ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 534
บทที่ 534 ยาถอนพิษ
“พวกเธอมีเกี่ยวข้องหรือไม่ผมไม่ใช่คนตัดสิน สหพันธ์สงครามต่างหากที่เป็นคนตัดสิน”
เฉินเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธ มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเพิ้งเย้นฟางจะไม่รู้เรื่อง เพื่อลบล้างการตกเป็นผู้ต้องสงสัยหวางหงอี้จึงตั้งใจวางยาพิษเพิ้งเย้นฟางและหวางซือหยวนด้วย หากเขาถูกคนชุดดำฆ่าตายในห้องอาหาร หวางหงอี้ก็จะกินยาพิษเข้าไปด้วย สุดท้ายหากพวกท่านผู้อาวุโสก่วนมาตรวจสอบก็จะสาวไม่ถึงตัวหวางหงอี้ อย่างมากก็อาจจะแค่สงสัย
หลายนาทีก่อนเจ้าสามหวงได้แจ้งข่าวไปยังฉู่ยี่เฟยแล้ว
ดังนั้นเจ้าสามหวงมาถึงสถานที่เกิดเหตุได้ไม่นาน ฉู่ยี่เฟยและคนของทางสหพันธ์บูโดก็มาถึง
ในบรรดาคนของสหพันธ์บูโด แน่นอนว่าคนที่เป็นหัวหน้าคือก่วนหนานเทียน
ณ เวลานี้สีหน้าของก่วนหนานเทียนค่อนข้างแย่ คาดคิดไว้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้คงไม่เกิดเรื่องทว่าใครจะรู้ว่าการต่อสู่ในวันสุดท้ายกลับมีคนอาจหาญลอบฆ่าผู้เข้าแข่งขัน
“เฉินเฟิง เป็นยังไงบ้าง?”
เพิ่งถึงสถานที่เกิดเหตุฉู่ยี่เฟยก็ปรี่เข้ามาหาเฉินเฟิงด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ผมไม่เป็นไรครับพี่ฉู่” เฉินเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธ ที่ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสที่สุดก็คือมีดเล่มนั้นของหวางหงอี้ ทว่าถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ไม่อันตรายถึงชีวิต
“เป็นฝีมือของพวกสมาคมการค้าเชียสุ่ยใช่ไหม?!” เมื่อมองดูเศษซากความเสียหายภายในร้านอาหารแล้วฉู่ยี่เฟยก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นกว่าเดิม
“ใช่ครับ” เฉินเฟิงพยักหน้ารับ
ฉู่ยี่เฟยได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าคุกรุ่น “ไอ้พวกไร้ยางอาย! ฉันจะไปคิดบัญชีกับพวกมัน!”
“พี่ฉู่ พี่ไปหาพวกเขาพวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับหรอก”
เฉินเฟิงยื้มฝืดๆพลางเอ่ยรั้งฉู่ยี่เฟยไว้ “ก่อนที่พวกเขาจะลงมือพวกเขาคงทำลายหลักฐานที่สามารถสาวถึงตัวพวกเขาไปหมดแล้ว หากผมเดาไม่ผิดนักฆ่าทั้งหกคนที่มาฆ่าผมล้วนเป็นคนหวาเซี่ย”
ในขณะที่เฉินเฟิงกำลังพูดก็มีคนยกศพคนชุดดำสวมหน้ากากผีทั้งหกคนออกมาวางตรงหน้าของก่วนหนานเทียน “ท่านผู้อาวุโสก่วน อยู่นี่ทั้งหมดแล้วครับ”
ก่วนหนานเทียนรับคำก่อนจะปล่อยพลังออกมาหกแถวแล้วทำลายหน้ากากของศพทั้งหก
เป็นไปตามที่เฉินเฟิงคาดการณ์ไว้ ใบหน้าภายใต้หน้ากากทั้งหกนั้นล้วนมีใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของคนหวาเซี่ย
เมื่อเห็นใบหน้าทั้งหกแล้ว สีหน้าของก่วนหนานเทียนก็มืดครึ้มมากกว่าเดิม “สืบหาตัวตนของพวกมัน!”
