ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่40 อดีตของเธอ
บทที่40 อดีตของเธอ
เจียงสื้อสื้อไม่คิดว่า เจียงเจิ้นจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ เธอปฏิเสธเขาไปทันที
“จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนระดับไหนใช่ว่าคุณจะไม่รู้ ไม่ใช่ว่าฉันโทรหาแล้วจะได้เจอเลย ถ้าคุณอยากเจอจิ้นเฟิงเฉิน ก็หาทางเอาเองละกัน”
พอพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็จะเปิดประตูรถ
ไม่คาดคิดว่าเจียงเจิ้นจะแย่งกระเป๋าเธอไป แล้วก็ค้นเอาโทรศัพท์ข้างในออกมา
เจียงสื้อสื้อโกรธขึ้นมาทันที “คุณจะทำอะไรกันแน่?”
เจียงเจิ้นไม่เชื่อที่เจียงสื้อสื้อพูดหรอก จิ้นเฟิงเฉินต่อยหลานซือเฉินเพราะเธอเลย แสดงว่าเจียงสื้อสื้อก็สำคัญสำหรับเขาอยู่พอสมควร ก็ไม่รู้ว่าไอลูกเนรคุณนี้มันโชคดีอะไรของมัน
โทรศัพท์ของเจียงสื้อสื้อมีรหัส แต่เจียงเจิ้นเปิดออกได้ง่ายๆ เลย
พอเปิดข้อมูลผู้ติดต่อ ข้างในเบอร์ของจิ้นเฟิงเฉินจริงๆ ด้วย เจียงเจิ้นกดโทรออกทันที
“เอาโทรศัพท์คืนฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”
เจียงสื้อสื้อโกรธมาก กำลังจะยื่นมือไปแย่งกลับมา แต่โดนบอดี้การ์ดขวางไว้ เธอห้ามเขาไม่ได้เลย ทำให้แค่มองเขากดโทรออกไปอย่างนั้น
จิ้นเฟิงเฉินกำลังดูเอกสารอยู่ที่ห้องทำงาน โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็น เจียงสื้อสื้อ สายตาเขาก็แอบดีใจ นานๆ ทีที่เธอจะโทรหาเขา จิ้นเฟิงเฉินกดรับด้วยความดีใจ
แต่เสียงของอีกฝั่งที่โทรมากลับไม่ใช่เสียงของเจียงสื้อสื้อ
“ประธานจิ้น สวัสดีครับ ผมเจียงเจิ้นเป็นพ่อของเจียงสื้อสื้อครับ”
พอได้ยินเสียงนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“แล้วเจียงสื้อสื้อล่ะ?”
มีความห่วงใยซ่อนอยู่ภายใต้เสียงที่ดูเย็นชา ตัวจิ้นเฟิงเฉินเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าจะคุยกันในโทรศัพท์ แต่พอเจียงเจิ้นได้ยินเสียงนี้แล้วก็รู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย น้ำเสียงเขาก็ดีขึ้นกว่าเดิม
“สื้อสื้ออยู่บนรถกับฉัน เรากำลังจะไปทานข้าว ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสได้เจอกับประธานจิ้นไหมครับ?”
