ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 493
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 493 ฉินเสวี่ยนหรัวเป็นอะไรกับนาย
“คุณผู้ชายท่านนี้ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าคุณผู้หญิงท่านนี้ไม่ชอบดื่มเหล้า? บางทีเธออาจจะแค่ไม่ชอบดื่มเหล้าราคาถูกก็ได้” พนักงานสาวสวยมองเฉินเฟิงอย่างดูถูก ไวน์แดงเหมือนกัน ขวดที่วางบนโต๊ะเฉินเฟิงกับเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นแค่ไวน์แดงธรรมดาราคาแปดร้อยกว่า แต่ไวน์ที่ฉินหมิงส่งให้กลับเป็น Lafite ที่ราคาสามหมื่นกว่า Lafiteของฉินหมิงหนึ่งแก้วราคานำหน้าไวน์ของเฉินเฟิงหลายขวดเลย
“เธอชอบไม่ชอบเหล้าราคาถูกเกี่ยวกับคุณหรอ?” เฉินเฟิงมองหน้าพนักงานสาวสวยนิ่งๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉินหมิงที่ว่าคงให้ค่าคอมมิชชั่นกับสาวสวยคนนี้ไม่น้อย ไม่งั้นเธอคงไม่พยายามขนาดนี้
“กับฉัน? เหอะๆ ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว ฉันแค่รู้สึกว่าคุณผู้หญิงคนนี้ไม่ควรจะดื่มเหล้าราคาถูกแบบนี้ เธอคงจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้” พนักงานสาวสวยยิ้มหยัน เธอเองไม่รู้ว่าเฉินเฟิงเอาหน้าจากไหนมาทนฝืนอยู่เนี่ย ถ้าเป็นเธอเห็นคุณชายมีระดับแบบฉินหมิงมาตามจีบเสี้ยเมิ่งเหยา เธอคงยอมแพ้เลิกจีบเสี้ยเมิ่งเหยาโดยดี และยกเสี้ยเมิ่งเหยาให้ฉินหมิงแน่
พนักงานสาวสวยเบนสายตาไปที่เสี้ยเมิ่งเหยาอีกพลางว่า: “คุณผู้หญิงคะ เอาพอประมาณพอนะคะ ถ้าเล่นตัวอีกจะดูไม่ดีแล้ว…”
“ปึ้ง”
เสี้ยเมิ่งเหยาตบโต๊ะเสียงดังปั้งด้วยสีหน้าเย็นชา เธอลุกขึ้นไล่พนักงานสาวสวยทันที: “ไสหัวไปเลยไป!”
“ว้าว—-“
ตอนนี้เองฉินหมิงที่ยืนมองดูเหตุการณ์ก็ยกแก้วไวน์เดินเข้ามา
บรรยากาศสงบขึ้นทันที
สีหน้าเขาแสดงถึงความกระหยิ่มยิ้มย่อง
ชายหญิงหกเจ็ดคนที่นั่งโต๊ะเดียวกับเขาต่างพากันเดินตามมายิ้มๆ
“คุณชายฉิน แม่สาวน้อยนี่เหมือนจะโกรธแล้วนะ”
“เหอะๆ โกรธ? ล้อเล่นน่า ไม่แน่ในใจจะยิ้มหน้าบานแล้วก็ได้”
“ฮะฮะ ก็จริงนะ ฉันจำได้ครั้งที่แล้วมีเน็ตไอดอลคนหนึ่งเข้าตาคุณชายฉิน ตอนแรกหล่อนก็ทำตัวเหมือนแม่สาวน้อยนี่เหมือนกัน ไล่คุณชายฉินให้ไสหัวไป แต่สุดท้ายกลับยอมอ้าขาให้กับเงินหนึ่งล้านของคุณชายฉิน”
“พวกนายลองเดาสิ ขาแม่สาวน้อยนี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงยอมอ้า?”
“สองล้านล่ะมั้ง แม่สาวน้อยนี่สวยกว่าแม่เน็ตไอดอลคนนั้นมากเลย”
“ไม่แน่ แม่สาวน้อยนี่ถึงจะสวยกว่าเน็ตไอดอลคนนั้นมาก แต่ดูเหมือนไม่เคยเจอโลกกว้างเลยนี่” ชายหนุ่มเจาะหูกับชายหญิงคนอื่นที่ยืนหลังฉินหมิงวิพากษ์วิจารณ์กันเมามันส์ ในสายตาพวกเขา ผู้หญิงก็คือของเล่น แตกต่างกันแค่ตรงที่ บางคนใช้แค่เงินไม่กี่หมื่นก็ยอมอ้าขาแล้ว แต่ของเล่นบางคนต้องใช้หลายแสน หรืออาจจะหลายล้านถึงยอมอ้าขา
ก็เหมือนพนักงานเสิร์ฟสาวสวยตรงหน้า เป็นพวกให้แค่ไม่กี่หมื่นก็ยอมอ้าขาแล้ว
ส่วนเกรดพรีเมี่ยมอย่างเสี้ยเมิ่งเหยา ดูท่าต้องหลายล้านอัพ
“สาวสวยสวัสดีครับ ผมชื่อฉินหมิง ประธานกรรมการเทียนหยู่กรุ๊ป วันนี้บุพเพให้เรามาเจอกัน ไม่ทราบว่าจะพอให้เกียรติดื่มเป็นเพื่อนผมซักหน่อยได้ไหม?”
ฉินหมิงเดินมายืนหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา ยื่นมือตัวเองออกมา เขาแจ้งแค่ชื่อบริษัทตัวเอง ไม่ได้บอกชื่อตระกูลฉิน ที่ไม่บอก เพราะเขาคิดว่า จะแอ้มผู้หญิงอย่างเสี้ยเมิ่งเหยา ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อตระกูลฉินหรอก แค่ชื่อบริษัทก็พอถมถืด
หนึ่งวิ สองวิ สามวิ…
สิบวินาทีผ่านไปแล้ว
เสี้ยเมิ่งเหยายังคงยืนนิ่งมองฉินหมิงด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่ได้ทำหรือพูดอะไรเลย
สีหน้ากระหยิ่มอย่างมั่นใจของฉินหมิงเริ่มค่อยๆหายไป
“คุณชายฉินอุตส่าห์เข้ามาทาบทามเองแล้ว อย่าเล่นตัวไปเลยน่า ถ้าทำคุณชายฉินโกรธขึ้นมา คุณนั่นแหละจะเดือดร้อนนะ!” พนักงานสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆทนดูต่อไปไม่ไหว ตะคอกเสียงแทรกขึ้นมา
“ต้องอ่อนโยนกับสาวสวยสิ”
ฉินหมิงยิ้มบาง แกล้งโบกมืออย่างไม่สนใจ และยกแก้วไวน์หมุนหันไปมองเฉินเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ:
“คุณผู้ชายคนนี้ สาวสวยคนนี้…เป็นอะไรกับนายหรอ?”
“เมีย” เฉินเฟิงตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“เมีย?” ฉินหมิงยิ้มบาง “นับตั้งแต่นี้ไปเธอไม่ใช่แล้วล่ะ”
“หือ?” เฉินเฟิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
ฉินหมิงก้าวเท้าขึ้นหน้าหนึ่งก้าวมายืนตรงหน้าเฉินเฟิง พูดยิ้มๆว่า: “ไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง? ฉันชอบผู้หญิงของนาย นับแต่นี้ไปเธอไม่ใช่เมียนายแล้ว”
“ฮะฮะฮะ คุณชายฉินนี่กร่างไม่เปลี่ยนเลยนะ นี่ไปบอกให้ไอ้กระจอกยกเมียให้ดื้อๆเลย”
“ไม่กร่างจะเรียกคุณชายฉินหรอไง?”
“พวกนายว่า เจ้ากระจอกนี่จะยอมยกเมียตัวเองให้ไหม?”
“ฉันเดานะ ถ้าเพียงมันไม่ตาบอด น่าจะมองออกว่า กุญแจรถที่เอวคุณชายฉินน่ะ เป็นรุ่นลิมิเต็ทของ Bugatti Veyronนะ…”
พวกเพื่อนขยะของฉินหมิงหัวเราะร่าอย่างไม่เกรงใจใคร ไม่เห็นเฉินเฟิงในสายตาสักนิด
นอกจากคนพวกนี้แล้ว พนักงานสาวสวยและแขกหลายคนในห้องอาหารยังพากันมองเฉินเฟิงอย่างนึกสนุก ประหนึ่งสงสัยว่าเฉินเฟิงจะมีปฏิกิริยายังไง
“เมื่อกี้ได้ยินเธอพูดว่า นายเป็นคนตระกูลฉิน?” เดิมทุกคนคฺดว่าเฉินเฟิงจะตัดสินใจ แต่ไม่คิดว่า เฉินเฟิงตอบไม่ตรงคำถามเอาแบบนี้
ฉินหมิงอึ้งก่อนเล็กน้อย ก่อนยิ้มอย่างเย่อหยิงพลางว่า: “ใช่ ฉันเป็นคนตระกูลฉินจริงๆ”
เฉินเฟิงผงกหัวเล็กน้อย: “ฉินเสวี่ยนหรัวเป็นอะไรกับนาย?”
