ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 546
บทที่ 546 ผู้สืบทอดตระกูลหลี่
“อื้ม”
โจวโพ่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นผายมือบอกให้โจวห้าวไป
เขาไม่ได้บอกโจวห้าวว่า เฉินเฟิงได้ฆ่าอัจฉริยะของประเทศญี่ปุ่นติดต่อกันถึงสองคน สิ่งเหล่านี้สำหรับเขาแล้วมันคือสิ่งที่เกินความจำเป็น
เขาเชื่อมั่นในตัวโจวห้าว!
……
ในเวลาเดียวกัน
ตอนตะวันตกเฉียงเหนือ ภูเขาอู่กง
ที่ดินบรรพบุรุษตระกูลหลี่
หัวหน้าตระกูลหลี่เรียกให้ผู้สืบทอดตระกูลหลี่ไปพบที่ห้องของตน
“นายเตรียมตัวสักหน่อย พรุ่งนี้ออกจากภูเขาพร้อมกับพ่อของนาย” ตระกูลหลี่ตัดสินใจแบบเดียวกับโจวโพ่เทียน
สำหรับตระกูลลับที่โบราณที่สุด ปกติแล้วตระกูลหลี่ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวกับการแย่งชิงในวงการศิลปะการต่อสู้ สำหรับอันดับมังกรที่สร้างขึ้นเพื่ออัจฉริยะที่อยู่ภายในวงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ย ผู้สืบทอดตระกูลหลี่ก็ไม่เคยขึ้นอันดับ
เหตุที่ไม่ขึ้นอันดับ ไม่ได้เป็นเพราะผู้สืบทอดตระกูลหลี่ความสามารถไม่ถึง แต่เป็นเพราะผู้สืบทอดตระกูลหลี่ดูถูกอันดับนี้!
ทว่าครั้งนี้ เฉินเฟิงกลับทำให้ตระกูลหลี่ได้กลิ่นที่ไม่ปกติ
แตกต่างจากอัจฉริยะพวกนั้นที่อยู่ในอันดับมังกรของหวาเซี่ย เฉินเฟิงเป็นปีศาจที่แท้จริง!
ความสามารถของเขาในตอนนี้ มีโอกาสที่จะเป็นหั้วจิ้งชั้นต้น ไม่ใช่อ้านจิ้งชั้นสูงสุดตามที่คนนอกพูดกัน!
ถ้าหากเป็นหั้วจิ้งชั้นต้นจริงๆ แม้แต่ผู้สืบทอดตระกูลหลี่ ก็ต้องให้ความสำคัญ
“ออกจากภูเขา?” หลี่เจี้ยนเฟิงแปลกใจเล็กน้อย กระตุกยิ้มด้วยความดูถูก :“คุณปู่ครับ ออกจากภูเขาทำไม? ไปแย่งชิงอันดับกับพวกอัจฉริยะโง่ๆในวงการสามัญชนพวกนั้นหรอ?”
“เจี้ยนเฟิง อย่าเหิมเกริมขนาดนี้ วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยยังมีปีศาจขั้นสูง” หัวหน้าตระกูลหลี่ขมวดคิ้วเป็นปม ผู้สืบทอดที่ตระกูลหลี่เลี้ยงดูมานั้นดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวที่เป็นคนเหิมเกริมไปหน่อย ไม่มองคนอื่นที่อายุเท่ากันอยู่ในสายตา ทุกครั้งเอาแต่บอกว่าวงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยเป็นวงการสามัญชน
เหตุที่พูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีสามัญสำนึก แต่เป็นเพราะในสายตาของเขา วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยกับวงการสามัญชนไม่มีอะไรแตกต่างกัน
“ปีศาจขั้นสูงสุด?” หลี่เจี้ยนเฟิงกระตุกมุมปากด้วยความดูหมิ่น:“ปู่หมายถึงพวกอัจฉริยะในอันดับมังกรพวกนั้นหรอครับ? ถ้าผมจำไม่ผิด เมื่อสามปีก่อนตอนที่ผมออกจากภูเขา ผมได้จัดการอัจฉริยะอันดับมังกรอันดับเจ็ดไปแล้ว อัจฉริยะคนนั้นตอนอยู่ในมือผม ผมใช้ไม่ถึงสิบกระบวนท่าก็……”
“ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” หัวหน้าตระกูลหลี่พูดเสียงเคร่งขรึมขัดหลี่เจี้ยนเฟิงขึ้นมา:“เป้าหมายในการออกจากภูเขาในครั้งนี้ของนายไม่ใช่อันดับมังกร”
สีหน้าของหลี่เจี้ยนเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัย เป้าหมายไม่ใช่อันดับมังกร? แล้วคืออะไร? จากที่เขารู้ วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ย ขอแค่เป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียง ล้วนอยู่ในอันดับมังกร
