ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 644
บทที่ 644 ฆ่ามู่หยาง
จากนั้น——ขณะที่เขาใช้กำลังจับตัวเสี้ยเมิ่งเหยา กดขี่ให้เสี้ยเมิ่งเหยาไม่กล้าส่งเสียงร้อง เฉินเฟิงก็ออกมาแล้ว
ในช่วงเวลาสำคัญ เฉินเฟิงได้คิดวรยุทธ์กระบวนท่าที่สองของตนเองสำเร็จ ตื่นขึ้นมาจาก‘ร่วมจิตร’ จากนั้นอาศัยความสามารถในการได้ยิน ได้ยินเสียงเหิมเกริมของมู่หยาง:”สวะอย่างพวกแก ถ้ายังกล้าพูดมาก ฉันไม่ถือสาที่จะสั่งสอนพวกแก!”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ เขากระโดดข้ามกำแพงในสวนของวิลล่าออกมา เห็นมู่หยางยืนอยู่ตรงหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา ยกเสี้ยเมิ่งเหยาขึ้นราวกับเธอเป็นลูกเจี๊ยบ
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมเสี้ยเมิ่งเหยาถึงมารวมตัวอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่หลังจากที่เขาเห็นภาพนี้ เขาก็โมโหจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้!
หื้ม?
ได้ยินเสียงอันน่าตกตะลึงของเฉินเฟิง ไม่ว่าจะเป็นเสี้ยเมิ่งเหยา หรือว่ามู่หยางและจิ่งหรินทั้งสองคนต่างหยุดชะงัก
“พี่เฟิง!”
“อาจารย์อาเฉิน!”
“เฉินเฟิง!”
หลังจากตกตะลึงเป็นเวลาสั้นๆแล้วนั้น ก็มีเสียงร้องขึ้นมาด้วยความตกใจจากกลุ่มคน รวมถึงเสี้ยเมิ่งเหยาด้วย สีหน้าของทุกคนที่มองเฉินเฟิงราวกับเห็นผี แล้วรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ในเวลาเดียวกัน มู่หยางและจิ่งหรินทั้งสองคนก็ได้สติกลับมา ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
หรือว่าเฉินเฟิงเก็บตัวถือศีลอยู่ที่นี่มาโดยตลอด?
ทำไมก่อนหน้านี้พวกเขาถึงไม่รู้ข่าวแม้แต่น้อย?
“ปล่อยเธอ!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังครุ่นคิดว่าทำไมเฉินเฟิงถึงมาอยู่ที่นี่เวลานี้ เสียงเย็นยะเยือกของเฉินเฟิงก็ดังขึ้น
มู่หยางปล่อยมือ เสี้ยเมิ่งเหยารีบวิ่งไปหาเฉินเฟิง
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เฉินเฟิงกวาดตามองมู่หยางด้วยสายตาเย็นยะเยือก จากนั้นเอ่ยถามพวกหวู่เหวินโป๋
เขาไม่เข้าใจ ทำไมแค่เก็บตัวถือศีลไม่กี่วัน หวู่เหวินโป๋และสี่พี่น้องตระกูลเฉินทั้งยังมีเสี้ยเมิ่งเหยาถึงมาอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังมีคนลงไม้ลงมือกับเสี้ยเมิ่งเหยาต่อหน้าทุกคน
“พี่เฟิง เรื่องมันเป็นแบบนี้ เมื่อสิบวันก่อน จิ่งเถิงซึ่งเป็นผู้สืบทอดตระกูลจิ่งประกาศกร้าวออกมา ส่งหนังสือท้าประลองวรยุทธ์มาให้พี่ บอกว่าวันนี้จะสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งกับพี่ที่ทะเลสาบตะวันตก……” หวู่เหวินโป๋รู้เรื่องทั้งหมดดีที่สุด ดังนั้นเขาจึงบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เฉินเฟิงฟังอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่จิ่งเถิงประกาศท้าประลองเฉินเฟิง และเรื่องที่มู่หยางจะจับตัวเสี้ยเมิ่งเหยาไปเป็นสาวใช้และเรื่องที่คนมีหน้ามีตาเกือบทั้งบูโดหวาเซี่ยรวมตัวกันที่ทะเลสาบตะวันตก เวลานี้กำลังรออยู่ที่ทะเลสาบตะวันตก
“เฉิน……เฉินเฟิง ถ้าแน่จริงก็ไปสู้กับน้องเถิงของฉันสิ!”สิ้นเสียงของหวู่เหวินโป๋ อยู่ดีๆจิ่งหรินก็พูดขึ้นมา เขาพยายามปกปิดความกลัวภายในใจเอาไว้ จงใจพูดใส่ไฟเฉินเฟิง ให้เขารีบไปรับคำท้า
เมื่อเป็นแบบนี้ เขาจะได้รอดพ้นจากความซวยในครั้งนี้
กรึบ!กรึบ!กรึบ!