“ครับ ท่านผู้อาวุโสก่วน”
คนของสหพันธ์บูโดรับคำก่อนจะมีคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปใบหน้าทั้งหกคนไว้แล้วส่งให้เว็บไซต์ทางการของสหพันธ์บูโดเพื่อตรวจสอบต่อไป
ในฐานะองค์กรตรวจสอบชั้นสูงของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย ทางสหพันธ์บูโดมีเว็บไซต์ตรวจสอบเป็นของตัวเองตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน จอมยุทธ์คนใดที่เคยปรากฏตัวในเขตหวาเซี่ยทางสหพันธ์บูโดล้วนมีบันทึกไว้
หกคนตรงหน้านี้ก็เช่นเดียวกัน
ในขณะที่กำลังดำเนินการตรวจสอบตัวตนของทั้งหกคน สายตาของคนจำนวนไม่น้อยจับจ้องอยู่ที่เฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจไม่มากก็น้อย
ดูจากสถานที่เกิดเหตุแล้วนักฆ่าทั้งหกคนล้วนอยู่ในขั้นอ้านจิ้งชั้นต้นเป็นอย่างน้อย
อ้านจิ้งชั้นต้นหกคนรุมฆ่าเฉินเฟิงคนเดียว ทว่าเฉินเฟิงยังมีชีวิตอยู่
เขาทำได้อย่างไร?
“ท่านผู้อาวุโสก่วน ตรวจสอบได้แล้วครับ”
คนของทางสหพันธ์บูโดทำงานได้รวดเร็วมาก ไม่ถึงสามนาที ข้อมูลของทั้งหกศพก็ปรากฏ
“พูดมา!”
ก่วนหนานเทียนเอ่ยขึ้นด้วยเสียงดุดัน
“ทั้งหกคนนี้มีชื่อว่าโจวอี้ ต้วนหง……ตอนแรกพวกเขาเป็นศิษย์ของสามสำนักใหญ่ในเสฉวน ตอนหลังทำผิดกฎของสำนักเลยถูกเนรเทศออกจากสำนัก ”
“สามปีก่อน ทั้งหกคนโคจรมาอยู่ด้วยกันพลางช่วยกันดูแลบริษัทแห่งหนึ่งและด้วยความต้องการขยายกิจการให้ใหญ่โต ทั้งหกคนจึงใช้วิธีบังคับขู่เข็ญและฮุบสมบัติของบริษัทคู่แข่ง และยังมีคู่แข่งอีกหลายคนที่ถูกทั้งหกคนนี้ทำให้ล้มละลาย”
“เรื่องนี้เรียกความสนใจจากสหพันธ์บูโดได้พอสมควร”
“สองปีก่อน ท่านหลี่จากสหพันธ์บูโดหนานหยางส่งคนไปจับตัวทั้งหกคนนี้แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีคนแพร่งพรายข้อมูลออกไปก่อน สุดท้ายทั้งหกคนนี้ก็ขึ้นเรือหลบหนีออกจากหวาเซี่ย……”
“พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!” ก่วนหนานเทียนเอ่ยถามอย่างดุดัน
“เรื่องนี้……ตอนนี้ยังตรวจสอบไม่ได้ครับ” คนของทางสหพันธ์บูโดมองหน้าก่วนหนานเทียนอย่างลำบากใจ ถึงแม้สหพันธ์บูโดจะมีอำนาจใหญ่โต ทว่าอำนาจจำกัดอยู่แค่ภายในเขตหวาเซี่ยเท่านั้น
นอกเขตหวาเวี่ยก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสหพันธ์บูโดแล้ว
“ท่านผู้อาวุโสก่วน เรื่องนี้เป็นฝีมือของทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยครับ” ขณะนั้นเองฉู่ยี่เฟยก็เอ่ยขึ้น
ก่วนหนานเทียนมองหน้าฉู่ยี่เฟยแวบหนึ่ง “มีหลักฐานไหม?”
