ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1184 คุณจะชอบเธอได้รึเปล่า?
“เธออยากให้ฉันช่วยอะไร?” เย่เฉินหยุนถาม
เย่เสี่ยวอี้เงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วค่อยพูดออกไปว่า “พี่คะ พี่ชอบเหลียงซินเวยนั่นใช่มั้ยคะ?”
“ว่าไงนะ?” เย่เฉินหยุนนึกว่าตัวเองได้ยินผิด
“พี่บอกว่าเหลียงซินเวยนั่นเป็นน้องสาวของเพื่อนพี่ไม่ใช่รึไง?”
เย่เฉินหยุนพยักหน้า “ถูกต้อง แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าฉันชอบผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”
“ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมพี่ต้องทำดีกับเธอขนาดนั้นด้วยคะ?”
ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะปกป้องเหลียงซินเวย เขายังเคยดุเธอด้วย
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยแสดงท่าทีที่ใจร้ายแบบนั้นใส่เธอมาก่อนเลย ดังนั้นเธอถึงได้สงสัยว่าเขากำลังชอบเหลียงซินเวยอยู่ใช่มั้ย
เย่เฉินหยุนอดหัวเราะไม่ได้ “ที่ฉันทำดีกับเธอ เป็นเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนฉันเท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลย”
“จริงๆ เหรอคะ?” เย่เฉินหยุนรู้สึกไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่
“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ” เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว “ไม่ใช่สิ เธอมีเรื่องอยากให้ฉันช่วยไม่ใช่เหรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ฉันชอบเวยเวยรึเปล่า?”
“อันนี้มัน……” เย่เสี่ยวอี้สายตาหมุนวน แล้วถามไปอย่างระมัดระวังว่า “พี่คะ พี่ช่วยชอบเหลียงซินเวยจะได้มั้ยคะ? ฉันไม่ว่าอะไรถ้าจะได้เธอมาเป็นพี่สะใภ้เลย”
ยังไงต่อไปเธอก็จะแต่งไปบ้านตระกูลฟางอยู่แล้ว
“ทำไมล่ะ?” เย่เฉินหยุนรู้สึกสงสัยมาก “ทำไมจู่ๆ เธอถึงมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาล่ะ?”
“มันก็เพราะผู้หญิงคนนั้นกับยู่เชินทำตัวไม่ชัดเจนกันอยู่นะสิคะ”
เย่เสี่ยวอี้เดินไปนั่งลงที่ขอบเตียง สองมองกอดอก ทำหน้าบึ้งตึง
“นี่เธอคิดมากไปรึเปล่า?” เย่เฉินหยุนไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด
เหลียงซินเวยที่เขารู้จัก ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะไปมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับผู้ชายเลย
“ตรงไหนคะที่บอกว่าฉันคิดมากไป?” เย่เสี่ยวอี้ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ “แม่นั่นกับยู่เชินนั้นไม่ชัดเจนกันจริงๆ ทำไมพี่ถึงไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเนี่ย?”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อ ฉันแค่เชื่อมั่นในตัวของเหลียงซินเวยที่ฉันรู้จักเท่านั้น”
“พี่คะ!” โกรธจนต้องลุกขึ้นมา “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ พี่เข้าใจมั้ยคะ?”
“เข้าใจสิ!” เย่เฉินหยุนยักคิ้ว “แต่การที่ฉันเจอคนมามากมายขนาดนั้น แล้วคิดว่าฉันจะมองคนคนเดียวไม่ออกเลยรึไง?”
“มันก็ต้องมีช่วงที่มองพลาดกันบ้างแหละค่ะ” เย่เสี่ยวอี้ทำเสียงฮึดฮัด
เย่เฉินหยุนก้มมองนาฬิกา แล้วถามไปว่า “เอาล่ะ สรุปเธอจะให้ฉันช่วยอะไรกันแน่?”
เย่เสี่ยวอี้เกาหัวด้วยความรำคาญ “เมื่อกี้ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึไง?”
เย่เฉินหยุนไตร่ตรองไปแป๊บหนึ่ง “สิ่งที่เธอต้องการคือให้ฉันชอบเวยเวย ให้ฉันไปจีบเธอ ทำให้เธอมาเป็นแฟนของฉันถูกต้องมั้ย?”
จากสิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมด ก็สรุปได้ประมาณนี้
“ใช่ค่ะ ได้มั้ยคะ?” เย่เสี่ยวอี้มองเขาด้วยความคาดหวัง
มุมปากของเย่เฉินหยุนเปิดออก “ไม่ได้”
“พี่คะ!” เย่เสี่ยวอี้วิ่งเข้าไปหาเขา คว้าแขนของเขาแล้วเขย่าเป็นการใหญ่ “ถือซะว่าสงสารฉันแล้วกันนะคะ ช่วยฉันหน่อยนะคะ”
เย่เฉินหยุนก้มหน้าลง แล้วเห็นเธอมองเขาด้วยท่าทางที่น่าสงสาร
เสียงถอนหายใจถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปาก เขาพูดด้วยความจนใจ “เสี่ยวอี้ ต่อให้ฉันรับปากว่าจะช่วยเธอ เรื่องนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เวยเวยไม่ได้ชอบฉันเลยสักนิด”
“ถึงเธอจะไม่ชอบ พี่ก็หาวิธีทำให้เธอชอบพี่สิคะ พี่คะ ฉันขอร้องล่ะนะ”
เมื่ออยู่ต่อหน้าการอ้อนวอนของน้องสาว คนที่เป็นพี่ชายก็ยากที่จะปฏิเสธได้
เย่เฉินหยุนถอนหายใจออกมา พยักหน้าไปอย่างฝืนๆ “ก็ได้ ฉันจะช่วย”
เย่เสี่ยวอี้ทำหน้าดีใจขึ้นมาทันที “ขอบคุณมากเลยนะคะพี่ พี่ดีกับฉันที่สุดเลย”
“อย่าเพิ่งพูดแบบนั้นเลย” เย่เฉินหยุนยกมือขึ้นมาห้ามเธอ “ฉันไม่กล้ารับปากหรอกนะว่าฉันจะจีบเวยเวยติดรึเปล่า”
เย่เสี่ยวอี้ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ “พี่ชายของฉันเก่งขนาดนี้ จะจีบไม่ติดได้ยังไงล่ะคะ?”
เย่เฉินหยุนยิ้มออกมา และไม่ได้พูดอะไรอีก
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาสามารถพูดได้เต็มปากว่าจีบติดแน่นอน แต่เหลียงซินเวยนั้น ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
อีกอย่าง ยังมีอานอานอยู่ด้วยอีกคน
……
ตอนกลางคืน ฟางยู่เชินกลับมาที่บ้าน
พอจอดรถเสร็จ ก็เห็นรถของกู้เนี่ยนขับมาจอดข้างๆ เขาทันที
เขาปลดเข็มขัดออก เปิดประตูรถ
“คุณชายยู่เชิน” กู้เนี่ยเรียกด้วยความสุภาพ
ฟางยู่เชินจ้องเขม็งไปที่เขาอย่างลึกซึ้งอยู่พักหนึ่ง ถึงได้เดินไปตรงหน้าเขา แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึกว่า “คุณชอบเหลียงซินเวยใช่มั้ยครับ?”
ไม่นึกว่าเขาจะถามมาแบบนี้ กู้เนี่ยนถึงกับอึ้งไปเลย ตั้งตัวไม่ทันไปพักหนึ่ง
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว แล้วเปลี่ยนคำถาม “คุณกำลังตามจีบเหลียงซินเวยอยู่ใช่มั้ยครับ?”
