ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 696
บทที่ 696 เจอข่ายซ่าอีกครั้ง
“อืม แบบนี้ก็ต้องรบกวนพวกคุณแล้ว! ”
เฉินเฟิงตอบกลับด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้เขารู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของฝ่ายตรงข้ามคือต้องการจับตามองเขา ทว่าเรื่องแบบนี้ก็ไม่ควรพูดแฉความจริง พูดแฉความจริงไปก็ไม่มีประโยชน์
รถโรลส์รอยซ์คนนั้นของเซียวเอินก็จอดรอตรงหน้าประตูแล้ว เฉินเฟิงออกจากโรงแรม คนขับรถรีบเปิดประตูรถให้เฉินเฟิงนั่งลงไป จากนั้นรถก็ค่อยๆ ขับไปตรงสถานที่จัดงานวันเกิด
ข้างหลังของรถคันนี้ ยังมีรถประมาณสี่ห้าคันติดตามอยู่ ในรถมีหน่วยกำลังพิเศษนั่งอยู่ พวกเขาต่างก็คุ้มกันเฉินเฟิงแล้วส่งเขาไปถึงงานวันเกิดอย่างปลอดภัย เป็นขบวนที่ไม่น้อยเลย
ค่ำคืนในกรุงลอนดอนนี้ ช่างคึกคักมากๆ บนถนนหนทางมีคนสัญจรไปมา เฉินเฟิงมองคนแปลกหน้าที่อยู่บนถนนผ่านกระจก
ขบวนรถขับเคลื่อนไปสักพัก จากนั้นความเร็วก็ค่อยๆ ลดลง เฉินเฟิงมองเห็นตรงข้างหน้ามีตำรวจมากมายเพียงชั่วพริบตา และก็ได้ตั้งด่านมากมาย รถที่ผ่านไปทั้งหมดต่างก็ต้องโชว์บัตรประจำตัว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าให้ความสำคัญกับงานวันเกิดในครั้งนี้มาก
ในหอคอยลอนดอนมีปราสาทอยู่หนึ่งหลัง งานวันเกิดครั้งนี้ถูกจัดในปราสาท
บนถนนที่ถูกปิดกั้นการจราจรนี้ ยังมีรถมากมายกำลังได้รับการตรวจสอบ พวกเขาก็ไปร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ ต้องรู้ว่านี่เป็นงานเลี้ยงขององค์หญิงในราชวงศ์อังกฤษ คนมีหน้ามีตาต่างก็มีเยือน ตระกูลราชวงศ์เชิญชวน ทีแรกก็เป็นบารมีอย่างหนึ่งอยู่แล้ว อีกทั้งงานเลี้ยงนี้สิ่งที่ไม่ขาดที่สุดก็คือคนที่มีอิทธิพลและอำนาจ ถ้าสามารถถือโอกาสงานเลี้ยงนี้ในการคบหากับเหล่าอาวุโสบางส่วน ครั้งนี้คงไม่ได้มาเสียเที่ยว
พอกวาดสายตามองไปก็เห็นแต่รถหรู อย่างไรก็ตามป้ายทะเบียนรถและราคาต่างก็เป็นตัวแทนของฐานะและตำแหน่ง
หนึ่งในรถพวกนั้นคือรถโรลส์รอยซ์หนึ่งคัน ตอนนี้ข่ายซ่าอยู่ในรถ เพื่องานเลี้ยงครั้งนี้ก็ได้เตรียมการมานานมาก เขาสวมใส่ชุดราตรีตอนกลางคืน ผมหวีได้แวววับมาก ทำให้ดูเป็นสุภาพบุรุษมาก
ข่ายซ่ากลับไม่ได้รีบลงรถ แต่นั่งชมอยู่ในรถ
ไม่นาน ตรงที่ไกลๆ ก็มีรถเก๋งสามคันขับมาอย่างช้าๆ ตรงประตูรถเปิดออกแล้วมีไม่กี่คนลงมา พวกเขาก็ได้กล่าวทักทายกับเซียวเอินที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็มองไปยังข่ายซ่าที่นั่งอยู่ในรถโรลส์รอยซ์
ข่ายซ่า เป็นดวงดาวดวงหนึ่งที่ระยิบระยับอย่างโดดเด่นในสังคมชั้นสูงของอังกฤษ
นี่ไม่ใช่ว่าข่ายซ่ากำลังหลงตัวเอง อีกอย่างเป็นการเป็นอยู่ที่ทั้งสังคมชั้นสูงในอังกฤษทั้งหมดต่างก็เห็นด้วย
แค่เห็นความเร็วของรถโรลส์รอยซ์ค่อยๆ ช้าลง แล้วขับไปทิศทางที่ทุกคนต่างก็อยู่ คนขับรถเหยียบเบรกแล้วจอดลง ข่ายซ่ายังคงไม่ได้ลงรถ อีกทั้งรอให้คนขับรถเปิดประตูรถเสร็จ เขาถึงจะค่อยๆ ลงจากรถ
