ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 626
บทที่ 626 ฉันคือเฉินอิงไฉ
ครืด!
ได้ฟังคำพูดของกรรมการจาง สีหน้าของเซ่หย่วนเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขาไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ ถ้าสองเรื่องนี้พลาดไป เบื้องบนกล่าวโทษลงมาจะเกิดผลลัพธ์ยังไงบ้าง
“กรรมการจาง คุณรีบตอบกลับหัวหน้าแผนกคุณมู่เล่อ บอกเขาว่า ให้องค์หญิงแอนนี่อย่าโกรธเลย พวกเราจะกำจัดเฉินอิงไฉออกจากตำแหน่งในเวลาที่สั้นที่สุด!” ถึงยังไงเซ่หย่วนก็ทำงานข้าราชการมานานแล้ว พบเจอกับเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้ เขาจึงสามารถทำให้ตนเองใจเย็นลงได้เร็ว แล้วรีบจัดเตรียมทุกอย่างต่อ
“ครับ นายกเทศมนตรี” กรรมการจางตอบกลับทันที
เซ่หย่วนไม่พูดไร้สาระอีก เขารีบโทรหาเฉินอิงไฉ
“ตรืด ตรืด”
ปลายสาย เฉินอิงไฉที่ยังคงอยู่ที่ร้านอาหารภายในโรงแรม ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่น ราวกับได้ยินเสียงร้องจากทูตนรก ทั้งกระวนกระวายและหวาดกลัว ทำให้ไม่กล้ารับสาย
“ฟู่”
หลังจากผ่านไปหลายวินาที เฉินอิงไฉสูดลมหายใจเข้า พยายามเรียกสติตนเอง หยิบโทรศัพท์ออกมา รับสาย “นายกเทศมนตรี……”
“เฉินอิงไฉ!เธอทำอะไรลงไปกันแน่?!” เพิ่งกดรับสาย เสียงของเซ่หย่วนที่เต็มไปด้วยความโมโหก็ดังขึ้น
ไม่รอให้เฉินอิงไฉพูด เซ่หย่วนพูดตะคอกด้วยความโมโห:“เฉินอิงไฉ เธอฟังฉันให้ดีนะ ฉันไม่สนใจว่าเธอจะใช้วิธีไหน ภายในครึ่งชั่วโมง เธอจะต้องทำให้องค์หญิงแอนนี่หายโกรธ ให้บริษัทอังกฤษลงทุนในยันเจียงด้วยความราบรื่น ไม่อย่างนั้น นายก็เก็บข้าวของแล้วไสหัวไป ไปได้ไกลเท่าไหร่ก็ไปเท่านั้น!”
“ครืด!”
ได้ฟังคำพูดของเซ่หย่วน สีหน้าของเฉินอิงไฉเปลี่ยนไปมาก
จากนั้น เขาเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา รีบพูดรับประกัน:“นายกเทศมนตรี ท่านวางใจเถอะครับ ผมจะต้องทำให้องค์หญิงแอนนี่หายโมโหให้ได้ ผมจะไม่มีวันปล่อยให้การลงทุนของบริษัทอังกฤษได้รับผลกระทบเด็ดขาด!”
