ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 697
บทที่ 697 ท้าทาย
“ลิงผิวเหลือง แกรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ” ข่ายซ่าพูดจบ
ภายในใจของเซียวเอินสะอึกหนึ่งที เพราะว่าเขาเห็นเฉินเฟิงหันไป ใบหน้านั้นเคล้าด้วยความอาฆาต
ตอนก่อนหน้านี้ที่อยู่ในสนามบิน ข่ายซ่าถูกเฉินเฟิงมองด้วยความไม่ตั้งใจเพียงชั่วพริบตา เขาก็โมโหฉุนเฉียวอย่างรุนแรง เหมือนเฉินเฟิงมองเขา ก็เป็นเคราะห์ร้ายของเขาแล้ว ตอนนั้นผู้ช่วยของเขาดึงเขาไป ไม่งั้นตอนนั้นก็คงจะลงไม้ลงมือแล้วจริงๆ
และหลังจากนั้นเพราะว่าเฉินเฟิงคุยโทรศัพท์กับองค์หญิงแอนนี่ ดังนั้นก็ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ทว่าข่ายซ่ายังคงท้าทายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ หากไม่สั่งสอนเขาหน่อย ก็ไม่ใช่เฉินเฟิงแล้ว
“หมามาจากไหน? กลับเห็นคนแล้วเห่าขึ้นมาแบบนี้! ”
นัยน์ตาของเฉินเฟิงเผยความอาฆาตออกมา ในปากยิ่งก่นด่าข่ายซ่าอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
“อ๊ะ! ”
“อะไร? ”
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง คนที่อยู่ในงานต่างทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป แล้วหยุดอยู่ที่เดิม
ข่ายซ่าเป็นคนที่ไหน เป็นผู้สืบทอดครอบครัวโรโปรี และก็เป็นหัวหน้าผู้สืบทอดตระกูลคนหนึ่งในอนาคต
ตระกูลให้ทุกอย่างที่เขาอยากได้ สามารถบอกได้ว่าข่ายซ่าไม่เพียงแต่อยู่ในอังกฤษต่อให้อยู่ในประเทศทั้งหมดของยุโรปและประเทศจีน ก็มีการดำรงอยู่ในสังคมชั้นสูง
คนแบบนี้ ไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรมเลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะสามารถเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้
ภายใต้แสงไฟ ข่ายซ่าลืมตา แล้วทำสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ เขานึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงกลับกล้าโต้แย้ง ยิ่งนึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะก่นด่าเขาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วเกินไป จึงทำให้ข่ายซ่ายังไม่สามารถตอบสนองกลับมาได้
เซียวเอินมองอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ตอนที่คำพูดนี้ของเฉินเฟิงออกมา เขาก็แอบพูดในใจว่าจบกัน
เรื่องที่เขากังวลที่สุด ยังคงเกิดขึ้นอยู่ ถึงแม้เซียวเอินไม่สามารถพูดว่าเข้าใจเฉินเฟิง ทว่าอย่างน้อยก็รู้ถึงนิสัยของฝ่ายตรงข้าม
หากกวนประสาทเฉินเฟิงให้เขาโมโห กลัวว่าไม่มีใครสามารถหยุดเฉิยเฟิงได้ และอาจจะไม่มีใครกล้าหยุดเขาได้
เรื่องต่อจากนี้ เซียวเอินใช้นิ้วเท้าคิดก็สามารถคิดได้ ทว่าไม่ว่าข่ายซ่าหรือว่าเฉินเฟิง พวกเขาต่างก็เป็นแขกที่มาร่วมงานวันเกิดขององค์หญิงแอนนี่ หากเวลานี้ตีกันขึ้นมา แบบนั้นเซียวเอินที่เป็นคนต้อนรับแขกก็ต้องเป็นคนพูด เป็นภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงของเขา
“อะไรนะ? พูดใหม่อีกครั้งซิ! ”
เวลานี้ข่ายซ่าได้สติกลับมาสักที แล้วเดินไปด้วยความโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ดูจากสภาพแล้ว หากเฉินเฟิงพูดอีกคำ เกรงว่าเขาต้องลงไม้ลงมือโดยตรง ในมุมมองของเขา ถึงแม้จะลงมือในงานวันเกิดขององค์หญิง ทว่าคิดว่าองค์หญิงแอนนี่ก็ไม่มีทางผิดใจกับตัวเองเพราะไอ้คนผิวเหลืองแน่นอน
“แกหูหนวกหรือไง? ถ้าแกยังปากเสียแบบนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ! ”
เฉินเฟิงทำสีหน้าแบบนั้นเหมือนเดิม การที่ข่ายซ่าข่มขู่เขา ในมุมมองของเขาแล้วเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก ตอนนั้นเขาฝ่าประเทศญี่ปุ่นตัวคนเดียว มีอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ
พอได้ยินเฉินเฟิงพูดซ้ำอีกประโยค ข่ายซ่ารู้สึกโมโหจนหัวเราะ ในมุมมองของเขาเฉินเฟิงที่พูดกับเขาแบบนี้ เหมือนคนธรรมดาที่เด็กคนหนึ่งกำลังข่มขู่ผู้ใหญ่
ไม่เพียงแต่ข่ายซ่า แม้กระทั่งคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็หัวเราะเสียงดัง แล้วทำท่าทางที่กำลังดูเรื่องสนุกๆ
นี่มันที่ไหน? นี่เป็นดินแดนอังกฤษ คนต่างประเทศคนหนึ่งกลับอยู่ตรงหน้าทายาทของครอบครัวโรโปรีในอังกฤษ อีกอย่างยังเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต นี่ไม่ใช่ว่าทำให้คนหัวเราะเยาะหรือไง หากไม่ใช่เพราะเห็นด้วยตาตัวเอง ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้หรอก
ข่ายซ่าพูดอย่างดูหมิ่น “ไหนๆ มีวีรบุรุษที่โผล่ขึ้นมาในดินแดนของอังฤษ แกยังจะแสร้งทำอะไรอีก ไอ้ลิงผิวเหลืองที่ไม่รู้อะไรเลย! ”
เฉินเฟิงทำสีหน้าที่หม่นหมอง นัยน์ตาเปล่งประกายแล้วพูดขึ้น “ครั้งที่แล้วคนที่ใช้น้ำเสียงแบบนี้ของฉัน จุดจบไม่ค่อยดีมากนัก! ”
เซียวเอินที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ภายในใจจึงสะอึกหนึ่งที ตามนิสัยของเฉินเฟิง แค่เขาลงไม้ลงมือก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องตายไม่งั้นก็พิการ ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีเด็ดขาด
ดูจากท่าทีของข่ายซ่าเองก็ไม่มีทางอ่อนข้อง่ายๆ ถ้าเขายังใช้คำพูดในการท้าทายอยู่แบบนี้ แบบนั้นจุดจบของเขาก็สามารถรู้ได้
ถ้าข่ายซ่าทายาทสืบทอดครอบครัวโรโปรีท่านนี้เกิดบาดแผลหรือพิการ ณ ที่นี่ แบบนั้นเชื่อว่าคงไม่ต้องใช้เวลานาน ก็จะทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบ
ถึงเวลานั้น เรื่องต้องบานปลายให้ถึงที่สุดแน่นอน อย่าพูดถึงองค์หญิงแอนนี่เลย ต่อให้เป็นทั้งตระกูลราชวงศ์อังกฤษก็ยังไม่รู้ว่าจะให้คำตอบเรื่องนี้กับครอบครัวโรโปรียังไง
อีกอย่างในสถานการณ์แบบนี้ องค์หญิงแอนนี่ต้องช่วยเฉินเฟิงไว้ไม่ได้แน่นอน ส่วนตระกูลราชวงศ์แอนนี่ก็ไม่มีทางมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับครอบครัวโรโปรีเพราะเฉินเฟิงที่เป็นเพียงคนนอก ถึงแม้เฉินเฟิงเป็นผู้มีพระคุณขององค์หญิงแอนนี่ ทว่าเรื่องนี้ อย่าว่าแต่ผู้มีพระคุณเลย แม้กระทั่งคนในตระกูลราชวงศ์ก็ยังไม่มีทางถดถอย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เซียวเอินรับผิดชอบในการต้อนรับครั้งนี้ แบบนั้นถ้าถึงเวลาเพื่อที่จะระงับความโมโหของครอบครัวโรโปรี เขาต้องยากหลีกเลี่ยงกับภัยครั้งนี้
