ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 853 ฉันจะบอกให้ว่า ไม่มีทาง!
บทที่ 853 ฉันจะบอกให้ว่า ไม่มีทาง!
หลังมื้ออาหารเย็นพวกเขาทั้งสามคุยกันอยู่สักพัก เพราะฟางยู่เชินเป็นห่วงสุขภาพของคุณท่านฟางจึงเร่งให้กลับบ้านไวๆเพื่อไปพักผ่อน
คุณท่านฟางถึงจะยืนขึ้นอย่างอาลัยอาวรณ์แล้วเดินออกไปโดยมีเจียงสื้อสื้อและฟางยู่เชินช่วยพยุงคนละฝั่ง
เจียงสื้อสื้อส่งคุณท่านฟางถึงรถ
ในขณะที่กำลังจะแยกกัน คุณท่านฟางก็ลดกระจกรถอีกครั้ง มองเจียงสื้อสื้อ แล้วกำชับว่า “สื้อสื้อ วันงานวันเกิดปู่คุณ อย่าลืมพาเจ้าหนุ่มจิ้นเฟิงเฉินมาด้วยนะ”
ท้ายที่สุดแม้ว่าคุณท่านฟางจะรู้ว่าเจียงสื้อสื้อมีชีวิตที่ดีแล้ว แต่เขาก็ยังอยากเจอจิ้นเฟิงเฉินด้วยตนเอง
เพื่อยืนยันด้วยตาของตัวเองว่าเขาดีต่อเจียงสื้อสื้อจริงหรือเปล่า
อาจจะเกินความจำเป็นไปหน่อย
แต่คนแก่มักจะเป็นเช่นนี้แหละ
“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณตา หนูจะพาเฟิงเฉินไปด้วยค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าตอบตกลง
ก่อนที่ฟางยู่เชินจะเหยียบคันเร่ง เขาก็โผล่หน้าออกมาจากประตูรถแล้วถามว่า “สื้อสื้อ ไม่ให้ฉันส่งกลับบ้านจริงๆหรอ?”
“พี่คะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันให้เฟิงเฉินมารับได้”
เจียงสื้อสื้อปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม ฟางยู่เชินก็ไม่ได้ตื้อต่อจึงเหยียบคันเร่งขับออกไป
เธอมองดูรถที่ค่อยๆขับออกจนลับตาไปจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินรับสายภายในไม่กี่วินาที เขารู้ว่าเจียงสื้อสื้อทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว
จึงพูดอย่างอบอุ่นว่า “รอฉัน” จากนั้นก็วางเรื่องที่อยู่ในมือแล้วขับรถไปรับเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยความรู้สึกผ่อนคลายที่หาได้ยาก
ท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ เมื่อเทียบกันแล้วความกังวลของเธอดูเหมือนจะไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึงเลย
เหมือนที่จิ้นเฟิงเฉินพูดไว้ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี
ไม่นานรถเก๋งสีดำคันหนึ่งก็จอดลงข้างๆเธอ เธอเพิ่งหลุดออกจากภวังมาก็พบว่าประตูรถถูกใครบางคนผลักให้เปิดออกแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินก้าวออกจากรถยืนตรงอยู่ตรงหน้าเธอ มุมปากโค้งเล็กน้อยแล้วพูดหยอกว่า “ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง ผมจะได้รับเกียรติที่ได้ส่งคุณกลับบ้านมั้ยครับ?”
เจียงสื้อสื้ออดหัวเราะไม่ได้ แต่ก็ให้ความร่วมมือกับเขาอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าได้ค่ะ งั้นก็รบกวนคุณแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับอย่างเป็นสุภาพบุรุษให้เธอขึ้นรถ
พอทั้งสองกลับมาถึงบ้าน คนในบ้านก็หลับไปหมดแล้ว
หลังจากเจียงสื้อสื้ออาบน้ำเสร็จก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของจิ้นเฟิงเฉิน เธอเล่าเรื่องที่ไปเจอกับคุณท่านฟางวันนี้โดยไม่รอให้จิ้นเฟิงเฉินถาม
“ตอนที่ไปฉันรู้สึกกังวลมากจริงๆ ฉันกลัวว่าคุณตาจะเคร่งขรึมหรือไม่ชอบฉัน แต่ตรงกันข้ามเลยคุณตาใจดีมาก เป็นคนดีมาก!”
