ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 528
บทที่ 528 ผมยังสู้ได้
หวางหงอี้เม้มปากแน่นไม่พูดอะไร เขามองไปบางมุมของด้านล่างเวที และถอนหายใจแผ่วเบาแทบไม่ได้ยินออกมา
ฝีมือของหวังเฉียนมีถึงขั้นนี้เลย งั้นนายในฐานะที่เป็นไพ่ตายที่แท้จริงของสมาคมการค้าจงไห่ จะแกร่งถึงขั้นไหนกันนะ?
ไม่นานหวังเฉียนก็ถูกประคองลงจากเวที
“ศิษย์พี่หวัง ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ทุกคนพากันกรูเข้ามาล้อมรอบถามไถ่เขาอย่างห่วงใย
หวังเฉียนโบกมือเป็นเชิงบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร
จากนั้นเขานั่งลงปรับลมปราณ เขายังต้องแข่งรอบต่อไป
ตอนนี้ฉู่ยี่เฟยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“พี่ฉู่ คนญี่ปุ่นเมื่อกี้กินยาลงไปแล้ว มันไม่ยุติธรรมเลย…” หวู่เหวินเชี่ยนมองหน้าฉู่ยี่เฟย พูดอย่างร้อนรน คนที่ตาก็ดูออก ที่จริงแล้วฝีมือของจิ่วจิ่งถึงซิวด้อยกว่าหวังเฉียน ถ้าเขาไม่กินยา เขาไม่มีทางสู้หวังเฉียนได้
แต่หลังจากกินยาลงไปแล้ว เขากลับทำร้ายหวังเฉียนสาหัสด้วยการระเบิดตัวเอง
“พี่รู้” ฉู่ยี่เฟยพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พลางว่า: “พี่แจ้งพวกผู้อาวุโสจัดงานไปแล้ว แต่พวกเขาบอกว่า กฎการประลองไม่มีข้อห้ามกินยาข้อนี้”
“อะไรนะ? ไม่มีกฎห้ามกินยา?!”
“งั้นแปลว่ายอมให้กินยาได้?! ยอมให้กินยาได้แล้วจะประลองทำไมเนี่ย? พอทุกคนกินยากันหมดแล้วจะประลองอะไรกันล่ะ?!” หวู่เหวินเชี่ยนพูดอย่างเดือดแค้น ถ้าทุกคนกินยาเพิ่มพลังเหมือนชายชุดดำ แล้วการประลองครั้งนี้จะมีความหมายอะไรล่ะ เพราะพลังที่ทั้งคู่แสดงออกมาไม่ใช่ฝีมือที่แท้จริง
“เหวินเชี่ยน อย่าพึ่งขึ้น” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว “พี่ฉู่เองก็คงไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่พวกเราควรทำตอนนี้คือรวบรวมหนทางแก้ไข ไม่ใช่มากล่าวโทษ”
ฉู่ยี่เฟยถอนหายใจ พูดอย่างรู้สึกผิดว่า: “เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของสมาคมการค้าจงไห่ของเขา ตอนกำหนดกฎการประลอง พวกเราน่าจะคิดถึงความไร้ยางอายของพวกคนญี่ปุ่นไว้ด้วย”
“พี่ฉู่ อย่าโทษตัวเองเลย ไม่มีใครเพอร์เฟคส์ ทุกคนทำผิดพลาดกันได้”
“อีกอย่าง เรื่องนี้จะโทษพวกพี่ว่าคิดไม่รอบคอบก็ไม่ได้ ก่อนเริ่มประลอง ใครก็คิดไม่ถึงว่า คนญี่ปุ่นจะใช้วิธีการเลวร้ายขนาดนี้ในการใช้ชีวิตคนไปเอาชนะการประลองครั้งนี้” เฉินเฟิงพูดเสียงขรึม
อย่าว่าแต่ฉู่ยี่เฟยเลย ต่อให้เป็นเขายังคาดการณ์ต่ำไปถึงความต้องการเอาชนะการประลองครั้งนี้ของคนญี่ปุ่น
เหมือนชายชุดดำเมื่อกี้ ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่น ต้องเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งเหมือนกับจางเทียนเซอแน่ อยากขัดเกลาอัจฉริยะระดับนี้ออกมา ญี่ปุ่นคงต้องใช้ทรัพยากรศิลปะการต่อสู้ไปไม่ต่ำกว่าสองสามพันล้านแน่
แต่ตอนนี้ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยกลับให้เขาไปตายเอาดื้อๆ
ต้องบอกเลยว่า ระดับความโหดร้ายไม่เลือกวิธีการแบบนี้มันเกินความคาดหมายของทุกคนจริงๆ
“งั้นตอนนี้จะทำยังไงล่ะ? หวังเฉียนยังขึ้นประลองได้ไหม?” ฉู่ยี่เฟยอดมองหวังเฉียนหนึ่งทีไม่ได้ ถึงเขาเองจะเป็นจอมยุทธ์เหมือนกัน แต่เขาเป็นแค่ระดับปลายอ้านจิ้งเท่านั้นเอง เลยมองไม่ออกว่าหวังเฉียนได้รับบาดเจ็บหนักแค่ไหน
บาดเจ็บหนักขนาดนี้จะยังขึ้นประลองไหวหรือเปล่า?
