าขึ้นมา เสียงยังไม่เปิดทั้งหมด น้ำเสียงมีความอ่อนเพลีย
ทางด้านฝู้จิงเหวินแววตาเป็นประกายเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ตอบ “อือ” เบาๆ
ฝู้จิงเหวินพิงราวจับ พูดอย่างไม่อ้อมค้อม “สื้อสื้อ ใกล้จะถึงวันเกิดของคุณพ่อแล้ว”
เจียงสื้อสื้อได้ยินดังนั้น ก็ชะงักไป นึกถึงวันที่ ก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ในทันที
ไม่รอให้เจียงสื้อสื้อพูดอะไร ฝู้จิงเหวินก็ถามขึ้นมาก่อน
“วันเกิดครั้งนี้ ผมอยากจะจัดให้พ่ออย่างยิ่งใหญ่ คุณจะกลับมาด้วยกันไหม?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า ตอบไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“อือ ฉันจะกลับไปช่วย”
ในสามปีมานี้ แม่ของฝู้จิงเหวินนับว่าดูแลเอาใจเธออย่างดี
โดยเฉพาะพ่อฝู้ ไม่เพียงแต่สอนให้รู้หลักการมากมายในชีวิต ในการทำงานก็ยังสอนเธออีกมากมายหลายอย่าง
ถึงวันเกิดของท่าน เธอไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธอยู่แล้ว
ได้ยินคำตอบของเจียงสื้อสื้อ สีหน้าของฝู้จิงเหวินก็ไม่ได้ดีใจมากนัก
ถึงอย่างไร ลักษณะนิสัยของเจียงสื้อสื้อเขาก็รู้เป็นอย่างดี
แต่พอนึกถึงแผนการของข่ายสื้อลิน กลับรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
หวังว่าพอถึงเวลาผู้หญิงคนนั้น จะไม่ทำเรื่องอะไรให้เจียงสื้อสื้อเจ็บปวด
ทันใดนั้นบรรยากาศก็น่าอึดอัดใจขึ้นมา ฝู้จิงเหวินจึงเปิดปากพูด “ถ้าหากว่าคุณจะกลับมาช่วย ผมก็ขอบคุณแทนคุณพ่อด้วย งั้นต้องให้ผมส่งคนไปรับพวกคุณไหม?”
“ไม่ต้อง เป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วฉันวางแล้วนะ เถียนเถียนเหมือนจะตื่นแล้ว”
มีหน้าจอกั้นไว้ เจียงสื้อสื้อยังรู้สึกว่าการเผชิญหน้ากับฝู้จิงเหวินนั้นอึดอัดวางตัวไม่ถูกเล็กน้อย คลึงมุมเสื้ออย่างไม่เป็นธรรมชาติ หลบหนีด้วยจิตใต้สำนึก
“อือ”
ฝู้จิงเหวินพยักหน้าอย่างเงียบเหงา หลังจากนั้นชั่วขณะ มองการเชื่อมต่อที่สิ้นสุดลง มุมปากก็มีรอยยิ้มที่เจ็บปวดปรากฏออกมาให้เห็น
ทันทีหลังจากนั้น เขาก็กำหมัดแน่น แววตาค่อยๆเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยวแน่วแน่และเข้าใจได้ยาก
ด้านนี้ หลังจากเจียงสื้อสื้อวางสาย เดินไปข้างเตียง เรียกเถียนเถียนที่นอนหลับสนิทอยู่ขึ้นมา
“ลูกรัก ควรตื่นได้แล้ว พระอาทิตย์ส่องก้นแล้วนะ”
เจียงสื้อสื้อโยกตัวเด็กน้อยไปมาอย่างอ่อนโยน
ใบหน้ารูปไข่นุ่มๆของเถียนเถียนก็ย่นมารวมกันในทันที พลิกตัว และก็นำตัวเองฝังเข้าไปในผ้านวมอีก
พูดกับเจียงสื้อสื้ออย่างงัวเงียว่า “หม่ามี๊ นอนอีกนิดนึงนะคะ”
“นอนอีกนิดนึง หนูก็ไม่เจอหม่ามี๊แล้วนะ แน่ใจไหม?”
เจียงสื้อสื้องับไปบนใบหน้าของเด็กน้อยเบาๆ
“อือ……อือ?”
