ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 837 กินยานี้ลงไป
บทที่ 837 กินยานี้ลงไป
เมื่อเขาวางสายแล้ว บอกเจียงสื้อสื้อกับฟางเสว่มั่นว่าที่บริษัทมีงาน ต้องออกไป
เขาไม่กล้าบอกสื้อสื้อว่า มีความคืบหน้าใหม่ทางสถาบันวิจัย เขากังวลว่าหากไม่ใช่ความคืบหน้าในทางที่ดี สื้อสื้อจะผิดหวังมากขึ้น
เจียงสื้อสื้อได้ยินว่าเป็นเรื่องของบริษัท ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก บอกแค่ให้เขาระมัดระวังความปลอดภัย
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้ารับ จับกุญแจรถขึ้น แล้วขับรถตรงไปที่สถาบันวิจัย
หลังจากที่เขาถึงแล้ว โม่เหยียก็ทักทายด้วยความเคารพ “คุณชาย”
จิ้นเฟิงเฉินผงกหัว แล้วกล่าวเสียงเคร่งขรึม “ในโทรศัพท์คุณบอกว่า มีความคืบหน้าใหม่ เรื่องมันเป็นอย่างไร”
หานยู่กับโม่เหยียมองหน้ากัน พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสอง
“ผมกับหานยู่ทำการทดลองนับครั้งไม่ถ้วน แล้วเห็นว่ามียาชนิดหนึ่ง สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสในร่างกายคุณหญิงได้”
โม่เหยียพูดพร้อมกับยื่นแผ่นรายงานในมือให้จิ้นเฟิงเฉิน ชี้ไปที่ข้อมูลซับซ้อนข้างบน แล้วอธิบาย จากนั้นสรุป “ก็คือยาชนิดนี้ สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วขณะถือแผ่นรายงานในมือ
“เพียงแค่ยับยั้ง”
“ใช่ เพียงแค่ยับยั้งชั่วคราว ”
เมื่อถูกถามเช่นนี้ ใจที่ตื่นเต้นของหานยู่ก็สงบลง
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มียาที่สามารถรักษาเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ อย่างไรก็ตาม สามารถวิจัยยาที่ยับยั้งเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
“ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร”
“อย่างน้อยก็สามารถชะลอเชื้อไวรัสในร่างกายคุณหญิงกำเริบได้ ”โม่เหยียกล่าวตามความเป็นจริง
จิ้นเฟิงเฉินผงกหัว สามารถชะลอได้ดีกว่าไม่มี
เขาพึมพำ แล้วถามว่า“เคยทดสอบแล้วหรือยัง”
“แน่นอนอยู่แล้ว ผมกับหานยู่ได้ทำการทดลองหลายครั้งมาก ไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้จิ้นเฟิงเฉินถึงวางใจลง โม่เหยียส่งยาหนึ่งขวดให้เขา แล้วย้ำว่า“ยานี้สามวันกินหนึ่งเม็ด คุณชายท่านต้องจดบันทึกปฏิกิริยาของคุณหญิงหลังจากกินยาพวกนี้ หากมีอะไรผิดปกติ ต้องรีบติดต่อผมทันที ไม่ว่าอย่างไรยาตัวนี้ยังไม่ใช่ยาแก้พิษจริงๆ”
“ได้”
……
ที่คฤหาสน์ตระกูลจิ้น
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินกลับถึงบ้าน เจียงสื้อสื้ออาบน้ำเสร็จแล้ว จิ้นเฟิงเฉินถือน้ำหนึ่งแก้วเดินเข้าไปในห้องนอน
จากนั้น นำยาเม็ดในมือยื่นให้เจียงสื้อสื้อ “สื้อสื้อ กินยานี้ลงไป จะดีต่อร่างกายคุณ”
“ได้”
เจียงสื้อสื้อนำยาเม็ดใส่ในปากทันที แล้วดื่มน้ำตามลงไป โดยไม่ลังเล
เพราะเธอรู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินคือคนที่จะไม่มีวันทำร้ายเธอตลอดไป
เขาบอกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายเธอ ถ้าอย่างนั้นต้องมีแน่นอน
ในที่สุดก็กลับมาถึงตระกูลจิ้น ในใจเจียงสื้อสื้อรู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
