ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 715
บทที่715 เฟร์ตีตโต
“ดี….”
ตอนนี้พวกผู้ชมมองเห็นเฉินเฟิงอย่างชัดเจน พวกผู้ชมตะโกนดังลั่นอย่างกึกก้อง ท่วมท้นทุกเสียง
เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ยกกำปั้นชูขึ้นให้กับพวกผู้ชม การกระทำของเขาเช่นนี้ ดึงดูดเสียงตะโกนของผู้ชมขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากที่เฉินเฟิงออกมาแล้ว เฟร์ตีตโตที่มาจากปากีสถาน ก็เดินออกมาจากทางเดินของผู้แข่งขันอีกทางหนึ่ง
การปรากฏตัวของเขาไม่ได้เป็นที่สนใจของพวกผู้ชม นี่ถือเป็นเรื่องปกติ การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งทั้งสิบคนนั้นเท่านั้น ที่เป็นจุดสนใจของพวกผู้ชม ส่วนผู้แข่งขันคนอื่นๆถือเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น เรื่องนี้ผู้แข่งขันต่างก็รู้ดีแก่ใจ
เฉินเฟิงกับเฟร์ตีตโต ทั้งสองคนเดินขึ้นไปบนเวที เสียงของพวกผู้ชมค่อยๆเงียบลง สายตาต่างก็เบิกโตจ้องมองดูเหมือนกลัวพลาดภาพเหตุการณ์ที่สำคัญไป
หลังจากที่ทั้งสองคนยืนนิ่งแล้ว กรรมการตัดสินวัยกลางคนคนนั้นก็ขึ้นไปบนเวที
“ท่านก็คือเฉินเฟิงใช่ไหม มีโอกาสได้พบท่าน ผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง”
เฟร์ตีตโตจากปากีสถาน มองดูเฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้า พูดทักทายขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“คุณเฟร์ตีตโต สวัสดี”
เฉินเฟิงตอบเฟร์ตีตโตคนนี้ อย่างค่อนข้างรู้สึกดี
ต้องรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานกับประเทศหวานั้นดีมาก สามารถพูดได้ว่าเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก ความสัมพันธ์ระหว่างประชากรของทั้งสองประเทศก็ดีอย่างมาก ถึงแม้การแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เฟร์ตีตโตได้มีโอกาสเจอกับเฉินเฟิง ถือเป็นเรื่องยินดีอย่างยิ่ง ผมไม่ได้มีความอคติอะไรกับเฉินเฟิง
“ท่านเฉินเฟิง ผมค่อนข้างรู้ถึงความสามารถของคุณ ผมรู้ว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน แต่ผมก็จะสู้อย่างเต็มที่”
เฟร์ตีตโตพูดอย่างถ่อมตนมาก
เฉินเฟิงกลับส่ายหัวพูดว่า “คุณเฟร์ตีตโตถ่อมตนไปแล้ว การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ เป็นแค่การแลกเปลี่ยนกัน ต่างคนต่างก็ได้รับผลประโยชน์”
“ครับ ขอบคุณครับ”
เฟร์ตีตโตรู้ความหมายของเฉินเฟิง จึงทำเป็นรีบพูดขอบคุณ
กรรมการตัดสินมาถึงตรงกลางเวที แล้วก็พูดประโยคนั้นอีกครั้งว่า “กฎกติกาของการแข่งขัน พวกคุณทั้งสองคนรู้หรือยัง? จะให้พูดซ้ำอีกครั้งไหม?”
