ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 82 เจ้ากรรมนายเวร
บทที่ 82 เจ้ากรรมนายเวร
พอหนีขึ้นไปเสร็จ หน้าของเจียงสื้อสื้อก็ยังแดงอยู่
พิงอยู่หลังประตู ใจของเธอก็ยังเต้นแรงไม่หยุด เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ ได้โทษตัวเองว่าทำไมถึงไม่ได้เรื่องแบบนี้ เพราะคำพูดของเสี่ยวเป่าแค่ประโยคเดียวก็อยู่ไม่นิ่งขนาดนี้
ดื่มน้ำเสร็จก็พักไปสักพัก เจียงสื้อสื้อก็เอาเสื้อคลุมเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ น้ำที่อุ่นได้ราดมาที่ตัวของเธอ เธอถึงได้รู้สึกว่าสมองของเธอได้ตื่นตัวขึ้นบ้าง
ผ่านไปสักพัก สมองของเธอก็ได้นึกถึงตระกูลเจียง ถ้าเป็นไปตามที่จิ้นเฟิงเฉินพูด เจียงซื่อกรุ๊ปกับหลานซื่อกรุ๊ปเจอปัญหาใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ กลับไปไม่รู้ว่าจะวางแผนอะไรอีก คาดว่าเมื่อถึงตอนนั้นต้องมาหาตัวเองแน่ๆ และไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรออกมาบ้าง
เป็นแบบนี้ต่อไปมันไม่ใช่ทางออก พวกเขาไม่รำคาญแต่เธอรำคาญ!
อาบน้ำเสร็จ เจียงสื้อสื้อได้เป่าผมให้แห้ง ก็ได้โพสต์เช่าบ้านลงเน็ต เตรียมที่จะหาที่อยู่ใหม่ แบบนี้ในช่วงสั้นๆ ตระกูลเจียงก็น่าจะหาเธอไม่เจอแล้ว
เป็นเวลาเดียวกัน มือถือบนโต๊ะก็ได้ดังขึ้น
คือจิ้นเฟิงเฉินส่งข้อความมา
“ฉันกับเสี่ยวเป่าถึงบ้านแล้ว รีบๆ พักผ่อน ราตรีสวัสดิ์”
แค่ไม่กี่คำในข้อความ สีหน้าก็ได้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที
“ราตรีสวัสดิ์” เธอตอบกลับไป
จากนั้น เจียงสื้อสื้อก็ได้ปิดคอม นอนลงไปที่เตียงแล้วหลับ
……
บ่ายวันต่อมา เจียงสื้อสื้อก็ได้ดูบ้านกับหน่วยงานที่ติดต่อไว้
นี่เป็นบ้านที่ห่างจากบริษัทของเธอไม่ไกลนัก นอกจากราคาที่ค่อนข้างสูงแล้ว อย่างอื่นก็ยังไม่เลว
พอออกมาจากตึกนี้ เจียงสื้อสื้อก็ได้คุยกับพนักงาน
“คุณหลี่ ฉันอยากถามเรื่องค่าเช่าถูกกว่านี้ไม่ได้เหรอคะ?”