จิ้นเฟิงเฉินฟังอย่างอดทน เขาส่งเสียงตอบรับเป็นครั้งคราว
เจียงสื้อสื้อที่พูดเรื่อยเปื่อยในอ้อมแขนของเขาดูน่ารักมาก
ขณะที่เจียงสื้อสื้อกำลังพูดไปๆนั้น จู่ๆก็นึกถึงเรื่องที่รับปากกับคุณท่านฟางไว้ จึงเงยหน้ามองจิ้นเฟิงเฉิน “จริงสิ เฟิงเฉิน คุณตาบอกว่าอยากให้เราทั้งสี่คนไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ได้มั้ย?”
“ยัยบ๊อง ไม่ว่าเธอจะไปไหนฉันก็จะไปกับเธออยู่แล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินเกาจมูกเธอด้วยความรัก
เจียงสื้อสื้อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ เธอฝังแก้มไว้ในอ้อมแขนจิ้นเฟิงเฉินแล้วถูไถไปมา “ต้องเตรียมของขวัญไปงานวันเกิดคุณตา พรุ่งนี้นายช่วยหาเวลาว่างไปซื้อของขวัญกับฉันได้ไหม?”
เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้น สองมือโอบรอบคอเขา
ถ้าหากเขาไม่ตกลง เธอก็จะไม่มีทางปล่อยมือจะเกาะติดเขาไปแบบนั้น
“ได้แน่นอน”
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะเบาๆแล้วลูบหัวเจียงสื้อสื้อ “พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปเลือกที่ร้านคุณตา!”
ดวงตาเจียงสื้อสื้อสว่างขึ้น
ของในร้านขายของโบราณของคุณตาของจิ้นเฟิงเฉินล้วนเป็นของชั้นดีที่เก็บสะสมไว้
“ตกลง!”
ทั้งคู่เรียกกันอย่างหวานหยดย้อยถึงจะเข้านอน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ประตูห้องนอนถูกผลักเปิดออก ร่างน้อยของเถียนเถียนก็ส่งเสียงร้องกระโดดเข้ามาหา “แด๊ดดี้ หม่ามี๊ เจ้าคนขี้เกียจ ตื่นได้แล้ว!”
เสียงนุ่มแสนหวานก็ดังขึ้นในห้องที่เงียบสงบ
เจียงสื้อสื้อขยี้ตาเพิ่งตื่น จิ้นเฟิงเฉินที่ถูกเสียงเอะอะปลุกตื่นขึ้นมาก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
ทั้งสองลุกขึ้นไปอาบน้ำภายใต้การดูแลของเถียนเถียน
พอลงมาถึงห้องนั่งเล่นชั้นล่าง พ่อจิ้นแม่จิ้นก็แต่งตัวเรียบร้อยพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทาง
พอเสี่ยวเป่าเห็นพวกเขาลงมาก็โบกมือแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “แด๊ดดี้ หม่ามี๊ครับ คุณปู่คุณย่าบอกว่าจะพาผมกับน้องสาวไปเที่ยวครับ!”
เจียงสื้อสื้อจูงมือเถียนเถียนเดินเข้าไปด้วยความประหลาดใจ “ไปเที่ยวหรอ?”
