ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 498
บทที่ 498 หางานให้ทำหน่อย
“ขอบคุณครับคุณเฉิน ขอบคุณครับคุณเฉิน…”
หลังจากขอบคุณอย่างนอบน้อม หลี่อี้ก็ให้ลูกน้องหามหลี่หงออกจากห้องพักคนไข้
พอออกจากห้อง สายตาหลี่อี้ส่อประกายเคียดแค้นอย่างหนักและความอาฆาตมาดร้ายที่ไม่เคยมีก่อนเลย
“พี่…”
หลี่หงที่นอนอยู่ที่หามคนไข้เปิดปากอย่างทนไม่ไหว แต่โดนสายตาเย็นชาหลี่อี้ตัดบทว่า: “ออกไปก่อนค่อยพูด”
หลายนาทีผ่านไป คนทั้งหมดก็พากันออกมานอกโรงพยาบาล
“พี่ ไอ้ขยะนั่นมันใครกัน?” พอออกจากโรงพยาบาล หลี่หงทนไม่ไหวถามออกมาทันที ในสายตาเธอ หลี่อี้เป็นยอดมนุษย์ที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แม้แต่จางจื้อเหวสามีเธอที่เป็นคนกระจอก หลี่อี้ยังพยุงขึ้นมาได้ แต่วันนี้ พออยู่ต่อหน้าเฉินเฟิง หลี่อี้กลับดูต้องต่ำเหมือนหมาตัวหนึ่ง
“เขาเป็นคนตระกูลเฉิน” หลี่อี้กัดฟันยอก สีหน้าเคร่งขรึมขมวดมุ่นแทบจะบีบน้ำออกมาได้
“ตระกูลเฉิน?” หลี่หงมองหลี่อี้อย่างสงสัย: “อำนาจตระกูลเฉินใหญ่มากเลยหรอ? ใหญ่เท่าตระกูลคุณชายซงเต่าหรอ?”
“ตระกูลคุณชายซงเต่า….” หลี่อี้สายตาหวั่นไหว: “ตระกูลคุณชายซงเต่าไม่ได้ด้อยกว่าตระกูลเฉินเท่าไหร่ แต่ฐานตระกูลคุณชายซงเต่าอยู่ที่ญี่ปุ่น ที่นี่คือหวาเซี่ย…”
ไกลเกินไป
นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่วันนี้หลี่อี้ไม่ได้ไปขอร้องให้ซงเต่าเฟิงจัดการ
แน่นอน นอกจากไกลเกินไปแล้ว ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งคือ ซงเต่าเฟิงไม่แน่ว่าจะยอมเป็นศัตรูกับเฉินเฟิงเพื่อเขา
เขาเป็นแค่หมาตัวหนึ่งของซงเต่าเฟิง ซงเต่าเฟิงไม่มีทางยอมเป็นศัตรูกับตระกูลเฉินเพื่อหมาตัวหนึ่งแน่
หลังสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่ง หลี่อี้หยิบมือถือออกมาโทรหาซงเต่าเฟิง
“คุณชายซงเต่า ฐานะของเฉินเฟิงตรวจสอบได้แล้วครับ”
“เฉินเฟิงคุง? เขาเป็นใคร?” ซงเต่าเฟิงเริ่มสนใจ
“เขาเป็นคนตระกูลเฉินแห่งยันเจียง”
“ตระกูลเฉินแห่งยันเจียง?!” ซงเต่าเฟิงน้ำเสียงดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด ผ่านไปสักพักถึงได้ยินเขาถามอย่างไม่แน่ใจว่า “นายบอกว่าเขาเป็นคนตระกูลเฉินแห่งยันเจียง?!”
“ใช่ครับ”
“นายแน่ใจ?” ซงเต่าเฟิงยังไม่กล้าจะเชื่อ
“แน่ใจครับ เมื่อกี้ผมเจอเขาที่โรงพยาบาล…” หลี่อี้เล่าเรื่องราวออกมาโดยละเอียด และไม่ได้ปิดบังอะไร
“นายบอกว่า เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีก็จัดการลูกน้องยี่สิบกว่าคนได้?”
ซงเต่าเฟิงถาม
“อืม เป็นไปได้มากว่าเขาจะเป็นจอมยุทธ์” หลี่อี้พูดเสียงขรึม วันนี้คนที่เขายืมจากซงเต่าเฟิงมาก เป็นนักดาบญี่ปุ่น แต่เพราะฐานะของเฉินเฟิง นักดาบคนนั้นเลยไม่มีโอกาสลงมือเลย
“โอเค ฉันรู้ละ” ซงเต่าเฟิงพยักหน้า สายตาดูครุ่นคิด สามารถจัดการคนยี่สิบกว่าคนได้ในเวลาไม่ถึงสิบวินาที นี่ไม่เพียงเป็นแค่จอมยุทธ์ และยังเป็นจอมยุทธ์ที่ไม่ใช่ธรรมดาอีกด้วย!
ฝีมืออย่างน้อยคงระดับต้นอ้านจิ้งแน่!
แต่ว่าถ้าเฉินเฟิงเป็นลูกหลานตระกูลเฉิน จะเป็นระดับต้นอ้านจิ้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ข่าวนี้อย่าพึ่งให้คนอื่นรู้” ซงเต่าเฟิงกำชับอีกคำ เขาต้องรีบแจ้งข่าวนี้ให้ผู้รับชอบสมาคมการค้าเชียสุ่ย ถ้าเฉินเฟิงเป็นคนตระกูลเฉินจริง งั้นหลายวันก่อนที่เขาปรากฏตัวที่คฤหาสน์ฉู่ เป็นไปได้มากว่าจะมาด้วยเรื่องการประลองของสมาคมการค้าเชียสุ่ยกับสมาคมการค้าจงไห่…
“ควรจะให้เจ้านั่นรับผิดชอบค่ายาค่ารักษาซะหน่อยนะ” พอหลี่อี้ออกไป หลินหลันพูดอย่างหัวเสีย เมื่อกี้เธอมัวแต่จะแก้แค้น ลืมไถเงินหลี่อี้ซะสนิท ดูจากการแต่งตัวของหลี่อี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนรวย ถ้าเธอเสนอให้เขารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล อย่างน้อยน่าจะยักยอกเงินจากมือหลี่อี้มาได้ซักล้านกว่าๆล่ะน่ะ
“พ่อ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” เฉินเฟิงไม่สนใจหลินหลัน เขาเบนสายตามาที่เสี้ยเว่ยกั๋ว เวลาสั้นๆแค่ครึ่งวัน เสี้ยเว่ยกั๋วโดนหมากัด จากนั้นก็โดนคนของหลี่อี้ลากลงมาจากเตียง เรียกได้ว่าโดนทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจเลย
“พ่อไม่เป็นไร” เสี้ยเว่ยกั๋วส่ายหัวบอกว่า: “เสี่ยวเฟิง เราเป็นอะไรกับคนเมื่อกี้หรอ?”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันครับ แค่เจอกันเมื่อหลายวันก่อนเท่านั้นเอง” เฉินเฟิงบอก
“เจอกันแค่ครั้งเดียวหรอ? ทำไมพ่อรู้สึกเหมือนเขากลัวเรามาก?” เสี้ยเว่ยกั๋วยังคงสงสัยอยู่ วินาทีที่หลี่อี้เห็นเฉินเฟิง เหมือนตาเขาหรี่ลง เขาไม่ถามเฉินเฟิงด้วยซ้ำว่าเป็นคนตระกูลเฉินหรือเปล่า เหมือนกลัวเฉินเฟิงมาตั้งแต่เกิดเลย
“เหล่าเสี้ย เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณจะมาพูดอีกทำไม” ในตอนที่เฉินเฟิงกำลังคิดว่าจะอธิบายกับเสี้ยเว่ยกั๋วยังไงดี หลินหลันก็ยิ้มยืนขึ้น สายตากลอกไปมา จากนั้นหลินหลันก็หันมาถามเฉินเฟิงว่า: “เฉินเฟิง เราน่ะหางานให้แม่ทำมั่งสิได้ไหม?”
หางาน?
เฉินเฟิงมองหลินหลันอย่างแปลกใจ ทำไมหลินหลันถึงมีความคิดที่จะทำงานขึ้นมาดื้อๆล่ะ?
“แม่ขอไม่เยอะ เราก็หางานตำแหน่งประธานบริษัทให้แม่ก็พอแล้ว” หลินหลันพูดเรื่อยๆ
เฉินเฟิงยิ้มบาง ตำแหน่งประธานบริษัท? นี่เรียกว่าขอไม่เยอะ?
“หลันหลัน!” เสี้ยเว่ยกั๋วหน้าคว่ำ “พูดซี้ซั้วอะไรน่ะ? มันจะมีประธานบริษัทอะไรมากมายมาให้คุณเป็นน่ะหะ?”
“ทำไมจะไม่มีล่ะ?” หลินหลันมองเสี้ยเว่ยกั๋วอย่างไม่พอใจ: “บริษัทในเครือตระกูลเฉินมากมายขนาดนั้น ให้เฉินเฟิงหาให้ฉันซักบริษัท แล้วยกฉันขึ้นเป็นประธานก็ได้แล้วนี่”
หลินหลันคิดง่ายมาก คือ จะหาผลประโยชน์จากตัวเฉินเฟิง
ก่อนตัดขาดความสัมพันธ์กับเฉินเฟิง เธอต้องหาผลประโยชน์เข้าตัวให้ได้มากพอ เพื่อชดเชยสิ่งที่เธอเสียไปตลอดสามปีมานี้
“เป็นยังไง เฉินเฟิง?”
“ไม่ยังไงครับ” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ หลินหลันคิดอะไรเขารู้ดี แต่บริษัทของตระกูลเฉินไม่ใช่อะไรที่หลินหลันอยากเข้าก็จะเข้าได้ แน่นอน ต่อให้เขาจัดการได้ เขาก็ไม่ยอมให้คนอย่างหลินหลันเข้าไปทำงานในบริษัทตระกูลเฉินหรอก
“งก” หลินหลันเบ้ปาก เฉินเฟิงปฏิเสธออกมาตรงๆแบบนี้ค่อนข้างเกินความคาดหมายของเธอ แต่จะให้เธอยอมแพ้เลยตอนนี้ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ตกเย็นเฉินเฟิงออกจากโรงพยาบาล เดิมคิดจะกลับไปที่วิลล่าของTianshan Living Area แต่กลับได้รับสายจากสือโพ่จุน
“เสี่ยวเฟิง ตอนนี้อยู่ไหน?” ปลายสายได้ยินเสียงสือโพ่จุนลอยมา
“อยู่ที่โรงพยาบาลหยินหมินครับ”
“โรงพยาบาลหยินหมิน? นายไปทำอะไรนี่นั่น?” สือโพ่จุนถามอย่างแปลกใจ
“พ่อตาแม่ยายผมเกิดเรื่อง…” เฉินเฟิงยิ้มขืนอธิบาย
“หลี่อี้? หมารับใช้เจ้าซงเต่าเฟิงหรอ?” สือโพ่จุนขมวดคิ้วถาม เขาเหมือนเคยได้ยินชื่อหลี่อี้จากฝ่ายสืบสวนของสหพันธ์สงคราม
“ใช่” เฉินเฟิงพยักหน้า สือโพ่จุนรู้เรื่องหลี่อี้มันธรรมดามาก จอมยุทธ์ต่างชาติอย่างซงเต่าเฟิง สหพันธ์สงครามน่าจะทำการตรวจสอบมานานแล้ว ตอนตรวจสอบซงเต่าเฟิงเลยตรวจสอบหลี่อี้ไปด้วย มันเป็นเรื่องปกติ
“เหอะ คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หลังจากการประลองครั้งนี้ ฉันจะจัดการมันให้หนักเลย!” สายตาสือโพ่จุนฉายแววหมายมาด คนที่เขาเกลียดที่สุดคือพวกหมารับใช้คลั่งไคล้คนต่างชาติอย่างหลี่อี้นี่แหละ ซงเต่าเฟิงครั้งนี้มาหวาเซี่ย หลี่อี้คอยแอบช่วยซงเต่าเฟิงลับๆหลายเรื่อง
หลังการประลอง สหพันธ์สงครามต้องไปจัดการหลี่อี้แน่!
คลั่งไคล้ต่างชาติได้ แต่ทำเรื่องขายผลประโยชน์ของหวาเซี่ยน่ะไม่ได้เด็ดขาด!