เถียนเถียนที่นอนอย่างงัวเงีย สมองก็มีปฏิกิริยากลับมาครึ่งหนึ่ง
หลังจากได้ยินคำพูดของเจียงสื้อสื้อ ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงในทันที
ปากเล็กๆเบะขึ้นสูง วิ่งไปออกแรงดึงเจียงสื้อสื้อไว้ ดวงตาที่สะลึมสะลือถามว่า “หม่ามี๊ หม่ามี๊จะไปไหน?”
เจียงสื้อสื้ออุ้มเด็กน้อยขึ้นมาเดินไปทางห้องน้ำ ถูจมูกของเธอ พูดอย่างเอ็นดู “อีกสองวันจะวันเกิดคุณปู่แล้ว หม่ามี๊ต้องกลับไปช่วย ดูแลหนูไม่ได้ เถียนเถียนอยู่ที่นี่โอเคไหม?”
“ไม่เอา จะเอาหม่ามี๊”
เถียนเถียนได้ยินอย่างนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นตัดใจไม่ได้ทันที เธอไม่อยากแยกจากหม่ามี๊
ฝังหน้าเข้าไปบริเวณหลังคอของเจียงสื้อสื้อ ถูอย่างอาลัยอาวรณ์
เจียงสื้อสื้อยึดมือออกไปลูบหัวเธอ ยิ้มบางๆ
รู้ว่าเถียนเถียนพึ่งจะตื่นนอน ดังนั้นจึงยังไม่ฟื้นคืนสภาพเดิม รอให้ผ่านไปสักพักก็ดีขึ้น และก็ไม่รีบที่จะพูดเหตุผลกับเธอ
หลังจากอาบน้ำให้เถียนเถียน สองแม่ลูกก็เดินลงไปชั้นล่าง
เถียนเถียนยังคงตกอยู่ในความเศร้าที่เจียงสื้อสื้อจะต้องไป จับมุมเสื้อของเขาแน่นไม่ปล่อย
“หม่ามี๊ น้องสาว”
เสี่ยวเป่าอยู่ในห้องรับแขกแล้ว พอเห็นเจียงสื้อสื้อและเถียนเถียน ก็รีบดึงเก้าอี้ออกมาทันที ให้เจียงสื้อสื้อและเถียนเถียนนั่งลง
หลังจากเถียนเถียนนั่งลง ก็มองเจียงสื้อสื้ออย่างอาลัยอาวรณ์ “หม่ามี๊ เถียนเถียนไปด้วยไม่ได้หรอคะ?”
น้ำเสียงอดไม่ได้ที่จะน่าสงสารเป็นอย่างมาก
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ กำลังตั้งใจจะเกลี้ยกล่อมเด็กน้อย จิ้นเฟิงเฉินประคองฟางเสว่มั่นเดินมาทางนี้
ได้ยินคำพูดของเด็กน้อย ก็ถามขึ้นมาพร้อมกับเสี่ยวเป่า “จะไปไหน?”
เห็นสายตาหลายคู่รวมอยู่ที่ตัวเธอ เจียงสื้อสื้อลูบหลังคอ
“พ่อของฝู้จิงเหวินใกล้จะฉลองวันเกิดแล้ว ฉันต้องกลับไปช่วย ถ้าเป็นบ้านตระกูลฝู้น่าจะดูแลเถียนเถียนไม่ได้ เถียนเถียนก็ให้แม่ดูแลเถอะ”
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินอย่างนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ ในใจอดไม่ได้ที่จะมีความทุกข์ลอยขึ้นมา
จิตสำนึกของเขาไม่อยากปล่อยให้เจียงสื้อสื้อกลับไป
“ทางนี้ฉันไม่มีปัญหา ถ้าหากว่าเธอยุ่งก็ไปเถอะ” ฟางเสว่มั่นเข้าใจสถานการณ์ของลูกสาวเป็นอย่างมาก
จุดเริ่มต้นของเจียงสื้อสื้อและตระกูลฝู้ เธอเองก็ได้ยินมากับหู รู้ว่าเจียงสื้อสื้อทำเพื่อทดแทนบุญคุณ
ในตอนนี้สายตาเคลื่อนย้ายไปที่จิ้นเฟิงเฉินอย่างรวดเร็ว เป็นกังวลเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อเข้าใจความหมายของแม่ได้โดยธรรมชาติ มองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน