ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่475 กำจัดให้สิ้นซาก
บทที่475 กำจัดให้สิ้นซาก
“ไม่ต้องเป็นห่วง จื่อเฟิงจะต้องจับตัวกลับมาให้เราได้แน่”
จิ้นเฟิงเฉินพูดแล้วกอดเจียงสื้อสื้อไว้ในอ้อมอกพร้อมพูดปลอบใจ
ถึงแม้จะรู้ดีถึงประสิทธิภาพการทำงานของจื่อเฟิง แต่สำหรับคนอย่างจื่อเฟิงแล้ว เจียงสื้อสื้อยังคงพูดไม่ได้ถึงความไว้วางใจ
ท้ายที่สุดแล้วเธอชอบทำตัวต่อหน้าอย่า ลับหลังอย่างซึ่งทำให้เธอไม่สามารถเห็นด้วยได้
“อือ”
เจียงสื้อสื้อเห็นด้วยเล็กน้อยก็หยุดพูด
ในเวลาเดียวกันที่ต่างประเทศ จี้เฉินมองไปที่เจียงนวลนวลด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและดวงตาของเขาก็เย็นชาราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าหั่นศพเธอ
เจียงนวลนวลรู้ตัวว่าครั้งนี้เธอทำไม่สำเร็จ เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรและนั่งเงียบ ๆ ตรงข้ามจี้เฉิน
“ประธานจี้ ผลที่ตามมาของเหตุการณ์นี้ทำให้อีกฝ่ายหมดความอดทนเล็กน้อย พวกเขาประกาศจะตามหาคนมา…แทนที่คุณ…”
ผู้ช่วยก้มหัวลงและบอกเรื่องราว เสียงของเขาสั่นสะท้านเพราะกลัวว่าจี้เฉินจะโกรธ
นาทีถัดมาก็เห็นจี้เฉินคว้าคอเขาไว้แน่นและถาม: “แกทำงานประสาอะไร? ทำไมไม่ปิดข่าวไว้ก่อน? ฉันจะคอยดูว่าจะมีไอ้สวะที่ไหนมาแทนที่ฉันได้! กล้าพอที่จะมานั่งเก้าอี้ของฉัน! หากข่าวภายในของบริษัทรั่วไหลออกไป อย่าหาว่าคนอย่างฉันจี้เฉินไม่เห็นแก่วันดี ๆ ในอดีต!”
ผู้ช่วยต้องวิ่งหนีอย่างรวดเร็วเหลือเพียงเจียงนวลนวลและจี้เฉินเท่านั้นที่อยู่ในห้อง
จี้เฉินยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดานและจุดบุหรี่ เขาสูบมันอย่างรุนแรงและค่อย ๆ พ่นควันออกจากปากของเขา
ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมาและมองไปที่เจียงนวลนวล
ดวงตาของจี้เฉินเฉียบคมเดินเข้าไปหาเธอทีละก้าว
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของจี้เฉิน เจียงนวลนวลก็ก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย: “ประธานจี้…คุณ…จะทำอะไร?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้จี้เฉินก็หัวเราะเยือกเย็น “ฉันจะทำอะไรงั้นเหรอ? คุณเจียงไม่รู้เหรอว่าความประมาทเพียงเล็กน้อยของคุณทำให้ผมสูญเสียทุกอย่าง? ตอนนี้ตลาดในประเทศถูกจิ้นเฟิงเฉินผูกขาดโดยสิ้นเชิง บริษัทก็ตกใจเช่นกันคุณคิดว่าผมยังจะชนะอะไรอีก? ครอบครัวผิดหวังกับผมเป็นอย่างมาก ผู้สมัครคนต่อไปจะไม่มีชื่อผม คุณพอใจกับผลของมันรึเปล่าล่ะ?”
จี้เฉินเข้ามาใกล้ เจียงนวลนวลทำได้เพียงถอยเข้ามุม
เมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่พอใจของจี้เฉิน เจียงนวลนวลไม่รู้ว่าจะหักล้างอย่างไร
ทันใดนั้นจี้เฉินก็คว้าคอของเธอและพูดขู่: “เจียงนวลนวลฉันจะบอกเธอ ถ้าฉันล้มแล้วเธอเอาเรื่องของพวกเราไปโพนทะนาล่ะก็ ฉันจะให้เธอหายไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอย เธอเข้าใจไหม?”
เนื่องจากในช่วงที่ร่วมมือกับเจียงนวลนวล เจียงนวลนวลก็สังเกตเห็นบางอย่างเกี่ยวกับจี้เฉินเช่นกัน
และจี้เฉินก็รู้ถึงการกระทำของเจียงนวลนวลเช่นกัน
แต่เพราะเธอยังมีประโยชน์เขาจึงไม่ลงมือทำอะไรเธอ
ตอนนี้พวกเขาต่างไม่มีผลประโยชน์อะไรกันแล้วจึงไม่ต้องกลัวที่จะแล่เนื้อเถือหนังกัน
มือของจี้เฉินค่อย ๆ กระชับและเจียงนวลนวลยังคงดิ้นรน
“ประธาน…จี้ ฉันรับรอง…จะไม่มีอะไรเล็ดลอด…เพราะฉะนั้นไว้ชีวิต…ฉันเถอะ…”
เจียงนวลนวลร้องขอความเมตตา แต่จี้เฉินดูเหมือนจะไม่ได้ยินและยังคงจับแน่น
ความกระหายเลือดค่อย ๆ ปรากฏในดวงตาของเขาและเจียงนวลนวลรู้สึกหายใจไม่ออก
จนเจียงนวลนวลแทบจะหมดแรงดิ้นรน จี้เฉินจึงได้ปล่อยมือจากเธอ
หลังจากเธอล้มลงกับพื้นอย่างจัง จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดมือขึ้นมาเช็ดมือ
ประหนึ่งเพิ่งหยิบขยะสกปรกขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
เจียงนวลนวลคุกเข่าลงสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และหายใจไม่หยุด
เมื่อเห็นด้านหลังของจี้เฉิน เจียงนวลนวลก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวเล็กน้อย
ชายคนนี้คือปีศาจ!
ในสายตาของจี้เฉิน เธอได้เห็นความตายจริงๆ
“เอาคนมาพาเธอออกไป อย่าให้ฉันเห็นเธออีก”
“ครับ ท่านประธาน!”
เมื่อจี้เฉินพูดจบชายร่างกำยำสองสามคนก็เข้ามาคว้าตัวเจียงนวลนวล
ลากออกไปจากคฤหาสน์
ปฏิบัติกับเธอเหมือนกับหมาข้างถนน
เจียงนวลนวลนอนอยู่ข้างถนนเธอไม่มีเรี่ยวแรงเหลือในร่างกาย
เดิมทีคิดว่าครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยน คิดไม่ถึงว่าจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้หญิงคนนั้นเจียงสื้อสื้อ!
เธอไม่ยอม!
เจียงนวลนวลกำมือแน่นและมองไปข้างหน้าด้วยแววตาเหี้ยมโหด
เธอสาบานว่าความทุกข์ทรมานและความอัปยศอดสูที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานในวันนี้จะถูกส่งกลับไปยังเจียงสื้อสื้อในอนาคต!