ครั้งนี้ กู้เนี่ยนตั้งสติได้แล้ว จึงได้เกาๆ ท้ายทอยด้วยความเขินอาย “ผมรู้สึกชอบเธอมาก แต่ยังไม่ได้เริ่มจีบเลยครับ ผมอยากรอให้คุณชายกลับมาก่อนค่อยว่ากันอีกทีครับ”
พอได้ยินแบบนั้นฟางยู่เชินก็แอบโล่งอกไปมาก เขาพยักหน้า “มันก็จริง เรื่องคุณชายของพวกคุณต้องมาก่อนอยู่แล้ว”
“ก่อนหน้านี้คุณก็เคยพูดเรื่องประมาณนี้กับผมมาแล้ว ความจริงคือผมอยากบอกคุณว่า ในใจของผมนั้น คุณชายสำคัญที่สุดครับ”
ฟางยู่เชินยิ้มออกมา “แบบนั้นก็ดีแล้วครับ”
เขาเดินผ่านข้างตัวกู้เนี่ยนไป เดินไปไม่กี่ก้าวแล้วหยุดเดิน หันหน้ามา “กู้เนี่ยน เหลียงซินเวยเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ถ้าคุณชอบเธอจริงๆ คุณก็ควรรักษาเธอไว้ให้ดี”
กู้เนี่ยนทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องพูดอะไรพวกนี้กับตัวเองด้วย แต่ก็ยังตอบไปอย่างสุภาพว่า “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
ฟางยู่เชินยิ้มออกมา จากนั้นก็เดินจากไป
กู้เนี่ยนคิดแล้วคิดอีก ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นกับตัวเอง
สุดท้าย ก็ล้มเลิกความตั้งใจ คิดซะว่าฟางยู่เชินพูดไปอย่างนั้นแล้วกัน
……
หลังกินข้าวเย็นเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็ขึ้นไปชั้นบน เดินไปหน้าห้องหนังสือ แล้วเคาะๆ ประตู
“เข้ามา”
เจียงสื้อสื้อเปิดประตูออก ชะโงกหน้าเข้าไปอย่างระมัดระวัง พอมองเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหนังสือ เธอก็เอ่ยถามไปว่า “พี่คะ พี่ยุ่งมากเลยใช่มั้ยคะ?”
ฟางยู่เชินเงยหน้าขึ้นมา “เธอมีธุระอะไรรึเปล่า?”
เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไป ค่อยๆ ปิดประตูลง จากนั้นก็รีบเดินมาที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว
“กู้เนี่ยนพูดกับฉันแล้ว”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “เรื่องอะไร?”
“ก็เรื่องที่พี่บอกเขาให้รักษาเวยเวยให้ดีไงคะ”
ตอนที่กู้เนี่ยนพูดกับเธอ เธอก็รู้สึกตกใจมาก
ไม่ว่ายังไงเธอก็นึกไม่ถึงว่าพี่ชายจะพูดแบบนั้นกับกู้เนี่ยนได้
ฟางยู่เชินเสียงดังขึ้นมาทันที “ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง มันทำไมเหรอ?”
“พี่คะ พี่จะยอมแพ้จริงๆ เหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อจ้องเขม็งไปที่เขา แล้วลองถามไปดู
ฟางยู่เชินเงียบไปพักหนึ่ง ถึงไปพูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า “มันไม่เคยเริ่มต้นมาก่อน แล้วเอาอะไรมายอมแพ้ล่ะ”
ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เธอสามารถรับรู้ได้ถึงความผิดหวังที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขา
“พี่คะ ถ้าพี่ชอบเธอจริง พี่ก็ไปจีบเธอสิคะ” เจียงสื้อสื้อมองไม่ออกจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ไม่ล่ะ” ฟางยู่เชินส่ายหน้า “ตอนนี้ฉันมีแต่ต้องจัดการเรื่องของบริษัทให้ดี พอคุณปู่พื้นขึ้นมา ฉันจะได้มีหน้าไปพบท่าน”
“ความรักกับการงานมันไม่เคยเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันเลย เราสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันได้นะคะ”
เจียงสื้อสื้อพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างเต็มที่ เพื่อไม่อยากให้เขาต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
ฟางยู่เชินยิ้มออกมา “นี่เธอกำลังหมายถึงเฟิงเฉินกับเธออยู่ใช่มั้ย?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“มันไม่เหมือนกัน ฉันสู้เฟิงเฉินไม่ได้ เขาเก่งขนาดนั้น ฉันยังห่างชั้นกับเขาอีกมากเลย”
“อย่าคิดแบบนั้นสิคะ ในสายตาฉัน พี่ก็เก่งเหมือนเขานั่นแหละค่ะ” เจียงสื้อสื้อให้กำลังใจเขา
“ไม่ต้องมาปลอบใจฉันหรอก ฉันรู้ดีว่าตัวเองนั้นเป็นยังไง”
ฟางยู่เชินถอนหายใจออกมา “การที่เธอเอาแต่มาเกลี้ยกล่อมฉันแบบนี้ สู้ไปเชียร์กู้เนี่ยนกับเหลียงซินเวยจะดีกว่านะ”
เจียงสื้อสื้อเบ้ปาก “ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ห้ามมานั่งเสียใจทีหลังนะคะ”
“ไม่หรอก”