ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 673
บทที่ 673 ความแข็งแกร่งของอู่จื่อโจว
เมื่อจียุ่นเห็นว่าครั้งแรกไม่โดนก็รีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปล่อยหมัดอีกข้างออกไป หมัดชุดนี้ถูกจียุ่นชกออกไปรัวๆ
ทว่าอู่จื่อโจวยังคงนิ่งเหมือนเดิม หลบได้ทั้งสองครั้ง
ออกหมัดสองครั้งก็ยังไม่โดนแต่จียุ่นก็ไม่ย่อท้อ เขาเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ สองหมัดเมื่อกี้เป็นเพียงการปูทางเท่านั้น จากนั้นจียุ่นก็หมุนตัวแล้วเตะออกไปอย่างแรง
ไม่เสียแรงที่จียุ่นได้เป็นถึงจอมยุทธ์ที่โดดเด่นของตระกูล วรยุทธที่เชื่อมโยงกันเมื่อสักครู่ หากเป็นคนทั่วไปไม่มีทางที่จะหลบทัน บวกกับลูกเตะปิดท้ายที่ไม่มีเปิดโอกาสให้อู่จื่อโจวได้เบี่ยงหลบ
ครั้งนี้อู่จื่อโจวไม่ได้หลบแต่กลับยื่นฝ่ามือออกไป ใช้หลักการยืมแรงจับข้อเท้าของจียุ่นเอาไว้แล้วโยนอีกฝ่ายออกไป
ท่านี้ใช้ความนุ่มนวลสยบความแข็งแกร่งซึ่งจียุ่นคิดไม่ถึง เขาคิดว่าอู่จื่อโจวจะรับกระบวนท่าของเขา เช่นนั้นเขาจะได้ใช้หลักการยืมแรงเพื่อเชื่อมโยงลูกเตะอีกชุด
ทว่าใครจะไปคิดว่าอู่จื่อโจวจะใช้หลักการยืมแรงแล้วออกแรงโยนเขาออกไป เมื่ออยู่กลางอากาศจียุ่นไม่สามารถบังคับร่างกายตัวเองได้จึงลอยละลิ่วออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร เมื่อเท้าแตะพื้นก็ถอยหลังอีกหลายก้าวกว่าจะทรงตัวได้
ตั้งแต่ต้นจนจบอู่จื่อโจวยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่ขยับฝีเท้าเลยสักนิด
คนที่อยู่ไกลๆอย่างเฉินเฟิงและคนอื่นต่างมองอย่างครุ่นคิด ในหัวกำลังกรอภาพกระบวนท่าการต่อสู้เมื่อสักครู่ แล้วลองวิเคราะห์ว่าหากตนเป็นจียุ่นจะรับมือกับกระบวนท่าของอู่จื่อโจวอย่างไร
เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความคิดแบบนี้ หนึ่งในนั้นคือฉู่เหอ สายตาของเขาที่มองจียุ่นมีการเยาะเย้ยอย่างไม่ปิดบัง ภาพนี้ทำให้คนอื่นคิดว่าหากฉู่เหอขึ้นเวทีเองจะต้องรับมือกับกระบวนท่าเมื่อสักครู่ได้แน่นอน
หลังจากทรงตัวได้ จียุ่นก็พุ่งเข้าหาอู่จื่อโจวอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้กระบวนท่า เพียงแค่ใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อบีบให้อู่จื่อโจวหมุนตัว
จากนั้นจียุ่นก็หาโอกาสออกหมัด ซึ่งหมัดนี้เขาชกออกไปแบบไม่ยั้งโดยใช้หมัดสายฟ้าท่าไม้ตายของตระกูล
หมัดสายฟ้า เปรียบดั่งใช้สายฟ้าฟาดคู่ต่อสู้ บวกกับพลังที่ส่งออกไปจะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกายของคู่ต่อสู้
ความเร็วและความรุนแรงของหมัดนี้เกินกว่าคนที่อยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นต้นจะรับไหวแล้ว แม้แต่หั้วจิ้งชั้นกลางก็ต้านไม่ไหว ท่านี้คือท่าไม้ตายของจียุ่น
อย่างไรก็ตามเขาและอู่จื่อโจวอยู่คนละระดับกัน เป็นอีกครั้งที่อู่จื่อโจวจับข้อมือของเขาไว้ แล้วใช้หลักการยืมแรงโยนเขาออกไป
ครั้งนี้จียุ่นใช้แรงทั้งหมดที่มีจึงทำให้ควบคุมความเร็วไม่ได้ ร่างของเขาจึงเสียหลักล้มลงจนเกิดสัมผัสใกล้ชิดกับพื้น ครั้งนี้จบแล้วจริงๆ
“จียุ่น พอแค่นี้เถอะ คุณฝึกฝนหมัดสายฟ้าของตระกูลมาได้ถึงระดับนี้ถือว่าไม่เลวแล้วล่ะ!”