ตอนนี้แม่ป่วยอยู่ ต้องเตรียมเงินให้พร้อมตลอดเวลา เรื่องเงิน เจียงสื้อสื้อประหยัดได้ก็จะประหยัด
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ส่ายหน้า พูดขอโทษออกไปว่า “ขอโทษจริงๆ ครับ คุณเจียง ค่าเช่านี้เจ้าของบ้านเป็นคนขอร้องมา พวกเราก็ไม่สามารถที่จะลดให้คุณได้ อีกอย่างบ้านนี้ตกแต่งมาอย่างหรู บรรยากาศการเดินทางรอบๆก็สะดวก คุณย้ายมาอยู่ได้ตลอด”
“ติดต่อเจ้าของบ้านไม่ได้เหรอ?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เอ่อ……คือว่า เจ้าของบ้านนั้นค่อนข้างที่จะยุ่ง นี้เป็นบ้านเล็กของเขาเท่านั้น เขาได้พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ให้ต่อราคา”
ได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อได้ถอนหายใจ กำลังจะพูดขอบคุณพนักงานแล้วไปดูที่อื่น
เป็นเวลานี้แหละ ในที่ไม่ไกล ผู้ชายที่ใส่เสื้อสูทก็ได้เดินเข้ามา
พนักงานตาเป็นประกาย ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณเจียง พอดีเลย คุณผู้ชายข้างหน้านั้นเป็นเจ้าของบ้าน ถ้าคุณอยากจะต่อราคาละก็คุยกับเขาได้”
เจียงสื้อสื้ออึ้งไปเล็กน้อย บังเอิญ เธอได้มองไปตามสายตาของพนักงาน แล้วก็ได้เก็บสายตามาทันที
เป็นหลานซือเฉิน
เจียงสื้อสื้อ: “……”
นี่มันบาปกรรมอะไรเนี่ย
หาบ้านเช่าหาไปถึงบ้านในชื่อของเขาแล้ว
เวลานี้หลานซือเฉินก็เห็นเจียงสื้อสื้อ เขาได้เดินเข้ามา
พนักงานที่อยู่ข้างๆ ได้ยิ้มต้อนรับ พูดอย่างมีมารยาทว่า “ประธานหลาน บังเอิญจังครับ”
หลานซือเฉินไม่ได้สนใจเขา เวลานี้สายตาของเขาได้มองไปที่เจียงสื้อสื้อ เหมือนว่าเขากำลังสงสัยว่าเธอทำไมถึงมาอยู่ที่นี่
พนักงานเปิดปากแนะนำ “ประธานหลาน นี่เป็นคุณเจียงที่มาดูบ้านวันนี้ เธอกำลังถามว่า ค่าเช่าลดหน่อยได้ไหมครับ”
หลานซือเฉินได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปสักพัก เขายิ้ม บังเอิญจริงๆ
เจียงสื้อสื้อไม่มีสีหน้าอารมณ์ใดๆ ใช้น้ำเสียงที่เย็นชาพูดออกไปว่า “ไม่ต้องแล้ว คุณหลี่ ขอโทษด้วยนะคะ บ้านนี้ฉันไม่เช่าแล้ว”
ที่ตัวเองหาบ้านก็เพื่อที่จะหลบตระกูลเจียงกับตระกูลหลาน เป็นไปได้ยังไงที่เธอจะเช่าบ้านของหลานซือเฉิน นี่มันไม่ใช่การหาเรื่องใส่ตัวเหรอ
“หา?” พนักงานมีสีหน้าที่ไม่เข้าใจ เมื่อกี้คุยกันดีๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?
เจียงสื้อสื้อพูดจบ หันหลังเตรียมตัวเดินออกไป แต่ว่าหลานซือเฉินกลับขวางทางเธอไว้
“ทำไม? มีธุระ?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่อยากคุยกับหลานซือเฉินแม้แต่ประโยคเดียว
หลานซือเฉินมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า น้ำเสียงของเขาได้มีความอ่อนโยนเล็กน้อยปนอยู่ ยิ้มแล้วพูดว่า “สื้อสื้อ เธอหาบ้านอยู่เหรอ? ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ฉันยังมีบ้านที่ดีกว่านี้อยู่หลังหนึ่ง ให้เธออยู่ได้ ฉันพาเธอไปดูเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง?”
เดิมทีเขาก็แค่ผ่านมาทำธุระเท่านี้ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเจียงสื้อสื้อ หลานซือเฉินไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดออกไปแน่
ได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “มีเป้าหมายอะไรพูดออกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมขนาดนี้”
เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ หลานซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สื้อสื้อ เธอไม่ต้องคิดว่าฉันเป็นศัตรูเธอขนาดนี้ก็ได้ ยังไงซะพวกเราได้โตมาด้วยกัน ฉันช่วยเธอเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อีกอย่างก็แค่บ้านหลังเดียวเอง มันไม่หนักหนาอะไรมาก”
เจียงสื้อสื้อมองหน้าหลานซือเฉินแบบประชด “เหอะ คุณเป็นคนดีแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน?”