“พี่ฉู่ ผมยังสู้ไหว”
ตอนนี้เองหวังเฉียนลืมตาขึ้น สีหน้าเขายังซีดเผือดอยู่ แต่น้ำเสียงมั่นคงมาก
“ไม่ได้ ศิษย์พี่หวัง พี่จะขึ้นประลองไม่ได้แล้ว เกิดพวกเขาให้คนกินยานั่นอีก พี่เอาอะไรไปสู้ล่ะ?” หวู่เหวินเชียนคัดค้านอย่างหนัก หวังเฉียนเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในรอบร้อยปีของมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่ สามารถแพ้การประลองได้ แต่หวังเฉียนจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด
“พวกเขาไม่มีทางให้คนกินยาแล้ว อย่างน้อยรอบนี้ไม่” เฉินเฟิงพูดเสียงขรึม ถึงจะไม่รู้ว่าเมื่อกี้ชายชุดดำกินยาอะไร แต่เขาแน่ใจได้เลยว่า ราคายานั่นต้องไม่ถูกแน่
แถมหวังเฉียนในตอนนี้ทำให้คนรู้สึกว่าอยู่ในแรงเฮือกสุดท้ายแล้ว ผู้รับผิดชอบสมาคมการค้าเชียสุ่ยขอเพียงมีสมอง ต้องคิดทบทวนข้อได้เปรียบเสียเปรียบ เอายาที่ราคาประมาณค่าไม่ได้และชีวิตคนๆหนึ่งไปเอาชนะหวังเฉียนมันคุ้มกันไหม
“ทำไมนายถึงรู้ว่าพวกเขาจะไม่ให้ใครกินยาอีก?” หวู่เหวินเชี่ยนถาม
เฉินเฟิงเหล่หวู่เหวินเชี่ยนหนึ่งที ก่อนบอกสิ่งที่ตนคาดการณ์ออกมา
พอเฉินเฟิงพูดจบ ทุกคนมีสีหน้าลังเล ถึงจะรู้สึกว่าเฉินเฟิงพูดมีเหตุผล แต่เรื่องแบบนี้ไม่กล้าเสี่ยงกันหรอก
ถ้าเสี่ยงแพ้ คนสมาคมการค้าเชียสุ่ยกินยาเม็ดนั้นจริงๆ หวังเฉียนต้องมีอันตรายถึงชีวิตแน่
“ฉันเชื่อนาย”
ตอนนี้สีหน้าหวังเฉียนสงบนิ่ง เขาพูดระหว่างที่มองเฉินเฟิงหนึ่งที
เขาเชื่อเฉินเฟิง
เขารู้สึกว่าการคาดการณ์ของเฉินเฟิงถูกต้อง
ต่อให้เฉินเฟิงคาดการณ์ผิด การประลองนี้เขาก็ไม่มีทางถอยเด็ดขาด
อีกด้าน จอมยุทธ์มากมายของสมาคมการค้าเชียสุ่ยเบนสายตาไปที่กงปุ่นสองอี
“ประธานครับ หวังเฉียนเหมือนจะขึ้นเวทีอีก…”
“ฉันรู้” กงปุ่นสองอีหันไปมองทางสมาคมการค้าจงไห่
“งั้นจะให้เอายาอินหยางสองเม็ดให้กงถึงอิงไหมครับ…” มีคนทนไม่ไหวถามออกมา กงถึงอิงเป็นจอมยุทธ์ที่จะขึ้นประลองคนต่อไปของสมาคมการค้าเชียสุ่ย
“นายคิดว่ายาอินหยางหาง่ายหรือไง?” กงปุ่นสองอีมองคนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ยาอินหยางเม็ดหนึ่งในหน่วยค่าเงินของหวาเซี่ยคือพันล้าน!
