ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่741 ไปเจอแด๊ดดี้
บทที่741 ไปเจอแด๊ดดี้
อย่างไรก็ตามคำพูดของเจียงสื้อสื้อทำให้หนูน้อยเข้าใจไปอีกความหมายหนึ่ง
คำพูดของเถียนเถียนทำให้เจียงสื้อสื้อไม่อาจโต้แย้งได้ เธอเองก็คิดถึงเรื่องของจิ้นเฟิงเฉินอยู่ตลอด
JSกรุ๊ปได้ตอบกลับล่าสุดแล้วและตอนนี้ต้องใช้เวลา
มีเพียงเวลาที่ทำให้เรื่องราวบางอย่างเจือจางช้าๆ บริษัทของจิ้นเฟิงเฉินตอนนี้คงยังเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อคิดเช่นนั้นและมองดูรอยยิ้มของหนูน้อยอีกครั้งก็ทำให้เจียงสื้อสื้ออารมณ์ดีขึ้น
ความขุ่นมัวในใจก็หายไปในชั่วขณะ
เมื่อมองดูแก้มกลมๆ ของเถียนเถียนก็อดไม่ได้ที่จะบีบเล่นและลูบศีรษะเล็กๆ ของเธออีกครั้ง
แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาในบ้านส่องกระทบแก้มของเถียนเถียน เธอเล่นอยู่ในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้ออย่างว่าง่ายครู่หนึ่งและเงยหน้าถาม “หม่ามี๊ เมื่อไหร่พวกเราจะได้ไปหาพี่ชายกับแด๊ดดี้คะ? หนูไม่อยากอยู่บ้าน ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเลย”
เถียนเถียนพูดพลางทำหน้าน้อยใจ เจียงสื้อสื้ออดที่จะยิ้มไม่ได้ เธอลูบจมูกเล็ก ๆ ของเธอเบา ๆ และอธิบาย “เถียนเถียนเป็นเด็กดีนะจ๊ะ ตอนนี้แด๊ดดี้ของหนูน่าจะยังงานยุ่งอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นหม่ามี๊ลองถามแด๊ดดี้ว่าพวกเราไปหาเขาได้ไหม”
เสียงอ่อนหวานของเถียนเถียนที่เข้าหูของเจียงสื้อสื้อเหมือนกับก้อนโมจิเคลือบน้ำตาล
เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อลังเล เถียนเถียนก็กะพริบตาและมองไปที่เจียงสื้อสื้อด้วยดวงตากลมโตและพูดอย่างนุ่มนวลและขี้อ้อน “ได้ไหมคะ หม่ามี๊ถามหน่อยสิคะ”
เมื่อเจอใบหน้าออดอ้อนของเถียนเถียน เจียงสื้อสื้อก็ไม่สามารถจะปฏิเสธได้เลย ทำได้เพียงประนีประนอม “จ้ะๆ ๆ แม่ทูนหัวของแม่ แม่กลัวแล้ว”
เมื่อดูเวลาแล้วเจียงสื้อสื้อก็นิ่งไป
ตอนนี้เขาน่าจะยังยุ่งมาก เขาต้องรับมือกับสื่อต่างๆ และผลกระทบเชิงลบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อหันไปพบกับสายตาที่คาดหวังของเถียนเถียน เจียงสื้อสื้อทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรออกวิดีโอคอล
เธอคิดว่าหากเขาไม่มีเวลามาพบเธอก็ให้เถียนเถียนกับเขาวิดีโอคอลกันสักพักก็ได้
ในห้องทำงานที่ว่างเปล่า หลังของจิ้นเฟิงเฉินเหยียด แขนเสื้อเชิ้ตของเขาถูกพับของเขาอย่างลวก ๆ จนถึงแขนและถือปากกาหมึกซึมสั่งทำพิเศษในนิ้วเรียวของเขา เขาก้มหน้าและทำงานกับเอกสารพร้อมกับบรรยากาศที่ไม่ต้องการให้ใครรบกวน
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ในตอนที่เห็นสายที่โทรเข้ามากลับยกมุมปากเล็กน้อย “สื้อสื้อ ว่าไง?”
เมื่อได้ยินเสียงของเขา เจียงสื้อสื้อพูดอย่างระมัดระวัง “คุณยุ่งอยู่รึเปล่าคะ?”
“ยังดี ไม่ยุ่งเท่าไหร่”
น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินนุ่มลึกและดึงดูด มีความนุ่มนวลที่ไม่อาจหาเหตุผลได้
เมื่อมองดูใบหน้าที่คิดถึง เจียงสื้อสื้อก็ใจสั่น
เสื้อผ้าบนร่างกายของเขาเหมือนกับที่ตัวเธอเคยเห็นมาก่อน และสามารถดูออกว่าเขายุ่งแค่ไหน
มีความหมองคล้ำที่ใต้ตาทั้งสองข้าง และขากรรไกรมีความซีดเซียว ดูอ่อนล้าอย่างชัดเจน
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเจ็บปวดใจและรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
จิ้นเฟิงเฉินเห็นปฏิกิริยาตอบกลับแบบนี้ของเจียงสื้อสื้อแล้ว ก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่แน่
เมื่อปรับจิตใจแล้วก็เปลี่ยนหัวข้อไปที่เถียนเถียน “เถียนเถียนอยู่ไหนล่ะ?”
เมื่อเถียนเถียนได้ยินเสียงจิ้นเฟิงเฉินก็รีบโผล่หน้าออกมา ใบหน้าหวานๆ ของเธอแทบจะทำให้ขาดใจ “แด๊ดดี้คะ เถียนเถียนอยู่นี่ค่ะ!”
เจียงสื้อสื้ออดที่จะขำไม่ได้เมื่อเห็นเถียนเถียนเป็นเช่นนั้น
จากนั้นเธอก็ปรับมุมกล้องแล้วให้ทั้งสองคนได้เห็นหน้ากันดียิ่งขึ้น
เวลาที่เห็นพวกเขาสองคนคุยกัน เจียงสื้อสื้อรู้สึกถึงความอบอุ่นในหัวใจของเธอ
การคุยกับเถียนเถียน ความกดดันของจิ้นเฟิงเฉินในตอนนี้ก็ถูกทำให้หาบไป
รู้สึกขบขันกับท่าทางซุกซนของเถียนเถียน
ท่าทางอ่อนนุ่มของเจ้าเด็กน้อยทำให้อย่าจะเข้าไปอุ้มไว้ในอ้อมแขน
การพูดคุยกับจิ้นเฟิงเฉินยิ่งทำให้เถียนเถียนงอแงอยากจะไปหาแด๊ดดี้
เมื่อได้ยินหนูน้อยบอกว่าคิดถึงตน จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกใจละลายใจในทันที
เมื่อเห็นใบหน้าที่อ่อนล้าของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อจึงพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ “คุณคงจะยุ่งมาก ฉันว่าอย่าเพิ่งให้เถียนเถียนรบกวนคุณเลย”
แต่หนูน้อยกลับไม่เห็นด้วยกับเจียงสื้อสื้อและดึงดัน “ไม่เอาๆ หนูจะไปหาแด๊ดดี้”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “ไม่เป็นไร คุณพาเถียนเถียนมาสิ งานที่บริษัทผมจัดการเกือบเสร็จแล้ว สามารถจะพักได้ครู่หนึ่ง”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้เจียงสื้อสื้อก็ยังถามอย่างไม่วางใจ “จะส่งผลอะไรกับคุณรึเปล่าคะ? ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ”
จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ “วางใจเถอะ ผมจัดการเอง จะให้ผมให้คนขับรถไปรับไหม?”
“ไม่ต้องค่ะ พวกเรานั่งรถไปเองก็ได้”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ตัดสายไป
เมื่อเถียนเถียนได้ยินว่าสามารถไปหาแด๊ดดี้ได้ จิตใจของเธอเบิกบานในทันทีและกระโดดโลดเต้นออดอ้อนเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อกับเถียนเถียนจัดการตัวเองง่ายๆ และนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งปกปิดการแสดงออกที่ซีดเซียวของตัวเองเล็กน้อย
ท้ายที่สุด ช่วงนี้จิ้นเฟิงเฉินต้องเผชิญกับความกดดันอยู่หนัก เจียงสื้อสื้อไม่หวังให้เขาต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเธอ
ในระหว่างทางเจียงสื้อสื้อมองวิวข้างทางและมักรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมนัก
เมื่อเหลือบไปมองหนูน้อยตัวเล็กเถียนเถียน ก็เห็นแววตาแสนจะดีใจที่จะได้เจอกับแด๊ดดี้ของเธอ และหัวใจของเธอก็อ่อนโยนลง
รถหยุดตรงหน้าJSกรุ๊ปอย่างมั่นคงและเจียงสื้อสื้อก็อุ้มเถียนเถียนออกจากรถ
เมื่อกำลังคิดว่าจะเข้าตึกอย่างไร กู้เนี่ยนก็ปรากฏตัวและโบกมือให้เธอกับเถียนเถียน
“คุณหญิง ทางนี้ครับ”
เมื่อเห็นกู้เนี่ยน เถียนเถียนก็โบกมือเล็กๆ ให้กู้เนี่ยน “ลุงกู้สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะเถียนเถียน”
กู้เนี่ยนกระซิบตอบเถียนเถียน
เจียงสื้อสื้อยิ้มด้วยความเกรงใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป “คุณไม่ต้องลงมารับพวกเราก็ได้ค่ะ”
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ากู้เนี่ยนลงมาเพื่อรับพวกเธอแม่ลูกโดยเฉพาะ
“ช่วงนี้ที่หน้าประตูบริษัทเละเทะไปหน่อย คุณชายไม่ไว้ใจพวกคุณ”
กู้เนี่ยนส่งสายตาไปไม่ไกล เจียงสื้อสื้อมองตามไป ก็พบว่ามีคนเข้ามาใกล้แบบเจตนาไม่ดี
ดวงตาตกตะลึงครู่หนึ่งและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นี่
ต้องเป็นคนที่สื่อส่งมาแน่ ๆ เหตุการณ์การแพ้ไวน์แดงทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากพวกเขาวนเวียนอยู่ที่นี่อาจจะพยายามขุดข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้เพียงเพิ่มรูปภาพไม่กี่ภาพและเพิ่มข้อความก็ได้หัวข่าวร้อนแล้ว
แต่คนพวกนี้ก็มีความกล้าเพียงแต่เฝ้ารออยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้ามาใกล้
ท้ายที่สุดพวกเขายังกลัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากที่ประตู
“สถานการณ์ที่บริษัทของพวกคุณยังดีอยู่ไหมคะ?”
เจียงสื้อสื้อถามด้วยความเป็นห่วง