ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 539
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 539 คมมีดที่น่ากลัว
เฉินเฟิงในรูปแบบนี้ ใครจะสามารถต้านทานได้?
“แกถามฉันแล้วฉันจะรู้ได้ยังไง?!” ตอนนี้กงปุ่นสองอีหงุดหงิดมาก เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นฉุกละหุกเกินไป ตามแผนการที่เขาคิดไว้ถึงแม้เยาวชนตัวเตี้ยจะสู้เฉินเฟิงไม่ได้แต่ก็ไม่ควรพ่ายแพ้รวดเร็วขนาดนี้ อย่างน้อยก็ยังสามารถกินยาอินหยางแล้วลดทอนกำลังของเฉินเฟิงได้สักครึ่งหนึ่ง แต่ใครจะไปคิดว่าแค่หมัดเดียวก็แพ้เฉินเฟิงราบคาบแบบนี้
“แล้วเราจะทำยังไงต่อครับ?”
มีจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความกลัว ความสามารถของเฉินเฟิงเกินระดับที่กงปุ่นป้านฉางจัดลำดับไว้ เรียกได้ว่าอยู่ในระดับ SSS เลยก็ว่าได้
“จะทำยังไงได้ล่ะ? เหลือแค่ทางเดียวคือขึ้นเวทีแล้วกินยาอินหยางเลย!”
แววตาของกงปุ่นสองอีมีความเหี้ยมโหดพาดผ่าน เรื่องมาจนถึงขั้นนี้แล้วก็คงต้องใช้ไม้ตายแล้วล่ะ ตามแผนแล้วหากเลี่ยงที่จะกินยาอินหยางได้ก็เลี่ยง ทว่าเฉินเฟิงกลับใช้เพียงหมัดเดียวทำลายแผนเดิมที่พวกเขาวางไว้
ไม่กินก็คงไม่มีโอกาสกินแล้ว!
เมื่อได้ยินความพูดของกงปุ่นสองอี จอมยุทธ์สามคนที่เหลือของสมาคมการค้าเชียสุ่ยก็หน้าซีดขาว ขึ้นเวทีแล้วกินยาอินหยางเลยนั่นเท่ากับการประกาศว่าพวกเขาต้องตาย
“กงปุ่น ความสามารถของคนญี่ปุ่นอย่างพวกคุณเหมือนว่าจะไม่ค่อยเท่าไหร่นะ”
บนที่นั่งวีไอพี ใบหน้าของก่วนหนานเทียนเผยรอยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก เฉินเฟิงใช้หมัดเดียวจัดการกับเยาวชนตัวเตี้ยได้ ไม่เพียงแต่ช่วยกู้ชื่อเสียงของสมาคมการค้าจงไห่แต่ยังเชิดหน้าชูตาให้กับจอมยุทธ์ของหวาเซี่ยอีกด้วย
“ก่วนหนานเทียน อย่าเพิ่งเยาะเย้ยกัน การต่อสู้ยังไม่จบเลย!” วินาทีนี้สีหน้าของกงปุ่นป้านฉางแย่ถึงขีดสุด เขาคิดไม่ถึงเลยว่าผลการต่อสู้ในวันนี้จะออกมาเป็นแบบนี้
อีกอย่างหมัดที่เฉินเฟิงต่อยออกมาเมื่อครู่ก็ไม่ใช่จอมยุทธ์อ้านจิ้งชั้นสุดธรรมดาจะทำได้……
“ยังไม่จบงั้นหรือ?” ก่วนหนานเทียนยกยิ้ม “งั้นเราก็รอดูต่อไปแล้วกัน”
หลังจากจัดการเยาวชนตัวเตี้ยได้ในหมัดเดียวแล้ว เฉินเฟิงก็ไม่ได้ลงจากเวทีแต่กลับนั่งขัดสมาธิอยู่บนเวที
ภาพนี้ตกอยู่ในสายตาของทุกคน
ใครก็มองออกว่าตอนนี้เฉินเฟิงกำลังทำเวลาในการปรับสมดุลพลัง
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าหมัดเมื่อสักครู่ใช้พลังมากเกินไป?”
“เป็นไปได้! ฉันคิดว่าพลังในร่างกายเขาคงหมดไปกับหมัดเมื่อสักครู่แล้ว”
“แสดงว่าตอนนี้เขาแข็งแกร่งแค่ภายนอกแต่ความจริงอ่อนแออย่างนั้นหรือ?”
“ถึงแม้จะไม่ใช่แบบนั้น เกรงว่าก็คงจะใกล้เคียงเพราะยังไงเมื่อคืนเขาก็ได้รับบาดเจ็บ หมัดไร้เทียมทานเมื่อสักครู่คงไปกระทบกับแผลของเขา”
ผู้เข้าแข่งขันของทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสงสัย
“ศิษย์พี่จาง เฉินเฟิงคงไม่ได้ใช้เวทมนตร์ปลุกพลังอะไรหรอกใช่ไหม?” หูฉี่ซิงมองเฉินเฟิงที่อยู่บนเวทีอย่างข้องใจ ประเทศญี่ปุ่นมียาอินหยางปลุกพลัง หวาเซี่ยก็มีเวทมนตร์ปลุกพลังอย่างแน่นอน จากที่เขาดูมา มีความเป็นไปได้มากว่าหมัดเมื่อสักครู่ของเฉินเฟิงจะมาจากการใช้เวทมนตร์ ไม่อย่างนั้นหลังจากจัดการเยาวชนตัวเตี้ยเขาก็คงไม่นั่งทำสมาธิปรับสมดุลพลังอยู่บนเวทีโดยไม่แม้แต่จะลงจากเวทีแบบนี้หรอก
“ฉันจะรู้ได้ยังไง” จางเทียนเซอส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด วินาทีนี้ในใจของเขาซับซ้อนมาก ด้านหนึ่งก็หวังว่าเฉินเฟิงจะชนะ เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ส่งผลต่อชื่อเสียงของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย หากเฉินเฟิงชนะก็เป็นการเชิดหน้าชูตาให้กับวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย
แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็ไม่อยากให้เฉินเฟิงชนะ เพราะหากเฉินเฟิงชนะก็เป็นการเปรียบเทียบว่าเขานั้นไร้ความสามารถ
ในฐานะศิษย์เอกของภูเขาหลงหู่ การต่อสู้ในครั้งนี้ประโยชน์ของเขายังไม่มากเท่ากับจอมยุทธ์ฝึกเองคนหนึ่ง หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของภูเขาหลงหู่คงไม่เหลือแล้ว
สามนาทีต่อมาการต่อสู้ในสนามถัดไปก็เริ่มต้นขึ้น
จอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยที่ขึ้นเวทีในครั้งนี้เป็นเยาวชนสะพายมีด
ศิษย์ของนักบุญมีด!
เพียงแค่แวบเดียวเฉินเฟิงก็รู้ถึงความเป็นมาของเยาวชนคนนี้
เป็นศิษย์ของนักบุญมีดแน่นอน อีกทั้งยังเป็นศิษย์ของนักบุญมีดที่อยู่ในลำดับต้นๆอีกด้วย
เพราะว่ากลิ่นอายจากมีดบนตัวของเยาวชนคนนี้แทบจะแปลงเป็นรูปเป็นร่างได้
นี่เป็นคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือไม่ด้อยไปกว่าตัวเองเท่าไหร่! หวังเฉียนที่อยู่ด้านล่างเวทีประเมินอยู่ในใจ ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะเหมือนกัน เขาค่อนข้างไวต่อกลิ่นอายของผู้ที่แข็งแกร่ง เพียงแค่แวบเดียวเขาก็รู้ถึงระดับความสามารถที่แท้จริงของจอมยุทธ์ส่วนมาก
คนแบบนี้คงจะสามารถบีบให้เฉินเฟิงแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาได้? เยาวชนสะพายมีดกัดฟันแน่นก่อนจะทำในสิ่งที่คนทั้งสนามคาดไม่ถึง
เขาหยิบยาอินหยางสองเม็ดออกมาจากกระเป๋าก่อนจะกลืนมันลงไป!
วินาทีนี้ตกตะลึงกันทั้งสนาม!
ใครก็คาดไม่ถึงว่าเยาวชนสะพายมีดจะเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ ยังไม่ทันได้สู้กับเฉินเฟิงก็กินยาอินหยางแล้ว นี่มันพนันด้วยชีวิตตัวเองไม่ใช่หรือ?!
ยาอินยางสองเม็ดที่กินเข้าไปออกฤทธิ์ทันที ชั่วพริบตาก็มีพลังพลุ่งพล่านแผ่ออกมาจากเยาวชนสะพายมีด
ไม่ถึงหนึ่งวินาทีพลังนี้ก็ปกคลุมทั่วทั้งสนาม
สีหน้าของจอมยุทธ์ที่อยู่ด้านล่างเวทีเปลี่ยนไปทันที หลังจากกินยาอินหยางลงไป ความสามารถของเยาวชนสะพายมีดก็อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นอ้านจิ้งเป็นอย่างน้อย!
“อ๊าก!”
เยาวชนสะพายมีดตะโกนออกมาก่อนจะพุ่งไปทางเฉินเฟิงในสภาพดวงตาแดงก่ำ
เฉินเฟิงหรี่ตาก่อนจะชกออกไปหนึ่งหมัด
หมัดนี้ไม่ได้มีพลังเท่าไหร่นัก ทว่าให้ความรู้สึกอันตรายถึงชีวิตอย่างที่ชายหนุ่มไม่เคยพบมาก่อน
เส้นเลือดบริเวณหน้าผากของชายหนุ่มปูดนูนขึ้นมา เขาสะบัดมีดออกไป
มีเสียงระคายหูจากการระเบิดของอากาศดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ฉับพลันมีมีดสายรุ้งยาวประมาณเจ็ดเมตรร่วงลงมาจากฟ้าแล้วฟันไปทางเฉินเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
ด้านล่างเวที
“ซี๊ด”
ด้านล่างเวทีมีคนจำนวนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะสูดลมเข้าปากไม่ได้ ไม่เสียแรงที่เป็นศิษย์ของนักบุญมีด การลงมีดครั้งนี้เกินระดับอ้านจิ้งไปแล้ว
ถึงจะเป็นจอมยุทธ์อาวุโสที่เหี้ยมโหดก็ไม่สามารถลงมีดได้ยอดเยี่ยมแบบนี้
การลงมีดที่น่ากลัวขนาดนี้ เฉินเฟิงจะเอาอะไรมาบัง?
ไม่นานเฉินเฟิงก็ให้คำตอบ
นั่นก็คือมือ!
ใช้มือบัง!
ฝ่ามือทั้งสองของเฉินเฟิงดันขึ้น จากภาพเสมือนฝ่ามือแปรเปลี่ยนรอยฝ่ามือขนาดใหญ่แล้วรับเอามีดสายรุ้งยาวเจ็ดเมตรไว้ในมือ
สง่า!
ผ่าเผย!
ภาพเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่อตรงหน้าทำให้ทุกคนตกตะลึง
หากไม่ใช่เพราะรู้อายุของเฉินเฟิงและชายหนุ่มอยู่แล้ว ทุกคนก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพลังที่เดือดพล่านขนาดนี้จะมาจากวัยรุ่นทั้งสองคน
เปรี๊ยะ!
เปรี๊ยะ!
เปรี๊ยะ!
พลังนับไม่ถ้วนปะทะกันกลางอากาศ เสียงระเบิดแสบแก้วหูดังขึ้นไม่หยุด
ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำ ทว่าเฉินเฟิงกลับมีสีหน้าเรียบเฉย
“อ๊าก”
ราวกับอดทนจนถึงขีดสุดแล้ว ชายหนุ่มตะโกนออกมาอีกครั้งก่อนจะปลุกพลังในร่างกายโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นจนเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด
ตู้ม!
มีดสายรุ้งขยายใหญ่ขึ้นจากเจ็ดเมตรกลายเป็นสิบเมตร!
หลังจากเปลี่ยนเป็นสิบเมตรแล้ว ฉับพลันสองแขนชายหนุ่มก็สะบัดลง มีดสายรุ้งยาวสิบเมตรก็ฟันไปทางเฉินเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
“ปัง”
เสียงดังสนั่นดังขึ้นจากเวที
หลังจากมีดสายรุ้งฟันลงไปแล้วฉับพลันก็ระเบิดออกจนฝุ่นตลบ
ทั้งเวทีจึงถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น คนดูจึงเห็นไม่ชัดว่าด้านในเกิดอะไรขึ้น
สามสิบวินาทีผ่านไปแล้ว ทว่าฝุ่นบนเวทีก็ไม่มีท่าทีว่าจะสลายไป