ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 583
บทที่ 583 สัญญาถูกตัดกลางคัน
“จะเป็นไปได้ไหมที่เฉินเฟิงจะแฝงตัวเข้ามาที่ฐานทัพแล้ว ในขณะเดียวกันก็ใช้เครื่องรบกวนสัญญาณ?” มีนินจาอีกคนที่ฟื้นสติกลับมาได้ ทำการวิเคราะห์ออกมาอย่างนี้
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ต้องไปรายงานท่านชิงมู่ก่อน”
นินจาคนที่สามเอ่ยปากพูดแล้ว เขาเป็นคนรับผิดชอบทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิด
เมื่อพูดจบแล้ว เขาก็รีบเอาวิทยุสื่อสารออกมา พูดเรียก : “ท่านชิงมู่ ทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิดมีรายงานเหตุการณ์คับขัน”
“เกิดอะไรขึ้น?”
ชิงมู่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลาคับขัน เขาไม่เพียงแต่นำวิทยุสื่อสารติดตัวมาด้วย แถมยังเปิดไว้ตลอดเวลาอีก สามารถรับรายงานจากลูกน้องได้ตลอดเวลา
“ภาพกล้องวงจรปิดหายไป พวกเราคิดว่าสัญญาณมีปัญหา และมีโอกาสสูงที่เฉินเฟิงจะใช้เครื่องตัดสัญญาณที่มีประสิทธิภาพสูงที่พกติดตัวแฝงตัวเข้ามายังฐานทัพแล้ว!”
ผู้ที่รับผิดชอบของทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิดรีบรายงานออกไป
“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อชิงมู่ได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที รีบเดินออกไปจากห้อง ไปยังห้องที่มีทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิดอยู่อย่างรวดเร็ว
เพียงไม่กี่วินาที ตอนที่ชิงมู่เดินลงไปยังห้องที่มีทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิดอยู่ นินจาทั้งสี่ก็ตกใจที่พบว่าภาพกล้องวงจรปิดกลับมาเป็นปกติแล้ว
“ท่าน……ท่านชิงมู่ ภาพหน้าจอเพิ่งจะกลับมาเป็นปกติครับ ”สายตามองไปยังชิงมู่ที่เข้าห้องมา ผู้รับผิดชอบทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเอ่ยปากรายงาน
“พบอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”ชิงมู่ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม
“ไม่มีครับ”
นินจาทั้งที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“ภาพกล้องวงจรปิดถูกตัดกลางคันไปกี่นาที?” ชิงมู่เอ่ยถามอีก
“ไม่ถึงนาทีครับ”
ผู้รับผิดชอบทีมกล้องวงจรปิดรีบรายงานออกไปทันที แล้วพูดจากการวิเคราะห์ของตัวเอง “ไม่น่าจะใช่เฉินเฟิงแฝงตัวเข้ามายังฐานทัพหรอกครับ”
‘ทำไม?”
“วัตถุประสงค์ที่เขาแฝงตัวเข้ามาก็เพื่อฆ่าพวกเรา หรือจะใช้คำว่าฆ่านองเลือดมาอธิบายน่าจะถูกต้องแม่นยำมากกว่า ”
ผู้รับผิดชอบของทีมตรวจสอบกล้องวงจรปิดพูดจากการวิเคราะห์ของตัวเอง “สิ่งที่เขาต้องทำก็คือ ต้องหาพวกเราให้เจอก่อน แล้วค่อยลงมือจัดการ ฐานทัพใหญ่ขนาดนั้น แม้ว่าเขาจะมีพลังของนินจาชั้นสูงขั้นท้าย เป็นไปไม่ได้ที่จะค้นหาทั้งฐานทัพภายในเวลาไม่กี่นาทีอย่างแน่นอน แม้แต่ตึกหอพักของพวกเราก็หาไม่หมด ดังนั้น ผมคิดว่านี้น่าจะเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่เพราะเฉินเฟิงแฝงตัวเข้ามาฐานทัพ”
“เป็นไปได้ไหม หลังจากที่เขาเข้ามายังฐานทัพ ไม่เห็นใคร ก็เลยถอยออกไปแล้ว?”ชิงมู่ขมวดคิ้วแน่น ไม่ค่อยวางใจ——อยู่ดีๆ ทำไมสัญญาณถึงถูกตัดไปอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ?
