ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 976 ไสหัวออกไปซะ!
ผู้ช่วยเห็นสีหน้าของฟางยู่เชินไม่ดีมากนัก จึงดูด “ท่านประธานครับ หรือท่านจะออกไปเลย ผมจัดการกับนักข่าวเหล่านั้น”
“ไม่เป็นไร” ฟางยู่เชินเดินออกไปด้านนอกแล้วพูด “ฉันจัดการเอง”
เขาจะให้คนพวกนั้นรู้ พวกเขาทำทุกวิถีทางไม่มีทางสำเร็จ
ฟางยู่เชินถึงหน้าบริษัท นักข่าวทั้งหมดก็เข้ามาอัดกัน ไมโครโฟนเกือบโดนหน้าเขา โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันไว้พอดี
“ประธานฟางครับ คุณบอกพวกเราได้ไหมครับว่าไฟไหม้เกี่ยวกับอะไร?”
“ประธานฟางครับ คุณเพิ่งรับช่วงต่อฟางซื่อกรุ๊ปก็เกิดเรื่องหนักแบบนี้ คุณคิดว่าอย่างไรครับ?”
“ประธานฟาง จากข่าวที่เราทราบ พนักงานของฟางซื่อกรุ๊ปที่เห็นโกดังไฟไหม้ได้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว โปรดให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับเราครับ”
……
เผชิญหน้ากับคำถามของนักข่าว สีหน้าของฟางยู่เชินไม่เปลี่ยน เปิดปากอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ผมทราบว่าสื่ออยากรู้ความจริง แต่ว่าต้องขออภัย ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่จะบอก โปรดอดใจรอรอผลการตรวจสอบของตำรวจ”
พูดจบ เขาก็จะหมุนตัวเดินจากไป
นักข่าวเหล่านั้นจะปล่อยเขาง่ายๆ ได้อย่างไร อัดเข้ามาอีกครั้ง ลองผลักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออก
“ประธานฟางครับ ผมได้ทราบข่าวมาว่า เพื่อปกปิดความจริงของไฟไหม้ครั้งนี้ คุณไม่รีรอที่จะฆ่าคน จริงไหมครับ?”
ถามคำถามนี้ขึ้นมา เหมือนมีฟ้าผ่าทำให้ทุกคนนิ่งไปแล้ว
แต่ก็รู้สึกตัวเร็วมาก ต่างก็ให้ฟางยู่เชินอธิบายให้ฟัง
จู่ๆ ฟางยู่เชินก็หัวเราะ รอยยิ้มที่หนาวเหน็บ
คนที่อยากทำลายเขา โหดร้ายจริงๆ นำเรื่องของหลี่เผิงมาผูกมัดกับเขา
เห็นเขายิ้ม มีนักข่าวถามเสียงดัง “ประธานฟาง คุณไม่พูดแปลว่าคุณยอมรับแล้วใช่ไหม?”
“ยอมรับอะไร?” สายตาของฟางยู่เชินหนาวเย็น ถามเขากลับ
สายตาของเขาแหลมคม นักข่าวคนนั้นสำลักทันที
ฟางยู่เชินสูดหายใจเข้าลึกๆ “นักข่าวทุกท่าน ข่าวคือการแสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริง ผมแนะนำให้คุณอย่าตั้งข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผลกับผม มิฉะนั้นผมจะฟ้องพวกคุณที่ปล่อยข่าวลือ”
“ยังมีอีก หลี่เผิงอาหารเป็นพิษ โรงพยาบาลกำลังพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ผมก็ติดตามอยู่ตลอด”
“ผมพูดในสิ่งที่ต้องพูดแล้ว เชิญทุกท่านกลับได้แล้วครับ”
พูดจบ ฟางยู่เชินก็หมุนตัวเดินจากไป
……
“ให้ตายเถอะ!”
ฟางอี้หมิงปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กอย่างแรง ตัวพิงเก้าอี้ ใบหน้ามืดหมองเหมือนหมึก
เดิมทีเขาคิดว่าสามารถใช้สื่อโจมตีฟางยู่เชิน คิดไม่ถึงว่าหมอนั้นกลับรับมืออย่างง่ายดาย ใบหน้าไม่มีทายาทกระวนกระวาย
ไม่รู้ว่าปลอม หรือไม่กระวนกระวายจริงๆ
เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างนอก ฟางยู่เชินสามารถโกหกคนอื่นได้ แต่อย่าคิดจะโกหกเขาได้
ฟางอี้หมิงมาถึงห้องทำงานของประธาน ผู้ช่วยเห็นเขา ดวงตาเป็นประกาย จากนั้นลุกขึ้นก้มหัวอย่างเคารพ “รองประธานฟาง”
“ยู่เชินอยู่ไหม?”
“ท่านประธานอยู่ด้านในครับ”
ฟางยู่เชินเพิ่งนั่งลงเตรียมพักผ่อน ตั้งแต่ก่อนรุ่งเช้าถึงตอนนี้เกือบสิบกว่าชั่วโมง เส้นประสาทมีความตึงเครียด เกือบจะทนไม่ไหวแล้ว
จู่ๆ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ต่อด้วยเสียงของผู้ช่วยดังเข้ามา “ท่านประธานครับ รองประธานฟางมาครับ”
ฟางอี้หมิง!
เส้นประสาทที่ผ่อนคลายของฟางยู่เชินแน่นขึ้นอีกครั้ง นั่งหลังตรง พูดเสียงต่ำ “เชิญเขาเข้ามา”
ฟางอี้หมิงเดินเข้าห้องทำงานของประธาน กวาดมองรอบๆ ในดวงตามีความอิจฉาริษยาและแค้น
ห้องทำงานควรเป็นของเขา
“พี่ชาย นายหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ?”
เสียงของฟางยู่เชินดึงสติของเขากลับมา เขารีบกดความคิดทั้งหมด เผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย “นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ฉันไม่เป็นไร”
ไม่รู้ว่าเขามาเพื่อจุดประสงค์อะไร ดังนั้นหัวใจของฟางยู่เชินจึงมีเกาะป้องกันหลายชั้น พยายามพูดให้น้อยที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงข้อบกพร่อง
“เรื่องโกดังไฟไหม้ไม่เกี่ยวกับนาย นายไม่ต้องรู้สึกผิดในใจ” ฟางอี้หมิงแกล้งทำเป็นกังวลปลอบ
ฟางยู่เชินยักคิ้ว “ฉันไม่ได้รู้สึกผิดในใจ ยังไงคนที่ควรเป็นห่วงและกลัวยังมีคนอื่น”
เขามองฟางอี้หมิงลึกๆ
“ยังมีคนอื่น?” ฟางอี้หมิงทำสีหน้าสงสัย “อะไรคือยังมีคนอื่น?”
“พี่ชายฉลาดกว่าฉัน ต้องเข้าใจความหมายของฉันแน่นอน” ฟางยู่เชินพิงเก้าอี้ มองเขาด้วยสีหน้าที่เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
ฟางอี้หมิงหลบตา ขำแห้ง “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ แต่ว่า ถามเยอะก็ไม่ดี ฉันก็แค่เป็นห่วงนายจึงมาดูนาย”
“ขอบคุณที่เป็นห่วง”
ฟางอี้หมิงจ้องมองเขา พยายามมองอะไรบางอย่างจากใบหน้าที่สงบและเหมือนน้ำของเขา แต่ไม่รู้ว่าเขาซ่อนเก่งเกินไปหรือหัวใจแข็งแกร่ง กลับมองอะไรไม่ออก
“พี่ชาย ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะ?” ฟางยู่เชินถามด้วยรอยยิ้ม
สติของฟางอี้หมิงกลับมา ส่ายหน้า “ไม่มีอะไร นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
รอบๆ เงียบลง ฟางอี้หมิงเริ่มอยู่ไม่สุข เขายิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก “ฉัน ฉันยังมีธุระต้องทำ ไปแล้วนะ”
“ครับ”
ฟางยู่เชินมองเขาจากไปด้วยรอยยิ้ม
ฟางอี้หมิงเดินถึงหน้าประตู หันกลับมามองเขา แล้วเปิดประตูออกไป
ประตูปิดลงอีกครั้ง ฟางยู่เชินผ่อนคลายลงทันที
เขายกมือนวดขมับที่ปวด พระเจ้า ฟางอี้หมิงอย่ามาอีกเลย มิฉะนั้นตัวเองจะทนไม่ไหวจริงๆ
……
ฟางอี้หมิงเดินกลับห้องทำงานของตัวเองอย่างโมโห ยิ่งคิดยิ่งโกรธ เคลื่อนมือ ปัดของบนโต๊ะลงพื้นทั้งหมด
เลขาทีาได้ยินเสียงรีบเข้ามา เมื่อเห็นความโกลาหลบนพื้น อดไม่ได้ที่จะตกใจ แล้วมองท่าทางโกรธของฟางอี้หมิง เปิดปากอย่างระมัดระวัง “รองประธานฟาง ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
“ออกไป! ไสหัวออกไปซะ!” ฟางอี้หมิงตะคอกเสียงดัง
เลขาตกใจ รีบเดินออกไป
สีหน้าเขาฟางอี้หมิงมองจนน่าตกใจ ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ มือสองข้างกำแน่น นิ้วขาวไปหมด เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธขนาดไหน
ฟางยู่เชินเก่งจริงๆ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ กลับสงบนิ่งไม่กระวนกระวาย
ต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
นึกถึงสิ่งนี้ ฟางอี้หมิงหรี่ตา ก็เพราะจิ้นเฟิงเฉินสนับสนุนเขาอยู่ข้างหลัง เขาจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากในเวลาอันสั้น
ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะโจมตีฟางยู่เชินไม่ได้แล้ว
แต่ว่าไม่เป็นไร วัตถุดิบยาส่งออกไปแล้ว
เพียงแค่จัดการหลี่เผิงได้ ต่อให้ฟางยู่เชินและจิ้นเฟิงเฉินเก่งขนาดไหน ก็ตรวจสอบถึงเขาไม่ได้
คิดแบบนี้ อารมณ์โกรธของเขาค่อยๆ ลดลง
……
กลางคืน ฟางยู่เชินกลับถึงบ้าน
ซ่างหยิงกำหมัดต่อยเขาสองสามที ในปากก็ด่า “เจ้าเด็กบ้า เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกฉันกับพ่อนาย”
ฟางยู่เชินส่งสายตาสงสัยไปให้เจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อยักไหล่ สีหน้าทำอะไรไม่ได้
เดิมทีฟางยู่เชินอยากปิดบังพ่อแม่ จัดการเรื่องเงียบๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าสื่อจะรู้ ดังนั้นเขาอยากปกปิดก็ปิดไม่มิด
“ยู่เชิน สถานการณ์เป็นยังไงบ้า” ฟางเถิงถาม
“ฝ่ายตำรวจกำลังตรวจสอบ ฝั่งผมก็กำลังตรวจสอบ” ฟางยู่เชินพูด