ถ้าบอกว่าหลานซือเฉินไม่มีเป้าหมายอะไรเจียงสื้อสื้อจะไปเชื่อได้ยังไง
“สื้อสื้อ เธอต้องประชดประชันกันขนาดนี้เลยเหรอ? ฉันอยากจะช่วยเธอจริงๆ นะ”
“พอได้แล้ว ฉันไม่มีเวลามาพูดไร้สาระกับคุณ”
หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็จะเดินออกไปอีกครั้ง เธอไม่อยากที่จะเสียเวลากับหลานซือเฉินเลยสักนิด
แต่หลานซือเฉินกลับคว้ามือของเธอไว้ ตัวเองลดทิฐิลงขนาดนี้แล้วเจียงสื้อสื้อก็ยังมีสีหน้าที่ไม่ดีใส่ งั้นเขาก็จะไม่เกรงใจแล้ว
“สื้อสื้อ ฉันรู้ว่าเธอโมโหเรื่องที่นวลนวลเคยทำไว้ ฉันขอโทษกับเธอแทนเขา หวังว่าเธอจะไม่ถือสาเรื่องนี้อีก แล้วก็ช่วยไปบอกกับประธานจิ้น ให้เขาไม่ต้องมาเล่นงานหลานซื่อกรุ๊ปกับเจียงซื่อกรุ๊ปแล้ว แบบนี้ไม่ว่าใครก็ไม่ได้ผลประโยชน์”
เป้าหมายที่แท้จริงของหลานซือเฉินต้องเป็นอันนี้อยู่แล้ว ใช้บ้านหลังหนึ่งให้เจียงสื้อสื้อไปพูดกับจิ้นเฟิงเฉิน นี่เป็นอะไรที่ที่ไม่ขาดทุน
เจียงสื้อสื้อได้สะบัดมือเขาออก เธอมองหลานซือเฉินด้วยสายตาที่ประชดประชัน
“ไม่ต้องถือสา? เจียงนวลนวลนั้นมีจิตใจที่ร้ายกาจ คืนนั้นถ้าไม่มีคนมาช่วยฉันได้ทัน ฉันก็หมดกันแล้ว คุณคิดว่าแค่คำขอโทษคำเดียวก็หมดเรื่องแล้ว?”
ชาตินี้เธอไม่มีวันให้อภัยเจียงนวลนวลหรอก
สีหน้าของหลานซือเฉินเริ่มไม่สบอารมณ์ น้ำเสียงของเขาได้มีความตึงเครียดปนมา
“ไม่งั้นเธออยากจะทำอะไร? เจียงสื้อสื้อ ถ้าเธอทำพวกเราโมโห ถึงเวลานั้นเธอก็อย่าหวังว่าจะอยู่อย่างสงบสุข การยอมทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ว่ากับพวกเราหรือใครก็ดีทั้งนั้น ฉันรับรอง ขอแค่เธอพูดกล่อมกับจิ้นเฟิงเฉิน ตระกูลเจียงกับตระกูลหลานจะไม่ไปรบกวนเธออีก ต่อไปถ้าเกิดเรื่องอะไรกับเธอพวกเราก็จะช่วย”
“โทษทีนะ ฉันไม่มีทางไปพูดกล่อมให้จิ้นเฟิงเฉินหยุดหรอก”
ตอนนี้หลานซือเฉินพูดได้น่าฟัง แล้วต่อไปล่ะ?
สองตระกูลนี้น่ารังเกียจขนาดไหนเจียงสื้อสื้อไม่ใช่ไม่รู้
เห็นว่าเจียงสื้อสื้อยังดื้อด้านขนาดนี้ สีหน้าของหลานซือเฉินนั้นได้ตึงเครียดไปเลย
“เจียงสื้อสื้อ เธอรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ต่อไปจิ้นเฟิงเฉินจะชอบเธอได้นานขนาดไหนเชียว? เขาแค่ดีกับเธอแค่ตอนนี้ รอตอนที่เธอโดนทิ้งไม่มีคนให้พึ่งพาล่ะก็ เธอคิดว่าต่อไปจะไม่ต้องการความช่วยเหลือของพวกเรา? ถ้าฉีดหน้ากันตรงนี้มันไม่มีผลดีกับเธอเลยสักนิด”