“ท่านชิงมู่ ขอบเขตกล้องวงจรปิดของพวกเราเป็นการดูรอบๆกว่าร้อยเมตร ที่ฐานทัพนอกจากห้องพักผ่อนของเราแล้ว เรียกได้ว่าเป็นกล้องวงจรปิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด อิงจากความเร็วของเขา แม้ว่าจะไม่หาทั้งฐานทัพ แต่แค่เดินจากฝั่งตะวันออกของฐานทัพไปยังฝั่งตะวันตก หรือว่าเดินจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก ล้วนแล้วแต่เป็นไปไม่ได้” นินจาอีกคนเอ่ยปากพูดแล้ว
“ท่านชิงมู่ ท่านใหญ่เทียนและประธานกงปุ่นถึงแล้ว!”
ครั้งนี้ ไม่ต้องรอให้พูดอะไรอีก เสียงของนินจาคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาอีกครั้งจากในวิทยุสื่อสาร
“ทุกคน ลงไปต้อนรับท่านใหญ่เทียนจ้าวและประธานกงปุ่น!”
ชิงมู่ออกคำสั่งทันที แล้วหันไปมองภาพกล้องวงจรปิดที่กลับมาเป็นปกติแวบหนึ่ง ไม่ได้คิดอะไรมากอีก หันหลังออกจากห้องไปเลย
ในแง่หนึ่ง เขาเห็นด้วยจากการวิเคราะห์ของลูกน้อง อีกแง่หนึ่ง เทียนจ้าวเจินเหย่ในฐานะที่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งติดอันดับรายชื่อที่18 หัวหน้าพิธีกรรมของแผนกอ้านเสินอิ่น นับเป็นวัตถุบูชาของชิงมู่ ในเรื่องมารยาทไม่กล้าจะทำให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย
ต้องพูดว่า สำนักนินจามีความสามารถพอที่จะเป็นรากฐานของสำนักขวัญนินจา สร้างกองกำลังสยบใต้ดินในญี่ปุ่นและทั่วโลก ต้องมีเหตุผลแน่นอน
เมื่อชิงมู่ออกคำสั่ง นินจากว่าสามสิบคนก็ลงมือปฏิบัติตามทันที ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็มาถึงชั้นล่างของโรงแรมแล้ว
ท่ามกลางค่ำคืนนี้ พวกเขายืนทื่ออยู่ตรงนั้น ไม่ขยับ เรียงเป็น 2 แถว ยินดีต้อนรับการมาถึงของเทียนจ้าวเจินเหย่และกงปุ่นป้านฉาง
ไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ทหารลำหนึ่งคล้ายๆเหยี่ยว วนมาแต่ไกล เสียงใบพัดหมุนอยู่ในความมืด
จากนั้น ชิงมู่และนินจา 20 นายกำลังมองดู เฮลิคอปทหารเตอร์มาถึงโรงแรม จอดลงที่ลานจอดรถ
ฟิ้ว!
เวลาต่อมา เฮลิคอปเตอร์ทหารยังไม่ทันลงจอด มีร่างหนึ่งโผล่มาจากห้องโดยสาร
คือเทียนจ้าวเจินเหย่
เขานั่งเครื่องบินรบมาถึงสนามบินทหารหนึ่งในฮอกไกโดก่อนแล้ว จากนั้นก็นั่งเฮลิคอปเตอร์ทหารมาถึง ที่นี่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเครื่องบินพลเรือน 1 ชั่วโมงเต็มๆ
กงปุ่นป้านฉางตามหลังเทียนจ้าวเจินเหย่มาติดๆ
“ท่านใหญ่เทียนจ้าว ประธานกงปุ่น!”