พอพูดจบ จิ้นเฟิงเฉินได้ยินเสียงของเจียงสื้อสื้อที่ดังมาจากโทรศัพท์
“จิ้นเฟิงเฉินนายยุ่งก่อนเลย ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ฉันจัดการเองได้”
เจียงเจิ้นมองแรงใส่เธอ
จิ้นเฟิงเฉินจะไม่สนใจเรื่องนี้ได้ไง เขาพูดมานิ่งๆ ว่า “สถานที่”
เจียงเจิ้นไม่คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะตอบตกลงได้ง่ายขนาดนี้ เขายิ้มแล้วก็พูดชื่อสถานที่ที่กินข้าวไป
เจียงสื้อสื้อทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่นั่งไปกับ เจียงเจิ้นในรถ
เวลาแค่แป๊บเดียวเขาก็มาถึงที่ร้านอาหารกันแล้ว เจียงสื้อสื้อตามเจียงเจิ้นมาที่ต้องที่จองไว้ก่อนหน้านี้
เสิ่นซูหลันกับเจียงนวลนวลก็อยู่ข้างใน พวกเขามองมาที่เธอด้วยสายตาที่ดุถูกเล็กน้อย
“พี่สาวคะ เดี๋ยวนี้แค่ชวนมาทานข้าวด้วยกันนี่ยากมากๆ เลยนะ” เจียงนวลนวลพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
เจียงสื้อสื้อไม่ได้สนใจเจียงนวลนวล แต่หาที่นั่งแล้วก็นั่งลง แล้วก็ได้ยินเสียงของเจียงเจิ้นถามว่า “เธอรู้จักกับจิ้นเฟิงเฉินตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ถ้าก่อนหน้านี้รู้ว่าเธอรู้จักกับจิ้นเฟิงเฉิน เจียงเจิ้นก็คงไม่ทำแบบนี้กับเธอ
เจียงสื้อสื้อไม่ได้พูดอะไร เรื่องที่เกี่ยวกับจิ้นเฟิงเฉินเธอไม่พูดเลยสักคำ
เจียงเจิ้นถามต่อ “เจียงสื้อสื้อฉันถามเธออยู่!”
“ขอโทษทีนะคะ ฉันไม่อยากตอบคำถามคุณ”
“เธอ…….” เจียงเจิ้นโกรธจนพูดไม่ออก
เจียงนวลนวลเห็นเข้า กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วประตูก็เปิดออกมา
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างนอกใส่เสื้อสูทสีดำ ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่มีสีหน้าใดๆ แสดงออกมาเลย
บรรยากาศในห้องเงียบขรึมขึ้นมาทันที
“คุณ……คุณคือคุณจิ้น?”
คนที่ถามคือเจียงเจิ้น พาวเวอร์ของจิ้นเฟิงเฉินแรงเกินไป จนทำให้เขาดูอ่อนไปเลย
คนที่อยู่ในห้องนั้นต่างก็อึ้งที่เห็นเขา ยกเว้นเจียงสื้อสื้อ ไม่คาดคิดว่าคนที่ปกป้องเธอในร้านอาหารวันนั้นก็คือจิ้นเฟิงเฉินนี่เอง
ก่อนหน้าที่เคยเจออยู่หลายรอบ แต่ก็เร่งรีบเกินไป เจียงนวลนวลไม่ทันได้ดูจิ้นเฟิงเฉินดีๆ
ตอนนี้พอได้เจอใกล้ๆ ผู้ชายคนนี้ดูดีมีระดับ เป็นคนที่เราเอื้อมไม่ถึงจริงๆ
เจียงนวลนวลอิจฉามาก
ทำไม!
ทำไมเจียงสื้อสื้อถึงได้เจอผู้ชายที่ดีกว่าหลานซือเฉิน?
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้สนใจ เจียงเจิ้น แต่เขากวาดสายตาไปในห้องเบาๆ เห็นว่าเจียงสื้อสื้อนั่งตรงกลาง
ขอบตาเธอแดงไปหมด เธอส่งความรู้สึกขอโทษให้กับเขาผ่านทางสายตา
เธอไม่ได้อยากดึงเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย!
เจียงเจิ้นพูดอีกรอบว่า “ประธานจิ้นสวัสดีครับ ผมชื่อเจียงเจิ้น นี่เลยครับ เชิญนั่งนี่เลยครับ”
พอพูดจบเขาก็ดึงเก้าอี้ตัวข้างๆ ออก
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับเดินตรงไปที่เจียงสื้อสื้อ แล้วถามเธอด้วยเสียงที่ไพเราะว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ความรู้สึกอบอุ่นพัดผ่านใจของเจียงสื้อสื้อไป เธอส่ายหัวแล้วตอบว่า “ฉันไม่เป็นไร”
เจียงนวลนวลเห็นทั้งหมดนี้ แล้วรู้สึกหมั่นไส้มาก เป็นแค่ของเหลือ ทำไมถึงยังมีผู้ชายมาชอบนะ?