และผู้ประลองที่ขึ้นเวที ถ้าอยากจะเพิ่มพลังให้มากกว่าความสามารถแท้จริงของตัวเอง อย่างน้อยต้องกินสองเม็ด
สองเม็ดคือสองพันล้าน!
ต่อให้สมาคมการค้าเชียสุ่ยเป็นหนึ่งในสมาคมที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จะใช้เงินแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ
“แต่ว่า ฝีมือของหวังเฉียน…”
“ขยะ! หวังเฉียนนั่นได้รับบาดเจ็บแล้ว พวกแกไม่มีปัญญาสู้กับคนที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งหรือไง?!” กงปุ่นสองอีพูดอย่างโมโห การตายอย่างน่าอนาถของจิ่วจิ่งถึงซิวทำให้เขาโกรธเต็มท้องไปหมดแล้ว ไม่คิดว่าเจ้าพวกโง่พวกนี้ยังคิดจะเสียชีวิตใครไปอีก คิดว่าเขาเป็นคนควบคุมวงการศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่นหรือไงกัน?
“เข้าใจแล้วครับ ประธาน” หลังจากโดนกงปุ่นสองอีตะคอกไป พวกจอมยุทธ์ปาดเหงื่อยืนก้มโค้งกันถ้วนหน้า
ไม่นาน เวลาพักผ่อนสิบนาทีก็ผ่านไป
การประลองรอบที่หกในวันนี้และเป็นการประลองรอบสุดท้ายเริ่มขึ้น
หวังเฉียนขึ้นเวทีประลองต่อ ชุดสีขาวที่เดิมไร้ฝุ่นแม้เพียงนิด ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยรอยเลือด
รอยเลือดพวกนี้มีทั้งของศัตรู และมีทั้งของตัวเขาเอง
แต่ว่าตอนนี้สีหน้าเขากลับดูนิ่งสงบ
ตรงหน้าหวังเฉียน ชายหนุ่มร่างผอมใส่ชุดรัดรูปและสวมถุงมือโลหะผสมยืนตระหง่านอยู่ สีหน้าเคร่งเครียด
การประลองผ่านมาถึงขั้นนี้ ไม่มีการหยอกล้อเล่นเหมือนก่อน
ตอนแรกเป็นการเอาชนะ ตอนนี้ทุกการประลองเป็นความเป็นความตาย
ถ้าผิดพลาดนิดเดียว ก็จะตายบนเวที!
“เริ่มได้!”
ตามหลังมาด้วยเสียงบอกเริ่มได้ของกรรมการวัยกลางคน
ชายหนุ่มร่างผอมตะคอกหนึ่งคำ ยกเท้าเหยียบพื้น และพุ่งเข้าหาหวังเฉียนด้วยความเร็วราวจรวด
ในมือเขาไม่มีอาวุธใดๆเลย อาวุธของเขาคือมือโลหะผสมคู่นี้!
ปึ้ง!
ถุงมือทองผสมเหล็กปะทะเข้ากับกระบี่ยาวของหวังเฉียน พลังภายในน่ากลัวแทบจะแสดงออกมาพร้อมกัน ประหนึ่งพลังสองแบบปะทะทำลายล้างกัน
เสียงระเบิดอากาศดังขึ้นอีกครั้ง ประหนึ่งประทัดระเบิดต่อเนื่องยาว