“พวกเราได้ตกลงกับเด็กทั้งสองไว้แล้ว ตอนนี้อาศัยตอนที่พวกเธอกลับมาจะได้พาเด็กๆไปเดินเล่น”
แม่จิ้นจูงมือเล็กๆของเถียนเถียนแล้วช่วยทัดผมเส้นที่ยุ่งเหยิงที่ข้างหูไปไว้หลังหูแล้วอธิบาย
เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินย่อมจะไม่คัดค้าน เพียงแค่กำชับให้พวกเขาให้ระวังเรื่องความปลอดภัย
หลังจากแม่จิ้นและพ่อจิ้นพาเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนออกบ้าน บ้านก็เงียบลงไปไม่น้อย
เจียงสื้อสื่อที่คุ้นเคยกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา การที่จู่ๆก็เงียบไปทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกไม่ชิน
โชคดีที่วันนี้เธอต้องไปเลือกของขวัญให้คุณท่านฟางจึงไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้
หลังจากทานอาหารเช้ากับจิ้นเฟิงเฉินเสร็จ ทั้งสองก็ไปที่ร้านขายของโบราณของคุณท่าน
“คุณตาคะ!”
เจียงสื้อสื้อยังมาไม่ทันถึง แต่เสียงนั้นกลับดังเข้าไปในร้านขายของโบราณก่อน
เมื่อได้ยินเสียงที่คมชัด คุณท่านที่กำลังยกแก้วชาอย่างน่าเบื่อก็หัวเราะออกมา
จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปในร้านขายของโบราณ
“ในที่สุดพวกเธอทั้งสองคนก็นึกมาคุณตาอย่างฉันได้แล้วใช่มั้ย?”
คุณท่านยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นทั้งสองคนมาเยี่ยมเขา ไม่ต้องพูดก็รู้ว่ามีความสุขแค่ไหน
แต่ทว่าทันทีที่จิ้นเฟิงเฉินพูดสีหน้าของคุณท่านก็เปลี่ยนไป
“คุณตาครับ มีของอะไรที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญวันเกิดผู้ใหญ่มั้ยครับ?”
ใบหน้าอ่อนโยนของคุณท่านที่กำลังยิ้มอยู่เมื่อกี้หุบลง
เอาเถอะ เขาน่าจะรู้ว่าไอ้เด็กคนนี้มาทีไรย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“คราวนี้คิดจะทำอะไรล่ะ? ฉันบอกให้นะว่าไม่มีทาง!”
คุณท่านพูดอย่างหงุดหงิด ไม่ต้องพูดถึงว่าท่าทางที่ระมัดระวังของเขานั้นน่ารักเพียงใด
เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อที่อยู่ด้านข้างก็อดยิ้มออหมาไม่ได้
พูดถึงเท่านี้คุณท่านก็กลอกตาใส่จิ้นเฟิงเฉินอย่างติดดิน”ทุกครั้งที่มาหาฉัน แกก็เลือกของดีๆกลับไปทุกครั้ง ดูสิว่าที่ร้านฉันจะมีอะไรให้แกได้เลือกอีก!”
แม้ว่าร้านขายของโบราณของเขาจะมีของแปลกๆมากมาย แต่เขาก็ยังทนเจ้าหลานชายที่มาคอยหยิบไปไม่ไหว!
“ไม่ใช่ผมครับคุณตา”
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะ “หลานสะใภ้ของคุณตาต่างหากที่อยากเลือก เธอจะเอาไปให้เป็นของขวัญ เอาอย่างงี้แล้วกัน วันนี้ผมเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนทั้งเช้า คุณตาคิดว่าไงครับ?”
พอคุณท่านได้ยินว่าเจียงสื้อสื้อจะเลือกของขวัญ ใจเขาก็อ่อนลง
หลังจากฟังประโยคครึ่งหลังของจิ้นเฟิงเฉิน คิ้วก็ยกขึ้นด้วยความสุข
เขาอยู่คนเดียวจึงเหงามาก การมีคนเล่นหมากรุกด้วยทั้งเช้าเป็นสิ่งล่อใจมากๆสำหรับเขา”คุณตาคะ สื้อสื้อรู้ว่าคุณตาใจดีที่สุดเลย”
เจียงสื้อสื้อถือโอกาสก้มตัวลงเขย่าแขนของคุณท่านแล้วพูดกับคุณท่านด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
คนแก่จะทนได้การอ้อนของลูกหลานไปได้ยังไง ใจเขาอ่อนแล้วอ่อนอีก
จิ้นเฟิงเฉินมองภรรยาของเขาที่กำลังออดอ้อนด้วยรอยยิ้มและสีหน้าหลงใหล