ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 79 ตบหน้าสองที
บทที่ 79 ตบหน้าสองที
เมื่อเห็นพวกเขาเหล่านี้ สายตาของเจียงสื้อสื้อก็เปลี่ยนทันที และพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า : “พวกคุณมาทำไหม?”
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ที่พวกเขามาต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
เจียงสื้อสื้อจ้องมองเธอ พร้อมพูดเปิดประเด็นทันที โดยที่แฝงด้วยน้ำเสียงโอ้อวด
“เจียงสื้อสื้อ เธอรีบให้จิ้นเฟิงเฉินยกเลิกความคิดจัดการตระกูลเจียงและตระกูลหลานเดียวนี้”
เพียงนึกถึงพฤติกรรมที่หลานซือเฉินปฏิบัติต่อตัวเองเมื่อวาน เจียงนวลนวลก็รู้สึกโมโหจนอยากฉีกหน้าของเจียงสื้อสื้อทันที หากไม่ใช่เพราะเธอ ตระกูลจิ้นคงทำงานร่วมกับพวกเขาแน่ และคงไม่สร้างปัญหาเยอะแบบนี้
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มประชด “คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน?”
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ คาดว่าเมื่อวานจิ้นเฟิงเฉินคงจัดการกับตระกูลเจียงและตระกูลหลานแน่เลย ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่รีบร้อนมาตั้งแต่เช้าหรอก เมื่อคิดแบบนี้เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกประทับใจต่อจิ้นเฟิงเฉินมาก
เขาคอยช่วยเหลือเธอเงียบๆมาตลอด
“เจียงสื้อสื้อ ถึงยังไงพ่อของเธอก็เลี้ยงดูเธอตั้งแต่เล็กจนโต เป็นคนต้องอย่าลืมบุญคุณ! หากไม่ใช่ตระกูลเจียงของพวกเรา เธอจะมีวันนี้ไหม?” คนที่พูดคือเสิ่นซูหลัน เธอจ้องมองเจียงสื้อสื้อ และพูดต่อว่า : “ถึงแม้ในตอนนี้เธอจะสามารถไต่เต้าเป็นคนของตระกูลจิ้น แต่ก็ไม่ควรลืมพวกเรา ! เป็นคนไม่ควรเป็นคนอกตัญญูแบบนี้”
เจียงเจิ้นที่อยู่ด้านข้างก็รีบเอ่ยปากพูดเพิ่มเติมว่า “ใช่ เจียงสื้อสื้อ เธอไม่สามารถลืมบุญคุณที่ตระกูลเจียงเลี้ยงดูเธอมา”
เมื่อได้ยินประโยคว่าบุญคุณ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกน่าขำมาก เธอเติบโตเพราะพ่อแม่เลี้ยงดูมาก ไม่เคยขอเงินจากตระกูลเจียงเลยแม้สักบาท
“กลับไปเถอะ! ฉันจะไม่ช่วยพูดอะไรกับจิ้นเฟิงเฉิน และไม่มีเวลามาคุยกับพวกคุณให้เสียเวลาด้วย”
จากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลลง และไม่พูดจาฉาดฉานอีก
“สื้อสื้อ ฉันรู้ว่าเธอมีความโกรธแค้นต่อตระกูลเจียงของพวกเรา ฉันต้องขอโทษในสิ่งที่เคยทำไม่ดีต่อพ่อแม่เธอในเมื่อก่อน แต่ตอนนี้หากเธอสามารถคุยไกล่เกลี้ยกับสองพี่น้องนั้นได้ และยังสามารถทำให้พวกเขาทำงานร่วมกับตระกูลเจียงได้ด้วย เช่นนั้นตระกูลเจียงก็พร้อมอ้าแขนต้อนรับเธอ และเธอก็จะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเจียงของพวกเราตลอดไป”
สิ้นสุดเสียง เสิ่นซูหลันกับนวลนวลก็พากันตกใจ คิดไม่ถึงว่าเจียงเจิ้นจะตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะกว่าจะสามารถขับไล่เจียงสื้อสื้อได้ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย!