“ผู้ชายคนนี้คือหลักฐาน เขาเป็นคนที่ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยส่งมา” ฉู่ยี่เฟยชี้ไปยังหวางหงอี้
ก่วนหนานเทียนจึงย้ายสายตาไปทางหวางหงอี้
เมื่อสบตากับสายตาอันน่ากลัวของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หั้วจิ้งชั้นสุด หวางหงอี้กลับไม่มีความเกรงกลัว
“ผมไม่รู้จักสมาคมการค้าเชียสุ่ยอะไรนี่ ผมเป็นแค่นายหน้า มีคนจ้างวานผมด้วยเงินก้อนใหญ่เพื่อวางยาฆ่ามัน หลังจากวางยาจะมีนักฆ่ามาจัดการเรื่องหลังจากนี้เอง”
“ส่วนนักฆ่าทั้งหกคนนี้ ผมไม่รู้จักสักคน” หวางหงอี้ปรายตามองหกศพที่อยู่บนพื้นก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เมื่อเห็นว่าหวางหงอี้ตั้งใจไม่พูดความจริง ก่วนหนานเทียนก็ขมวดคิ้วมุ่น
ผ่านไปสักพักเขาจึงเอ่ยขึ้น “เอาตัวมันไปสอบปากคำแบบหนัก”
“ครับ ท่านผู้อาวุโสก่วน”
คนของทางสหพันธ์บูโดรับคำอย่างนอบน้อม ก่อนที่หวางหงอี้ที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยจะถูกพาตัวไป
ฉู่ยี่เฟยอ้าปากเหมือนจะพูดทว่าก็เปลี่ยนใจกลืนคำพูดลงไป
จากสายตาอันเฉียบคมของก่วนหนานเทียน เขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสมาคมการค้าเชียสุ่ย ทว่าหากหาหลักฐานไม่ได้ก็ถือว่าสูญเปล่า
ส่วนที่ผลักหวางหงอี้ออกไปแล้วบอกว่าหวางหงอี้ถูกทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยส่งมานั้น……
ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยไม่มีทางยอมรับ ไม่แน่อาจจะแว้งกัดด้วยซ้ำโดยการบอกว่าเรื่องนี้ทางสมาคมการค้าจงไห่แต่งเรื่องขึ้นมาเอง เพื่อใส่ร้ายสมาคมการค้าเชียสุ่ย
“เรื่องวันนี้เป็นความผิดของผมเอง” หลังจากเงียบไปสักพัก ก่วนหนานเทียนเอ่ยเสียงต่ำ คำพูดนี้ของเขาแน่นอนว่าบอกกับเฉินเฟิง
เฉิงเฟิงรีบค้อมตัวเคารพทันที “ไม่หรอกครับ เรื่องในวันนี้สาเหตุหลักเป็นเพราะผมชะล่าใจเกินไป ไม่เกี่ยวกับท่านผู้อาวุโสก่วนหรอกครับ”
ก่วนหนานเทียนโบกมือปฏิเสธ “ผมไม่ใช่คนผลักความรับผิดชอบ หากเป็นความรับผิดชอบของผม ผมก็ยอมรับ”
“ก่อนการต่อสู้ระหว่างสองสมาคมการค้าในครั้งนี้ ทางสหพันธ์บูโดใหญ่ก็คาดเดาไว้อยู่แล้วว่าทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะเล่นสกปรก ดังนั้นพวกเขาเลยมอบหมายให้ผมมาดูแลสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณ”
“แต่ที่ผมคิดไม่ถึงก็คือทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะลงมือใต้จมูกของผม!” พูดถึงเรื่องนี้ก่วนหนานเทียนก็อดที่จะสบถในลำคอไม่ได้ จนอากาศของบริเวณนั้นราวกับถูกแช่แข็ง
“เรื่องนี้สักวันผมจะให้คำอธิบายแก่คุณ”
“นี่คือยาถอนพิษ ยานี้สามารถถอนพิษนานาชนิดของใต้หล้านี้ได้ ไม่ว่านักฆ่าพวกนั้นจะใช้ยาพิษอะไร ยานี้ก็สามารถถอนพิษได้ คุณกินยานี่สิ” ก่วนหนานเทียนเอ่ยและจู่ๆในมือก็ปรากฏยาลูกกลอนสีขาวหนึ่งเม็ด
บริเวณด้านหลัง คนของทางสหพันธ์บูโดหลายคนก็มองด้วยความอิจฉาที่ก่วนหนานเทียนถึงกับให้ยาถอนพิษที่เป็นยาวิเศษแก่เฉินเฟิง