ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 557
บทที่ 557 เขามาแล้ว
ในเวลาเดียวกัน
เครื่องบินจากประเทศกาวลี่บินมายังโตเกียว ถึงสนามบินนานาชาติโตเกียวอย่างตรงเวลา ชายหนุ่มผมยาว แต่งตัวสไตล์ฮิปฮอป สะพายกระเป๋า ลากกระเป๋าเดินทาง เดินตามผู้คนออกมาจากสนามบิน
หลังจากออกมาจากสนามบิน ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งบนรถแท็กซี่ ลงจากรถก่อนที่จะถึงโตเกียวเบย์ริชแอเรียหนึ่งกิโลเมตร จากนั้นทำกระเป๋าเดินทางหาย หายไปในความมืดราวกับเป็นดวงวิญญาณ
เวลานี้ ห่างจากช่วงเวลาที่หลินหวั่นชีวถูกลักพาตัวไปประมาณสิบชั่วโมง
ขณะที่วงการศิลปะการต่อสู้กำลังพูดคุยถกเถียงเรื่องที่เฉินเฟิงจะไปหรือไม่ไปประเทศญี่ปุ่น ตระกูลกงปุ่นทั้งตระกูลได้เฝ้าติดตามคนหวาเซี่ยที่บินมายังประเทศญี่ปุ่น ชายหนุ่มวัยกลางคนที่เข้ามาจากประเทศกาวลี่มาถึงประเทศญี่ปุ่น
ชายหนุ่มคนนั้น ก็คือเฉินเฟิง!
หลังจากมาถึงประเทศญี่ปุ่น เฉินเฟิงไม่ได้ไปขวัญนินจาทันที แต่ไปยังพื้นที่วิลล่าแห่งหนึ่ง ที่สือโพ่จุนให้ข้อมูลมา
พื้นที่ของวิลล่าแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่โตเกียวเบย์ริชแอเรีย เป็นพื้นที่ย่านคนรวยที่มีชื่อเสียงในโตเกียว
ซงเต่าเฟิงทั้งตระกูลพักอยู่ที่นี่
เฉินเฟิงไม่ได้คิดที่จะตรงไปช่วยหลินหวั่นชีวที่ขวัญนินจา เขาคิดที่จะไปเค้นถามที่ตั้งของสมาคมการค้าเชียสุ่ยจากปากซงเต่าเฟิง
แตกต่างจากสมาคมการค้าจงไห่ ภายในของสมาคมการค้าเชียสุ่ยมีแค่สองตระกูลใหญ่
ตระกูลหนึ่งก็คือตระกูลกงปุ่นที่กงป่นป้านฉางอยู่
ส่วนอีกตระกูล คือตระกูลซงเต่าที่ซงเต่าเฟิงอยู่
ในประเทศญี่ปุ่น ตระกูลซงเต่าถือเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง ธุรกิจที่ตระกูลพวกเขาครอบครอง แทบจะมีอยู่ทุกที่ในประเทศญี่ปุ่น
ครั้งที่แล้ว ซงเต่าเฟิงมางานวันเกิดฉู่ชีงฉือ เขาให้เรือยอร์ชลำหนึ่งเป็นของขวัญ
ในตอนนั้น ของขวัญของซงเต่าเฟิงทำให้ตระกูลฉู่ถึงกับตกตะลึง
เพราะว่า มูลค่าของเรือยอร์ชลำนั้น มากถึงหนึ่งร้อยกว่าล้านหยวน!
เฉินเฟิงได้ใกล้ชิดกับซงเต่าเฟิงแค่ช่วงเวลานั้นเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงจำซงเต่าเฟิงไม่ได้เท่าไหร่ จำได้แค่ว่าซงเต่าเฟิงตัวเตี้ยและอ้วน
ก่อนมาประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ สือโพ่จุนบอกกับเขา อยากไปช่วยหลินหวั่นชีวที่ขวัญนินจา ทางที่ดีที่สุดให้ไปหาจากซงเต่าเฟิง
เพราะว่า หั้วจิ้งยอดฝีมือของตระกูลซงเต่าเฟิงช่วงนี้กำลังเก็บตัวถือศีล
ดังนั้น ทั้งตระกูลซงเต่าเฟิงในตอนนี้ไม่มียอดฝีมือระดับหั้วจิ้ง
เวลานี้ ภายในตระกูลซงเต่าเฟิง ครอบครัวซงเต่าทั้งครอบครัวกำลังกินอาหาร
“เฟิงเอ๋อ ได้ยินพวกเขาบอกว่า แกรู้จักเฉินเฟิง?”
กินอาหารได้ครึ่งหนึ่ง ซงเต่าโสงเหย่ซึ่งเป็นพ่อของซงเต่าเฟิงวางมีดและส้อมลงแล้วเอ่ยพูด
“ครับ ผมรู้จักเฉินเฟิงคนนั้นจริงๆ” ซงเต่าเฟิงพยักหน้าด้วยสีหน้าสับสน
“แกคิดว่าคนๆนี้จะมาประเทศญี่ปุ่นไหม?” ซงเต่าโสงเหย่ถาม
ซงเต่าเฟิงส่ายหน้า:“พ่อครับ ผมไม่ค่อยรู้จักเฉินเฟิงเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงไม่รู้แน่ชัดว่าเฉินเฟิงจะมาหรือไม่มาประเทศญี่ปุ่น”
“แต่ว่า คนหวาเซี่ยเป็นคนให้ความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์ ถ้าหลินหวั่นชีวคนนี้เป็นผู้หญิงของเฉินเฟิง เขาต้องมาประเทศญี่ปุ่นแน่นอน” ซงเต่าเฟิงพูด
“ทางที่ดีที่สุดขอให้มันมา ถ้ามันไม่มา แผนการทั้งหมดที่เราวางเอาไว้ ก็จะสูญเปล่า” ซงเต่าโสงเหย่พูด
“พ่อครับ พวกเราต้องฆ่าเขาทิ้งจริงๆหรอ?” ซงเต่าเฟิงอดไม่ได้ที่จะถาม จนกระทั่งตอนนี้ เขายังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ชายหนุ่มอ่อนโยนที่เห็นในวันนั้น จะเป็นอัจฉริยะที่น่ากลัวขนาดนั้น
“หึ ขวัญนินจาครั้งนี้ส่งนินจาชั้นต่ำสามสิบคน บวกกับนินจาชั้นกลางยอดฝีมือสิบคนออกมา พลังระดับนี้ จะไม่สามารถฆ่ามันทิ้งได้ยังไง” ซงเต่าโสงเหย่หัวเราะในลำคอ
แววตาของซงเต่าเฟิงเคร่งขรึมเล็กน้อย นินจาชั้นต่ำที่ซงเต่าโสงเหย่พูดถึง คือนินจาที่มีแดนที่ต่ำที่สุดของประเทศญี่ปุ่น นินจาระดับนี้ เท่ากับระดับหมิงจิ้งของหวาเซี่ย ส่วนนินจาชั้นกลาง เท่ากับอ้านจิ้งของหวาเซี่ย
หมิงจิ้งสามสิบคน บวกกับอ้านจิ้งสิบคน……
เพื่อที่จะฆ่าเฉินเฟิง ขวัญนินจาส่งคนพลังระดับนี้ออกมา!
“พ่อครับ แล้วพวกเราละ?” ซงเต่าเฟิงอดไม่ได้ที่จะถาม อย่างชัดเจน สิ่งที่ซงเต่าโสงเหย่พูดเมื่อครู่มีแค่คนที่ขวัญนินจาส่งออกมา สำหรับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีที่แท้จริงในครั้งนี้ ตระกูลซงเต่าและตระกูลกงปุ่น เกรงว่าจะส่งยอดฝีมือยิ่งกว่านี้ออกมา!
“พวกเรา?” ซงเต่าโสงเหย่แสยะยิ้มมุมปาก “พวกเราส่งคนออกไปแค่สองคนก็พอแล้ว”
“สองคน?” ซงเต่าเฟิงตกใจ ตามด้วยคล้ายกับว่าคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก
“พ่อ เฉินเฟิงมาช่วยคนในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะทำการถ่ายทอดสดให้จอมยุทธ์ทั่วโลกดู ถ้าให้นินจาชั้นสูงของตระกูลพวกเราออกไป เกรงว่า……”
นินจาชั้นสูงทุกคนของตระกูลใหญ่อย่างครอบครัวซงเต่า เป็นยอดฝีมือที่คนนอกต่างรู้จัก ถ้าพวกเขาออกไปขวางทางเฉินเฟิงอย่างเปิดเผย ผู้แข็งแกร่งทั่วโลกต้องดูออกแน่นอน
“วางใจ นินจาชั้นสูงสองคนที่ตระกูลพวกเราส่งไปนั้น ‘ตายไป’ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว……” ซงเต่าโสงเหย่พูดขัดซงเต่าเฟิงขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เหมือนกับตระกูลกงปุ่น ครอบครัวซงเต่ามีนินจาชั้นสูงที่ควรจะตายไปตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน!
“ตายแล้ว?” ดวงตาของซงเต่าเฟิงเป็นประกาย คำว่าตายไปแล้วที่ซงเต่าโสงเหย่พูดแน่นอนว่าไม่ได้ตายจริงๆ แต่หมายความว่าตัวตนของพวกเขาตายไปแล้ว!
ขณะที่ซงเต่าเฟิงและซงเต่าโสงเหย่กำลังปรึกษาหารือกันว่าจะจัดการเฉินเฟิงอย่างไร เฉินเฟิงได้ลอบเข้าไปในวิลล่าแล้ว
มาถึงบริเวณบ้านหลักของซงเต่าเฟิง
วันนี้ตอนกลางวัน สือโพ่จุนทำตามแผนการของเขาประกาศเรื่องที่หลินหวั่นชีวถูกจับตัวไปบนฟอรั่มบูโด ทำให้เกิดความฮือฮาอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน เขาได้ไปยังโซลประเทศกาวลี่ด้วยตัวตนปลอม จากนั้นใช้เส้นสายของตระกูลฉู่หาหนุ่มกาวลี่ที่หน้าตาคล้ายคลึง แล้วใช้ตัวตนของหนุ่มกาวลี่คนนั้น มายังโตเกียวอย่างเปิดเผย แล้วตรงมาที่นี่
เฉินเฟิงในตอนนี้ โยนวิกผมทิ้งไปแล้ว เขาเปลี่ยนเป็นชุดสีดำ ตัวเขาแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งกับค่ำคืนที่มืดมิด
ในค่ำคืน เขาหรี่ตาลง ขณะเดียวกันที่มองดูวิลล่าของซงเต่าเฟิง ก็เงี่ยหูฟัง ฟังทุกอย่างด้วยความละเอียด
เช่นเดียวกับวิลล่าหรูสไตรล์ญี่ปุ่น ในวิลล่าของซงเต่าเฟิงนอกจากจะมีอาคารหลักแล้ว ยังมีสวนที่กินพื้นที่กว่าหนึ่งพันตารางเมตร ในสวนปลูกต้นไม้ดอกไม้ราคาแพงมากมาย มีศาลาสองอัน โคมไฟหินมากมาย และบ่อน้ำหนึ่งบ่อ
นอกเหนือจากนี้ วิลล่ามีกำแพงสูงสองเมตร ทั้งสี่ด้านของกำแพงมีกล้องวงจรปิด ที่สามารถมองดูได้สามร้อยหกสิบองศาไม่มีมุมหลบ ขอแค่มีคนเข้าใกล้วิลล่า ก็สามารถถูกกล้องวงจรปิดจับภาพได้ แสดงบนหน้าจอห้องดูกล้องวงจรปิด ถูกบอดี้การ์ดจับได้
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เฉินเฟิงดึงสายตากลับ สูดลมหายใจเข้า พลังที่อยู่ในร่างกายพลุ่งพล่านตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นมา
ฉึบ!
วินาทีต่อมา
ขาของเฉินเฟิงขยับ ตัวของผ่านไป ราวกับเป็นวิญญาณ เข้าไปตรงข้างกำแพงอย่างรวดเร็ว กระโดดตัวขึ้น ก็สามารถข้ามพื้นกำแพงสูงสองเมตรได้ จากนั้นก็กระโดดลงบนพื้นอย่างเงียบเฉียบ
ทั้งหมดนี้ มองดูแล้วเหมือนจะซับซ้อน แต่เพราะเฉินเฟิงทำด้วยความเร็วสูง ใช้เวลาที่สั้นมากๆก็ทำเสร็จ จึงทำให้กล้องวงจรปิดไม่ทันจับภาพเขาได้ มีเพียงแค่เงาดำเท่านั้น
“เมื่อกี้คือเงาคนหรอ?”
ภายในห้องดูกล้องวงจรปิด บอดี้การ์ดคนหนึ่งเห็นเงาดำ ตอนที่ทำความแน่ใจนั้น เงาดำกลับหายไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะถามเพื่อนร่วมงาน