เสียงตอบกลับจิ่งหรินคือเสียงฝีเท้าที่แสนบีบรัดหัวใจ
ภายใต้แสงอาทิตย์ เฉินเฟิงไม่พูดอะไรเลย เขาเดินมาทางมู่หยางด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก
“นาย……นายคิดจะทำอะไร?”
เมื่อเห็นเฉินเฟิงเดินมา สัมผัสได้ถึงพลังสังหารเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากตัวเฉินเฟิง สีหน้าของมู่หยางไร้ซึ่งความโอหัง มีเพียงความหวาดกลัว เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน ถึงความแข็งแกร่งของเฉินเฟิง!
ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต้านทานได้!
“วรยุทธ์ของนาย ปฏิบัติต่อคนไม่เหมือนกัน ทำตามอำเภอใจตนเอง สมควรตาย!”เฉินเฟิงเดินไปพลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
สิ่งเสียง เฉินเฟิงเดินมาถึงตรงหน้ามู่หยาง หยุดฝีเท้า ยกเท้าขึ้นต่อหน้าทุกคน จากนั้นภายใต้แววตาหวาดกลัวของมู่หยาง เตะเข้าไปที่อกของมู่หยาง
ครึก!
ตอนที่เสียงเปราะดังขึ้น ด้วยพลังภายในที่แข็งแกร่งทำให้กระดูกซี่โครงด้านซ้ายบริเวณหน้าอกแหลกละเอียด หัวใจของเขาเองก็แหลกละเอียดทันทีเช่นเดียวกัน!
“พู่——”มู่หยางอาเจียนเป็นเลือด ตัวของเขาชักกระตุกอย่างแรงไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็แน่นิ่ง แววตาของเขาหลุดลอย ตายไปแล้ว
เขา……ถูกเฉินเฟิงเตะตายในครั้งเดียว!
ตีเขาให้ตายเขาก็คิดไม่ถึง สิ่งที่ต้อนรับเขาจะเป็นการตายวิธีนี้!
“เฮือก!”
เห็นภาพนี้ จิ่งหรินตกใจจนหยุดหายใจ ลูกกระเดือกเต้นไม่หยุด
เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว สมองของเขาว่างเปล่า ไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว มีแค่สายตาของเขาเท่านั้นที่มองเฉินเฟิงยกศพของมู่หยางขึ้นมา แล้วสาวเท้าก้าวใหญ่เดินมาที่เขา
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด ตระกูลจิ่งของพวกแกคงคิดว่าฉันไม่กล้ารับคำท้า ก็เลยพามันมาจับตัวเมิ่งเหยาไปเป็นสาวใช้ของมัน ตั้งใจบีบให้ฉันรับคำท้า?”
ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของจิ่งหริน เฉินเฟิงเดินมาข้างๆเขา เอ่ยพูดช้าๆ จากนั้นไม่รอให้เขาตอบคำถาม ก็พูดต่อ:“เป็นไปตามที่นายต้องการ ฉันกำลังจะไปรับคำท้า แต่ก่อนอื่นนั้น ฉันจะต้องทำให้นายรู้ก่อนว่า แตะต้องเสี้ยเมิ่งเหยาจะต้องเจออะไร!”
ฟู่!
สิ้นเสียง เฉินเฟิงแตะออกไป แตะโดนหัวเข่าทั้งสองข้างของจิ่งหรินพอดิบพอดี
ครึก!