คืนนี้ สำหรับเธอแล้วเป็นค่ำคืนที่เงียบสงบที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้
ข้างกายคือชายที่รักเธอ เธอเองก็กลับมาอยู่ข้างกายลูกๆและแม่ด้วย
สิ่งที่มีความสุขที่สุดในโลกก็คือแค่การได้อยู่กับคนในครอบครัว
เมื่อเจียงสื้อสื้อนึกถึงคำมั่นที่ให้เด็กน้อยสองคนไว้เมื่อหัวค่ำ ว่าจะพาพวกเขาออกไปเล่น จึงเงยหน้ามองจิ้นเฟิงเฉิน “ฉันรับปากเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนว่า พรุ่งนี้จะพาพวกเขาออกไปเล่น คุณมีเวลาไหม”
“มีครับ”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มอ่อนโยน โอบกอดเธอไว้ในอ้อมกอด
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงสื้อสื้อตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคน
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินตื่นมา พบว่าคนข้างกายไม่อยู่แล้ว ในใจก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าก็พบเงาเจียงสื้อสื้อกำลังวุ่นอยู่ในห้องครัว เขาเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหลังเจียงสื้อสื้อ โอบกอดเธอไว้จากข้างหลัง
ถูกเขากอดอย่างกะทันหัน เจียงสื้อสื้อที่กำลังตักโจ๊กอยู่ก็ชะงักไปทันที
หันไปเห็นความกระสับกระส่ายในสายตาของเขา ทันใดนั้นรู้สึกสงสารเล็กน้อย
ทั้งสองมองตากัน จิ้นเฟิงเฉินก็อดไม่ได้ที่อยากจะจูบริมฝีปากเธอ
ขณะที่เขากำลังจะลงมือ เสี่ยวเป่าจูงมือเถียนเถียนเดินเข้ามา
ล้อมเจียงสื้อสื้อไว้แล้วพูดอย่างขี้อ้อนว่า“แด๊ดดี้หม่ามี๊ เช้าวันนี้เรากินของอร่อยอะไรกัน ”
“วันนี้ฉันต้มโจ๊กไว้ และขนมหวานเล็กน้อย พวกเธอรีบไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อส่งสายตาให้จิ้นเฟิงเฉิน เพื่อส่งสัญญาณบอกให้เขาพาเด็กสองคนออกไป
ยังไม่ได้จูบภรรยาตัวเองเลย จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
แต่เมื่อเงยหน้าแล้วเห็นสายตาแกมขอร้องของเจียงสื้อสื้อแล้ว เขาก็ทำได้เพียงพาพวกเขาออกจากห้องครัวไปแต่โดยดี
คนในครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน ถือเป็นความสุขที่ง่ายที่สุดและมีค่าที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะกินอาหารเช้า จิ้นเฟิงเฉินมองดูอาหารเช้าเต็มโต๊ะแล้ว ในใจมีความรู้สึกตื้นตันเล็กน้อย
เถียนเถียนยื่นมือจะไปหยิบซาลาเปาไส้ครีม แต่เธอยังอายุน้อย คีบอย่างไรก็คีบไม่ถึง
ฟางเสว่มั่นจึงช่วยเธอคีบขึ้น แล้วลูบผมเธอเบาๆ
เถียนเถียนรับมาอย่างดีใจ และทำท่าทางเหยียดตะเกียบออก จะคีบบางอย่างให้ทุกคนให้ได้
แต่ว่า เธอยังใช้ตะเกียบไม่คล่อง เสียเวลามาก ในที่สุดก็ใช้มือ แล้วหยิบขนมเค้กให้คนละหนึ่งชิ้น
จากนั้น เธอเงยหน้าขึ้นเหมือนจะอวด แล้วพูดว่า “หม่ามี๊ดูนี่ซิ ถักเปียเล็กที่คุณยายถักให้หนูในวันนี้”
เจียงสื้อสื้อจับผมที่ถักเปียเล็กของเธอ ดูแล้วเรียบร้อยน่ารักมาก แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“สวยมาก ขอบคุณคุณยายหรือยัง”
“ขอบคุณแล้วค่ะ” เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมอง ท่าทางอย่างกับจะขอคำชมเชย
ทั้งครอบครัวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จ ฟางเสว่มั่นก็อุ้มเถียนเถียนลงมา ส่วนเสี่ยวเป่ากระโดดลงจากเก้าอี้เอง แล้วเงยหน้าถามเจียงสื้อสื้อว่า
“หม่ามี๊ เมื่อวานท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกไปเที่ยว จะไปที่ไหนกันหรือ”
นิ้วมือเรียวยาวของเจียงสื้อสื้อแตะไปที่ปลายจมูกน้อยๆของเขา “ลองทายดูซิ หากทายถูก หม่ามี๊จะให้รางวัลต่างหาก หากน้องสาวทายถูก ก็มีรางวัลเหมือนกัน”
พูดจบ เถียนเถียนกับเสี่ยวเป่าก็เริ่มทายกันอย่างเริงร่า
วันนี้จิ้นเฟิงเฉินใส่ชุดสบายๆมาก ก้มลงอุ้มเถียนเถียนขึ้นมา โยนขึ้นไปกลางอากาศ แล้วรับเถียนเถียนที่กำลังหัวเราะจากกลางอากาศอย่างมั่นคง
“ไม่ต้องทายแล้ว แด๊ดดี้จะพาพวกเธอไปเดี๋ยวนี้เลย”
เมื่อขึ้นรถ จิ้นเฟิงเฉินตบไปที่ที่นั่งคนขับ ให้เจียงสื้อสื้อขึ้นมานั่ง
เจียงสื้อสื้อชะงักไปครู่ กล่าวอย่างลังเลเล็กน้อย “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ขับรถ รู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคย”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน“มีผมอยู่ ไม่ต้องกลัว”
สั้นๆไม่กี่คำ ทำให้เจียงสื้อสื้อสบายใจขึ้นมาทันที
เมื่อเธอหันหน้าไปดู ลูกชายลูกสาวได้รัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว ฟางเสว่มั่นก็นั่งดีแล้ว แล้วพยักหน้าให้เธอ
จิ้นเฟิงเฉินตบไปที่หลังมือเธอเบาๆแล้วกล่าว“ไม่เป็นไร ขับช้าๆ ผมอยู่ด้วยตลอด”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในตอนแรก หลังจากทำความคุ้นเคยกับมันแล้ว ก็ค่อยๆผ่อนคลายลง
โชคดีที่สถานที่นั้นไม่ไกลนัก เจียงสื้อสื้อหาช่องจอดรถว่างในสวนสัตว์ขนาดใหญ่แล้วจอดรถลง
เถียนเถียนกล่าวอย่างดีใจ “มียีราฟให้ดูด้วย แด๊ดดี้หนูจะกินไอศกรีมกับเฟรนช์ฟรายส์”
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินลูบหัวเถียนเถียนพร้อมรอยยิ้ม กล่าวอย่างตามใจ “ได้ เถียนเถียนจะเอาอะไรก็ได้หมด”
……
อีกด้านหนึ่ง ภายในสถาบันศูนย์วิจัย ฝู้จิงเฟวินสวมเสื้อคลุมสีขาวเรียบร้อยแล้ว สแกนนิ้วเข้าไปในฐาน
เมื่อคืน เขาได้รับข่าวว่าเจียงสื้อสื้อได้กลับไปประเทศฝรั่งเศสแล้ว นอนไม่ดีทั้งคืน ตอนนี้ใต้ตายังมีรอยคล้ำเล็กน้อย
ตอนนี้เขาจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ เพื่อได้รับความไว้วางใจจากเบอร์เกน แล้วได้สิ่งที่ศาสตราจารย์คูรี่ กำลังวิจัยอยู่
นี่คือสิ่งที่เขาติดค้างเจียงสื้อสื้อ หากชะตาลิขิตว่าต้องสูญเสียไป ถ้าอย่างนั้น………ก็ให้คนที่เขาชอบ ได้รับบาดเจ็บน้อยลงนิดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คูรี่นั้นป้องกันดีมาก เขาเข้ามาที่สถาบันวิจัยนี้ได้ระยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะสั่งให้เขาทำเรื่องจิปาถะทั่วไป
ฝู้จิงเหวินหลับตายังสามารถทำซ้ำการดำเนินการที่น่าเบื่อพวกนั้น
การดำเนินการพวกนี้เป็นขั้นตอนในการนำไปสู่ความสำเร็จที่ขาดไม่ได้ แต่ใครๆก็สามารถทำได้
เขาไม่ได้ต้องการจะเรียนรู้อะไรที่เป็นอันตรายต่อคนกับศาสตราจารย์ท่านนี้จริงๆสักหน่อย แต่ถึงแม้เขาจะกังวล แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้
มิฉะนั้นความพยายามที่ผ่านมาก็จะเปล่าประโยชน์ ก็จะกลายเป็นเรื่องโง่จริงๆแล้ว
ฝู้จิงเหวินขมวดคิ้ว แล้วก็เดินเข้าไปในห้องทดลอง