ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 685
บทที่ 685 พระสงฆ์ในไนท์คลับ
ทางด้านศีลสามยังคงทำหน้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เดิมทีเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วใครจะได้ที่หนึ่ง ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา สิ่งเดียวที่เขาหวังคือไปให้ไกลจากที่นี่ให้เร็วที่สุด จากนั้นออกไปด้านนอกไปใช้ชีวิตที่มีความสุข
“ได้ ในเมื่อไม่มีใครมีปัญหาอะไร ก็ตกลงตามนี้ ฉันจะรายงานเรื่องนี้ไปที่องค์กร พวกเขาจะเป็นฝ่ายตัดสินใจขั้นสุดท้าย!”
อู่จื่อโจวเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ :“ถ้าอย่างนั้นการคัดเลือกในวันนี้ จบลงแค่นี้!”
“ทุกคน ผมขอตัวลากลับก่อน!”
อู่จื่อโจวประสานมือเป็นกำปั้นให้กับทุกคน จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
เมื่อกี้ถึงแม้เฉินเฟิงไม่ได้บีบบังคับให้จียุ่นสู้กับเขา แต่สีหน้าของจีอู๋ฉางแทบจะไม่สามารถตรึงเอาไว้ได้แล้ว ในใจของทุกคนต่างก็รู้ดี จีอู๋ฉางไม่กล้าต่อสู้กับเฉินเฟิง ดังนั้นจึงถอยหนี ทว่าท่าทีของเฉินเฟิงก็ไม่ได้แข็งกระด้าง ไว้หน้าจีอู๋ฉางเป็นอย่างดี เวลานี้เขาเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่
“เฉินเฟิง ฉันนับถือนายมาก ความสามารถของนายแข็งแกร่งมาก แต่ฉันก็ไม่มีวันยอมให้ทิ้งห่างจากนายเยอะ ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเราจะสามารถสู้กันสักครั้ง!”
เทียนอิงเงียบอยู่พักหนึ่งแล้วพูดกับเฉินเฟิง
“ฮ่าๆ พี่เทียนอิงพูดเกินไปแล้ว ถ้ามีโอกาสพวกเรามาประลองกันสักครั้ง!”
สำหรับเทียนอิง เฉินเฟิงยังคงมีความรู้สึกดีๆ เขารู้สึกว่าเทียนอิงเป็นจอมยุทธ์ที่แท้จริง
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ใบหน้าของเทียนอิงมีรอยยิ้มเผยออกมา พยักหน้า จากนั้นชางโป๋ประสานมือเป็นกำปั้นให้กับทุกคน พาเทียนอิงออกไปจากที่นี่
เมื่อเห็นทุกคนออกไป ศีลสามที่แทบจะอดใจรอไม่ไหว เดินมาข้างๆเฉินเฟิงแล้วพูดขึ้น:“พี่ใหญ่ พวกเราไปเที่ยวเล่นกันเมื่อไหร่ดี!”
มองดูศีลสามที่ไม่ได้เรื่อง สีหน้าของฟางเจิ้งราวกับสีดินโคลน อยากที่จะตบกบาลเขาสักที
“เรื่องนี้! น้องชาย ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ นายกลับไปก่อน ตอนเย็นฉันจะติดต่อไปหานาย พวกเราไปดื่มกันสักหน่อย!”
เฉินเฟิงยิ้มแล้วพูดกับศีลสาม
เวลานี้อย่าพูดเลยว่าศีลสามดีใจแค่ไหน ความรู้สึกนี้ดีใจกว่าถูกหวยเสียอีก
ปรมาจารย์ฟางเจิ้งพาศีลสามเดินออกไป ที่แห่งนี้เหลือแค่เฉินเฟิง เย่หนานเทียน ก่วนหนานเทียนสามคน
“เฉินเฟิง เมื่อกี้นายรับคำท้าของหวังอีเตา มันอันตรายเกินไปแล้ว!”
คิ้วของเย่หนานเทียนขมวดเป็นปม สีหน้าเป็นกังวล
“ถูกต้อง ถึงแม้มือของหวังอีเตาจะขาดไปข้างหนึ่ง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการต่อสู้ของเขา เขาบรรลุถึงระดับหั้วจิ้งชั้นสุดระดับสูงสุด นายไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย อีกทั้งหวังอีเตาก็ไม่มีวันทำความผิดปัญญาอ่อนแบบนั้นด้วย!”
ก่วนหนานเทียนถอนหายใจ รู้สึกว่าการกระทำของเฉินเฟิงไม่เหมาะสมเล็กน้อย
เฉินเฟิงคอยฟังอยู่ข้างๆ ก่อนหน้านี้เขาดูออกว่าศิษย์พี่และก่วนหนานเทียนเป็นห่วงและหยุดพูด ทำให้เขารู้ว่ามีเรื่อง
“ศิษย์พี่ ผู้อาวุโสก่วน พวกคุณไม่ต้องเป็นกังวล ที่ผมทำแบบนี้ผมมีเหตุผล หวังอีเตาและศิษย์พี่มีความแค้นต่อกัน เพื่อที่จะแก้แค้นเขาลงทุนลงแรงไปมาก แต่วันนี้ลูกศิษย์เพียงคนเดียวของเขากลับตายด้วยน้ำมือของผม เขาเกลียดแค้นผมเป็นอย่างมา ในสถานการณ์แบบนี้ ผมอันตรายมาก ศิษย์พี่และผู้อาวุโสก่วนก็ไม่สามารถปกป้องผมทุกย่างก้าว ด้วยเหตุนี้ผมจึงบอกว่าท้าประลองในครึ่งปีหลัง อีกทั้งผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็อยู่ ในสถานการณ์แบบนี้ อันตรายของผมก็ลดน้อยลงไปมาก!”
“อื้ม ถูกต้อง!”
หลังจากเย่หนานเทียนและก่วนหนานเทียนได้ยินคำอธิบายของเฉินเฟิง พวกเขาพยักหน้า จากท่าทีของหวังอีเตาเมื่อกี้ ถ้าไม่ใช่เพราะปรมาจารย์ทั้งหลายและอู่จื่อโจวอยู่ เฉินเฟิงคงถูกฆ่าตายทันที
“ยังมีอีกนิดหน่อย ที่ผมเลือกท้าประลองกับเขา เป็นเพราะอยากจะให้แรงกดดันกับตัวเอง ผมอยากอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ ทำให้ภายในใจของผมไม่ต้องคิดเรื่องอื่น มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาแดนบู๊ ถ้าสามารถบรรลุได้เพราะเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี อีกทั้งการแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้ สิ่งที่น่าแปลกก็คือผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวเอาไว้ไม่มีแม้แต่คนเดียว สิ่งนี้ทำให้คนอดที่จะสงสัยไม่ได้จริงๆ การแข่งขันในครั้งนี้มีเงื่อนงำ ผมมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่อง บนโลกต้องเกิดเรื่องใหญ่สักเรื่องแน่นอน บางทีอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นได้!”
“อื้ม ถูกต้อง!”
เฉินเฟิงได้รับข้อมูลจากอู่จื่อโจวจำนวนมาก หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกมีเมฆปกคลุมขึ้นมาทันที เฉินเฟิงในตอนนี้เป็นคนหนุ่มที่ควรค่าแก่การเป็นผู้แข็งแกร่ง แต่ว่าการได้ตำแหน่งนี้ไปแล้ว ไม่ได้ทำให้เขาดีใจ ในทางกลับกันกลับทำให้เขารู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีความสามารถ ก็ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบ เฉินเฟิงในวันข้างหน้าไม่สามารถทำตามอำเภอใจตนเองได้แล้ว
“เฉินเฟิงนายเองก็ไม่ต้องคิดมาก กดดันเกินไป ใจร้อนที่จะสำเร็จมีแต่จะทำให้ล้มเหลว ขอแค่ทำทุกอย่างแล้วไม่รู้สึกผิดกับใจตนเองก็พอแล้ว!”