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้สึกอยากได้มันเลยค่ะ” เจียงสื้อสื้อพูดออกมาตรงๆ ในตอนนั้นตระกูลเจียงทอดทิ้งเธอเหมือนกับขยะ โดยไม่สนใจความเป็นความตายของเธอและพ่อแม่ของเธอเลย ตอนนี้หรอ? พอเธอมีประโยชน์กลับต้องการให้เธอกลับไป
ความหวังดีแบบนี้ช่างต่ำต้อยมาก
เจียงสื้อสื้อเผยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะลดตัวทำเรื่องแบบนี้ได้ ถึงขนาดยินยอมให้เจียงสื้อสื้อกลับบ้าน
“เจียงสื้อสื้อ ต่อให้ตอนนี้เธอกับจิ้นเฟิงเฉินอยู่ด้วยกัน แล้วจะยังไง? เธอไม่มีฐานะไม่มีภูมิหลัง เธอคิดว่าคนของตระกูลจิ้นจะยอมให้เธอแต่งงานกับเขาหรอ? ถ้าหากกลับบ้านตระกูลเจียง ปัญหาทุกอย่างจะถูกคลี่คลาย อีกอย่างหรือว่าเธอไม่อยากให้แม่ของเธอได้รับการรักษาที่ดียิ่งขึ้นหรอ?”
เจียงเจิ้นเริ่มรู้สึกโกรธเล็กน้อยแล้ว เลยมีน้ำเสียงไม่เหมือนกับเมื่อกี้นี้แล้ว
เจียงนวลนวลกำมือไว้อย่างแน่น ไม่ ไม่ได้ ถ้าหากเจียงสื้อสื้อกลับบ้านตระกูลเจียงในตอนนี้ พ่อต้องเอ็นดูเธอเหมือนที่เอ็นดูตัวเองแน่ เพราะเธอสนิทสนมกับสองพี่น้องของตระกูลจิ้น อีกอย่างเจียงสื้อสื้อคงคิดหาทุกวิถีทางแย่งสมบัติตระกูลเจียงแน่ ถึงตอนนั้นเธอจะมีฐานะอะไรกัน!
แต่เพราะเรื่องที่ก่อก่อนหน้านี้ และตอนนี้เจียงเจิ้นก็รู้สึกโกรธตัวเองด้วย เจียงนวลนวลเลยไม่กล้าพูดอะไร เธอเอาแต่จ้องมองเจียงสื้อสื้อ ขณะเดียวกันก็กลัวว่าเธอจะรับปากวินาที
เมื่อเห็นเจียงนวลนวลมีสีหน้าระทมทุกข์ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วยกมือกอดอก จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็นว่า : “โอเค ฉันรับปากกลับไป”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงก็เผยสีหน้าดีอกดีใจขึ้น
“ดีมาก แล้วเธอจะพูดเกลี้ยกล่อมคุณชายจิ้นเมื่อไหร่?”
ในตอนนี้เจียงนวลนวลรู้สึกหนักอึ้งกลางอก
“อย่ารีบร้อน! ฉันยังมีเงื่อนไข! หากต้องการให้ฉันพูดเกลี้ยกล่อมจิ้นเฟิงเฉิน และกลับบ้านตระกูลเจียง ฉันตกลง! แต่ก่อนอื่นต้องไล่ผู้หญิงสองคนนี้ออกไปก่อน”
หลังจากพูดจบ เธอก็เผยสายตาแหลมคมจ้องมองเจียงนวลนวลและเสิ่นซูหลัน
ทั้งสองคนโมโหเดือดดาลทันที
โดยเฉพาะเจียงนวลนวล ในตอนนี้เธอควบคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้ว เลยด่าทอว่า : “เจียงสื้อสื้อ นังผู้หญิงสารเลว เธอคิดว่าเธอเป็นใคร กล้าดียังไงถึงตัดสินใจแบบนี้!”
เธอไม่เพียงต้องการกลับบ้านตระกูลเจียงแล้ว เธอยังกล้าคิดไล่ตัวเองและแม่ของเธอออกไปด้วย ช่างน่าขำนัก
สิ้นสุดเสียง เจียงสื้อสื้อก็เผยสายตาดุดัน และตบใส่หน้าของเจียงนวลนวลหนึ่งที
แรงตบเหมือนกับเป็นแรงที่เก็บสะสมจากความโกรธแค้นมานาน ดังนั้นแรงตบเลยหนักหน่วงมาก จนทำให้ใบหน้าของเธอรู้สึกเจ็บปวดแสบร้อน ขณะเดียวกันเธอก็นิ่งอึ้งชั่วขณะ
“เจียงสื้อสื้อ เธอเป็นบ้าไปแล้วหรอ?”