“ไม่ต้องแล้ว”
เฉินเฟิงกับเฟร์ตีตโต แทบจะพูดออกมาพร้อมกัน
“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็จะไม่ถามอะไรอีก”
กรรมการตัดสินผิวดำพยักหน้า ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว โบกมือข้างเดียว พูดขึ้นอย่างเสียงดังว่า “การแข่งขันเริ่มขึ้น…ณ บัดนี้”
“ล่วงเกินแล้ว”
เฟร์ตีตโตกำหมัดขึ้น แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ขยับร่างกายไปประชิดเฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว
แต่ความรวดเร็วของเฟร์ตีตโต ไม่ถือว่าเร็วมาก เทียบกับนักสู้หลายคนก่อนหน้านี้ ความรวดเร็วของเขาถือว่าช้ามาก แม้แต่ผู้ชมคนธรรมดาก็สามารถดูออก
นี่ไม่ใช่เป็นความตั้งใจของเฟร์ตีตโต เดิมความสามารถของเขาก็อ่อนอยู่แล้ว แม้แต่แดนหั้วจิ้งก็ยังไม่ถึง ที่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เพราะก่อนที่จะเริ่มมีการแข่งขัน ได้มีการเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันกะทันหัน เขาถือว่าเป็นคนที่มาเพื่อให้ครบจำนวนเท่านั้น
เวลาผ่านไปไม่นาน เฟร์ตีตโตมาถึงข้างกายเฉินเฟิง ลงมือโจมตีอย่างไม่ลังเล ฝ่ามือดั่งมีดเฉือนตรงไปที่คอของเฉินเฟิง
เฉินเฟิงขยับตัวหลบฝ่ามือมีดที่โจมตี
เห็นว่ากระบวนท่าแรกไม่ประสบผลสำเร็จ เฟร์ตีตโตก็ไม่ได้รีรอ ไล่ตามเฉินเฟิงไป ฟาดฝ่ามือไปสี่ห้าครั้งติดต่อกัน แต่เฉินเฟิงก็หลบได้อย่างง่ายดาย
“นี่เกิดอะไรขึ้น เฉินเฟิงถูกบดขยี้โจมตีหรือ?”
“นี่ไม่ใช่เป็นการล้อเล่นหรือ…”
เสียงผู้ชมที่อยู่ด้านนอกดังขึ้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้านี้ไม่เหมือนกับที่พวกเขาคิดไว้
ต้องรู้ว่าไม่ว่ายังไงเฉินเฟิง ก็เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหกคน และอันดับสี่ของแชมป์
หลายคนก่อนหน้าต่างก็แสดงฝีมือออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม อาเธอร์ที่เพิ่งเริ่มการต่อสู้ ก็ได้กดดันจนอีกฝ่ายยอมแพ้ ส่วนวิลเลียมก็ลงมือฆ่าอีกฝ่ายอย่างคนเหี้ยมทันที ส่วนเติ้งนี ถึงจะไม่โดดเด่นเหมือนทั้งสองคนก่อนหน้านั้น แต่ก็บดขยี้โจมตีจียุ่น
แต่ว่าภาพตรงหน้านี้ พวกเขารับไม่ได้ ถึงเฉินเฟิงจะไม่โดดเด่นเหมือนคนก่อนหน้าหลายคนนั้น แต่ก็ไม่ควรที่จะถูกผู้แข่งขันที่เป็นเพียงตัวประกอบ โจมตีจนทดถอยหลัง
ไม่เพียงแค่คนธรรมดาพวกนี้ แม้แต่พวกนักสู้หรือนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่เห็นการกระทำของเฉินเฟิง ต่างก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเฉินเฟิงกำลังทำอะไร ถึงได้เหลือทนขนาดนี้
พวกผู้ชมที่อยู่ในสนามแข่ง ถึงแม้ส่วนมากจะไม่เคยเห็นเฉินเฟิง แต่เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาของเฉินเฟิง พวกเขากลับรู้ดี ในใจของพวกเขาคิดว่า เฉินเฟิงสามารถกระทำเรื่องพวกนั้นได้ ยังไงความสามารถก็ไม่ด้อยเป็นแน่
ตอนนี้ที่กระทำแบบนี้บางทีอาจจะมีแผนอะไรบางอย่าง ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะคิดยังไง
“ขอบคุณอย่างมาก ท่านเฉินเฟิง ขอบคุณในความปราณีของท่าน ให้ผมได้แสดงวิชาดาบปากีสถาน บนเวทีการต่อสู้”
แล้วในตอนนี้เฟร์ตีตโตก็หยุดการโจมตี แล้วก็ยกกำปั้นไหว้เฉินเฟิง ท่าทีเคารพนับถือ