ฉินเสวี่ยนหรัว?!
ฉินหมิงมีสีหน้าตกใจมาก: “นายรู้จักชื่อน้าเล็กได้ยังไง?!”
“น้าเล็กหรอ…” เฉินเฟิงพึมพำออกมาคำหนึ่ง ตอนได้ยินพนักงานสาวสวยบอกว่าฉินหมิงเป็นคนตระกูลฉิน เขาก็กำลังครุ่นคิดเรื่องความสัมพันธ์ของฉินหมิงกับฉินเสวี่ยนหรัวอยู่ ดูจากอายุของฉินหมิงแล้ว เป็นไปได้มากว่าเขาจะเป็นหลานชายของฉินเสวี่ยนหรัว ดูท่าเขาจะเดาถูกแฮะ
“ฉันถามนายอยู่นะ? นายหูหนวกหรือไง?”
พอเห็นเฉินเฟิงพึมพำกับตัวเอง ไม่ตอบคำถามเขา ฉินหมิงเริ่มไม่พอใจขึ้นมา
เฉินเฟิงยิ้มบางว่า: “ฉันจะเตือนนายนะว่า ให้มีมารยาทกับฉันหน่อย ไม่งั้นน้าเล็กของนายไม่ลงโทษนายสถานเบาแน่”
“น้าเล็กจะลงโทษฉันอย่างหนัก?” ฉินหมิงโกรธจนหัวเราะ เขาไม่รู้ว่าเฉินเฟิงเอาน้ำเสียงอะไรมาพูดคำนี้ มันถือดียังไงคิดว่าน้าเล็กจะไม่ลงโทษเขาสถานเบาเพื่อคนแปลกหน้าอย่างมัน
“ฉันจะถามนายเป็นครั้งสุดท้ายนะว่า นายรู้จักชื่อน้าเล็กของฉันได้ยังไง?” ฉินหมิงถามเสียงเย็น เขาต้องแน่ใจความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงกับฉินเสวี่ยนหรัวก่อน ถึงจะตัดสินใจได้ว่าจะจัดการเฉินเฟิงยังไง
“ฉันกับน้าเล็กนาย ไม่ได้เป็นอะไรกัน” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน?” ฉินหมิงแค่นยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “งั้นนับแต่นี้เป็นต้นไป ผู้หญิงของนายก็จะเป็นของฉันแล้ว!”
ฉินหมิงพูดพลางยื่นมือไปหาเสี้ยเมิ่งเหยา
แต่ยังไม่ทันที่มือเขาจะจับโดนตัวเสี้ยเมิ่งเหยา
“ปึ้ง—-“
มือใหญ่มือหนึ่งคว้าจับที่คอหอยเขา เอาท้ายทอยเขาไปกระแทกแก้วไวน์ดังพลั่ก
ซากขวดแตกกระเด็น ไวน์สาดกระเซ็น ไหลเจิงนองดูสะดุดตา
เฉินเฟิงยังไม่หนำใจ เขาคว้าจับขวดเหล้าอีกขวด
พลั่ก
ฉินหมิงท้ายทอยแตก เลือดสาด
สองมือเขาเกาะโต๊ะ ร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนใช้เวลานาน แท้ที่จริงแล้วตั้งแต่เฉินเฟิงจับคอหอยฉินหมิงจนหัวฉินหมิงแตก รวมกันยังไม่ถึงสองวินาทีเลย
“อ๊า!”
จนกระทั่งฉินหมิงล้มลงพื้นตัวอ่อนยวบ ผู้หญิงหลายคนในร้านอาหารถึงร้องกรี๊ดขึ้นมา
พวกผู้ชายพากันสีหน้าเปลี่ยน
“หาเรื่องตาย!”