ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 492
บทที่ 492 ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
คนที่คิดจะส่งเหล้าให้เสี้ยเมิ่งเหยา นอกจากฉินหมิงแล้วยังมีอีกไม่น้อยเลย
แต่พอเห็นเหล้าที่ฉินหมิงให้แล้ว คนพวกนั้นก็พากันเรียกขวดเหล้าตัวเองกลับ
ผู้หญิงที่ฉินหมิงสนใจ พวกเขา…ไม่กล้าแย่ง!
“ทางด้านตระกูลเฉินตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ?” หลังจากสั่งอาหารเสร็จ เสี้ยเมิ่งเหยาวางเมนูลง และถามเสียงเรียบ
“ทางด้านตระกูลเฉิน ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร” เฉินเฟิงชะงักไปหน่อย ก่อนพูดยิ้มๆ สำหรับตระกูลเฉิน เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้รู้อะไรมากนัก ตอนนี้ที่เสี้ยเมิ่งเหยาถามน่าจะเป็นปัญหาเรื่องความปลอดภัยของเขา ลองเปลี่ยนคำพูดดู ก็คือตระกูลเฉินจะลงมือกับเขาหรือเปล่า
เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าเบาๆก่อนว่า: “แม่ฉันคุยเรื่องแต่งงานใหม่อีกครั้งกับคุณไหม?”
“พูดแล้ว”
“อืม คุณไม่ต้องใส่ใจคำพูดเธอมากหรอก เรื่องแต่งงานใหม่อีกครั้ง…ยังไม่รีบ” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดเสียงอ่อนโยน ก่อนนี้ฉินเสวี่ยนหรัวบอกเล่าแจกแจงผลประโยชน์ที่จะได้และเสียให้เธอฟังแล้ว ก่อนหน้าที่ปัญหาการข่มขู่ของตระกูลเฉินยังไม่หมดไป การแต่งงานใหม่อีกครั้งของเธอกับเฉินเฟิงก็เป็นแค่ภาระของเขาเท่านั้น
ตระกูลเฉินอาจจะหาช่องว่างจากตัวเธอได้
ไม่รีบหรอ?
เฉินเฟิงยิ้มเศร้า เขาจะไม่รีบได้ยังไง ไม่คืนดีกับเสี้ยเมิ่งเหยาหนึ่งวัน อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
เรื่องที่เขาทำลายเฉินอิงโรไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ตระกูลเฉินไม่ช้าก็เร็วต้องมาหาเรื่องเขาแน่ ตอนนื้ที่ยังทนเขาได้ ก็คงเป็นเพราะเฉินเจิ้นหนานยังไม่ออกจากฌาน ถ้าเฉินเจิ้นหนานออกจากฌานเมื่อไหร่ เรื่องที่เขาทำลายเฉินอิงโรจะต้องถูกยกขึ้นมาพูดแน่
“จริงสิ คุณเป็นอะไรกับน้าฉินน่ะ?” เสี้ยเมิ่งเหยาถามขึ้นเหมือนนึกขึ้นมาได้
“เธอเป็นแม่เลี้ยงผม” เฉินเฟิงพูดตามความจริง น้าฉินของเสี้ยเมิ่งเหยาคือฉินเสวี่ยนหรัว
“ทำไมถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?” เฉินเฟิงถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่แปลกใจเท่านั้นเอง” เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัว จากนั้นเธอบอกอีกว่า: “น้าฉินเธอดีกับฉันมาก สอนฉันเรื่องธุรกิจมากมาย แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจความสัมพันธ์ของคุณกับเธอ…”
“เธอเชื่อใจได้ในตอนนี้” เหมือนจะรู้ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาจะพูดอะไร เฉินเฟิงตัดบทยิ้มๆ ความของเสี้ยเมิ่งเหยามันง่ายมาก เธอไม่แน่ใจว่าฉินเสวี่ยนหรัวกับเฉินเฟิงเป็นศัตรูหรือมิตรกันแน่ เลยไม่แน่ใจว่าจะอยู่กับฉินเสวี่ยนหรัวยังไงดี
แต่ว่าก็ตามที่เฉินเฟิงบอก ตอนนี้ฉินเสวี่ยนหรัวเชื่อใจได้ เพราะระหว่างพวกเขามีศัตรูคนเดียวกัน—เฉินโป๋ยุง!
“เดิมฉินเสวี่ยนหรัวมีลูกชายคนหนึ่ง พูดตามจริงคือ ลูกชายเธอเป็นน้องชายผม…” เฉินเฟิงถอนหายใจออกมา เรื่องนี้เดิมเขาไม่อยากพูดเลย แต่มาวันนี้ในเมื่อเสี้ยเมิ่งเหยาถาม เขาก็จะให้เธอรู้
ที่จริงเรื่องมันง่ายมาก เดิมฉินเสวี่ยนหรัวมีลูกชายคนหนึ่ง แต่ว่าอยู่ไม่ถึงห้าขวบก็ตายแล้ว เพราะอุบัติเหตุ
ตระกูลเฉินบอกแบบนี้กับคนภายนอก
แต่ภายในตระกูลเฉิน กลับมีคนไม่น้อยที่รู้สึกว่า การตายของลูกชายฉินเสวี่ยนหรัวน่าจะเกี่ยวข้องกับทางฝั่งเฉินโป๋ยุง
ตัวฉินเสวี่ยนหรัวเองก็เคยสืบ ถึงจะไม่มีเบาะแสอะไรเด่นชัด แต่ฝั่งเฉินโป๋ยุงดูน่าสงสัยอย่างมาก ดังนั้นฉินเสวี่ยนหรัวเลยเพ่งเล็งไปที่เฉินโป๋ยุง
แม่คนหนึ่งที่สูญเสียลูกชาย ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอก
ตั้งแต่นั้นมาฉินเสวี่ยนหรัวก็มีความคิดจะตายด้วยกันกับเฉินโป๋ยุง ดังนั้นเธอเลยก้าวออกมาแอบช่วยเฉินเฟิงต่อต้านเฉินโป๋ยุงหลังจากที่เฉินเฟิงทำลายเฉินอิงโร
ส่วนความเป็นไปได้ว่าฉินเสวี่ยนหรัวจะแกล้งทำ…
เฉินเฟิงก็เคยคิด แต่สุดท้ายก็ตัดไปเอง เขาไม่รู้สึกว่า ฉินเสวี่ยนหรัวจะแสดงละครได้ตั้งหลายปีขนาดนี้
“ที่แท้น้าฉินมีอดีตแบบนี้…” เสี้ยเมิ่งเหยาเศร้าเล็กน้อย ปกติภาพฉินเสวี่ยนหรัวในสายตาเธอจะเป็นผู้หญิงแกร่ง แต่ไม่คิดว่า เบื้องหลังผู้หญิงแกร่งจะมีอดีตที่น่าปวดใจแบบนี้
“ทางด้านฉินเสวี่ยน คุณอยากอยู่กับเธอยังไงก็อยู่ไปแบบนั้นแหละ…”
“คุณผู้หญิง สวัสดีค่ะ”
ในตอนนี้เองพนักงานสาวสวยคนหนึ่งยกถาดเข้ามา บนถาดวางเหล้า Lafiteอยู่หนึ่งขวด: “คุณชายฉินเชิญคุณดื่มค่ะ”
ระหว่างพูด พนักงานสาวสวยก็หยิบเหล้า Lafiteที่ราคาสามหมื่นกว่าลงจากถาดมาวางไว้ที่โต๊ะ
“ส่งดริ๊ง?” เสี้ยเมิ่งเหยากับเฉินเฟิงอึ้งก่อน และมองตามสายตาของพนักงานสาวสวยไป ก็เจอชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาใส่ชุดอาร์มานี่ส่งยิ้มพลางผงกหัวให้ ด้านข้างชายหนุ่มยังมีชายหนุ่มหญิงสาวที่ใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับหกเจ็ดคนอยู่รายล้อม ตอนนี้เอง ชายหญิงพวกนั้นต่างพากันมายิ้มให้เสี้ยเมิ่งเหยากับเฉินเฟิง
“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้จักเขา ช่วยยกกลับไปด้วยค่ะ” ไม่มีลังเลสักนิด เสี้ยเมิ่งเหยาปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่ายทันที
“คือ….”