“คุณชายข่ายซ่า คุณเฉิน วันนี้เป็นงานวันเกิดขององค์หญิง ถ้าพวกคุณลงไม้ลงมือกันที่นี่ แบบนั้นองค์หญิงแอนนี่ก็ต้องรู้สึกลำบากใจแน่นอน อีกอย่างเรื่องนี้หากป่าวประกาศออกไป หน้าตาของตระกูลราชวงศ์อังกฤษต้องเสื่อมเสียจนถึงที่สุด
เซียวเอินเห็นว่าเรื่องมันผิดปกติไปแล้ว หลังจากที่วิเคราะห์แยกแยะถึงผลสรุปทั้งหน้าและหลัง จึงรีบเข้าไปห้ามปราม หากช้าไปหนึ่งก้าว ทั้งสองฝ่ายลงไม้ลงมือกันขึ้นมา ทุกอย่างก็คงจะจบ
พอเห็นเฉินเฟิงและข่ายซ่าต่างไม่พูดไม่จา เซียวเอินแอบถอนหายใจ แล้วพูดขึ้นต่อ “คุณชายข่ายซ่า คุณเฉิน พวกท่านต่างก็มีแขกคนสำคัญขององค์หญิง ผมคิดว่าพวกท่านก็คงไม่มีทางไม่สนใจในพระทัยขององค์หญิงหรือเปล่า? ”
คำพูดของเซียวเอินถูกคนที่อยู่ในงานได้ยิน ข่ายซ่าจึงขมวดคิ้วทันที ธุรกิจเหมืองแร่ในอาหรับยังเจรจาไม่สำเร็จ ทว่าเขากลับไม่รู้สึกเครียด อีกทั้งเขาได้มุ่งเป้าหมายไปที่องค์หญิงแอนนี่ ครั้งนี้เขามาก็เพื่อที่จะสานความสัมพันธ์ที่สนิทสนมมากกว่าเดินขององค์หญิงแอนนี่
หากสร้างปัญหาอะไรที่นี่ ไม่เพียงแต่หน้าตาขององค์หญิงที่ดูไม่ค่อยดี ถึงเวลาแม้กระทั่งสำหรับคนที่สร้างเรื่อง ก็ยังต้องขาดความรู้สึกดีๆ ไป
ข่ายซ่าก็ไม่ใช่คนธรรมดา แค่ในระยะสั้นๆ ก็สามารถพิจารณาผลประโยชน์ที่ได้ออกมาอย่างชัดเจน เวลานี้ความรู้สึกโมโหถึงค่อยๆ ดีขึ้น
“ท่านเซียวเอิน ก็แค่ไม่รู้ว่าทำไมองค์หญิงแอนนี่ถึงเชิญชวนไอ้คนประเทศหวามาคนหนึ่งมาด้วย! ”
ข่ายซ่าหันไปมองเซียวเอิน แล้วถาม
“เป็นแบบนี้ คุณเฉินคือสหายขององค์หญิงครับ! ”
เซียวเอินเห็นข่ายซ่าหายโมโหลงมาบ้าง และไม่มีความคิดว่าจะสร้างเรื่องอีก จึงรีบอธิบายขึ้น จากนั้นก็แอบมองเฉินเฟิงเพียงชั่วพริบตา ตอนนี้ข่ายซ่าก็ไม่มีทางสร้างเรื่องอีก ทว่าเขากลัวว่าเฉินเฟิงยังคงไม่ให้อภัย ถ้าเป็นแบบนี้ทุกอย่างคงจบ
“คุณเซียวเอิน ท่านพูดไม่ผิด เมื่อครู่ผมบ้าบิ่นเกินไป! ”
พอเห็นสายตาของเซียวเอินที่มองมา เฉินเฟิงรู้ความหมายของฝ่ายตรงข้าม จึงพูดแบบนั้นออกมา
ครั้งที่แล้ว แอนนี่กับพ่อของเธอไปประเทศหวาด้วยกัน ตอนนั้นก็ได้ช่วยเรื่องนี้กับตัวเอง ถึงแม้เขาเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อตระกูลราชวงศ์อังกฤษก่อน ทว่าเฉินเฟิงก็คงยังจดจำความรู้สึกนี้ไว้ในใจ ไม่งั้นเขาก็คงไม่ยอมเสี่ยงชีวิต และเดินทางมาจากที่แดนไกลแล้วถึงอังกฤษ แล้วมาร่วมงานวันเกิดขององค์หญิงแบบนี้
“ยังไม่ทันดูเรื่องสนุกๆ เลย คนประเทศหวาคนนี้ก็แสดงความอ่อนแอออกมาแล้ว! ”
แขกที่อยู่ทั่วทุกสี่ทิศต่างก็ทำสีหน้าที่ผิดหวัง เหมือนเฉินเฟิงและข่ายซ่าไม่ได้ลงไม้ลงมือ ทำให้พวกเขาผิดหวังมาก แค่ว่าตั้งแต่คำพูดเมื่อกี้นี้ของเฉินเฟิง พวกเขาคิดถึงเฉินเฟิงกำลังแสดงความอ่อนแอ ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับข่ายซ่า