เสียงดังเปราะ หัวเข่าทั้งสองข้างของจิ่งหรินแหลกละเอียด คุกเข่าต่อหน้าทุกคนทันที
เฉินเฟิงไม่หยุด โค้งตัวลง คว้าตัวจิ่งหรินขึ้นมา
“อ๊าก——”
จิ่งหรินร้องโหยหวน ตกใจจนสลบแล้วตายไป
เฉินเฟิงเห็นแบบนั้น คว้าตัวจิ่งหริน แล้วยกเขาขึ้นมา
“เหวินโป๋ โทรหาพ่อของนาย บอกให้พ่อของนายบอกคนในที่ประลองวรยุทธ์ทุกคน——หลังจากนี้อีกสามชั่วโมง ฉันจะไปเอาชีวิตหมาๆของจิ่งเถิง!”
ภาพหยุดนิ่ง
ภายใต้ดวงอาทิตย์ เฉินเฟิงหิ้วศพของสองคนนั้นราวกับหิ้วหมาแล้วเดินไปที่รถ เต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ครับ พี่เฟิง!”
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง หวู่เหวินโป๋ดึงสติกลับมาจากความตื่นเต้นทันที ตอบเสียงสั่น จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรหาหวู่เหวินเฉิงยิง แต่สุดท้ายกลับโทรไม่ติด เขานิ่งชะงักไปทันที แล้วพูด:“พี่เฟิง จู่ๆเบอร์ของพ่อก็โทรไม่ติด”
“อาจารย์อาเฉิน อาจารย์ของฉันก็ไปสถานที่ประลองวรยุทธ์แล้ว ฉันโทรหาเขา บอกให้เขาเป็นคนแจ้ง” สิ้นเสียงของหวู่เหวินโป๋ ไม่รอให้เฉินเฟิงพูด เฉินจื๋อหลี่ก็เดินออกมาจากกลุ่มคน หยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมโทรหาเจ้าสามหวง
“ช่างเถอะ จื๋อเหลี่ ไม่ต้องโทรแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” เฉินเฟิงได้ฟัง เอ่ยพูดเสียงเย็นยะเยือก
เขาคิดไม่ถึง จิ่งเถิงท้าประลองเขาในครั้งนี้ จะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ สั่นสะเทือนไปเกือบทั้งวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย
“อื้ม” ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง เฉินจื๋อหลี่เข้าใจความหมายของเฉินเฟิง จึงวางโทรศัพท์ลง
“พวกเราไปกันเถอะ”
เฉินเฟิงกวาดตามองเสี้ยเมิ่งเหยา จากนั้นบอกให้ทุกคนมุ่งหน้าไปยังสถานที่ประลองวรยุทธ์
“ไปกันเถอะ พี่เป็นพยานดูพี่เฟิงจัดการจิ่งเถิงจนกลายเป็นหมาตาย!”หวู่เหวินโป๋ยกแขนขึ้นร้องตะโกนด้วยความดีใจ จากนั้น ทุกคนเดินตามเฉินเฟิง เข้าไปในรถยนต์ มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ปิดล้อม
เวลาหนึ่งทุ่ม จำนวนนักท่องเที่ยวในทะเลสาบตะวันตกพุ่งทะยานขึ้นสูง ทุกจุดชมวิว ถ้าเปรียบเปรยว่ามีคนไปมาไม่หยุดก็ไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย แต่ไม่รวมถึงทางขึ้นเรือจุดนั้น
ที่นั่นยังคงถูกปิดล้อม พนักงานของหน่วยลาดตระเวนและสหพันธ์บูโดหางโจยังคงเฝ้าประจำตำแหน่ง ป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไป
เรือใหญ่ทั้งสามลำยังคงจอดริมทะเลสาบ ทุกคนกำลังรอคำตอบและการปรากฏตัวของเฉินเฟิง แต่มีคนจำนวนมากที่หมดความอดทนแล้ว
“เวลานี้แล้ว เฉินเฟิงยังไม่ให้คำตอบ และไม่ปรากฏตัวออกมา ดูท่าคงไม่มาแล้ว”