เมื่อเห็นสีหน้าตกใจและท่าทางน่าสังเวชของจียุ่น อู่จื่อโจวจึงเอ่ยปากขึ้นซึ่งก็ถือเป็นการยอมรับความสามารถของเขาทางหนึ่ง การท้าชิงของจียุ่นจึงจบลงเพียงเท่านี้
ความจริงจียุ่นตั้งใจจะรุกอีกครั้ง แต่หลังจากได้ฟังคำพูดของอู่จื่อโจว ถึงแม้เขาจะคับข้องใจแต่ก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว เขาจึงหันหลังเดินกลับไปหาจีอู๋ฉาง
ในฐานะที่จียุ่นเป็นความภาคภูมิใจของตระกูล ถึงแม้จะอยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นต้นทว่าในรุ่นเดียวกันเขาไม่มีคู่ต่อสู้ ถึงจะอยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าจากการประชันกับอู่จื่อโจวในวันนี้ คู่ต่อสู้ของเขากลับไม่มีการขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ความจริงในข้อนี้ทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีในระดับหนึ่ง
“ฮ่าฮ่า อย่าเพิ่งท้อใจไป!”
จีอู๋ฉางเห็นดังนั้นจึงเอ่ยปลอบใจ “มีอะไรน่าท้อใจกัน ปรมาจารย์อู่เป็นถึงผู้แข็งแกร่งขั้นหั้วจิ้งชั้นสุด อีกทั้งการได้ประชันฝีมือกับมหาปรมาจารย์ขั้นหั้วจิ้งชั้นสุดระดับสูงสุดถือว่าเป็นความโชคดีของแกแล้ว อีกอย่างคนอื่นก็ทำอะไรปรมาจารย์อู่ไม่ได้เหมือนกัน!”
“ปรมาจารย์อู่ โปรดชี้แนะด้วย!”
เทียนอิงที่สังเกตการณ์ต่อสู้อยู่ข้างสนามก้าวออกด้านหน้า ก่อนจะยกมือคารวะพลางเอ่ย
ด้านเฉินเฟิงก็สังเกตอยู่ข้างสนาม ในใจก็คิดหาวิธีที่จะทำให้ปรมาจารย์อู่ขยับฝีเท้า
“ปรมาจารย์อู่ ผมใช้กระบี่ได้ไหม?”
เทียนอิงสวมเสื้อคลุมสีขาวสายตาจับจ้องอู่จื่อโจวอย่างแน่วแน่
“ฮ่าฮ่า ได้สิ เป็นนักกระบี่หากไม่มีกระบี่จะเรียกนักกระบี่ได้อย่างไร!”