อันดับมังกร เป็นอันดับที่จัดทำขึ้นเพื่อคนหนุ่มสาวของหวาเซี่ย มีแค่อัจฉริยะที่ยังหนุ่มของหวาเชี่ยเท่านั้นถึงจะขึ้นอันดับนี้ได้
“เป้าหมายของนายในครั้งนี้เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้เพิ่งปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเมื่อวานที่ผ่านมา การปรากฏตัวของเขา ทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยสั่นสะเทือน” หัวหน้าตระกูลหลี่พูด คำพูดนี้ของเขาไม่ได้กล่าวเกินจริง การปรากฏตัวของเฉินเฟิง ทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยสั่นสะเทือน
ก่อนที่เฉินเฟิงจะปรากฏตัว มีอัจฉริยะมากมายในวงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ย แต่ไม่มีใครเป็นผู้นำ
แต่การปรากฏตัวของเฉินเฟิง กลับทำให้มีความเป็นไปได้จางๆ
หมัดเดียวทำให้อัจฉริยะเสินอิ่นตาย ความแข็งแกร่งของเขาฆ่าลูกศิษย์ของนักบุญมีด
ความสามารถที่เฉินเฟิงแสดงออกมานั้น ได้ก้าวข้ามคนในรุ่นเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ
สีหน้าของหลี่เจี้ยนเฟิงเคร่งขรึมขึ้นมา เป็นเรื่องจริงที่เขาเป็นคนเหิมเกริมหยิ่งยโส แต่เขาไม่ใช่คนโง่ คนที่สามารถทำให้วงการศิลปะการต่อสู้สั่นสะเทือน ต้องเป็นคนที่อัจฉริยะในอันดับมังกรไม่สามารถสู้ได้
“จริงด้วย ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้อายุแค่ยี่สิบป้าปีเท่านั้น แต่แดนของเขาในตอนนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นหั้วจิ้งชั้นต้น” หัวหน้าตระกูลหลี่พูดเสริม
คำพูดนี้ทำให้ม่านตาของหลี่เจี้ยนเฟิงหดเล็ก
หั้วจิ้งชั้นต้นในวัยยี่สิบห้าปี!
เป็นไปได้ยังไง?!
“เจี้ยนเฟิง เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยไม่เคยมีอัจฉริยะตัวจริงปรากฏตัวออกมาก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ย ไม่มีอัจฉริยะที่แท้จริง!”
“ให้นายลงออกจากภูเขาในครั้งนี้ หวังให้นายไปดูว่า วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยที่แท้จริง อย่าเอาแต่มองมายังตระกูลลับ” น้ำเสียงของหัวหน้าตระกูลหลี่เคร่งขรึม ตระกูลลับที่เป็นเหมือนกับตระกูลหลี่นั้น ในหวาเซี่ยมีแปดตระกูล
โดยปกติทั่วไปแล้ว ระหว่างตระกูลลับ จะมีการแข่งขันประลองระหว่างตระกูลลับด้วยกันเท่านั้น
การแข่งขันอย่างวงการศิลปะการต่อสู้ในหวาเซี่ย น้อยครั้งที่ตระกูลลับจะเข้าร่วม
ผ่านไปนานวันเข้า ภายในใจของตระกูลลับทั้งหลายก็มีความคิดที่เหนือกว่า เด็กที่เกิดในตระกูลลับ มักจะรู้สึกว่าตนแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธ์ที่อยู่วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ย
ความคิดนี้ สมควรที่จะถูกปลุกให้ตื่นแล้ว
“ครับ คุณปู่ พรุ่งนี้ผมจะตามคุณพ่อออกจากภูเขา ผมจะไปเจอชายหนุ่มคนนั้น” ใบหน้าของหลี่เจี้ยนเฟิงแสยะยิ้มเย็นยะเยือก ถึงแม้ปู่จะบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ชายหนุ่มคนนั้นจะอยู่ในระดับหั้วจิ้งชั้นต้น
แต่แล้วยังไงเล่า?
สำหรับอัจฉริยะอย่างพวกเขา การต่อสู้เพื่อข้ามขั้นเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอ?