เฉินเฟิงส่งศิษย์พี่และก่วนหนานเทียนไปที่พัก ก่อนที่จะกลับ ศิษย์พี่พูดเตือนด้วยความเป็นห่วง
“ศิษย์พี่ วางใจเถอะครับ!”
เฉินเฟิงพยักหน้า หมุนตัวเดินออกไป
ก่วนหนานเทียนเคยพูด โลกของศิลปะการต่อสู้ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนแล้วจริงๆ
ฤดูร้อน อากาศร้อนมาก แม้จะเป็นตอนกลางคืน อุณหภูมิก็ยังคงร้อน นอกจากอยู่ในบ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ เดินอยู่บนท้องถนน เหมือนเนื้อย่างที่กำลังเดินอยู่
แต่ว่าสำหรับผู้ชายส่วนมากฤดูร้อนเป็นฤดูที่ดีมาก เพราะในเวลานี้จะสามารถเห็นผู้หญิงแต่งตัวนุ่งสั้น เดินอยู่ตามท้องถนน กลายเป็นทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองนี้
“ว้าว นายดูผู้หญิงสวยๆคนนั้นสิ สวยมาก ว้าวๆ ดูผู้หญิงขายาวคนนั้นสิ ต่อให้ใส่น้อยแค่ไหน กางเกงก็ไม่ใหญ่เท่ากางเกงชั้นในของฉัน!”
ศีลสามเดินอยู่บนท้องถนนอย่างมีความสุข สาวสวยบนท้องถนน เขารู้สึกว่าตาของตนเองไม่พอมองดู
เวลาไม่นาน ศีลสาม หวู่เหวินโป๋และเฉินเฟิงเดินออกมาจากภัตตาคาร แต่ละคนหน้าแดงระเรื่อ
หลังจากหวู่เหวินโป๋เจอกับศีลสาม ดื่มไปไม่กี่แก้ว รู้สึกว่าเจอกันช้าไป ทางด้านเฉินเฟิงก็ดื่มไม่มากเท่าไหร่ เพียงแค่ชนแก้วกับพวกเขาพอเป็นพิธีเท่านั้น
หลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเขาไม่ได้แยกย้าย หวู่เหวินโป๋โทรศัพท์ เรียกรถมา จากนั้นพาศีลสามและเฉินเฟิงไปไนท์คลับCWAที่ใหญ่ที่สุดในซีเหลียง
CWAเป็นไนท์คลับชื่อดังของซีเหลียงและในประเทศหวา มีขนาดใหญ่ประมาณสิบกว่าไร่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ หรือว่าการตกแต่งภายในล้วนดีมาก พอตกกลางคืนที่นี่ก็คือสวรรค์ของคนหนุ่มสาว มีหนุ่มหล่อสาวสวยมากมาย รวมตัวกันที่นี่แล้วเต้น
แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของที่นี่คือสาวนั่งดริ้ง สาวๆที่นี่สวยทุกคน ผิวเนียนเหมือนน้ำ อีกทั้งสาวสวยพวกนี้ยังมาจากทุกสารทิศทั่วโลก พื้นที่แตกต่างกัน พูดได้ว่าเป็นแผนการดำเนินธุรกิจที่สำคัญที่สุดของไนท์คลับนี้
เดิมทีไนท์คลับแบบนี้ จะมีการควบคุมตรวจสอบอย่างเคร่งครัด แต่ไนท์คลับกลับไม่เคยถูกตรวจสอบมาก่อน มีคนหน้าใหม่บางคนอยากมาหาเรื่องที่นี่ แต่เพราะเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน คนมากมายคาดเดาว่าเบื้องหลังของเขาต้องไม่ธรรมดา
กลางคืนเวลาประมาณสี่ทุ่ม รถหรูคันหนึ่งจอดตรงหน้าประตูไนท์คลับ เฉินเฟิง หวู่เหวินโป๋ ศีลสามเดินออกมาจากด้านใน
“เหวินโป๋ สมแล้วที่นายเป็นคนที่รู้ใจของฉัน เป็นเพื่อนของฉัน!”ศีลสามมองดูไนท์คลับที่ตกแต่งหรูหรา ดีใจจนพูดจาสลับไปมาแล้ว