อู่จื่อโจวหัวเราะ ประทับใจในตัวเทียนอิงไม่น้อย
ไม่เพียงแค่อู่จื่อโจวเท่านั้น รวมถึงเฉินเฟิงและคนอื่นๆก็ประทับใจในตัวเทียนอิง เยาวชนคนนี้มีความสามารถทว่าไม่เหิมเกริม เคารพผู้อาวุโสเป็นอย่างดี
“ขอบพระคุณปรมาจารย์อู่มาก เช่นนั้นผมเริ่มเลยนะ!” เทียนอิงยกมือคารวะอีกครั้ง
จากนั้นเทียนอิงก็ไม่ได้เริ่มในทันที ทว่ายืนปรับลมหายใจอยู่กับที่ จากนั้นถึงจะเดินเข้าไปหาอู่จื่อโจวทีละก้าว
เขาไม่ได้มีมาดที่น่าเกรงขามเหมือนอย่างจียุ่น กลับกันเขาสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
เทียนอิงก้าวเท้าไปข้างหน้า ในขณะที่กระบี่ในมือก็ขยับเล็กน้อย ทุกการก้าวเดินของเขา กระบี่ในมือก็จะมีการขยับทีละน้อย ราวกับกระบี่ในมือสัมพันธ์กับลมหายใจของเขา เมื่อเทียนอิงก้าวเท้าก้าวที่สิบ กระบี่คมกริบก็ถูกดึงออกจากฝักจนเกิดเสียง
จากนั้นลมหายใจของเทียนอิงจากที่เคยสงบนิ่งดุจสายน้ำก็เริ่มเกิดคลื่น เมื่อเขาห่างจากอู่จื่อโจวไม่ถึงห้าก้าว พลังของเขาก็ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด
พลังของเขาแตกต่างจากจียุ่น พลังของเขาเป็นเหมือนกองทัพทหารม้าที่แข็งแกร่งยากจะหยุดยั้ง
เทียนอิงถีบตัวขึ้น มือถือกระบี่คมกริบไว้ก่อนจะฟันลงมา จนเกิดร่องรอยอยู่ในอากาศ
อู่จื่อโจวยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนเดิมพลางโยกตัวหลบกระบี่ที่ฟันลงมา
แสงสีขาวสว่างวาบ เทียนอิงดึงกระบี่กลับก่อนจะเล็งไปทางศีรษะของอู่จื่อโจวด้วยความเร็วสูง มุมซับซ้อน เห็นได้ชัดว่ากะเอาให้ตายในครั้งเดียว
ตั้งแต่เทียนอิงเริ่มรุกจนถึงกระบี่ที่ฟันเมื่อสักครู่ล้วนตกอยู่ในสายตาของทุกคน ม่านตาของเฉินเฟิงและคนอื่นๆเบิกกว้าง เทียนอิงคนนี้แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือการวางแผนลงมือ อย่างที่สองคนที่ผ่านมาเทียบไม่ติดเลย
ทว่า
กระบี่ที่ฟันลงมาจนทำให้คนตกตะลึงก็ยังไม่อาจทำให้อู่จื่อโจวขยับฝีเท้าได้
อู่จื่อโจวเอามือไขว้หลัง เมื่อกระบี่คมกริบอยู่ห่างจากศีรษะเพียงแค่หนึ่งก้าว เขาก็เอียงศีรษะหลบพ้นอย่างง่ายดาย
ไม่ว่าจะเป็นทักษะการต่อสู้หรือโอกาสในการลงมือ เทียนอิงไม่ใกล้เคียงกับคู่ต่อสู้ของอู่จื่อโจวเลย
เมื่อเห็นว่าครั้งแรกไม่โดน เทียนอิงเปลี่ยนจากการฟันเป็นแทง แล้วเล็งไปยังบริเวณคอของอู่จื่อโจวด้วยความเร็วสูง หากแทงโดนอย่าว่าแต่เนื้อหนังเลยแม้แต่เหล็กกล้าก็อาจทะลุเป็นรูโบ๋ได้
เมื่อเห็นกระบี่คมกริบพุ่งเข้ามา อู่จื่อโจวหลับตาลงแล้วเตรียมใช้สัญชาตญาณในการหลบหลีก
แต่ใครจะไปรู้ว่าขณะที่กระบี่อยู่ห่างจากอู่จื่อโจวไม่ถึงสองนิ้ว ฉับพลันเทียนอิงก็เปลี่ยนกระบวนท่าเป็นเอียงแขนตวัดกระบี่แทน ซึ่งในตอนที่ร่างกายของอู่จื่อโจวทำตามสัญชาตญาณนั่นเอง เทียนอิงจึงเปลี่ยนแผน
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ ถึงแม้อู่จื่อโจวจะคิดไม่ถึง ทว่าร่างกายของเขาก็ทำตามสัญชาตญาณไปแล้ว ในช่วงเวลาอันสั้นก็ไม่อาจมีปฏิกิริยาตอบโต้อีกครั้งได้
หากครั้งนี้ฟันโดน แขนของอู่จื่อโจวคงขาดไปแล้ว เขาไม่กล้าประมาทจึงขยับหลบจนพ้นรัศมีกระบี่ในชั่วพริบตา
ถึงแม้จะหลบพ้นแล้ว ทว่าอูจื่อโจวก็ขยับฝีเท้าแล้วเช่นกัน สามกระบวนท่ากระบี่ที่น่าตกตะลึงบีบให้อู๋จื่อโจวจำเป็นต้องขยับฝีเท้า ภาพนี้ทำให้เฉินเฟิงและคนอื่นๆตกตะลึง ตั้งแต่เทียนอิงเริ่มรุกจนกระทั่งถึงตอนนี้ เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจกันทั้งสนาม