ฉากนี้ ทำให้คนรู้สึกว่าเขาโอหังเกินไป แต่ก็มีบางคนก็คิดว่านี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ยังไงฐานะของคนอื่นก็คงอยู่แบบนั้นอยู่แล้ว
“นี่ไม่ใช่คุณชายข่ายซ่าหรอ ไม่เจอกันตั้งนานเลย! ”
“คุณชายข่ายซ่าจากไปเมื่อครั้งที่แล้ว ก็มีเวลานานหน่อยแล้ว ท่านยังคงกล้าหาญชาญชัยเหมือนเดิม! ”
ข่ายซ่าเพิ่งจะลงจากรถ คนรอบข้างต่างก็เดินหน้ามาไม่กี่ก้าว แล้วเอ่ยชมข่ายซ่าอย่างไม่ปิดบัง
ไม่เพียงแต่พวกเขา แม้กระทั่งเซียวเอินก็ยังเดินหน้ามาไม่กี่ก้าวแล้วกล่าวทักทายกับข่ายซ่า ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าราชวงศ์อังกฤษก็ให้ความสำคัญกับเขา
“ท่านข่ายซ่า ไม่เจอกันตั้งนาน! ”
เซียวเอินพูดด้วยสีหน้าที่เคล้าด้วยรอยยิ้ม
การต้องเผชิญหน้ากับเซียวเอิน ข่ายซ่าก็ไม่กล้าดูถูก ยังไงเบื้องหลังของฝ่ายตรงข้ามคือราชวงศ์อังกฤษ
ข่ายซ่าลดความโอหังลง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ขอถามอย่างเสียมารยาทหน่อยนะครับ “องค์หญิงแอนนี่ผู้สูงส่งตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ? ”
“องค์หญิง ตอนนี้ทรงอยู่ในวังเพื่อที่จะเตรียมงานวันเกิด ดังนั้นจึงไม่สามารถมานี้ได้! ”
เซียวเอินอธิบายขึ้น
“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง! ” ข่ายซ่าคลี่ยิ้มอ่อนๆ เหมือนว่าจะไม่สนใจ และตอนที่เขากำลังจะถามอีกไม่กี่คำถาม ตรงที่ไกลๆ ก็มีรถคันหนึ่งขับมาฝั่งนี้
รถคันนี้ก็เป็นรถโรลส์รอยซ์เหมือนกัน เซียวเอินรู้ นี่เป็นเฉินเฟิงมาแล้ว
“คุณชายข่ายซ่า ในปราสาทเตรียมผลไม้ และเหล้าดีๆ ท่านจะเข้าไปเยี่ยมชมกับแขกท่านอื่นก่อนหรือไม่? ”
เซียวเอินมองข่ายซ่า แล้วพูดด้วยความจริงใจ นี่เขาทำเพื่อที่จะผลักไสข่ายซ่าไปที่อื่น เดี๋ยวเฉินเฟิงมาแล้วจริงๆ เซียวเอินจะต้องทำความเคารพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่ถ้าถูกข่ายซ่าเห็นเข้า ฝ่ายตรงข้ามก็คงจะมีความคิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
และอย่างมีสิ่งหนึ่ง ที่นี่เป็นเขตต้อนรับแขก ถ้าข่ายซ่ายืนอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน แขกที่มาทีหลังไม่รู้ว่ายังนึกว่าเขากำลังต้อนรับแขกที่นี่ นี่ก็คงทำให้ข่ายซ่าต้องเสียหน้า
ข่ายซ่าเป็นผู้สืบทอดของตระกูล อีกอย่างตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อยู่ภายใต้การนำพาของรุ่นพ่อ จึงได้เจอกับหลักครองตนในสังคมมากมาย คำพูดของเซียวเอิน เขาจะดูไม่ออกว่ามีความหมายโดยนัยแอบแฝงได้ยังไง
แค่ว่าเขาครุ่นคิดถึงความหมายโดยนัยชั้นที่สอง ฝ่ายตรงข้ามกลัวว่าจะทำให้ฐานะของตนเองต่ำลง
สำหรับชั้นแรก เขาคิดไม่ออกว่ายังมีคนอะไรที่สามารถทำให้เซียวเอินรอคอย ยิ่งไม่มีทางมีใครหน้าไหนที่มีฐานะสูงส่งกว่าตัวเอง
ข่ายซ่าทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วเตรียมตัวจากไป ส่วนแขกไม่กี่คนที่อยู่ข้างหลังก็ได้รีบเดินเข้ามาประจบเขา ข่ายซ่าเหมือนดวงจันทร์ที่ล้อมรอบด้วยหมู่ดาวแล้วเดินเข้าไปในวัง
