ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 815 สื้อสื้อหายไป
บทที่ 815 สื้อสื้อหายไป
ตอนที่เธอพึ่งเดินไปที่หน้าประตูนั้น บอดี้การ์ดก็ได้พูดห้ามว่า “คุณเจียงครับ คุณไม่สามารถที่จะออกไปจะบริเวณนี้”
เจียงสื้อสื้อก็ทำได้แค่ทำใจแล้วก็กลับเข้าไปในห้อง
ตกดึก มั่นใจว่าพวกสาวรับใช้ที่จับตามองดูเธอได้หลับไปแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ได้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
มองนาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียง เป็นเวลาเที่ยงคืนสี่สิบห้า
เธอได้ค่อยๆ เดินไปที่หน้าต่าง แล้วก็ได้ปีนข้ามหน้าต่างไปอย่างคล่องแคล่ว
ช่วงนี้เธอไม่ได้โวยวาย เก็บแรงไว้ ก็เพื่อเวลานี้
ผ่านการสังเกตมาในช่วงไม่กี่วัน เธอรู้แล้วว่าชั้นที่เธอได้อาศัยในคราวนี้ไม่สูงมาก เพราะงั้นกล้าที่จะเสี่ยงสักครั้ง
พอหนีมาได้สักพัก ขาก็ได้ไปอยู่ที่ระเบียงชั้นสอง มองไปข้างล่างแล้วน่าจะสูงประมาณสองเมตรได้ เจียงสื้อสื้อได้สูดหายใจเข้าลึกๆ
ต่อด้วย ก็ได้กระโดดลงไปอย่างไม่ลังเล ฝ่าเท้าแตะพื้น เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าที่ข้อต่อของขาได้มาความเจ็บส่งมา ก็ได้ปิดปากของตัวเองแน่น ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมา
และไม่กล้าที่จะชักช้า คลำไปกับกำแพงด้านนอก เดินไปที่ประตูอย่างกระสับกระส่าย
จากการจับตาดูมาไม่กี่วันนี้ เธอพบว่า ในทุกตีหนึ่งของทุกคืน บอดี้การ์ดที่เฝ้าประตูจะเปลี่ยนกะกัน
แต่ในช่วงนั้น ประมาณครึ่งนาที่ได้แถวประตูนั้น จะไม่มีบอดี้การ์ด
เพราะงั้น เจียงสื้อสื้อก็ได้วางแผนว่าจะอาศัยจังหวะนี้หนีออกไป
เธอมีโอกาสแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่สำเร็จล่ะก็ ฝู้จิงเหวินต้องจับตาดูหนักกว่าเดิมแน่ ถึงตอนนั้นก็ยิ่งไม่มีโอกาสหนีไป
ไม่นาน บอดี้การ์ดก็ได้เริ่มแลกเปลี่ยนกะ บอดี้การ์ดที่ได้เปลี่ยนกะก็ได้เดินไปอีกทาง เจียงสื้อสื้อได้กลั้นหายใจ
ไม่สนใจความเจ็บที่เท้าเลยสักนิด จากด้านหลังของเขา ก็ได้วิ่งไปอย่างสุดกำลัง
พึ่งวิ่งออกไปไม่ไกล เธอก็ได้สะดุด ล้มเข้าไปในพุ่มหญ้า
บอดี้การ์ดที่ได้เปลี่ยนกะก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง หันไปมองสักพัก พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่นานก็ได้หันกลับไป
รอให้บอดี้การ์ดเดินออกห่างไป เจียงสื้อสื้อถึงได้กล้าหายใจเบาๆ ไม่กล้าที่จะเสียเวลาเลยสักนิดแล้วก็วิ่งออกไป
คนของทางชีซาก็ได้สืบหารถของฝู้จิงเหวินอยู่ตลอด ไม่นานก็ได้ข่าว
ชีซาก็ได้รีบส่งที่อยู่ไปให้ก่อน
มองที่อยู่มีโชว์บนหน้าจอ อารมณ์ที่หดหู่ของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง
เขาพึ่งวางสายจากชีซาไป ยังไม่ถึงสองชั่วโมง ไม่พูดไม่ได้เลยว่าการทำงานของชีซานั้นเร็วมาก
ที่ที่ฝู้จิงเหวินอยู่ สื้อสื้อต้องอยู่แน่ๆ!
