ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 621
บทที่ 621 เรื่องบังเอิญ
“ไม่ใช่ผู้มีพระคุณของฉันงั้นหรือ?ทำไมคุณเฉินถึงพูดแบบนั้นคะ?” แอนนี่เอ่ยถามอย่างแปลกใจ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว เมื่อสักครู่ที่เฉินอิงไฉมีปฏิกิริยามากมายขนาดนั้นก็เพราะเขามีลูกพี่ลูกน้องชื่อเดียวกับผู้มีพระคุณของเธอ ทั้งสองคนมีชื่อว่าเฉินเฟิงเหมือนกัน
ทว่าทำไมเฉินอิงไฉถึงคิดว่าลูกพี่ลูกน้องของตนไม่ใช่คนเดียวกับผู้มีพระคุณของเธอ?
“เจ้าหญิงแอนนี่สูงส่งราวกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ส่วนลูกพี่ลูกน้องของกระผมเป็นเพียงคนธรรมดา กระผมไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสได้พบเจอกับเจ้าหญิง”
เฉินอิงไฉเอ่ยแกมหัวเราะ เขาพูดของเขาไม่เพียงแต่เอ่ยชมแอนนี่เท่านั้นยังเป็นการตอบข้อสงสัยของแอนนี่ไปในตัว
เฉินเฟิงที่เป็นผู้มีพระคุณของแอนนี่กับเฉินเฟิงที่เขารู้จักคือคนเดียวกัน……ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ทว่าน้อยมาก น้อยกว่าโอกาสที่จะถูกล็อตเตอรี่ห้าล้านตั้งแต่ซื้อครั้งแรกเสียอีก
แอนนี่ขมวดคิ้วมุ่น ถึงแม้เฉินอิงไฉจะเอ่ยอย่างมั่นใจทว่าเธอกลับมีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในใจว่าลูกพี่ลูกน้องของเฉินอิงไฉคือผู้มีพระคุณของเธอ!
“คุณเฉินสะดวกให้ฉันดูรูปถ่ายลูกพี่ลูกน้องของคุณไหมคะ?” แอนนี่อดที่จะเอ่ยขอไม่ได้ ถึงแม้เฉินอิงไฉจะบอกว่าความเป็นไปได้ที่เฉินเฟิงที่เขาเอ่ยถึงกับเฉินเฟิงที่เธอรู้จักจะเป็นคนเดียวกันนั้นน้อยมาก ทว่าเธอก็อยากตรวจเช็คลางสังหรณ์ของเธอให้แน่ใจ
“สะดวกสิครับ”
แอนนี่มีท่าทีมุ่งมั่นขนาดนี้ แน่นอนว่าเฉินอิงไฉไม่กล้าที่จะปฏิเสธแน่นอน
ชั่วอึดใจ เขาก็สามารถหารูปของเฉินเฟิงจากโมเมนต์ของคนอื่นได้
รูปนี้เป็นรูปที่เฉินเฟิงถูกแอบถ่ายตอนที่อยู่สนามแข่งรถใต้ดินคุนซานเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
รูปไม่ชัดมากนักทว่าพอที่จะมองโครงหน้าของเฉินเฟิงออก
。
ความจริงแล้วนอกจากเฉินอิงไฉ ข้าราชการส่วนมากของยันเจียงที่มาร่วมงานในวันนี้ล้วนมีรูปนี้อยู่ในโทรศัพท์มือถือ
เพราะว่าข่าวเรื่องที่เฉินเฟิงเอาชนะราชารถกาวลี่ที่สนามแข่งรถใต้ดินถูกส่งต่อกันในโมเมนต์จนแพร่สะพัดไปทั่วทั้งยันเจียงแล้ว
ในตอนนี้คนในชนชั้นสูงของยันเจียงเกินกว่าครึ่งล้วนรู้จักเฉินเฟิง
เมื่อเปิดเจอรูป เฉินอิงไฉก็ยื่นโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าของแอนนี่
ยังไม่ทันได้รับโทรศัพท์มือถือมา แอนนี่ก็ชะงักไปแล้ว
ราวกับถูกสายฟ้าฟาดจนร่างทั้งร่างแข็งทื่อ
“เจ้าหญิงแอนนี่……”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของแอนนี่ เฉิงอิงไฉก็ชะงักไปอีกคน
คงไม่ใช่……
ผู้มีพระคุณของแอนนี่คือไอ้ลูกเมียน้อยคนนั้นจริงหรือ?!