พนักงานสาวสวยขมวดคิ้ว: “คุณผู้หญิงท่านี้ นานๆคุณชายฉินจะใจดีแบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาส่งดริ๊งให้ ฉันหวังว่าคุณจะรับไว้นะคะ”
“ฉันจะพูดอีกรอบ ยกเหล้ากลับไป ฉันไม่รู้จักเขา” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
พนักงานสาวสวยกลับยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้น: “คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณอาจจะยังไม่รู้จักฐานะที่แท้จริงของคุณชายฉิน เขาเป็นคุณชายตระกูลฉินซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของจงไห่ ตระกูลฉินคำนี้หมายถึงอะไร คุณน่าจะรู้แก่ใจดีว่า ปกติแล้วมีผู้หญิงมากมายไม่รู้เท่าไหร่พยายามจะประจบคุณชายฉินแต่ไม่มีหนทางเลย”
“วันนี้คุณชายฉินอุตส่าห์ลดตัวลงมาส่งดริ๊งให้คุณ คุณน่าจะภูมิใจนะคะ”
พนักงานสาวสวยขมวดคิ้วมองเสี้ยเมิ่งเหยา ในสายตาเธอแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยานี่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลย คนที่ส่งดริ๊งให้เธอน่ะฉินหมิงนะ!
หนึ่งในบรรดาลูกคนรวยอันดับต้นๆไม่กี่คนของกลุ่มลูกคนรวยของจงไห่ !
ต่อให้ตอนนี้ยังไม่ได้รับสืบทอดตระกูลฉิน มูลค่าทรัพย์สินของฉินหมิงก็เกินหมื่นล้านแล้ว
หน้าประตูร้านอาหาร Bugatti Veyron ที่มีมูลค่ากว่ายี่สิบล้านนั่นน่ะ เป็นรถที่ฉินหมิงขับมาวันนี้
ผู้ชายที่หล่อรวยแบบฉินหมิงนี่ เรียกได้ว่าเป็นชายในฝันของสาวๆทั้งหมดก็ว่าได้ แต่เสี้ยเมิ่งเหยากลับกล้าปฏิเสธการเชื้อเชิญของฉินหมิง นี่ไม่เรียกว่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จะเรียกว่าอะไรล่ะ?
“เธอหูหนวกหรือไง?! ฉันบอกให้ยกเหล้ากลับไป!”
เสี้ยเมิ่งเหยาน้ำเสียงเย็นเยียบลงทันที ต่อให้เธอเป็นคนอารมณ์ดีแค่ไหน ก็รับไม่ได้กับท่าทีพนักงานสาวสวยคนนี้
“ยกเหล้ากลับไปเถอะ เธอไม่ชอบดื่มเหล้า” ตอนนี้เฉินเฟิงพูดเสียบเรียบ เมื่อกี้ที่เขาไม่ลุกขึ้นห้ามตอนแรก เพราะตอนนี้เขาไม่ได้เป็นสามีเสี้ยเมิ่งเหยา ดังนั้นถ้าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่แสดงท่าที เขาก็เอ่ยปากไม่ได้
แต่ตอนนี้เสี้ยเมิ่งเหยาแสดงท่าทีแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก
“เธอไม่ชอบดื่มเหล้า?”
พนักงานสาวสวยขมวดคิ้วมองเฉินเฟิง เธอดูไม่ออกว่าเฉินเฟิงเป็นอะไรกับเสี้ยเมิ่งเหยา จะบอกว่าเป็นแฟนกัน ก็ไม่ได้ดูสนิทสนมเหมือนแฟนกัน แต่ถ้าบอกเป็นเพื่อนธรรมดา ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่…
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ไม่อยู่ในขอบเขตที่เธอต้องสนใจ
คนที่ต้องสนใจคือฉินหมิง
ต่อให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริงๆ ฉินหมิงก็มีวิธีแย่งจากเฉินเฟิงมาได้