วิชาดาบปากีสถานที่เขาแสดงออกมาเมื่อกี้ เป็นวิชาดาบมหาปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้คนหนึ่งของปากีสถานคิดค้นขึ้นมาเอง วิชาดาบนี้ดุเดือดรุนแรงมาก ถือได้ว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ชั้นยอดอย่างหนึ่ง แต่ยังไงเขาก็ยังไม่ผ่านแดนหั้วจิ้ง จึงไม่สามารถใช้วิชาดาบนี้ได้อย่างสูงสุด จึงไม่สามารถทำร้ายเฉินเฟิง
และเขาก็รู้ดีแก่ใจ เฉินเฟิงตั้งรับอยู่ตลอด ไม่ได้ตอบโต้ หากเฉินเฟิงตอบโต้ เขาไม่มีทางรับมือได้แน่
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเฉินเฟิง ไม่อยากให้ตอนแพ้การแข่งขันนี้อย่างทุลักทุเล หรือเป็นการให้เกียรติเขาอย่างมาก ตอนนี้ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่เขามีต่อเฉินเฟิง ไม่ถูกปกปิดอีกต่อไป
“ไม่ต้องเกรงใจ ความสามารถของคุณพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยินดีด้วย” เฉินเฟิงยิ้มตอบ
“การแข่งขันในครั้งนี้ขอบคุณในความปราณีของท่านอย่างมาก ผมจะเอาคุณเป็นแบบอย่าง ตั้งใจฝึกฝนเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้” เฟร์ตีตยกมือขอบคุณอีกครั้ง แล้วก็พูดกับกรรมการตัดสินว่า “ผมขอยอมแพ้”
กรรมการตัดสินก็ไม่ใช่คนธรรมดา ตั้งแต่การแข่งขันเริ่มขึ้นเขาก็รู้แล้วว่าเฟร์ตีตโตจะพ่ายแพ้ ตอนนี้เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดว่ายอมแพ้ น้ำเสียงที่ไม่ลังเลดังก้องขึ้นมาว่า “การแข่งขันจบสิ้น เฉินเฟิงชนะ”
“อ๋า?”
“นี่เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ยินเสียงของกรรมการตัดสิน พวกผู้ชมต่างก็มึนงง ยังคงไม่เข้าใจในทันใด
กลับกันกับพวกนักสู้ผู้แข็งแกร่งพวกนั้น หรือพวกผู้นำเหมือนต่างก็รู้แต่แรกแล้ว ยังไงพวกเขาก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดา เฉินเฟิงตั้งใจไม่ตอบโต้เฟร์ตีตโต รอให้อีกฝ่ายแสดงกระบวนท่าทั้งหมดที่มีออกมาจนหมด พวกเขาจะไม่รู้หรือ
“นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เล่นอะไรกันอยู่หรือ?”
“ใช่ เฉินเฟิงจากประเทศหวายังไม่ได้ลงมือเลย ทำไมการแข่งขันถึงได้จบลงแล้ว กรรมการตัดสินเป็นอะไรไป?”
เดิมผู้ชมต่างก็ให้ความสนใจกับการแข่งครั้งแรกครั้งนี้อย่างมาก แต่การแข่งขันจบสิ้นแล้ว พวกเขาไม่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่โดดเด่น ดังนั้นตอนนี้จึงต่างก็อดไม่ได้ที่จะพูดบ่น
การแข่งขันการต่อสู้ของเฉินเฟิงประเทศหวา แชมป์อันดับสี่ของการแข่งขันในครั้งนี้ และยังเป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายของวันนี้ เป็นการรอคอยด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่งของพวกเขา เป็นการรอคอยยิ่งกว่าหลายรอบก่อนหน้านี้
แต่มาถึงสุดท้าย กลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฟร์ตีตโตที่เป็นเพียงผู้แข่งขันตัวประกอบ การแข่งขันจบสิ้นแล้ว ทำให้พวกเขาเสียความรู้สึกอย่างมาก
“ทุกคนเงียบก่อน ผมจะอธิบายให้กับทุกคนฟัง”
สำหรับคำถามกับคำบนด่าของพวกผู้ชม กรรมการตัดสินก็ค่อนข้างปวดหัว แต่ยังไงเขาก็เป็นกรรมการตัดสิน ต้องทำการอธิบาย
“เรื่องเป็นแบบนี้ เดิมเฟร์ตีตโตกับเฉินเฟิงก็ห่างกันหนึ่งแดน ตอนที่แข่งขันเฉินเฟิงไม่ได้ลงมือ ก็เพราะอยากให้เฟร์ตีตโตได้แสดงฝีมือการต่อสู้ของตนเองออกมา”
“เมื่อสุดท้าย หลังจากที่เฟร์ตีตโตแสดงฝีมือทั้งหมดออกมา ยังคงไม่สามารถทำร้ายเฉินเฟิง ทำให้เฟร์ตีตโตเลือกที่จะยอมแพ้”
ในขณะที่ผู้ชมวิพากษ์วิจารณ์ เสียงของกรรมการตัดสินก็ดังขึ้นมาในทันใด ครอบงำเสียงของพวกผู้ชม แล้วก็พูดอธิบายขึ้น