สิ่งที่เกิดขึ้นในภูเขาอู่กง แทบจะเกิดขึ้นทั่วทั้งหวาเซี่ย
กองกำลังต่อสู้โบราณ และยังมีตระกูลลับอีกแปดตระกูลใหญ่ แทบจะส่งผู้สืบทอดของตนเองออกมา
สาเหตุที่คนพวกนี้เลือกออกมาในเวลานี้ เฉินเฟิงเป็นหนึ่งในเหตุผล ทั้งยังมีอีกหนึ่งเหตุผลใหญ่ ซึ่งก็คือวงการศิลปะการต่อสู้ไม่มีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดมานานกว่าสามสิบปีแล้ว
สามสิบปี นานเกินไปแล้ว
ได้เวลาปรากฏตัวของมหาปรมาจารย์คนใหม่อีกหนึ่งคนแล้ว
ใครสามารถเอาชนะได้ในเวลานี้ ข้ามศพของคนหนุ่มสาวขึ้นตำแหน่ง คนคนนั้นก็มีโอกาสที่จะได้เป็นมหาปรมาจารย์คนใหม่!
ภูเขาซียันเจียงเป็นหนึ่งในภูเขาไท่เหิง เรียกว่า “เบอร์หนึ่งแห่งภูเขาไท่เหิง” ทั้งยังเรียกว่าภูเขาชิงเหลียงน้อย คล้ายกับงูเหลือมคดเคี้ยว ปกป้องเมืองยันเจียงจากทางทิศตะวันตก ถูกเรียกว่า”มือขวาของหลวง”
หลังจากหวาเซี่ยสร้างประเทศ ภูเขาซีตกเป็นฐานประจำการของทหารมาเป็นเวลานาน หัวหน้าของทหารและองค์กรพิเศษหลายองค์กรจัดตั้งที่ภูเขาซี
วันนี้ เติมการพัฒนาของยุคสมัย หลายองค์กรได้ทำการย้ายไปจากภูเขาซีแล้ว แต่ภูเขาซียังคงมีร่องรอยของทหารอย่างเหนียวแน่น อีกทั้งยังมีองค์กรพิเศษที่จัดตั้งบนภูเขาซี
ยกตัวอย่างเช่น กองกำลังหลักของกองกำลังพิเศษมังกรที่เป็นกองกำลังลับของทหาร ก็อยู่ที่ภูเขาซี
ตามข่าวลือ กองกำลังพิเศษมังกรคือกองกำลังที่มีแต่เหล่าจอมยุทธ์
นอกจากภูเขาจะฝึกซ้อมวรยุทธ์แล้ว ยังมีการเรียนเทคนิคต่างๆอาทิ ปีนเขา เรือนิวเคลียร์ พลซุ่มยิงทางยุทธวิธี……
อย่างไรก็ตาม กองกำลังพิเศษมังกรเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่และศิลปะการต่อสู้โบราณเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
เจ้าหน้าที่ในกองกำลังพิเศษมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เก่งเท่าอัจฉริยะวงการศิลปะการต่อสู้เล็กน้อย แต่ความสามารถในการเป็นทีมของพวกเขา กลับแข็งแกร่งจนน่าตกใจ
ถ้านำเจ้าหน้าที่ในกองกำลังพิเศษสิบนายและอัจฉริยะสิบคนมาสู้คน ให้พวกเขาฆ่ากันตายไปข้างหนึ่ง สุดท้ายฝ่ายที่จะชนะ ก็ต้องเป็นกองกำลังพิเศษทั้งสิบนายนั้นอย่างแน่นอน!
เพราะว่า การร่วมมือกันของพวกเขา มันมาถึงจุดที่ไม่มีช่องโหว่นานแล้ว
พวกเขาถึงขั้นสามารถต่อสู้ข้ามอันดับได้ กองกำลังพิเศษอ้านจิ้งชั้นสุดสิบคน ใช้อาวุธสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำสูง สามารถฆ่าหัวจิ้งชั้นต้นหนึ่งคนได้เลย!
แรกเริ่มเดิมที ความตั้งใจเดิมของทหารจัดตั้งกองกำลังพิเศษมังกรขึ้นมาก็เพราะสิ่งนี้ พบเจอกับภารกิจเร่งด่วน อ้านจิ้งจอมยุทธ์ ก็สามารถนำมาใช้เหมือนเป็นหัวจิ้งจอมยุทธ์ได้