ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 603
บทที่ 603 พันล้านดอลลาร์
จากใจส่วนลึกเลย เขาพันไม่ยอมหมื่นไม่ยอมก้มหัวคุกเข่าตบหน้าตัวเองยอมรับผิดกับนักแข่งรถกาวลี่แน่ แต่เขาเองก็รู้ว่า ถ้าเฉินเฟิงจะแสดงฝีมือสั่งสอนนักแข่งรถกาวลี่เพื่อให้เขาไม่ต้องทำตามพนัน มันจะทำให้วงการนักแข่งรถใต้ดินหวาเซี่ยกลายเป็นตัวตลกในวงการนักแข่งรถทั่วโลกแน่
พูดให้โอเวอร์กว่านี้หน่อย นับจากวันนี้ไปคงไม่มีใครกล้ามาร่วมแข่งขันรถใต้ดินที่หวาเซี่ยอีกแล้ว บางทีอาจจะรวมหัวกันห้ามนักแข่งรถหวาเซี่ยเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกเลยด้วยก็ได้
“อีกเดี๋ยวนายไม่ต้องพูดอะไร พี่จัดการเอง” เฉินเฟิงส่ายหัว ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม น้ำเสียงเด็ดขาดห้ามต่อรอง
“ครับ”
หวู่เหวินโป๋ได้ยินอย่างนั้น รู้สึกว่าเฉินเฟิงตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว เลยไม่ได้คัดค้านอะไรอีก
ตอนนี้เอง จี้หงนำทีมนักแข่งรถหวาเซี่ยเข้ามาถึงพอดี
นักแข่งรถหวาเซี่ยแพ้ติดกันสี่รอบรวด มันทำให้พวกจี้หงสีหน้าย่ำแย่มาก
โดยเฉพาะจี้หง
เขาไม่เพียงเป็นราชานักแข่งรถใต้ดินหวาเซี่ย ยังเป็นประธานหวาเสี้ยซุปเปอร์คาร์คลับ และเป็นอาจารย์ของหวู่เหวินโป๋—อันที่จริงเขาคิดว่าหวู่เหวินโป๋จะชนะการแข่งรอบนี้ได้ กู้หน้าให้วงการแข่งรถหวาเซี่ยมาได้รอบหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าหวู่เหวินโป๋จะแพ้จนได้!
ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เขาสามารถเอาชนะการแข่งรอบสุดท้ายได้ แต่ก็ไม่อาจล้างอายให้วงการแข่งรถใต้ดินของหวาเซี่ยได้อยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ตรงตามที่เฉินเฟิงคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เลย ความมั่นใจของเขาเริ่มสั่นคลอนแล้ว และสงสัยว่าตัวเองจะเอาชนะผูชางจวู้นได้จริงหรอ
“คุณชายจี้ รอบต่อไปผมลงแข่งเอง”
ในตอนนี้จี้หงกำลังหวั่นใจ จู่ๆเฉินเฟิงก็เอ่ยปากพูดคำที่ทำให้ทุกคนตกใจไปตามๆกัน
“เอ๋…”
จู่ๆได้ยินเฉินเฟิงพูดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นจี้หง หวู่เหวินโป๋หรือนักแข่งรถหวาเซี่ยคนอื่นพากันมองตาค้าง
พวกเขาเบิกตากว้าง มองเฉินเฟิงอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง!
วินาทีนี้พวกเขาสงสัยว่าหูตัวเองฝาดไปหรือไง
นี่มันเป็นการแข่งรถนะ…
แถมคู่ต่อสู้ยังเป็นผูชางจวู้น ราชานักแข่งรถกาวลี่ ติดอันดับห้าในบอร์ดดำ เป็นหนึ่งในราชานักแข่งของวงการแข่งรถใต้ดินของโลกเชียวนะ!
“คุณ….คุณชายเฉิน คุณขับรถแข่งเป็นด้วยหรอ?”
ในขณะที่ตกใจ จี้หงเอ่ยปากถามทันที เมื่อก่อนเขาคิดว่าเฉินเฟิงน่าจะมีฐานะไม่ธรรมดาอะไรสักอย่าง แต่เขาไม่เคยคิดไปในทางแข่งรถเลย เพราะนักแข่งรถเก่งๆของหวาเซี่ยเขารู้จักทั้งหมด แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อเฉินเฟิงมาก่อนเลย
“อืม”
เฉินเฟิงพยักหน้า จากนั้นพูดว่า “ผมรู้ว่าพวกคุณกังวลอะไรกัน ผมมั่นใจผมถึงทำแบบนี้ และเพื่อเป็นการออกหน้าให้เหวินโป๋ด้วย”
พอเฉินเฟิงพูดจบ พวกจี้หงกับหวู่เหวินโป๋ยังไม่ทันได้พูดอะไร ผูชางจวู้นก็นำทัพนักแข่งรถกาวลี่เดินเข้ามาหา
“เหอะ ไอ้ขี้ขลาด แกแพ้แล้ว!”
คนยังเดินมาไม่ถึง เสียงนำมาก่อนเลย หลี่ตงชิงเดินไปก็ยิ้มเย็นพูดว่า “รีบมาทำตามที่พนันไว้ คุกเข่าให้พวกเรา ตบหน้าตัวเองขอโทษพวกเราซะ!”
“ฮะฮะ รีบคุกเข่าตบหน้าตัวเองซะ!”
“มือถือฉันเตรียมพร้อมอัดวิดีโอแล้ว ฉันเชื่อว่าพออัพคลิปลงบอร์ดแล้ว ทุกคนต้องเข้ามาคอมเมนท์กันกระหน่ำแน่!”
พอหลี่ตงชิงพูดจบ พวกนักแข่งรถกาวลี่ด้านหลังเขาก็พากันหัวเราะเยาะ แทบทนไม่ไหวที่จะเห็นหวู่เหวินโป๋คุกเข่าตบหน้าตัวเองเต็มแก่แล้ว
พอได้ยินคำพูดกร่างใหญ่โตของพวกหลี่ตงชิงและนักแข่งรถกาวลี่ มองดูท่าทางโอหังของพวกมันแล้ว บรรดานักแข่งรถหวาเซี่ยรวมถึงจี้หงได้สติกลับจากความตะลึงที่เฉินเฟิงนำมาให้ แปรเปลี่ยนเป็นความอัปยศอดสู
พวกเขาอยากย้อนกลับ แต่ย้อนอะไรไม่ได้เลย
ส่วนหวู่เหวินโป๋สีหน้าเขียวดำ ตัวสั่นไปทั้งตัว ไม่อยากเป็นที่สุด
“พวกแกอยากพนันชีวิตไม่ใช่หรอไง? ฉันจะสนองให้เอง!”
ตอนนี้เองเฉินเฟิงเอ่ยปากขึ้น เขาก้าวขึ้หน้าสองก้าวไปยืนหน้าจี้หง หวู่เหวินโป๋และพวกนักแข่งรถหวาเซี่ย
หือ?
พอเฉินเฟิงพูดแบบนี้ ไม่เพียงทำให้พวกนักแข่งรถกาวลี่อย่างผูชางจวู้น หลี่ตงชิงอึ้งตะลึง ยังทำให้ฝั่งนักแข่งรถหวาเซี่ยอย่างจี้หง หวู่เหวินโป๋อึ้งไปอีกครั้ง”
“แกหรอ?”
หลังจากตะลึงชั่วครู่ หลี่ตงชิงมองเฉินเฟิงอย่างเหยียดหยาม หัวเราะแดกดันใส่ว่า “แกเป็นตัวอะไร? มีค่ามาพนันชีวิตกับฉันด้วยงั้นหรอ?”
“การแข่งขันรอบต่อไป ฉันจะแข่งกับแกเอง”
เฉินเฟิงไม่สนใจหลี่ตงชิง แต่จ้องมองผูชางจวู้นเขม็งแทน พูดชัดถ้อยชัดคำว่า: “ถ้าพวกเราแพ้ ชีวิตฉันกับหวู่เหวินโป๋เป็นของพวกแก ถ้าพวกแกแพ้ ชีวิตแกกับมันเป็นของพวกฉัน!”
ระหว่างที่พูด เฉินเฟิงชี้นิ้วไปที่หวู่เหวินโป่ และชี้ไปที่หลี่ตงชิง ความหมายชัดเจนมาก: การแข่งรอบหนึ่งพนันสองชีวิต!
“เอ่อ…”
ทุกคนตกตะลึงกันอีกครั้ง
สำหรับพวกนักแข่งรถกาวลี่ เดิมพวกเขาคิดว่าเฉินเฟิงจะแข่งกับหลี่ตงชิง พวกเขาไม่คิดเลยว่า เฉินเฟิงจะแข่งกับผูชางจวู้น แถมยังพนันชีวิตคนสองชีวิตในการแข่งรอบเดียวด้วย
ส่วนพวกนักแข่งรถหวาเซี่ยอย่างจี้หง ถึงเมื่อกี้เฉินเฟิงจะบอกพวกเขาแล้วว่า จะลงแข่งกับผูชางจวู้น แต่พวกเขาไม่คิดว่า เฉินเฟิงจะพนันชีวิตด้วย!