ที่สำคัญคือผู้ชายคนนี้คือจิ้นเฟิงเฉิน เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆ คน
เจียงสื้อสื้อมีสิทธิ์อะไร!
เจียงเจิ้นรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย แต่ก็พูดต่อพร้อมยิ้มว่า “ประธานจิ้น คราวที่แล้วที่เจอกันเร่งรีบไปนิดนึง ไม่รู้ว่าคนคือใครสื้อสื้อเองก็ไม่ได้บอกผม ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกรังเกียจหน้าจอมปลอมของเจียงเจิ้นมาก
จิ้นเฟิงเฉินรู้ว่าเจียงเจิ้นเป็นคนแบบไหน เขาค่อยๆ พูดว่า “สื้อสื้อถูกพวกคุณไล่ออกมาตั้งนานแล้ว แล้วทำไมต้องบอกพวกคุณด้วย แต่ฉันไม่ได้ลืมเรื่องที่พวกคุณรวมหัวกัลตระกูลหลานแล้วแกล้งเธอนะ”
นำเสียงเขาฟังดุปกติ แต่ทุกคนรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่ซ่อนอยู่ในนั้น
เจียงเจิ้นทำใจสักพัก แล้วยิ้มพูดต่ออีกว่า “คุณก็ว่าไปครับ สื้อสื้อเป็นลูกสาวของผม ผมจะรังแกเธอได้ไงครับ มันเป็นแค่การเข้าใจผิดกับความไม่เข้าใจกันแค่นั้นเอง”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แค่มองแรงใส่พวกเขา
เจียงเจิ้นร้อนตัว ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยกัน “แล้วประธานจิ้นรู้จักกับสื้อสื้อตอนไหนครับ? แล้วพวกคุณเป็นอะไรกัน? ….”
พอได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อ ก็ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า “คุณพูดจบรึยัง? เรื่องของฉันมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”
เจียงนวลนวลมองไปที่เจียงสื้อสื้อเหมือนคิดอะไรอยู่
“พี่สาวโกรธขนาดนี้ทำไมล่ะคะ? ถ้าพี่คบกับประธานจิ้นจริงๆ พวกเราก็ดีใจเหมือนกัน ยังไงผู้ชายอย่างประธานจิ้นก็ไม่ได้หาง่ายๆ นะ”
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ในใจเจียงนวลนวลอิจฉามาก
จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนระดับไหน?
ถ้าเขาคบกับเจียงสื้อสื้อจริงๆ ถึงตอนนั้นบ้านนี้ยังมีที่ให้ตัวเองยืนไหม?
เสิ่นซูหลันก็พูดต่ออีกว่า “จริงด้วย ถึงแม้ว่าสื้อสื้อของเราจะมีอดีตเยอะ แต่ถ้าคุณชายจิ้นไม่รังเกียจ พวกเราก็ยินดีด้วย”
พอได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเจียงสื้อสื้อก็เปลี่ยนไป เธอเข้าใจสิ่งที่เสิ่นซูหลันต้องการจะสื่อ ถ้าให้จิ้นเฟิงเฉินรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะรู้สึกว่าเธอสกปรกไหม? เขาจะไล่เธอออกจากบ้านตัวเอง แล้วไม่ได้เจอกับเสี่ยวเป่าอีกเลยรึเปล่า?
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เจียงสื้อสื้อรู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้เจอเสี่ยวเป่าอีก กลัวว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก……
จิ้นเฟิงเฉินเองก็ฟังออกว่าเธอต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
ก็เลยถามไปว่า “อดีตอะไร?”
เจียงนวลนวลเห็นปฏิกิริยาของเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา เธอรู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินยังไม่รู้อดีตที่ผ่านมาของเจียงสื้อสื้อแน่ๆ
คิดๆ ไปเจียงนวลนวลก็แอบยิ้มออกมา ค่อยๆ พูดออกมาว่า “จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เมื่อไม่กี่ปีก่อนพี่สาวฉันเคยไปมี……”