“ตู๊ดๆ”
เหมือนว่าเฉินอิงไฉยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่เซ่หย่วนที่กำลังโมโหอยู่นั้นตัดสายไปแล้ว
ภายในโรงแรมหรู เซ่หย่วนที่เป็นฝ่ายตัดสายยังคงโมโหเป็นอย่างมาก
สำหรับเรื่องระหว่างเฉินอิงไฉและเฉินเฟิง เขาได้ยินมานานแล้ว
เขาและคนมากมายต่างก็เหมือนกัน รู้ว่านี่คือการแก่งแย่งชิงดีชิ่งเด่นภายในของตระกูลเฉิน
สำหรับเรื่องที่เฉินอิงไฉปิดบังความสัมพันธ์ของเขากับเฉินเฟิงต่อหน้าแอนนี่ ทั้งยังใช้ความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงและแอนนี่ในการให้บริษัทอังกฤษเพิ่มการลงทุน เขาไม่มีท่าทีอะไร
ถ้าเรื่องนี้ประสบความสำเร็จก็เป็นความดีความชอบของเฉินอิงไฉ เขาเองก็ได้หน้าได้ตาไปด้วย ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ก็เป็นความผิดของเฉินอิงไฉ เช่นเดียวกับตอนนี้
นี่คือสิ่งที่ข้าราชการระดับหัวหน้ามักจะทำ
สำหรับเรื่องนี้ เฉินอิงไฮรู้ดีแก่ใจ
อีกทั้ง เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจกับความโมโหของเซ่หย่วนแม้แต่น้อย
ถึงแม้เขาจะเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเฉิน แต่เซ่หย่วนไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าของเขา แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ การที่ต่อว่าเขาสองสามคำเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีกว่าใคร ถ้าไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้ดีได้จะเกิดอะไรขึ้น!
หลังจากวางสาย เฉินอิงไฉวางโทรศัพท์ลง จุดบุหรี่หนึ่งมวน แล้วสูบบุหรี่ พร้อมกับครุ่นคิดว่าควรจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
จากสิ่งที่เซ่หย่วนสื่อ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เขาทำให้แอนนี่หายโมโห
แต่ว่าตอนนี้แอนนี่รู้แล้วว่าเขากับเฉินเฟิงเกี่ยวข้องกันยังไง ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาไปหาแอนนี่ เกรงว่าแอนนี่คงจะไม่สนใจเขา
แต่แม้ว่าแอนนี่จะไม่สนใจเขา เขาก็ต้องลองดู
ไม่อย่างนั้น อาชีพข้าราชการของเขาคงจบลงแค่นี้……
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เฉินอิงไฉมาถึงบ้านพักที่แอนนี่เข้าพัก
ภายในบ้านพัก บอดี้การ์ดรูปร่างสูงโปร่งสวมชุดสูทสีดำสองคนกำลังยืนตัวตรงด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อเห็นเฉินอิงไฉ ทั้งสองก้าวขึ้นมาด้านหน้าหนึ่งก้าวโดยไม่ได้นัดหมาย ยื่นมือออกมา ขวางเฉินอิงไฉเอาไว้ตรงนอกประตู
เฉินอิงไฉนิ่งงัน จากนั้นใบหน้าของเขาก็แต้มไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ :“รบกวนบอกองค์หญิงแอนนี่หน่อยครับ ผมมีธุระ……”
“ไสหัวออกไป!”
เฉินอิงไฉยังไม่ทันพูดจบ บอดี้การ์ดรูปร่างกำยำก็พูดขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
เวลานี้ บอดี้การ์ดชำเลืองมองเฉินอิงไฉด้วยแววตารังเกียจ แล้วพูด:“องค์หญิงมีรับสั่งแล้ว องค์หญิงไม่อยากเจอคนที่น่ารังเกียจอย่างคุณ ทางที่ดีที่สุดคุณไสหัวไปให้ไกลเท่าที่จะไกลได้!”
คนที่น่ารังเกียจ?
เมื่อได้ยินว่าแอนนี่เรียกตนแบบนี้ เฉินอิงไฉโมโหจนหูแดง
เวลาเดียวกัน เขาเองก็เข้าใจแล้ว อยากจะทำให้แอนนี่หายโกรธโดยตรงแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ เพราะท่าทีของแอนนี่ แน่วแน่มาก!
ไม่ให้โอกาสเขาแม้แต่น้อย!
“ขอโทษครับ ผมไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้ว เฉินอิงไฉเดินออกไปจากโรงแรม
เดินมาถึงประตูนอกโรงแรม สีหน้าของเฉินอิงไฉแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว การอยากทำให้แอนนี่หายโกรธเห็นอย่างชัดเจนว่ามันว่างเปล่าไปแล้ว
เกรงว่าเขาคงทำได้เพียงขอร้องให้เฉินเฟิงช่วย……
จากสิ่งที่แอนนี่แสดงออกมา เห็นอย่างชัดเจนว่าเฉินเฟิงสำคัญกับเธอมาก
ถ้าเฉินเฟิงบอกให้เธอลงทุนที่หวาเซี่ย เธอต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน……
แต่ว่า เฉินเฟิงจะช่วยเขาไหม?
