ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 485
บทที่ 485 ความสัมพันธ์ฉันเพื่อน
“แกไสหัวไปได้แล้ว”
“ห๊ะ? ประธานหู ความหมายของคุณคืออะไร?”
“ฉันพูดว่าแกไสหัวไปซะ!” หูเซอร์หยวนทำหน้าเย็นชา
ส่วนหยางเทียนกั๋วตกใจจนหน้าถอดสี “ประธานหู ไม่เอา ขอโอกาสให้ผมสักครั้งได้ไหม…”
หูเซอร์หยวนมองหยางเทียนกั๋วด้วยความเย็นยะเยือก ถ้าหยางเทียนกั๋วทำผิดแต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเฉินเฟิง เธอคงให้โอกาสหยางเทียนกั๋วอีกสักครั้ง แต่ว่าความผิดของหยางเทียนกั๋วมันมาข้องเกี่ยวกับเฉินเฟิง เธอไม่สามารถให้โอกาสอันน้อยนิดกับหยางเทียนกั๋วได้เลย
หูเซอร์หยวนรีบเบนสายตามาทางหวางเต๋อฟา หวางเต๋อฟารีบเปิดปาก “ถ้างั้นประธานหูเป็นเพื่อนกับท่านนี้ งั้นฉันก็จะเอาห้องเลี้ยงรับรองชั้นหนึ่งยกคืนให้”
หวางเต๋อฟาเริ่มอ่อนข้อให้
เขาไม่สามารถไม่ยอมอ่อนข้อ การที่หูเซอร์หยวนทำเช่นนั้นกับหยางเทียนกั๋วก็สามารถดูออกว่า หูเซอร์หยวนกับเฉินเฟิง ไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดา ในเวลานั้นถ้าเขาไม่ยอมโอนอ่อนไปด้วย เกรงว่าหูเซอร์หยวนก็คงไม่ไว้หน้าเขาเช่นกัน
“ไม่ต้องหรอก”
หูเซอร์หยวนพูดอย่างนิ่งๆ
ไม่ต้องหรอก? หวางเต๋อฟาตะลึง ความหมายของหูเซอร์หยวน หรือว่าเธอตกลงจะมายืนทางฝั่งเขากันแน่?
ถึงแม้ว่าจะยินดีอยู่ในใจ แต่ว่าหวางเต๋อฟาไม่ได้แสดงท่าทีออกมา “ประธานหู ยกห้องจัดเลี้ยงชั้นหนึ่งให้เขาไปเถอะ เพราะยังไงท่านนี้ก็พาคนมาตั้งมากมาย….”
“ประธานหวาง ที่ฉันพูดคุณยังไม่เข้าใจเหรอ” หูเซอร์หยวนพูดตัดบทอย่างไม่เกรงใจ หวางเต๋อฟา “ที่ฉันบอกว่าไม่ต้องแล้ว หมายความว่าคุณไสหัวไปซะ”
“ฉันไสหัวไป?!” หวางเต๋อฟาเบิกตาโต นัยน์ตาฉายความไม่อยากจะเชื่อออกมา
“ใช่ คุณไสหัวไป โรงแรมจินหม่าไม่ต้อนรับคุณ” หูเซอร์หยวนมองหวางเต๋อฟาอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้น “ตอนนี้ รีบไป เดี๋ยวนี้ พาคนในตระกูลของคุณไสหัวไปจากโรงแรมจินหม่าซะ!”
เย็นยะเยือก เฉียบขาด!
ไม่มีการไว้หน้าหวางเต๋อฟาเลยสักนิด!
“ประธานหู คุณไม่คิดว่าที่คุณทำแบบนี้มันเกินไปไหม?” หวางเต๋อฟาหน้าเริ่มแดง ยังไงเขาก็เป็นรองประธานกรรมการบริษัทที่จัดอันดับหนึ่งในห้าร้อยของโลกในด้านธุรกิจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ในตอนนี้ หูเซอร์หยวนดันให้เขาพาคนในตระกูลไสหัวออกไป
ถ้าวันนี้เขาไสหัวออกไปจากที่นี่จริงๆ งั้นญาติสนิทมิตรสหายที่มากันมากมายในวันนี้จะเห็นเขาเป็นตัวอะไร?
“เกินไปเหรอ?” หูเซอร์หยวนแสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา “ฉันทำเกินไปจริง แล้วคุณจะมีปัญญาจัดการใช่ไหม?”