หลังจากความแข็งแกร่งของเธอฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยเจียงนวลนวลก็โซซัดโซเซลุกขึ้นจากพื้น
และนักรถคันหนึ่งกลับที่พัก
ที่แย่ก็คือเจียงนวลนวลพบว่าสัมภาระทั้งหมดของเธอถูกโยนทิ้งอยู่หน้าโถงทางเดิน
เมื่อได้ยินเสียงผู้ชายดังออกมา เจียงนวลนวลก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เธอรีบเดินไปข้างหน้าก็พบผู้ชายหลายคนอยู่ในห้องและเคลื่อนย้ายของของเธอออกมา
เจียงนวลนวลจึงรีบห้าม “พวกแกจะทำอะไร? นี่มันบ้านฉัน? พวกแกบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลฉันฟ้องพวกแกได้นะ”
ชายคนหนึ่งหัวเราะและกล่าวว่า: “ขอโทษนะครับคุณเจียง บ้านหลังนี้เป็นของคุณจี้ เขาให้พวกเรามาเก็บของ ถ้าหากว่าคุณมีอะไรไม่พอใจ ปรึกษาเขาได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เจียงนวลนวลก็นั่งลงกับพื้น
จะต้องใช้ชีวิตข้างถนนอีกแล้วเหรอ?
ไม่ เธอไม่ต้องการ วันเวลาแบบนั้นต่างจากคนจรจัดอย่างไรกัน?
“คุณครับ ขอทางหน่อย”
ในระหว่างที่เจียงนวลนวลอึ้งอยู่นั้น มีชายคนหนึ่งใช้เท้าเขี่ยเธอ
เจียงนวลนวลมองชายคนนั้นด้วยท่าทางดุร้ายจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
จากที่เคยร่วมมือกับจี้เฉิน การร่วมมือกับเขาต้องเสียเปล่า จนสุดท้ายเขาก็ทำลายทุกอย่างให้สิ้นซาก
เจียงนวลนวลที่เดินอยู่บนถนนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอ้างว้าง
หากไม่มีเรื่องพวกนี้เธอก็คงจะยังเป็นคุณหนูรองแห่งเจียงซื่อกรุ๊ปอยู่
มีเงินที่ใช้ยังไงก็ไม่หมดและไม่มีเรื่องให้เดือดเนื้อร้อนใจ
แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆได้เปลี่ยนไปเธอได้แต่ใช้ชีวิตด้วยความวิตกกังวล
เธอไม่กล้ากลับประเทศ ทันทีที่เธอปรากฏตัวที่สนามบินหรือท่าเรือก็คงจะมีตำรวจรอจับเธออยู่
เธอเองก็รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินใช้เส้นสายเพื่อสืบหาที่อยู่เธอตลอด ดังนั้นเธอตึงไม่กล้าปรากฏตัวในเมืองใหญ่
หากตกอยู่ในมือของจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ต่างอะไรกับตกนรกทั้งเป็น
‘จ๊อก ๆ’ เสียงท้องร้องดังขึ้น เจียงนวลนวลลูบหน้าท้องแบนราบของเธอ
เธอพึมพำกับตัวเอง: “ลูกน้อย อย่าโทษแม่เลยนะ แม่สัญญาว่ามันแค่ชั่วคราวเท่านั้น สักวันแม่จะทำให้เจียงสื้อสื้อคุกเข่าต่อหน้าแม่!”
ท้องเธอร้องอีกสองครั้ง เจียงนวลนวลเงยหน้าขึ้นมองและในที่สุดก็จับจ้องไปที่ร้านอาหารตรงหน้า
เธอค้นทั่วตัวและพบว่ายังมีเศษเงิน เจียงนวลนวลจึงเดินเข้าไป
ขณะที่เธอกำลังสั่งอาหารจู่ ๆ ก็มีร่างปรากฏขึ้นด้านหลังเธอและจับไหล่ของเธอ
เจียงนวลนวลหันศีรษะและกรีดร้องพยายามที่จะสลัดให้หลุด
แต่ก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของจื่อเฟิงได้ เธอแทบจะไม่มีแรงต่อสู้ได้เลย
จื่อเฟิงมองหน้าเจียงนวลนวลอย่างเย็นชาแล้วพาตัวเธอไป ร้านอาหารกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ถึงจะไม่รู้ว่าคนที่จับเธอไปเป็นใคร แต่เจียงนวลนวลรู้ว่าจะต้องเป็นคนของจิ้นเฟิงเฉินแน่