“เหอะๆ เมื่อกี้หลี่ตงชิงพูดชัดเจนแล้ว—แกมันตัวอะไรกัน? ถือดียังไงมาพนันชีวิตกับฉัน?” หลังจากตกใจแล้ว ผูชางจวู้นก็เปิดปากถาม เขามองเฉินเฟิงอย่างเหยียดหยาม เสมือนเทพจ้องมองมดตัวเล็กๆ
“ฉันเป็นราชานักแข่งรถกาวลี่ เป็นสมาชิกศูนย์กลางของตระกูลผู ชีวิตฉันมีค่ากว่าแกหมื่นเท่านัก—-ชีวิตแกเป็นหมื่นชีวิตยังเทียบไม่ได้กับชีวิตเดียวของฉันเลย!”
“พูดอะไรบ้าๆ! ชีวิตพี่เฟิงน่ะมีค่ากว่าแกมากนัก!”
เมื่อได้ยินคำพูดเหยียดหยามและท่าทางอหังการ์เสมือนคนที่สูงส่งกว่าของผูชางจวู้น หวู่เหวินโป๋แผดเสียงย้อนทันที
ในสายตาเขา ต่อให้ผูชางจวู้นเป็นแสนชีวิต ก็เทียบไม่ได้กับชีวิตเดียวของเฉินเฟิง
เฉินเฟิงเป็นผู้สืบทอดตระกูลเฉินแห่งยันเจียง
ตระกูลเฉินแห่งยันเจียง กวาดสายตาไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ แค่ตระกูลผูของกาวลี่ จะมาช่วยถือรองเท้าให้ตระกูลเฉินยังไม่คู่ควรเลย!
“ถ้าแกยอมพนันกับฉัน นอกจากเดิมพันเมื่อกี้แล้ว เงินเดิมพันจะเพิ่มจากร้อยล้านดอลลาร์เป็นพันล้านดอลลาร์ด้วย!”
เฉินเฟิงโยนเหยื่อออกมาอีกครั้ง
เขาคาดการณ์ได้นานแล้วว่า การที่นักแข่งรถกาวลี่มาแข่งที่หวาเซี่ยครั้งนี้ เพื่อมาเอาเงินเท่านั้นเอง
ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเพิ่มเงินเดิมพัน จะต้องทำให้พวกผูชางจวู้นหวั่นไหวแน่!
ไม่ผิดจากที่คาด ไม่ว่าจะเป็นผูชางจวู้น หรือหลี่ตงชิง แม้กระทั่งพวกนักแข่งรถกาวลี่ พอได้ยินเฉินเฟิงพูดแบบนี้ ก็สองตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“แกแน่ใจ?”
ผูชางจวู้นจ้องมองเฉินเฟิงเขม็ง ไม่รู้ว่ากำลังสงสัยว่าเฉินเฟิงพูดจริงไหมหรือกำลังคิดจะมองเฉินเฟิงให้ออก อยากรู้ว่าเฉินเฟิงถือดีอะไรมาพนันกับเขากันแน่
“แกกล้าพนันไหมล่ะ?” เฉินเฟิงย้อนถาม
“พนันน่ะไม่มีปัญหา แต่ฉันต้องแน่ใจก่อนว่าแกจะมีเงินพันล้านดอลลาร์จริง!” ผูชางจวู้นพูดเสียงเย็น
“ฉันออกเงินก้อนนี้เอง! ในมือฉันไม่มีเงินสดมากขนาดนี้ แต่พ่อฉันเป็นประธานบริษัทอันดับหนึ่งด้านอสังหาริมทรัพย์ ฉันจะยืมเงินพ่อพันล้านดอลลาร์เอง!”
หวู่เหวินโป๋พูด ถึงเขาไม่รู้ว่าฝีมือขับรถของเฉินเฟิงเป็นยังไง และไม่รู้ว่าเฉินเฟิงอาศัยอะไรมามั่นใจว่าจะชนะผูชางจวู้น แต่เขารู้ว่าเฉินเฟิงไม่ใช่คนวู่วาม เขาไม่มีทางทำเรื่องที่เขาไม่มั่นใจแน่