ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 716
บทที่ 716 ฆ่าคุณถือเป็นเรื่องเล็ก ง่ายนิดเดียว
“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง”
หลังจากกรรมการตัดสินพูดอธิบายเสร็จแล้ว ผู้ชมในสนามแข่งต่างค่อยเข้าใจ ความไม่พอใจภายในใจก็ค่อยหายไป
สำหรับการกระทำของเฉินเฟิง ในใจของผู้ชมต่างก็เห็นด้วย ไม่เพียงผู้ชมยังมีนักต่อสู้อีกมากมาย
ทั้งๆที่เฉินเฟิงมีฝีมืออย่างมากไม่ได้แสดงออกมา แต่รอให้อีกฝ่ายแสดงฝีมือออกมาทั้งหมด ถือเป็นการให้เกียรติคู่ต่อสู้อย่างมาก เทียบกับความเหี้ยมโหดของวิลเลียม ความดูถูกของอาเธอร์ที่มีต่อคู่ต่อสู้ การกระทำของเฉินเฟิง ทำให้ในใจของผู้ชมต่างก็รู้สึกอบอุ่น
นี่คอยเป็นสไตล์ที่ทุกคนชื่นชอบ ถึงจะไม่มีความแข็งแกร่งเหมือนดั่งปรมาจารย์ แตกกลับมีบารมีเหมือนอย่างปรมาจารย์
แต่คนเราต่างก็ไม่เหมือนกัน ความคิดของคนเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
“เชอะ จะง่ายอะไรขนาดนั้น การที่เขาไม่ลงมือ ของเพราะกลัวที่จะต้องแสดงฝีมืออย่างแท้จริง”
“อืม บางทีเขาอาจจะเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันในครั้งต่อไป”
มีบางคนมองดูบนเวที แล้วแอบวิเคราะห์เรื่องนี้
และในขณะที่ผู้ชมต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอยู่ เฟร์ตีตโตก็ยกมือให้กับเฉินเฟิงอีกครั้ง แล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากสนามแข่ง
บางแง่มุมในการแข่งขันในครั้งนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง ทั้งสองคนต่างก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ตามที่ทั้งสองเดินลงมาจากบนเวที การแข่งขันการต่อสู้จบสิ้นลง การแข่งขันในวันนี้ก็มาถึงช่วงสุดท้าย
การแข่งขันตลอดทั้งวันนี้สามารถพูดได้ว่าโดดเด่นอย่างที่สุด วิลเลียมอาศัยวิธีการนองเลือดเอาชนะคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ของเขาจบชีวิตไปโดยที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นสู้
อาเธอร์ก็ไม่เลว ใช้พลังความสามารถที่มีข่มขู่ให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ สามารถพูดได้ว่าผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหกคนต่างก็มีคุณลักษณะพิเศษเฉพาะของตนเอง
ส่วนการกระทำของเฉินเฟิง ถือว่าได้รับการยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นที่ดูถูกของคนจำนวนมาก
หลี่ชางซี หงหยี้ จั่วจู้เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อย
“เชอะ ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักความตาย อาศัยเพียงเปลือกนอกก็ยืนยันความแข็งแกร่งของเฉินเฟิงขนาดนี้ ถึงตอนนั้นแล้วจะต้องเสียใจ”
“ใช่ รอเมื่อพวกเขาได้ต่อสู้กับเฉินเฟิงจริงๆ พวกเขาจะไม่ทันเสียใจ”
จียุ่นตระกูลจี ศีลสามในพระพุทธศาสนาได้ยินคนส่วนน้อยพวกนั้นวิพากษ์วิจารณ์เฉินเฟิงอยู่ในหมู่ผู้ชม ในใจจึงอดไม่ได้ที่จะด่าขึ้น
เวลาผ่านไปทีละนิด วันที่สองก็มาถึง ความจริงแล้วการแข่งขันในวันนี้ก็ไม่แตกต่างอะไรกับในวันแรก ทางด้านความสามารถ ผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหกคนยังคงนำโด่ง