ณ เวลานั้น ก็ได้ลุกขึ้นมาจากเตียง ปลุกกู้เนี่ยนที่อยู่ห้องข้างๆ สั่งไปว่า “รีบติดต่อกับคน มีข่าวของสื้อสื้อแล้ว”
ได้ยินข่าวนี้ ความง่วงของกู้เนี่ยนก็ได้หายไปทันที
ไม่กล้าที่จะชักช้า ก็ได้รับไปทำตาม
ตอนที่จิ้นเฟิงเฉินออกมาจากคฤหาสน์ ท้องฟ้าได้มืด ทั้งเมืองได้อยู่ในความสงบ
รถไม่กี่คันก็ได้ขับไปตามถนน ผ่านไปครึ่งชั่วโมง พวกลูกน้อยของจิ้นเฟิงเฉิน ก็ได้รีบไปที่ บ้านสไตล์ตะวันตกในที่ไม่ใกล้
ในตึกนั้นก็ได้มีไฟไม่กี่ดวงเปิดอยู่ จิ้นเฟิงเฉินได้ทำภาษามือ กู้เนี่ยนก็ได้รีบพาลูกน้องเข้าใกล้ ลักลอบเข้าไป
ตามหาไปสักพัก ก็ไม่พบว่าในบ้านมีคนที่น่าสงสัย
อย่าพูดถึงตัวเจียงสื้อสื้อเลย
กู้เนี่ยนก็เลยทำได้แค่ก้มหน้าเดินกลับมาอย่างหงอยๆ จ้องไปที่สายตาที่รอคอยของจิ้นเฟิงเฉิน ส่ายหน้า
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้รีบขมวดคิ้วทันที ก็ได้ถามว่า “ไม่ได้เจออะไรเลย?”
“คุณชายครับ ในตึกนี้ได้โล่งไปแล้ว ชีซามาถึงก่อนพวกเรา……” กู้เนี่ยนพูด
เวลานี้ ชีซาก็ได้เดินออกมาจากข้างใน ข้างๆ ก็ได้พาตัวผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย
ได้กดผู้หญิงไปกับพื้น ชีซาพูดว่า “ยังมีคนใช้ที่หนีไม่ทันคนหนึ่ง ตอนที่ฉันมานั้นคนในตึกก็ได้หนีไปแล้ว นายสามารถที่จะถามจากเธอ”
หญิงสาวได้ยินแบบนั้น ก็ได้สั่นอยู่ที่พื้น ก็ได้พูดขอวอนไป “ข้อร้องพวกคุณอย่าฆ่าฉันเลย ฉันก็แค่คนใช้ในบ้านนี้ ไม่รู้อะไรเลยทันนั้น”
จิ้นเฟิงเฉินเดินไปข้างหน้าของเธอ ก็ได้พูดอย่างเยือกเย็น “ฉันไม่เอาชีวิตเธอ ก็แค่อย่างจะถามคำถามเธอสักสองสามคำถาม ขอแค่เธอพูดความจริง ฉันไม่มีทางกดดันเธอ”
“ค่ะ……ฉันพูด ฉันพูดทั้งหมด” สาวใช้ก็ได้พูดออกมาเสียงสั่น
มองไปที่ลูกน้องของชีซา จิ้นเฟิงเฉินสั่งไปว่า “ปล่อยเธอ”
ลูกน้อยมองไปที่ชีซาสักพัก ชีซาพยักหน้า
“ก่อนหน้านี้ในบ้านหลังนี้ได้ขังผู้หญิงคนหนึ่งเธอรู้ไหม? ยังมีผู้ชายคนหนึ่งพวกเขาไปไหน? ไปจากที่นี่ตอนไหน?”