เฉินอิงไฉกดโทรหาหัวหลินด้วยความหัวเสีย
“ที่รัก เป็นอะไรไปคะ?” ปลายสาย หัวหลินไม่รู้เรื่องที่แอนนี่โมโห เธอคิดว่า เวลานี้เฉินอิงไฉน่าจะกำลังทำให้แอนนี่ชื่นชอบ
“หลินหลิน คุณมีเบอร์ของลูกเมียน้อยไหม?”
เฉินอิงไฮไม่ได้ตอบคำถามของหัวหลิน แต่พูดจุดประสงค์ของตนเองออกไปตามตรง
“ลูกเมียน้อย?” หัวหลินชะงักไปก่อน จากนั้นเธอก็เข้าใจทันทีว่าคนที่เฉินอิงไฉพูดถึงเป็นใคร
ในตระกูลเฉิน คนที่ถูกเรียกว่าลูกเมียน้อย มีแค่เฉินเฟิงคนเดียว
“ที่รัก คุณถามหาเบอร์ของมันทำไมคะ?” หลังจากที่รู้ หัวหลินจึงเอ่ยถาม
“เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องมายุ่ง คุณแค่บอกผมมา ว่าคุณมีหรือไม่มีเบอร์ของมัน?” เฉินอิงไฉหงุดหงิดเล็กน้อย
น้ำเสียงของหัวหลินนิ่งลง เธอเข้าใจทันที คงเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรีบพูด:“ที่รักคะ คุณรอก่อนนะคะ ฉันรีบสั่งให้คนไปสืบ”
“เร็วหน่อยนะ”
เฉินอิงไฉพูดเสียงเย็นยะเยือก จากนั้นตัดสาย
ไม่กี่นาทีผ่านไป ตัวเลขเรียงยาวปรากฏขึ้นมาในโทรศัพท์ของเขา
มองดูตัวเลขเรียงยาว เฉินอิงไฉกัดฟันกรอด จากนั้นก็ตัดสินใจกดโทรไป
เวลานี้ เฉินเฟิงเพิ่งออกมาจากสนามแข่งรถใต้ดินคุนซาน เขากำลังมุ่งหน้าไปที่วิลล่า
วิลล่าหลังนี้ เป็นธุรกิจของตระกูลหวู่เหวินในยันเจียง
เมื่อเห็นเบอร์แปลกของยันเจียง เฉินเฟิงไม่ได้กดรับสายทันที แต่เขากลับตัดสาย
ใครจะไปรู้ เพิ่งตัดสายไปได้ไม่กี่วินาที เบอร์แปลกนี้ก็โทรมาอีก
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว แล้วรับสาย
เงียบ
หลังจากฟังอยู่สามวินาที ปลายสายไม่มีเสียงใดๆ
ขณะที่เฉินเฟิงกำลังจะตัดสาย ก็มีเสียงแหบพร่าเล็กน้อยดังมาจากปลายสาย :“ฉันคือเฉินอิงไฉ”
เฉินอิงไฉ?
ได้ยินชื่อนี้ ดวงตาของเฉินเฟิงหรี่เล็กลงทันที
ทำไมเฉินอิงไฉถึงโทรศัพท์มาหาเขา?
ไม่รอให้เฉินเฟิงอ้าปาก เฉินอิงไฉก็พูดขึ้นก่อน:“เฉินเฟิง เรื่องที่องค์หญิงแอนนี่มาหวาเซี่ยนายรู้หรือเปล่า?”
“องค์หญิงแอนนี่?”
ได้ยินชื่อนี้ เฉินเฟิงหยุดชะงัก
องค์หญิงแอนนี่คือใคร?