“เจ้าหญิงแอนนี่……”
เฉินอิงไฉอดที่จะเอ่ยปากเรียกอีกครั้งไม่ได้ เขาอยากจะเอ่ยเตือนแอนนี่ว่าอาจจะจำผิดคน ทว่าเขายังเอ่ยไม่ทันจบก็ถูกแอนนี่เอ่ยตัดบทอย่างตื่นเต้น “คุณเฉิน เขาคือคนที่ฉันกำลังตามหา!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินอิงไฉชะงักค้างไปแล้ว
ฉับพลันน้ำเสียงที่แสนจะมั่นใจของแอนนี่ก็ทำลายความโชคดีสุดท้ายของเขา
“คุณเฉิน ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนคะ?” แอนนี่ตื่นเต้นจนหน้าแดง ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ ต้องใช้คำว่าตื่นเต้นในการนิยามเท่านั้น ตอนแรกเธอเตรียมใจที่จะตามหาเฉินเฟิงในหวาเซี่ยไปทั้งชีวิต แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งมาถึงหวาเซี่ยก็ได้ข่าวของเฉินเฟิงแล้ว
“เขา……ตอนนี้เขาคงจะอยู่ที่ยันเจียงครับ” เฉินอิงไฉฝืนยิ้ม วินาทีนี้จิตใจของเขาย่ำแย่กว่าการกินแมลงวันเข้าไปเสียอีก ให้ตายเขาก็คิดไม่ถึงว่าผู้มีพระคุณคนที่แอนนี่ตามหาอย่างยากลำบากจะเป็นเฉินเฟิงจริงๆ!
“เขาก็อยู่ที่ยันเจียงหรือคะ?!”
“โอ้พระเจ้า ช่างบังเอิญเสียจริง!”
ดวงตาคู่สวยของแอนนี่เป็นประกายอีกครั้ง เธอในตอนนี้ไม่เหลือมาดเจ้าหญิงผู้สูงส่งของราชวงศ์อังกฤษเลยสักนิด เหมือนกับเด็กตัวน้อยที่ดีใจเพราะได้อมยิ้มเสียมากกว่า
“บังเอิญมากจริงๆ”
เฉินอิงไฉพยักหน้า พยายามกดทับความรู้สึกไม่พอใจให้ลึกที่สุด
ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าไอ้ลูกเมียน้อยอย่างเฉินเฟิงไปรู้จักกับเจ้าหญิงของราชวงศ์อังกฤษที่อยู่คนละซีกโลกได้ยังไง ทว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือเรื่องดึงดูดนักลงทุน!
การมาเยือนหวาเซี่ยในครั้งนี้ แอนนี่พากลุ่มนักลงทุนของประเทศอังกฤษมาด้วย
และเขาก็เป็นผู้รับผิดชอบในการดึงดูดการลงทุนในเขตฝางซานของยันเจียง หากสามารถทำให้กลุ่มนักลงทุนของอังกฤษมาลงทุนได้โดยใช้แอนนี่เป็นทางผ่าน เช่นนั้นตำแหน่งของเขาในยังเจียงก็จะยกระดับขึ้นมาก
ขณะเดียวกันเขาก็จะมีสิทธิ์มีเสียงในตระกูลเฉินมากขึ้น!
ดังนั้นเขาต้องจับแอนนี่ให้อยู่หมัด
ดูจากปฏิกิริยาของแอนนี่ในตอนนี้ เธอคงติดต่อเฉินเฟิงไม่ได้แน่นอน
เช่นนั้นเขาก็จะสามารถใช้ความสัมพันธ์ของแอนนี่และเฉินเฟิงในการสร้างผลงานได้!
เพราะยังไงเสียแอนนี่ก็ไม่รู้เรื่องที่เขาและเฉินเฟิงเป็นศัตรูกัน แถมแอนนี่อาจจะรู้สึกดีกับเขาเพราะเฉินเฟิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ได้!
