ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 597
บทที่ 597 ร้องไห้กลับไป
“แกแน่ใจว่าจะทำแบบนี้?” ผูชางจวู้นถลึงตาใส่หวู่เหวินโป๋ ถามเสียงขรึม
“แน่ใจ” หวู่เหวินโป๋พูดอย่างสงบนิ่ง จากนั้นเขาเบนสายตาไปที่นักแข่งรถกาวลี่ที่ตบหน้าเจ้าหน้าที่สาว “บอกมา เลือกข้อไหน?”
“แกคิดจะเป็นศัตรูกับฉันรวมถึงนักแข่งรถทั่วทั้งกาวลี่เพื่อผู้หญิงแพศยาคนหนึ่งจริงๆหรือไง?” นักแข่งรถกาวลี่คนนั้นเอ่ยถาม น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความกลัวจางๆ
ด้านหนึ่งเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า หวู่เหวินโป๋จะกล้ามาหาเรื่องเขาโดยไม่เกรงกลัวว่าจะเป็นศัตรูกับนักแข่งรถทั่วทั้งกาวลี่เพื่อเจ้าหน้าที่สาวธรรมดาคนหนึ่ง
อีกด้าน ถ้าหวู่เหวินโป๋ยืนกรานจะลงมือจริงๆ ต่อให้ผูชางจวู้นออกหน้าปกป้องเขาก็ไม่มีประโยชน์ จริงอย่างที่หวู่เหวินโป๋พูด ที่นี่คือหวาเซี่ย และเป็นถิ่นของหวู่เหวินโป๋!
“ตบเขาสองฉาด ให้เขาไสหัวไป!” หวู่เหวินโป๋ออกคำสั่ง
“ครับ คุณชายโป๋!” บอดี้การ์ดดสองคนรับคำและก้าวเท้าเข้าหานักแข่งรถกาวลี่คนนั้น
“สารเลว ฉันเตือนแกไว้เลยนะ แกทำแบบนี้ไม่เพียงเป็นศัตรูกับนักแข่งรถทั่วทั้งกาวลี่ ยังเป็นศัตรูกับฉันและตระกูลฉัน รวมทั้งคนกาวลี่ทั้งหมดด้วย!” พอเห็นฉากนี้ ผูชางจวู้นเอ่ยปากอีกครั้ง น้ำเสียงข่มขู่เต็มพิกัด
ในฐานะราชานักแข่งรถกาวลี่อย่างเขา เป็นจอมทัพผู้นำนักแข่งรถชาวกาวลี่มาแข่งที่หวาเซี่ย ถ้าหวู่เหวินโป๋สั่งให้คนตบหน้านักแข่งรถกาวลี่คนนั้น เท่ากับตบหน้าเขาด้วย และเท่ากับว่าไม่เห็นตระกูลเขาและตระกูลหลี่ในสายตา!
“เหวินโป๋ นายทำถูกแล้ว ที่นี่คือหวาเซี่ย ไม่ต้องพูดว่าเขาเป็นแค่นักแข่งรถกาวลี่ธรรมดาคนหนึ่ง ต่อให้เขาเป็นประธานาธิบดีของกาวลี่มาเอง ก็จะมาทำร้ายคนโดยไร้เหตุผลไม่ได้!”
พอได้ยินคำข่มขู่ของผูชางจวู้น เฉินเฟิงเอ่ยปากทันที น้ำเสียงเขาพูดชัดถ้อยชัดคำ “ส่วนเรื่องคำขู่ของผูชางจวู้นนั่น ไม่ต้องไปใส่ใจ ให้คนของนายจัดการได้เต็มที่เลย ไม่เพียงแค่ตบสองฉาด หักขาเพิ่มอีกขาด้วย! พวกเขาอยากล้างแค้นให้มาหาพี่!”
“จัดการตามที่พี่เฟิงสั่ง!”
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิงข้างหู หวู่เหวินโป๋ฮึกเหิมมาก เดิมเขาก็ยังกังวลว่าทำแบบนี้จะเท่ากับเป็นการฉีกหน้าผูชางจวู้นเต็มๆ และเป็นศัตรูกับตระกูลผู แต่ตอนนี้เฉินเฟิงเอ่ยปากแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีก
พูดให้เวอร์หน่อย ขอเพียงเฉินเฟิงสั่งมาคำเดียว ต่อให้ผูชางจวู้นเขาก็กล้าชก!
“ครับ คุณชายเฉิน คุณชายโป๋!” บอดี้การ์ดสองคนรับคำในทันที และปราดเข้าไปหานักแข่งรถกาวลี่ที่ก่อเรื่องคนนั้น
“พวกแกคิดจะทำอะไร?”
นักแข่งรถกาวลี่คนนั้นตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ
“เพี๊ยะ—“
เขาได้รับตบหนึ่งมาเป็นคำตอบ
“เพี๊ยะ!”
นักแข่งรถกาวลี่คนนั้นกำลังจะด่า ก็โดนตบสองเข้าให้ เขามึนงงไปเลย
ในขณะเดียวกันบอดี้การ์ดดอีกคนก็ยกไม้ในมือตีลงไปที่ขาของนักแข่งกาวลี่คนนั้นอย่างแรง
“ปึ้ก!”
“พลั่ก—“
วินาทีต่อมามีเสียงสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน
นักแข่งกาวลี่คนนั้นโดนตีจนล้มไปกองกับพื้น ขาเขาหักทันที เลือดไหลนอง “อ๊า—“ นักแข่งกาวลี่คนนั้นมือกุมขาร้องโหยหวนไม่หยุด
“ดี ดีมาก!” พอเห็นฉากนี้ ผูชางจวู้นยิ้มอย่างโกรธจัด
เขาไม่ได้ห้าม และไม่ได้ให้คนของเขาห้ามปราม นอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว อาจจะส่งผลกระทบกับการแข่งคืนนี้ด้วย
ถ้างั้นแผนการที่เขานำทีมมาแข่งรถทีห่วาเซี่ยนี่ก็จบกัน เท่ากันมาฟรีน่ะสิ
“แกแน่มาก! ฉันหวังว่าตอนแกแข่งคืนนี้จะแน่เหมือนตอนนี้นะ อย่าทำหงอเป็นหมาหดหัวล่ะ!” หลี่ตงชิงเอ่ยปาก เขาจ้องเขม็งไปที่หวู่เหวินโป๋ สายตาเต็มไปด้วยรังสีอาฆาต แทบอยากจะเข้าไปจับหวู่เหวินโป๋เลาะกระดูกและทำลายไม่ให้เหลือซากศพ เพื่อระบายความแค้นในใจ อืม
พอได้ยินคำพูดของหลี่ตงชิง และรับรู้ได้ถึงแรงอาฆาตของหลี่ตงชิง เฉินเฟิงอดขมวดคิ้วไม่ได้
ตอนนี้
เขาตัดสินใจแล้วว่า คืนนี้จะอยู่เคียงข้างหวู่เหวินโป๋ตลอด
ถ้าพวกคนกาวลี่นี่คิดเล่นตุกติก เขาไม่แคร์ที่จะให้พวกมันเข้าใจว่า—–หวาเซี่ยในวันนี้ไม่ใช่หวาเซี่ยเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว คนกาวลี่จะมาเหิมเกริมในหวาเซี่ยไม่ได้!
“ฉันยังจะกลัวแกงั้นสิ?!”
ในตอนที่เฉินเฟิงแอบตัดสินใจ หวู่เหวินโป๋แค่นเสียงหึ ไม่ใส่ใจกับคำขู่ของหลี่ตงชิงเลยสักนิด
ด้านหนึ่งคือเขากำลังหนุ่มแน่นเลือดร้อน มั่นใจในฝีมือการแข่งรถของตัวเองมาก
อีกด้าน เฉินเฟิงอยู่ที่นี่ก็เหมือนมีเสาหลักอันเยี่ยมยอดอยู่ ทำให้เขาวางใจไม่กลัวอะไรเลย
“หลี่ตงชิง อย่าพูดอีกเลย”
พอหวู่เหวินโป๋พูดเสร็จ ผูชางจวู้นยื่นมือออกมาอีกครั้งเพื่อห้ามปรามไม่ให้หลี่ตงชิงเล่นสงครามน้ำลายกับหวู่เหวินโป๋อีก จากนั้นก็หันไปบอกบอดี้การ์ดดคนหนึ่งข้างกายเขาว่า: “ติดต่อเจ้าหมอนี่ที่ยันเจียงด้วย ให้เขาส่งรถมาพาคนเจ็บไปโรงพยาบาล”
“ครับ คุณชาย!”
บอดี้การ์ดดชุดดำคนนั้นรับคำสั่งในทันที และเดินไปอีกด้านเพื่อติดต่อคนตามที่ผูชางจวู้นสั่ง
ส่วนผูชางจวู้นก็นำทีมคนที่เหลือไปทางชั้นสาม
ในขณะเดียวกันจี้หงพานักแข่งรถหวาเซี่ยเดินเข้ามา มองเฉินเฟิงพลางถามอย่างอึ้งๆว่า: “คุณชายเฉิน มีอะไรกันหรอ?”
“มีนักแข่งกาวลี่คนหนึ่งทำตัวอันธพาล และยังตบหน้าเจ้าหน้าที่สาวของสนามแข่งสองฉาด พวกเราเข้ามาพูดคุยกับเขา เขากลับทำกร่างไม่ใส่ใจ พี่เฟิงเลยให้หักขาหมอนั่นข้างหนึ่งซะเลย” หวู่เหวินโป๋อธิบายเรื่องราวออกมา
“เห…”
พอได้ยินคำอธิบายของหวู่เหวินโป๋ ทุกคนพากันอึ้งตะลึงรวมทั้งจี้หงด้วย
หวู่เหวินโป๋บอกว่าพี่เฟิงให้หักขาหมอนั่นข้างหนึ่งเลย เท่ากับว่าเรื่องนี้เฉินเฟิงสั่งงั้นหรอ?
เฉินเฟิงเป็นใครกันแน่เนี่ย? ทำไมเขาแกร่งขนาดนี้?
ตอนนี้พวกจี้หงสงสัยในฐานะของเฉินเฟิงไปตามๆกัน
“อาจารย์ พวกเรา คืนนี้พวกเราต้องพยายามเข้านะ อย่าให้พวกกาวลี่มันหยามเอาได้!”
ในตอนที่พวกจี้หงมองเฉินเฟิงอย่างอึ้งตะลึง หวู่เหวินโป๋นึกถึงคำพูดสุดท้ายของหลี่ตงชิง ก็อดพูดเตือนออกมาไม่ได้
“คืนนี้พวกเราได้เปรียบทั้งเวลา สถานที่ คน เราต้องชนะแน่!”
“ใช่ คืนนี้ให้พวกกาวลี่ (คนประเทศกาวลี่) ร้องไห้กลับไปเลย!”
พอได้ยินคำพูดของหวู่เหวินโป๋ นักแข่งรถหวาเซี่ยพากันร้องตะโกนอย่างฮึกเหิม
“เหวินโป๋ พี่วางใจได้ คืนนี้ผมจะล้างแค้นให้พี่เอง!”
จี้หงเองก็พยักหน้าให้หวู่เหวินโป๋วางใจ ในขณะเดียวก็เป็นการรับคำสั่งเฉินเฟิงทางอ้อมด้วย
เขามองออกว่าเฉินเฟิงไม่พอใจนักแข่งรถกาวลี่มาก ถ้าเขาเอาชนะผูชางจวู้นในการแข่งรถได้ ต้องทำให้เฉินเฟิงพอใจแน่ พวกเขาจะได้สนิทสนมกันมากขึ้น
“คุณชายโป๋ ใกล้จะเริ่มเปิดพิธีแล้วครับ”
ตอนนี้เอง เจ้าหน้าที่สนามแข่งรถใต้ดินก้าวเท้ายาวเข้ามารายงานต่อหวู่เหวินโป๋พอดี เขาบอกว่า:
“ตามแผนแล้ว พวกเราจะเปิดงานตอนหนึ่งทุ่ม ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้เหลืออีกห้านาทีจะถึงเวลาเปิดงาน แต่นักแข่งรถกาวลี่กลับพากันเดินไปห้องวีไอพีกันหมด คุณชายเอาไงดีครับ?”
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา เริ่มพิธีเปิดตามกำหนดการได้เลย” หวู่เหวินโป๋ตัดสินใจ