“นี่เป็นสิ่งที่ฉันตอบแทนในสิ่งที่เธอทำเรื่องเลวทรามต่อฉัน”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงสูง พร้อมกับท่าทางเกรี้ยวกราด
เจียงนวลนวลยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เจียงสื้อสื้อเลยตบใส่หน้าอีกข้างของเธออีกหนึ่งที
“นี่เป็นสิ่งที่เธอติดค้างต่อฉัน เจียงนวลนวล เรื่องในคืนนั้นกับการตบหน้าแค่สองที มันยังน้อยไป”
จนถึงตอนนี้ ความทรงจำ และความรู้สึกสิ้นหวังในคืนนั้นยังคงปรากฏในหัวสมอง ซึ่งเจียงนวลนวลไม่มีทางเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ตลอดชีวิตแน่
ถ้าหากมีครั้งต่อไป เจียงสื้อสื้อจะไม่มีทางใจอ่อนอีกเด็ดขาด
หลังจากถูกตบหน้าสองครั้ง ใบหน้าของเจียงนวลนวลก็บวมช้ำทันที และดวงตาของเธอก็แดงก่ำด้วย เสิ่นซูหลันทั้งโกรธทั้งสงสาร เลยดึงเธอหลบข้างหลังตัวเอง เพราะกลัวเจียงสื้อสื้อจะลงมือกับเธออีก
“เจียงสื้อสื้อ ถึงยังไงนวลนวลก็ถือเป็นน้องสาวของเธอ ทำไมเธอถึงลงมือรุนแรงกับเธอจัง”
“ขออภัยค่ะ ฉันไม่มีน้องสาวแบบนี้ค่ะ”
เจียงสื้อสื้อเผยสายตาแหลมคม เธอใจร้ายหรอ? เธอลงมือรุนแรงหรือ? เห้อ แล้วเจียงนวลนวลล่ะ?
“ไสหัวออกไป รีบออกไปจากบ้านฉัน อย่ามาทำให้บ้านของฉันติดเสนียดจัญไร ไม่เช่นนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
หน้าประตูมีเสียงเอะอะโวยวายดังมาก จนมีเพื่อนบ้านไม่น้อยแอบซุ่มดูแล้ว เจียงเจิ้นโกรธจนหน้าเขียวคล้ำแล้ว “ได้ ได้”
เขาค่อนข้างไม่กล้าเผชิญหน้ากับตำรวจ และกังวลจะทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่พอใจด้วย ดังนั้นเจียงเจิ้นเลยต้องพอแค่นี้ก่อน
หลังจากเดินมาถึงข้างล่าง เจียงนวลนวลก็ร้องไห้ออกมาด้วยความโกรธแค้น
“พ่อ ทำไมพ่อถึงยอมให้เจียงสื้อสื้อกลับบ้านตระกูลเจียงอีกล่ะ?”
เจียงเจิ้นเผยสีหน้าดำคล้ำเครียด “การที่เจียงสื้อสื้อกลับบ้านตระกูลเจียงสำคัญกว่าบริษัทหรอ? หากตอนนี้โครงการไม่ได้รับดำเนินการอีก บริษัทคงแย่แน่”
“งั้นทำยังไงดีค่ะ….” เจียงนวลนวลร้องไห้พลาง พูดขึ้นพลาง
“ทำยังไงหรอ? ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าต้องทำยังไง นวลนวล ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอวู่วามทำเรื่องโง่เขลาแบบนั้น เมื่อคืนซือเฉินคงสามารถร่วมงานกับบริษัทของ Thyssenกรู๊ป แล้ว กลับไปทบทวนตัวเองที่บ้าน ช่วงนี้ไม่อนุญาตให้เธอไปรังควานเจียงสื้อสื้ออีก”
หลานซือเฉินปฏิบัติไม่ดีต่อเธอยังพอรับได้ แต่พ่อที่รักและเอ็นดูเธอมากตลอดกลับทำแบบนี้ต่อเธอได้ แถมยังปล่อยให้เธอถูกตบหน้าสองทีด้วย ในตอนนี้เจียงนวลนวลรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก เธอร้องไห้สะอื้นพลาง และอ้าปากจะพูดบางอย่างพลาง แต่ถูกเสิ่นซูหลันห้ามปรามไว้
“พอแล้ว นวลนวล ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” เสิ่นซูหลันจ้องมองเจียงเจิ้น และพูดว่า : “สามี นวลนวลเองก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ อีกอย่างเจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย เธอแค่ไม่อยากช่วยพวกเราเท่านั้น”