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้จ้องมองสาวใช้ สาวใช้ไม่กล้ามองเขาตรงๆ
“ก่อนหน้าได้มีคุณผู้ชายคนหนึ่งแล้วก็คุณผู้หญิงคนหนึ่งจริง คุณผู้ชายคนนั้นได้สั่งให้พวกเราดูแลเรื่องการเป็นอยู่ของเธอ เธอหน้าตาสวยมาก
คุณผู้ชายพึ่งกลับมา แต่ว่าเหมือนได้พาคนออกไปแล้ว เหมือนว่าคุณผู้หญิงไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ที่ฉันรู้มีแค่นี้ค่ะ จะปล่อยฉันไปตอนไหนคะ……”
สาวใช้ก็ได้มองไปที่ผู้ชายที่มีบรรยากาศกดดันตรงหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ตัวเองแบบนี้ในสายตาของเขาก็แค่มดตัวเดียว ไม่มีทางที่จะต่อรองได้
ตอนที่เธอพูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ใช้ความคิด
ในใจก็ได้เสียใจเล็กน้อย สุดท้ายก็ช้าไปก้าว
สาวใช้เห็นว่าเขาไม่พูด ก็ได้แอบหนีไป กู้เนี่ยนกำลังจะไปขวาง จิ้นเฟิงเฉินก็ได้โบกมืออย่างหงุดหงิด
เธอหนีไปแล้วก็หนีไป ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากนัก
พอคิดไปสักพัก จิ้นเฟิงเฉินก็ได้สั่งออกไปด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ทุกคนออกไปตามหา ต้องไปตามหาสื้อสื้อให้เจอก่อนฝู้จิงเหวิน!”
เขาไม่มีทางที่จะให้สื้อสื้อถูกฝู้จิงเหวินจับได้อีกแน่!
กู้เนี่ยนก็ได้เดินไปปลอบ “คุณชายครับ คุณนายต้องไม่เป็นอะไรแน่ ไม่แน่คุณนายอาจจะหาทางติดต่อมาหาคุณก็ได้”
“ฉันกลัวว่าเธอจะถูกคนของเบอร์เกนเจอเข้า ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นเธอจะอันตรายขนาดไหน”
พูดคำนี้ออกไปเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกเหมือนมีอะไรติดในลำคอ
เขาจำเป็นต้องหาเจียงสื้อสื้อได้เจอโดยเร็ว
แต่ว่า คนที่เครียดว่าไม่มีอะไรเดินหน้าไม่มีแค่จิ้นเฟิงเฉินคนเดียว
ฝู้จิงเหวินก็ได้เดินไปมาอย่างกังวลในห้อง หมัดที่ได้กำแน่น ก็สามารถบอกได้ว่าเขาใจร้อนขนาดไหน
สมควรตายจริงๆ!
ถ้ารู้ว่าเจียงสื้อสื้อจะหนี เขาก็ไม่มีทางที่จะชะล่าใจแบบนี้
เดิมตอนกลางวันเขานั้นได้กลับไปที่บ้าน แต่ท่าทางของเจียงสื้อสื้อก็เหมือนปกติ เพราะงั้นเขาถึงได้จากไปอย่างวางใจ
คิดว่าพวกบัตรสำคัญของเธอทั้งหมดได้อยู่ที่เขา เธอไม่มีทางทำอะไรโง่ๆ
ฝู้จิงเหวินก็ได้ตัดช่องทางการติดต่อภายนอก แล้วก็จัดเตรียมคนเฝ้าเธอ สุดท้ายก็พลาดไปได้
เขาดูถูกเจียงสื้อสื้อไป
ถ้าตอนนี้เธอได้ติดต่อกับจิ้นเฟิงเฉิน งั้นที่ตนทำมาทั้งหมดก็ได้สูญเปล่า
ไม่! เขาจะให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ได้!
ถึงแม้ว่าเขาได้ส่งคนไปตามหา แต่อยู่ที่นี่ แรงจากเขาคนเดียวไปตามหาเจียงสื้อสื้อ นั้นยังน้อยเกินไป
ฝู้จิงเหวินก็ได้นั่งไม่นิ่งกว่าเดิม ก็ได้ติดต่อไปหาข่ายสื้อลิน
“เป็นไรไป?” เสียงที่เรียบๆ ของข่ายสื้อลินก็ได้ดังมาจากโทรศัพท์
ฝู้จิงเหวินก็ได้พูดอย่างรีบร้อน “สื้อสื้อหายไป เธอรีบสั่งคนไปช่วยตามหาสื้อสื้อหน่อย”
ได้ยินแบบนั้น ข่ายสื้อลินก็ได้ตกใจอย่างห้ามไม่ได้ ขมวดคิ้วถาม “นายได้ขังเธอไว้แล้วไม่ใช้เหรอ? ทำไมยังเกิดเรื่องแบบนี้?”