ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 521
บทที่ 521 จางเทียนเซอขึ้นเวที
“ซือหยวน คุณเป็นอะไรหรอ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” พอเห็นหวางซือหยวนสีหน้าไม่สู้ดี หลี่สื้อผิงอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่เกี่ยวกับคุณ” หวางซือหยวนมองหลี่สื้อผิงอย่างเย็นชา ไม่ยิ้มแย้มให้สักนิด
พอเห็นฉากนี้ หวางหงอี้กับเพิ้งเย้นฟางแอบสบตากัน และต่างเห็นความสงสัยในดวงตาอีกฝ่าย มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างหวางซือหยวนและหลี่สื้อผิงกันนี่?
หลายวันนี้พวกเขาสังเกตเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ดูผิดปกติ
โดนหวางซือหยวนมีท่าทีเย็นชาใส่ หลี่สื้อผิงได้แต่ยิ้มแหย ไม่ได้โกรธอะไร
“แค่กๆ การประลองเริ่มขึ้นแล้ว ดูการประลองกันเถอะ” ตอนนี้เองหวางหงอี้กระแอมเสียงทำลายความกระอักกระอ่วนขึ้น
“ใช่ ดูการประลอง ดูการประลอง” เพิ้งเย้นฟางร่วมสนับสนุน
จากนั้นสายตาของทุกคนก็พุ่งไปที่เวที
ที่สนามแข่ง จายเถิงจวั่นจู้กำลังเอามือไขว้หลัง สายตามองไปทางจอมยุทธ์ฝั่งสมาคมการค้าจงไห่อย่างท้าทาย
แถมจางเทียนเซอที่จะขึ้นเวทีวันนี้ยังอยู่ในกลุ่มจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าจงไห่ด้วย
“ศิษย์พี่จาง สู้ๆ!” จอมยุทธ์มากมายของสมาคมการค้าจงไห่พากันร้องเชียร์จางเทียนเซอ จางเทียนเซอเป็นยอดฝีมืออันดับสองของสิบจอมยุทธ์ที่สมาคมการค้าจงไห่คัดสรรมา ถ้าวันนี้เขาเอาชนะจายเถิงจวั่นจู้ได้ สมาคมการค้าจงไห่ก็จะยืดหน้าได้อีกมาก การพ่ายแพ้สองครั้งติดก่อนหน้านี้ก็จะถือว่าไม่เป็นไร
จางเทียนเซอสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ได้พูดอะไร
ต้องยอมรับจริงๆว่า เขารู้สึกกดดันมาก
ตอนนี้ฉู่ยี่เฟยเดินเข้ามา: “เทียนเซอ อีกเดี๋ยวขึ้นเวทีอย่าตื่นเต้นเด็ดขาดนะ ทำให้เต็มที่ก็พอแล้ว”
“ยังไงซะนายเป็นศิษย์ก้นกุฎิของอาจารย์ ได้รับการสืบทอดวิชาทั้งหมดจากอาจารย์ ถ้านายทำตามปกติ เจ้าจายเถิงจวั่นจู้นั่นไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของนายแน่”
ฉู่ยี่เฟยคาดหวังกับจางเทียนเซอมาก
ตอนนี้เขาก็จำเป็นต้องคาดหวังกับจางเทียนเซอ
เพราะจางเทียนเซอเป็นยอดฝีมืออันดับสองเบื้องหน้าของสมาคมการค้าจงไห่ ถ้าแม้แต่จางเทียนเซอยังแพ้ งั้นการประลองครั้งนี้ของสมาคมการค้าจงไห่ต้องหวั่นแล้วจริงๆล่ะ
“พี่ฉู่วางใจเถอะ การประลองนี้ผมมีแต่ชนะ รับรองว่าไม่แพ้เด็ดขาด!”
จางเทียนเซอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นเวที ความอยากเอาชนะพลุ่งพล่านในแววตา!