คิดมาถึงตรงนี้เฉินอิงไฉก็แสร้งทำเป็นโมโห “เฉินเฟิงนี่ใช้ไม่ได้เลย เขามีเพื่อนที่สูงสง่าอย่างเจ้าหญิงกลับไม่เคยบอกผมเลย”
แอนนี่ได้ยินดังนั้นก็ใช้รอยยิ้มกลบเกลื่อนความกระอักกระอ่วนของตัวเอง คำว่าเพื่อนที่บอกไปนั้นเธอพูดเองฝ่ายเดียว ยังไม่ได้รับการยอมรับจากเฉินเฟิงเลยด้วยซ้ำ!
นอกเหนือจากความกระอักกระอ่วน แอนนี่อยากจะถามเฉินอิงไฉว่าตอนนี้เฉินเฟิงอยู่ที่ส่วนไหนของยันเจียง ทว่าเธอก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะสมจึงไม่ได้เอ่ยปากถามออกไป
ขณะเดียวกัน คนของทางหวาเซี่ยที่อยู่ในงานล้วนมองเฉินอิงไฉอย่างประหลาดใจ
พวกเขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเฉินอิงไฉและเฉินเฟิงเป็นอย่างดี สุดท้ายแล้วเฉินอิงไฉก็อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเฟิงและแอนนี่ในการสร้างผลงานได้อย่างหน้าตาเฉย
ยืดหยุ่นทว่าเด็ดขาด
วินาทีนี้พวกเขาประเมินเฉินอิงไฉเป็นแบบเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เจ้าหญิงแอนนี่ แด่พรหมลิขิตที่น่าทึ่งในครั้งนี้ เรามาดื่มกันอีกสักแก้ว”
ถึงแม้เฉินอิงไฉจะสัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคนทว่าเขาก็ไม่ใส่ใจแต่กลับเผยยิ้มและยกแก้วชนกับแอนนี่อีกครั้ง
สำหรับเขาแล้วแอนนี่คือคนที่จะตัดสินว่ากลุ่มนักลงทุนของอังกฤษจะมาลงทุนในเขตฝางซานของยันเจียงหรือไม่และจะลงทุนเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะใช้วิธีไหนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญก็คือเขาจะสามารถเขียนเรื่องนี้เพิ่มลงไปในประวัติของเขาได้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการงานให้กับตัวเขาในอนาคต!
“ค่ะ คุณเฉิน”
แอนนี่เอ่ยตกลงในทันที ก่อนจะยกแก้วชนกับเฉินอิงไฉอีกครั้ง
หลังจากนั้นเฉินอิงไฉก็พูดคุยและชนแก้วกับแอนนี่อยู่เรื่อยๆ เขาทำหน้าที่แทนผู้มีอำนาจหลายคนของยันเจียงโดยสมบูรณ์แบบ กลายเป็นพระเอกของทางฝั่งหวาเซี่ยในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้
โดยทั่วไปแล้ว ผู้นำมักจะให้ความสำคัญกับอำนาจและหน้าตาในสองสถานการณ์ หนึ่งคืองานประชุม สองคืองานรับประทานอาหาร
ในงานประชุม คำพูดของหัวหน้าคือการชี้แจง ทว่าในงานรับประทานอาหาร ผู้นำคือคนที่ทุกคนใช้ในการคุยโวและประจบประแจง เป็นตัวละครหลักอย่างแท้จริง
ทว่าในวันนี้ผู้มีอำนาจหลายคนของยันเจียงยินยอมพร้อมใจกันให้เฉินอิงไฉออกหน้าแทนตนเอง จุดประสงค์ก็เพื่อให้เฉินอิงไฉเป็นตัวแทนของยันเจียงไปตีสนิทกับแอนนี่ เพื่อปูทางสำหรับการเจรจาการลงทุนในวันพรุ่งนี้
เวลาสามทุ่ม ความครื้นเครงในงานเลี้ยงก็สิ้นสุดลง
ผู้มีอำนาจหลายคนของยันเจียงพร้อมด้วยเฉินอิงไฉก็พากันไปส่งแอนนี่ขึ้นลิฟต์เสร็จสรรพถึงจะแยกย้ายกันออกจากโรงแรม
“น่าเสียดายยังไม่ทันได้ถามที่อยู่ของเฉินเฟิงจากหัวหน้าเขตเฉินเลย” ในขณะที่ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นแอนนี่ที่ถูกรายล้อมด้วยบอดี้การ์ดและนักธุรกิจของกลุ่มนักลงทุนก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก