ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 819 ที่นี่อยู่นานไม่ได้
บทที่ 819 ที่นี่อยู่นานไม่ได้
“เธออยู่ที่ไหน?”
“ฉันอยู่ที่โรงแรมแซน ห้องหนึ่งแปดศูนย์แปด” เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดชื่อโรงแรมแล้วก็เบอร์ห้องไปทีเดียว
“ฟังผมนะ สื้อสื้อ ตอนนี้คุยสายไปตลอดห้ามวางสายเด็ดขาด ตอนนี้เธอรีบไปล็อกห้องไม่ว่าใครมาเคาะประตูก็ห้ามเปิด! รอผมไปถึง!”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ทำสัญลักษณ์มือให้กู้เนี่ยนที่อยู่ข้างหลัง กู้เนี่ยนก็ได้รับรู้ แล้วก็รีบสั่งคนไปตามจิ้นเฟิงเฉิน
เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่ข้างเตียง ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากลำโพง ความว้าวุ่นในใจก็ได้สงบลง
เขาต้องมาช่วยเธอแน่
ในโทรศัพท์ก็ได้มีเสียงของรถยนต์ รู้สึกว่าเขานั้นยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ตนแล้ว ใจของเจียงสื้อสื้อก็ได้รู้สึกปลอดภัยกว่าเดิม ลำคอก็ได้สะอึกขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เหยียบคันเร่งจนมิดมาตลอดทาง กลัวว่าตัวเองช้าไปก้าว แล้วก็จะเกิดอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้น
สิบห้านาทีผ่านไป ก็ได้รีบมาถึงที่หน้าโรงแรม
มองเห็นลิฟต์ที่ได้ขึ้นไป จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ด่าในใจ ขนาดลิฟต์ตัวอื่นก็ไม่ได้รอ ก็ได้วิ่งขึ้นบันไดไป
ได้ยินเสียงลมหายใจที่ยิ่งอยู่ยิ่งแรงของจิ้นเฟิงเฉิน บวกกันฝีเท้าที่ได้เร่งรีบ เจียงสื้อสื้อก็ได้กดความตื้นเต้นในใจของตัวเองไม่ไหว เดินไปที่หน้าประตู มองตาแมวไปข้างนอก
“สื้อสื้อ ผมมาถึงแล้ว”
ตอนที่เธอเห็นร่างสูงของจิ้นเฟิงเฉินนั้น เสียงของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ดังขึ้น
เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบเปิดประตู ตื่นเต้นมากจะทำอะไรก็สั่นไปหมด
ประตูห้องเปิดออก จิ้นเฟิงเฉินมองสาวน้อยที่ได้อยู่หลังประตู ในก็ได้สั่น
ก็ได้รีบเข้าไปกอดคนไว้แน่น “ในที่สุดก็หาเธอเจอ”
สองแขนของจิ้นเฟิงเฉินได้กอดหญิงสาวไว้ รู้สึกว่าได้เบาะบางกว่าแต่ก่อนมาก ราวกับว่าถ้าออกแรงก็จะบีบเธอแตก
ใจที่ได้ตื่นกลัวอยู่นานของเจียงสื้อสื้อ เหมือนว่า ณ ตอนนั้น ก็ได้สงบลงในอ้อมกอดของเขา
กอดอยู่นาน เจียงสื้อสื้อถึงเงยหน้า ค่อยๆ ผลักเขา ก็ได้พูดด้วยจมูกที่ตันว่า “พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ”
จิ้นเฟิงเฉินทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยเธอออก มองเห็นตาที่แดงของเธอก็ปวดใจ
นิ้วที่เย็นของเขาก็ได้ไปเช็ดน้ำตาบนหน้าของเธอเบาๆ แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งเยอะ
จิ้นเฟิงเฉินมองเห็นใบหน้ากับรูปร่างที่ได้ผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด ในใจก็ได้ปวดใจเอามากๆ
ก็ได้อุ้มเธอขึ้น กลับเข้าไปในห้อง
นั่งอยู่บนเตียง เจียงสื้อสื้อก็ได้จับมือของจิ้นเฟิงเฉินแน่น มีแค่แบบนี้เธอถึงมั่นใจ ว่าตัวเองได้อยู่ข้างกายเขาจริง
มองหน้าตาของเธอไปสักพัก จิ้นเฟิงเฉินก็ได้จูบไปที่ปากของเธอ ได้กลืนเข้าเสียงที่สะอึ้นของเธอลงไป
จูบจนเธอหายใจไม่ทัน จิ้นเฟิงเฉินถึงได้ปล่อยเธออย่างไม่รู้สึกเบื่อ
ใบหน้าก็ได้แดงขึ้นเพราะว่าการจูบเมื่อกี้ แต่ก็ปิดบังความซีดของใบหน้าเธอไม่ได้เลย
ได้เอาผมไปทัดที่หูของเธอเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ถามไปเบาๆ ว่า “ที่ผ่านมานี้ เธอไปเจอกับอะไรบ้าง?”
เจียงสื้อสื้อได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็ได้หมองลง
เรื่องที่เจอในช่วงที่ผ่านมาเป็นฝันร้ายของเธอ การเปลี่ยนไปของฝู้จิงเหวินทำให้เธอไม่กล้าย้อนคิด
สังเกตเห็นความรู้สึกในสายตาของเธอ มือที่ใหญ่ของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ไปวางที่หลังเธอ แล้วก็กอดเธอเข้ามาอย่างอดไม่ได้ แล้วก็ลูบหลังของเธอไป ปลอบโยนเธอ
“ฉันถูกฝู้จิงเหวินพามาที่มิลาน เขาบอกว่ามารักษาให้ฉัน เอาฉันไปขังที่ห้องห้องหนึ่ง สั่งคนมาจับตามองฉัน จากนั้น…..ก็ได้เปลี่ยนเป็นคฤหาสน์หลังหนึ่ง”
ในช่วงเวลาที่ถูกกักขัง ห้องที่ได้กว้างนั้นก็ได้มีแค่เธอคนเดียวทุกวัน แล้วก็ได้มีสายตาที่จ้องมาที่เธออย่างเย็นชาของคนใช้มาบ้าง กลัวว่าเธอจะหนีหรือฆ่าตัวตาย
การรอที่ไม่มีที่สิ้นสุดกับความกลัวที่ถูกกักขัง ทำให้เธอนั้นถึงขั้นไม่การปิดไฟนอนในตอนกลางคืน ขนาดเสียงลมที่พัดนอกหน้าตาก็ทำให้เธอตื่นได้ทันที
เจียงสื้อสื้อนิ่งไป สูดหายใจด้วยจมูกที่ได้ตันไป ในที่สุดเสียงก็ไม่ได้สั่น “สุดท้ายฉันหาโอกาสหนีออกไป ระหว่างทางได้เจอกับคนใจดีเข้า พาฉันมาที่โรงแรมแห่งนี้”
สายตาของเธอก็ได้มีความกลัวส่งออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตาที่เปียกนั้นก็เหมือนกับกวางน้อยทำให้คนสงสาร
จิ้นเฟิงเฉินเหมือนจะจินตนาการได้ เธอเพื่อที่จะหนีจากการคุมตัวของฝู้จิงเหวิน ช่วงนี้ได้ใช้ชีวิตด้วยความกลัวแบบไหนมาบ้าง
ก็ได้ขมวดคิ้วแน่นทันที ในใจก็รู้สึกโชคดี โชคดีที่ตัวเองมาถึงได้ทันเวลา
ถ้าเกิดถูกฝู้จิงเหวินหรือเบอร์เกนหาเจอก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับความลำบากอะไรอีก
ย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวที่เจอ ใจของเจียงสื้อสื้อก็ได้มีความหวาดกลัว โชคดี อ้อมอกของชายหนุ่มอบอุ่นมาก ก็ได้ค่อยๆ ละลายความกลัวของเธอ
“งั้นเธอได้สังเกตไหม ช่วงที่ผ่านมานี้ฝู้จิงเหวินเจอกับใครบ้าง?” จิ้นเฟิงเฉินก็ยังตบไปที่หลังเธอเบาๆ ถามออกไป
เจียงสื้อสื้อนิ่งไปสักพัก ก็ได้พยายามคิด แล้วค่อยๆ ส่ายหน้า
อารมณ์ของเจียงสื้อสื้อก็ได้ปรับเป็นปกติ ออกมาจากอ้อมกอดชายหนุ่ม เห็นว่าคิ้วเขาได้ขมวดแน่น ก็ได้ถามอย่างเป็นห่วง “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?”
พูดจบ ก็ได้ยกมือไปคลายรอยขมวดที่คิ้วอย่างอ่อนโยน
เห็นสายตาของเธอที่มองตนนั้นได้เต็มไปด้วยความอ่อนโยน จิ้นเฟิงเฉินก็ได้รู้สึกตัว แล้วก็ได้ไปลูบผมที่อ่อนนุ่มของเธอ
“ไม่มีอะไร ก็ได้คิดเรื่องเล็กน้อย ไม่สำคัญมาก”
พูดจบเขาก็ได้เปลี่ยนทางมอง ไปสังเกตเห็นแผลที่ขาของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ก้มตัวลง ก็ได้จับไปที่ผิวตรงขาของเธอ “ไปได้แผลมาแบบไหน เจ็บไหม?”
สายตาที่เรียบๆ ตอนนี้ก็ได้ตื่นตระหนกขึ้นมา
“แผลเล็กน้อย ไม่เจ็บ ก็แค่ไปเฉียดโดนเล็กน้อย ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
พูดจบเธอก็ได้ขยับขาไปข้างหลัง เธอไม่อยากให้จิ้นเฟิงเฉินเป็นห่วง
แต่ตอนที่ขยับนั้น ก็ได้ไปโดยแผลเข้า เจียงสื้อสื้อก็ได้ร้อง “ซี๊ด” ออกมาเบาๆ
“นี่ยังไม่เจ็บอีกเหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้จับที่ขาของเธอ อยากจะตรวจสอบให้ละเอียดว่ามีแผลอื่นอีกไหม
เห็นแบบนั้น ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อก็ได้แดงทั้งสองข้าง ก็ได้ก้มหน้าลงไปอย่างเก้อเขิน มือที่ได้อ่อนนุ่มและขาวก็ได้ไปจับมือเขา
“ก็แค่แผลถลอกตอนหกล้ม ไม่เป็นไรหรอก”
คำพูดสั้นๆ แค่นั้น มาตกในหูของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ปวดใจมากๆ
เขาก็ได้ลูบหัวของเธอ พูดว่า “สื้อสื้อ ที่นี่อยู่นานไม่ได้ พวกเราจำเป็นต้องรีบออกไป”
“ได้ ฉันไปกับนาย”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ถอดเสื้อนอกออกมาแล้วก็คลุมไปที่ตัวของเธอ กึ่งกอดกึ่งอุ้มแล้วก็ได้ประคองเธอลุกขึ้น ดึงการ์ดในห้องเดินออกไป
ผ่านประตูหมุนใสใหญ่ๆออกไป จิ้นเฟิงเฉินได้จูงมือเจียงสื้อสื้อเดินไปที่รถที่จอดอยู่หน้าประตูโรงแรม
เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแล้วระวังหัวให้เธอตอนขึ้นรถ จัดเสื้อให้เธออย่างอ่อนโยนเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินถึงได้อ้อมไป นั่งที่นั่งคนขับ สตาร์ทรถ
รถก็ได้ค่อยๆ ขับออกไป ค่อยๆ ไปยังที่ที่มีรถขับไปมา
รถขันหนึ่งในที่ที่ไม่ใกล้ ฝู้จิงเหวินก็ได้มองเห็นทั้งหมด
ท่าทางที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองก็ได้กระตุกไปที่ประสาทของฝู้จิงเหวินจนเจ็บ
สุดท้ายเธอก็ไปกับจิ้นเฟิงเฉิน
ฝู้จิงเหวินก็ได้ยิ้มออกมาอย่างน่าสมเพช ลำคอก็ได้เหมือนได้มีความเจ็บพุ่งมา
ตัวเองนั้นก็ได้วิ่งไปทุกที่เพื่ออาการป่วยของเธอ ถึงขั้นก็ได้เอาความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไปเดิมพันจับถึงเธอขังเอาไว้ สิ่งที่ได้กลับทำให้คนนั้นปวดใจเอามาก
ท้องฟ้าได้มืด ก็เหมือนกับความรู้สึกในใจของเขาตอนนี้
ฝู้จิงเหวินก็ได้จับที่พวงมาลัยรถแน่นจนมือซีด มองไปที่ทางที่จากไปของทั้งสองแบบไม่ละสายตา
เวลานี้ ขาก็ได้เหยียบคันเร่ง พุ่งไปที่บนถนน ได้พัดใบไม้สีเหลืองจนปลิว