พอเห็นจางเทียนเซอที่แววเอาชนะพลุ่งพล่าน จายเถิงจวั่นจู้เก็บความดูเบาไปและเปลี่ยนเป็นความสงสัยแรงกล้า
“นายเก่งมาก” จายเถิงจวั่นจู้มองจางเทียนเซอ และให้คอมเมนท์ที่หาได้ยากยิ่งออกมา
“นายเองก็ใช่ย่อยเลยนี่” จางเทียนเซอมองจายเถิงจวั่นจู้
จายเถิงจวั่นจู้จู่ๆกลับยิ้มแสยะขึ้นมา: “ถึงนายจะเก่งมาก แต่…ฉันจะเอาชนะนาย เหมือนเอาชนะไอ้ขยะสองตัวก่อนหน้านี้”
“งั้นหรอ? งั้นก็มาสู้กันเลยละกัน” จางเทียนเซอพูดเสียงเรียบ วิธีการปกติของจายเถิงจวั่นจู้คือพูดยั่วยุฝ่ายตรงข้ามก่อน เพื่อให้อีกฝ่ายสับสนโมโห แล้วค่อยลงมือ
จุดนี้เขามองออกนานแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่โดนยั่วยุง่ายๆแน่
พอเห็นจางเทียนเซอไม่โดนยั่วยุง่ายๆเหมือนหูฉี่ซิงกับเห้อซง จายเถิงจวั่นจู้อดผิดหวังไม่ได้
“เริ่มได้” ตอนนี้เองกรรมการวัยกลางคนพูดขึ้น
พอเสียงกรรมการพูดจบ ก็เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นจากสองฝั่งของสนามแข่ง!
จางเทียนเซอกับจายเถิงจวั่นจู้ขยับตัวพร้อมกัน!
ทั้งคู่ไวมาก เร็วจนผู้ชมอยากจะมองร่างพวกเขาให้ชัดยังยาก!
“แกร๊ง”
กระบี่ยาวกับมีดสั้นปะทะกัน เกิดประกายไฟแวบวับ
จายเถิงจวั่นจู้ถอยสองก้าวอย่างไม่ทันตั้งตัว
จางเทียนเซอกลับกระหน่ำรุกต่อ เขาใส่พลังในตัวไปที่กระบี่ กระบี่ยาวตวัดใส่คอหอยจายเถิงจวั่นจู้ประหนึ่งงูมีชีวิต
จายเถิงจวั่นจู้สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย จากนั้นเขาสลับขาเมามันส์ หลบหลีกกระบี่ยาวของจางเทียนเซออย่างหวาดเสียวไปได้
หนึ่งกระบี่ไม่สำเร็จ จางเทียนเซอไม่โกรธ เขาตวัดข้อมือ กระบี่ยาวพุ่งเข้าหวังตัดคอจายเถิงจวั่นจู้ต่อ
จายเถิงจวั่นจู้ยิ้มเย็น มีดสั้นในมือยกขึ้นมาสกัดกระบี่ยาวของจางเทียนเซอ
ทั้งคู่ก็ประมือรับกันไปมาบนเวที กระบี่ยาวของจางเทียนเซอตวัดเฟี้ยวฟ้าว มีดสั้นของจายเถิงจวั่นจู้ว่องไวมีชีวิต
สไตล์การต่อสู้ที่ไม่เหมือนกันสองแบบ แต่กลับให้ความสวยงามกับคนได้
ด้านล่างเวที ในหมู่จอมยุทธ์มากมายของสมาคมการค้าจงไห่ นอกจากหวังเฉียนที่สีหน้าเรียบเฉยแล้ว จอมยุทธ์คนอื่นต่างพากันมีสีหน้าตกตะลึง
สองคนตรงหน้าถึงจะเป็นยอดฝีมืออันดับต้นที่แท้จริงของคนรุ่นใหม่
โดยเฉพาะจางเทียนเซอ เขาพึ่งอายุยี่สิบห้าปี เอาแค่อายุ ก็น้อยกว่าจายเถิงจวั่นจู้อย่างน้อยสามสี่ปีแล้ว
แต่ตอนนี้บนเวที จางเทียนเซอกลับดูเหนือกว่าจายเถิงจวั่นจู้
จากกระบวนท่ากระบี่ของจางเทียนเซอ ความได้เปรียบของพลังภูเขาหลงหู่ถูกแสดงออกมาไม่หยุด
มีดสั้นสองเล่มของจายเถิงจวั่นจู้ถึงจะตวัดไปมาประหนึ่งเต้นรำ แต่พลังในตัวเขากลับไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เท่าของจางเทียนเซอ
จางเทียนเซอเป็นศิษย์ภูเขาหลงหู่ เริ่มฝึกฝนวิชาหลงหู่ที่เป็นวิชาลับสุดยอดของวงการศิลปะการต่อสู้ พลังในตัวเขาไม่เพียงบริสุทธิ์ ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ภายในเวลาสั้นๆ จายเถิงจวั่นจู้ยังสู้กับเขาแบบไม่รู้ใครได้เปรียบเสียเปรียบได้
แต่ถ้าเวลามากขึ้น ความได้เปรียบในพลังของจางเทียนเซอจะยิ่งแสดงออกมา
เทียบกันแล้ว พลังในตัวจายเถิงจวั่นจู้กลับดูด้อยไปถนัดตา
สามนาทีผ่านไป ทั้งคู่ประมือกันไปหลายร้อยกระบวนท่าแล้ว
จางเทียนเซอในตอนนี้ สีหน้าแดงระเรื่อเหมือนเดิม ไม่เห็นแววเหน็ดเหนื่อยเลย
ส่วนสีหน้าของจายเถิงจวั่นจู้กลับเริ่มซีดขาวลงเรื่อยๆ เขาหอบหายใจ ความเร็วของมีดสั้นเริ่มแผ่วลงไปมาก
“ศิษย์พี่จางจะชนะแล้ว” หวู่เหวินเชี่ยนตัดสินอย่างตื่นเต้น สำหรับจายเถิงจวั่นจู้ เธอเกลียดเขามาก ดังนั้นพอเห็นจางเทียนเซอทำท่าจะชนะ เธอถึงดีใจอย่างมาก
“ดูท่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น…” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว พูดเสียงเบาออกมา
ไม่ใช่เขาดูถูกจางเทียนเซอ ฝีมือที่จางเทียนเซอแสดงออกมาในตอนนี้เก่งมากจริงๆ
แต่ฝีมือที่จายเถิงจวั่นจู้แสดงออกมากลับดูแปลกๆ
เทียบกับความกร่างบ้าคลั่งเมื่อวานแล้ว จายเถิงจวั่นจู้ในวันนี้เห็นได้ชัดว่ามีความกลัวอยู่
ตามหลักแล้ว ประลองกับคู่ต่อสู้ที่พลังแก่กล้าแบบจางเทียนเซอนี่ เขาควรจะสู้ให้บ้าคลั่งกว่าเมื่อวาน อาศัยสู้เร็วชนะเร็วมากกว่า แต่วันนี้เขากลับดูกล้าๆกลัวๆไงพิกล
หรือว่าเขาไม่รู้ว่าจางเทียนเซอได้เปรียบในเรื่องพลังภูเขาหลงหู่หรือไงกัน?
เฉินเฟิงครุ่นคิดแค่แวบเดียว ยังไม่ถึงหนึ่งวินาที ความคิดนี้ก็โดนเฉินเฟิงปัดทิ้งทันที
จายเถิงจวั่นจู้อาจจะไม่รู้เรื่องความได้เปรียบในเรื่องพลังภูเขาหลงหู่ของจางเทียนเซอ แต่คนอย่างเปียนตู้ไท่อีกับกงปุ่นป้านฉางต้องรู้สิ ถ้าพวกเขารู้ พวกเขาต้องบอกจายเถิงจวั่นจู้แน่
ดังนั้นจายเถิงจวั่นจู้ต้องรู้แน่
ในเมื่อจายเถิงจวั่นจู้รู้เรื่องความได้เปรียบของพลังภูเขาหลงหู่ งั้นสไตล์การต่อสู้ของเขาในวันนี้มีปัญหาละ…
เฉินเฟิงกำลังคิด สถานการณ์บนเวทีเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น
กระบี่จางเทียนเซอตวัดการป้องกันของจายเถิงจวั่นจู้ออก แถมกระบี่ยาวยังฟันชุดของจายเถิงจวั่นจู้ขาดด้วย ทำให้ผิวเนื้อของจายเถิงจวั่นจู้ก็โดนฟันเป็นแผลราวหนึ่งฟุต เลือดสดไหลทะลักออกมา