พอเห็นข่ายซ่าจากไปแล้ว เซียวเอินก็ถอนหายใจออกมา สีหน้ายังคงรอยยิ้มอ่อนๆ
รถโรลส์รอยซ์จอดอยู่ตรงหน้าประตูวัง เซียวเอินเข้าขึ้นหน้าไม่กี่ก้าวแล้วกำลังจะเตรียมตัวเปิดประตูรถ ทว่าเฉินเฟิงไม่ได้รอให้ฝ่ายตรงข้ามลงไม้ลงมือ ตัวเองก็ลงจากรถ รายละเอียดในด้านนี้ ทำให้เซียวเอินพยักหน้าเล็กน้อย ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเฉินเฟิงก็เพิ่มมากขึ้น “ต้อนรับคุณเฉินอีกครั้ง ต้อนรับท่านมาถึงราชวังอังกฤษครับ”
เซียวเอินน้อมคำนับเฉินเฟิง แล้วยิ้มพูดขึ้น
“ฮ่าๆ ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว! ”
สำหรับเซียวเอิน เฉินเฟิงก็มีความรู้สึกดีๆ อยู่เหมือนกัน
“คุณเฉิน คืนนี้เป็นวันเกิดขององค์หญิงจัดในปราสาทหลังนี้ ตอนนี้พวกเราเข้าไปกันเถอะ? ”
“เชิญ! ”
“คุณเซียวเอิน ท่านไม่ต้องเกรงใจ ผมเข้าไปเองก็พอ! ”
เฉินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปในปราสาท
เซียวเอินไม่พูดมาก เขาคือทหารรักษาการณ์ ทว่าก็คือรองหัวหน้ากองกำลังรักษาการณ์ ทว่าเขาคือคนที่มีฐานะและตำแหน่ง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าองค์หญิงแอนนี่รับสั่ง เขาก็คงไม่มาต้อนรับแขกที่ประตูใหญ่หรอก
เมื่อกี้ถ้าเขาติดตามเฉินเฟิงเข้าไปในปราสาท แบบนั้นก็คงจะให้คนอื่นเห็น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนอื่นจะคิดมาก ดังนั้นเฉินเฟิงบอกว่าตัวเองจะสามารถเข้าไปได้ตามลำพัง เขาก็ไม่ดื้อรั้งอีกต่อไป
แค่เขานึกไม่ถึง เฉินเฟิงกับข่ายซ่าที่ก่อนหน้านี้ต่างก็เคยเจอหน้ากัน อีกอย่างยังทำให้เกิดเรื่องที่ไม่มีความสุขขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้ข่ายซ่ากำลังพูดคุยกับคนที่มีหน้ามีตาในปราสาท และไม่รู้ว่าบังเอิญหรือว่าอะไร เขาแค่มองอย่างผิวเผิน กลับเห็นเฉินเฟิง
ท่าทีแบบนี้ของข่ายซ่า ทำให้ดึงดูดความสนใจของแขกที่อยู่รอบๆ และต่างก็หันไปมอง
เขานึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงกลับก็มาที่นี่ด้วย ในมุมมองของเขาแล้วคนผิวเหลืองไม่มีสิทธิ์มาที่นี่
และในเวลานี้ เซียวเอินก็เดินมา
“ท่านเซียวเอิน ไอ้ลิงผิวเหลืองนี่ก็เป็นคนที่องค์หญิงแอนนี่เชิญมาหรอ? ”
ข่ายซ่าพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
คำพูดนี้พอเข้าหูของเซียวเอิน ก็ทำให้เซียวเอินทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก
หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เซียวเอินก็รีบเอ่ยถามทันที “ใช่ คุณเฉินคือแขกที่องค์หญิงทรงเชิญชวนมา! ”
เซียวเอินรู้สึกสะดุ้งตกใจในใจ เฉินเฟิงคือใคร คือเกียรติศักดิ์ของวงการศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวา ยิ่งเป็นที่จับตามองของหลายประเทศ ใครจะกล้าไม่เคารพเขา
“เหอะ สถานที่หรูหราขนาดนี้ ปรากฏคนแบบนี้ แค่จะทำให้คนอยากอ้วก! ”
ข่ายซ่ายืนบนเวที แล้วมองลงไปตรงที่ต่ำ แล้วพูดถึงเฉินเฟิงด้วยน้ำเสียงที่จริงแท้แน่นอน