หลังจากที่เห็นเทียนจ้าวเจินเหย่ลงจอดได้อย่างราบรื่น ไม่ว่านินจาทั้ง 20 นายนั้น หรือจะเป็นนินจาชั้นสูงอย่างชิงมู่ รูม่านตาค่อยๆขยาย จากนั้นก็โค้งคำนับให้กับเทียนจ้าวเจินเหย่ เกิดความเลื่อมใสและความเคารพยำเกรงในดวงตาอย่างเปิดเผย “ก่อนที่ฉันจะมาถึงที่นี่ จอมยุทธ์หวาเซี่ยท่านนั้นได้เข้ามายังสำนักใหญ่นินจาหรือเปล่า”
จ้าวเจินเหย่เอ่ยปากถามคำถามที่สำคัญที่สุดออกมา เขารู้ดี ว่าสิ่งนี้จะตัดสินว่าแผนการสังหารเฉินเฟิงจะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นหรือไม่
“ท่านใหญ่เทียนจ้าว ตั้งแต่ที่เราออกจากฐานทัพมา ก็ดำเนินการตรวจสอบกับฐานทัพมาโดยตลอด ไม่ได้พบว่าเฉินเฟิงแฝงตัวเข้ามาในฐานทัพ
ชิงมู่รายงาน เขาเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของลูกน้อง และไม่ได้พูดถึงเหตุขัดข้องของหน้าจอกล้องวงจรปิดที่ไม่ถึง 1 นาที
ท้ายที่สุดเขาคิดว่า เทียนจ้าวเจินเหย่นักสู้คนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีเช่นนี้ และอีกอย่างเทียนจ้าวเจินเหย่ต้องการแค่ผลลัพธ์ ไม่ได้ต้องการการวิเคราะห์หรือการตัดสินอะไรทั้งนั้น
“โอเค ไปที่สำนักใหญ่นินจา!”
เมื่อเทียนจ้าวเจินเหย่ได้ยิน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ให้ชี้แนะทันที จากนั้นเขาก็โบกมือให้นักบินที่ขับเฮลิคอปเตอร์ทหารอยู่กลางอากาศ
เมื่อนักบินคนนั้นเห็น ก็ขับเฮลิคอปเตอร์ทหารออกไป ส่วนเทียนจ้าวเจินเหย่และคนอื่น ๆ ไปที่สำนักใหญ่นินจาด้วยรถที่เตรียมไว้แล้ว
ในเวลาเดียวกัน
ณ บนเนินเขาหลังสำนักใหญ่นินจา เฉินเฟิงนั่งยอง ๆอยู่ข้างต้นไม้รออย่างอดทนราวกับนักล่ากำลังล่าสัตว์
เขามองว่าเทียนจ้าวเจินเหย่และคนอื่นๆเป็นสัตว์ อยากจะนั่งรอให้เขามาตายถึงที่
เขาวางแผนซ้อนแผน เตรียมหนามยอกเอาหนามบ่ง!
ดึกแล้ว สายลมยามค่ำคืนพัดมา พัดเกล็ดหิมะลงมาจากต้นไม้ เกล็ดหิมะปลิวไสวไปตามสายลม โรยราลงในป่า
เฉินเฟิงหมอบอยู่ข้างๆต้นไม้ใหญ่ จับตามองทางเข้าสำนักใหญ่นินจา และรออย่างเงียบๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ขณะที่เฉินเฟิงจับตาดูอยู่นั้น มีรถยนต์หลายคันปรากฏขึ้นและขับไปยังทางเข้าสำนักใหญ่นินจา ไฟสว่างสะท้อนอยู่บนถนน
“ในที่สุดก็มาแล้ว!”
เมื่อเห็นฉากนี้ เฉินเฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อรู้ว่าตัวเองคิดถูกแล้ว
ก่อนที่เขาจะนองเลือดสำนักใหญ่ขวัญนินจา ก็คิดว่าสำนักใหญ่ขวัญนินจาจะกระจายเรื่องออกไป และจะต้องกระจายไปถึงกงปุ่นป้านฉางนั่นอย่างแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้ คนของสำนักนินจาจะต้องไม่นั่งรอความตายแน่นอน แต่จะออกจากที่สำนักใหญ่นินจาเป็นอันดับแรก และกงปุ่นป้านฉางเป็นไปได้ว่าจะรีบไปฆ่าเขาที่ฮอกไกโดเป็นสิ่งแรก
หลังจากตัดสินได้เช่นนี้ เขาใช้ประโยชน์จากเวลาที่ต่างกันของคนเสินอิ่นรอคอยนินจาของสำนักนินจาออกไปจากสำนักใหญ่ เมื่อพร้อมเต็มที่ ก็จะเหวี่ยงแห แค่รอให้กงปุ่นป้านฉางติดแห
ตอนนี้ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามที่เขาจินตนาการไว้