“แก…”
หวางเต๋อฟาโมโหจนพูดไม่ออก ถ้าคนอื่นกล้าพูดกับเขาอย่างนี้ เขาก็คงไม่กล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้ ทว่านี่มันหูเซอร์หยวนเลยนะ?
เป็นลูกสาวคนเดียวของหูจิงไห่อดีตผู้ที่ร่ำรวยมั่งคั่งเป็นอันดับต้นๆ ของซูโจว และเป็นว่าที่ผู้สืบทอดของตระกูลหู ฐานะเช่นนี้ เขาไม่สามารถรังแกได้ วันนี้เขากล้ามาสร้างเรื่องให้หูเซอร์หยวนวุ่นวาย พรุ่งนี้เขาคงโดนเตะออกจากฝ่ายกรรมการบริษัทจงเสิ้ง
“ไล่ญาติๆ ของพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้” หูเซอร์หยวนขี้เกียจพูดเปลืองน้ำลายกับหวางเต๋อฟา แต่รีบออกคำสั่งทันที
บรรดาบอดี้การ์ดที่ติดตามอยู่ต่างไม่กล้าพูดขัดสักคำ พร้อมทั้งรีบเชิญหวางเต๋อฟาออกไปทันที
“ขอโทษเป็นอย่างสูงจริงๆ พี่เฟิง ที่ทำเรื่องแบบนี้” หลังจากที่หวางเต๋อฟาพาบรรดาญาติพี่น้องออกไปจากโรงแรมจินหม่าแล้ว หูเซอร์หยวนก็มายืนตรงหน้าเฉินเฟิง
“ไม่เป็นไร” เฉินเฟิงโบกมือไปมา ถ้ารู้ว่าธุรกิจโรงแรมจินหม่าเป็นของหูเซอร์หยวน เขาคงไม่ต้องทำเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ โทรศัพท์ไปหาหูเซอร์หยวนตรงๆ เลย ทุกอย่างก็จัดการได้อย่างครบครัน
“อื้อ” หูเซอร์หยวนพยักหน้ารับคำ พร้อมทั้งมองมายังเสี้ยเมิ่งเหยาและคนของหลินเซียวเสียนแล้วเอ่ยว่า “พี่เฟิง ห้องจัดเลี้ยงตอนนี้ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว คุณกับพี่สะใภ้และคุณตาสามารถเข้าไปได้แล้ว”
“รบกวนคุณเลย เซอร์หยวน”
“ไม่รบกวนเลย” หูเซอร์หยวนยิ้มให้ ความจริงแล้วพูดกันตามหลักการ โรงแรมจินหม่าน่าจะเป็นธุรกิจของเฉินเฟิง แต่ว่าในปีนั้นซูจ้าวชิงเอาโรงแรมจินหม่า ยกให้ตระกูลหูคอยดูแลเท่านั้น ขอแค่เฉินเฟิงคิดได้ เขาสามารถเรียกโรงแรมจินหม่าคืนได้ทั้งหมด
หลังจากที่จัดเตรียมพร้อมทั้งต้อนรับเสร็จเรียบร้อยแล้ว หูเซอร์หยวนก็หันหลังกลับไป เพราะว่าเสี้ยเมิ่งเหยายังอยู่ที่นี่ ถ้าเธอกับเฉินเฟิงทำตัวสนิทสนมเกินงาม มันยากที่จะทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาคิดเยอะ
ถึงแม้ว่าหูเซอร์หยวนจะรักษาระยะห่างกับเฉินเฟิง แต่การแสดงออกของเธอ มันทำให้คนในตระกูลหลินต่างคิดเพ้อเจ้อไปกันใหญ่
คนแรกที่จุดประเด็น แน่นอนว่าต้องเป็นหลินโย่ว “พี่เขย แกกับประธานหูคนนั้นรู้จักกันยังไง?”
ก่อนหน้านี้แววตาของหลินโย่วที่ตอนมองเฉินเฟิง เต็มไปด้วยการดูถูก ว่าตอนนี้ แววตาของหลินโย่วมีแต่ความอิจฉาริษยา
ไม่ผิดหรอก อิจฉาริษยา
ในเวลานั้นเอง หลินโย่วอิจฉาเฉินเฟิงจริงๆ ความจริงแล้วเมื่อเห็นหูเซอร์หยวนแสดงความมีน้ำใจให้เฉินเฟิงแล้ว เขาก็ไม่สามารถควบคุมตนเองไว้ได้
หูเซอร์หยวนหน้าตาสะสวย จัดอยู่ในอันดับต้น อีกอย่างเพราะว่าเกิดในครอบครัวผู้รากมากดี เพราะงั้นท่าทีของเธอช่างงดงามที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีนางเอกตัวรอง มายืนต่อหน้าเธอ ก็ยังรู้สึกไม่สามารถเทียบความสวยติดเลย
ทว่าหญิงสาวที่เลิศหรูคนนี้ กับแสดงท่าทีสนิทสนมกับไอ้ลูกเขยที่แต่เข้าบ้านอย่างเฉินเฟิงเนี่ยนะ แล้วจะให้เขาไม่อิจฉาได้ยังไง?
“เป็นเพื่อนกัน” เฉินเฟิงตอบ
“เป็นเพื่อนกัน? เพื่อนกันแล้วทำไมดีกับแกยังงี้? ถึงขั้นยอมทำผิดกับหวางเต๋อฟาเพื่อแกเลยเหรอ?” หลินโย่วทำหน้าสงสัย
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่แก” เฉินเฟิงยิ้มให้ การที่หลินโย่วตั้งป้อมเป็นศัตรูกับเขา เขาย่อมมองออก ทว่าเขาไม่ใส่ใจกับเด็กน้อยที่ดูดนิ้วหัวแม่โป้งอย่างหลินโย่ว
“คุณตา พวกเราเข้าไปข้างในเถอะ” เฉินเฟิงหันกลับมามองทางหลินเซียวเสียน
“อืม เข้าไปกัน” หลินเซียวเสียนมองเฉินเฟิงอยู่แวบหนึ่ง และก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เฉินเฟิงทำไว้เมื่อครู่ และก็ไม่เอ่ยปากถามความสัมพันธ์กับหูเซอร์หยวนด้วยซ้ำ ราวกับ ไม่ใส่ใจเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ด้วยซ้ำ
หลินเสวียนประคองหลินเซียวเสียนขึ้นตึก เซ่หยูนฟางกับหลินหย่าเดินตามหลัง
เวลานั้นเอง หลินหลันก็เริ่มพูดกระแนะกระแหนขึ้น “เซ่หยูนฟาง แกจะขึ้นไปข้างบนทำไม? ก่อนหน้านี้แกว่าจะไปไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้ไม่ไปอีกล่ะ?”
เซ่หยูนฟางหยุดเท้าทันที ใบหน้าแดงแจ๋ขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะเดาได้ว่าหลินหลันจงใจเยอะเย้ยเธอในเวลานี้ ทว่าเมื่อหลินหลันพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เธอก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความลำบากใจไปได้
รู้ตั้งแต่แรก เมื่อครู่เธอไม่น่าไปเยาะเย้ยถากถางเฉินเฟิงเลย
“แม่ แม่ก็หยุดพูดสักทีเถอะ”
เสี้ยเมิ่งเหยาเลิกคิ้วให้หลินหลัน วันนี้หลินหลัน คงสมใจที่สุดจนลืมการรักษาภาพพจน์คำนี้ไปแล้ว
หรือว่า ไม่ใช่แค่วันนี้เพียงวันเดียว ตั้งแต่ที่รู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินเฟิง หลินหลันก็ได้ใจจนลืมรักษาภาพพจน์ไปทุกครั้ง
“ได้สิ เข้าไปกันเถอะ”
เสี้ยเมิ่งเหยาพูดออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ตามหลินเซียวเสียนไป
หลินหลันก็เดินตามหลังเสี้ยเมิ่งเหยาติดๆ ไม่กล้าเอ่ยอะไรขึ้นมาอีก
ถึงแม้ว่าหูเซอร์หยวนจะยกห้องจัดเลี้ยงทั้งสามชั้นของโรงแรมจินหม่าให้หลินเซียวเสียนแล้ว แต่หลินเซียวเสียนเชิญคนมางานไม่เยอะ ดังนั้นเลยของใช้แค่ห้องจัดเลี้ยงชั้นเดียวพอ
ในงานฉลองวันเกิด มีคนในตระกูลหลินจำนวนไม่น้อยมาทางเสี้ยเมิ่งเหยาและเฉินเฟิง เป้าหมายของคนเหล่านี้ก็เหมือนกับเซ่หยูนฟาง ต้องการยัดลูกหลานของตนเองเข้าไปทำงานในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป
การจัดการกับเรื่องนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาได้แต่–ปฏิเสธทุกกรณี
และก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มสนใจในตัวเฉินเฟิง พร้อมทั้งเตรียมซักไซ้ถามความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงกับหูเซอร์หยวน เฉินเฟิงได้แต่หัวเราะให้เป็นคำตอบแทน