มีรอบหนึ่งที่วิลเลียมแข่งขันกับผู้แข่งขันของแอฟริกา การแข่งขันยังไม่ได้เริ่มขึ้นผู้แข่งขันของแอฟริกาก็สั่นเทาไม่หยุด เพราะภาพเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวานยังอยู่ในสายตา เขาได้ตัดสินใจไว้แต่แรกแล้วว่า เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นก็จะยอมแพ้ แต่ดูเหมือนวิลเลียมจะรู้ทันความคิดของเขา การแข่งขันเพิ่งเริ่มขึ้นก็ลงมือฆ่าอีกฝ่าย ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสพูดคำว่ายอมแพ้
ความโหดเหี้ยมในครั้งนี้ของวิลเลียม วิธีการนองเลือดนี้ทำให้พวกผู้ชมต่างก็ตกตะลึง ผู้แข่งขันที่ยังไม่ได้ลงแข่งขันเห็นใบหน้าของวิลเลียมแล้วต่างก็หวาดกลัว
เห็นทีเมื่อได้เป็นคู่ต่อสู้ของวิลเลียม นอกจากตายแล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่น
เทียบกับอิทธิพลความแข็งแกร่งของอาเธอร์ ความโหดเหี้ยมของวิลเลียม เติ้งนียังคงแสดงท่าทีเหมือนดั่งคนบ้าการต่อสู้ ทุกครั้งที่ถึงคิวเขาได้ขึ้นสนามแข่ง เขาก็จะพยายามควบคุมกำลังของตนเองให้เหมือนกับอีกฝ่าย จากนั้นก็ทำการต่อสู้กันอย่างยาวนาน จนสะใจ
ในการแข่งขันรอบที่สองจียุ่นแสดงฝีมืออย่างดุเดือดมาก รอบแรกเขาแพ้ให้กับเติ้งนี รอบนี้เพิ่งเริ่มต้นเขาก็ใช้พลังแห่งสายฟ้าบดขยี้คู่ต่อสู้ จนเอาชนะอีกฝ่าย ถือว่าสามารถกู้หน้ากลับมาได้บ้าง ในขณะเดียวกันก็ถือว่าได้ระบายอารมณ์ที่หดหู่ออกมาบ้าง
ส่วนเทียนอิงก็ชนะการแข่งขันได้อย่างใจเย็น เพียงแต่การแข่งขันรอบต่อไปเขาจะได้ต่อสู้ในรอบสุดท้ายกับปาข่าเกอ เพื่อชิงรายชื่อเข้ากลุ่มที่ห้า
หนึ่งในสิบหกกลุ่ม ผู้ชมล้วนเห็นว่าการแข่งขันของกลุ่มที่สิบห้าน่าสนใจที่สุด เมื่อวานหงหยี้เอาชนะหนึ่งในผู้แข็งแกร่งของกลุ่มนี้ แล้วก็ไปแทนที่โควต้าของเขา
ส่วนศีลสาม ได้ต่อสู้กับอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้อีกคนเป็นร้อยๆรอบ ค่อยรู้ผลแพ้ชนะ สุดท้ายศีลสามชนะการแข่งขัน แต่กลับไม่ง่ายเลย
หงหยี้ในกลุ่มที่สิบห้าแข็งแกร่งมาก บ่อยครั้งไม่เกินสิบกระบวนท่าก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากศีลสามผ่านการต่อสู้มาอย่างหนัก เอาชนะผู้แข็งแกร่งในกลุ่มนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว ผู้ชมค่อนข้างมีความเห็นมากกว่าหน่อย
“โอ้พระเจ้า ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหก พ่ายแพ้ง่ายไปไหม”
“เมื่อวานเฉินเฟิงประเทศหวา ไม่ได้แสดงฝีมือการต่อสู้เลย ไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไร ผู้ชมต่างก็รอคอยการแข่งขันของเฉินเฟิง”
พวกผู้ชมวิพากษ์วิจารณ์ความสามารถของผู้แข็งแกร่งคนนั้นก่อน แล้วต่างก็พูดถึงการแข่งขันของเฉินเฟิง
“หากผมเอาชนะเฉินเฟิงได้ หรือฆ่าเขาไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ รอนคุณจะโกรธไหม?”
หลี่ชางซีของตระกูลหลี่ที่มาจากประเทศกาวลี่ลุกขึ้น แล้วหัวเราะพูดกับรอนที่อยู่ด้านข้าง
เห็นทีเฉินเฟิงเดาไม่ผิด ตระกูลหลี่ชางซีของประเทศกาวลี่ กับตระกูลชาย์เฟร์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เพราะเหตุนี้ ความจริงแล้วหลี่ชางซีกับรอน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว พวกเขาตกลงกันว่าจะแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ซึ่งกันและกันปีละครั้ง ศึกษาเส้นทางแห่งศิลปะการต่อสู้ด้วยกัน สนิทกันมาก
แต่การแข่งขันในครั้งนี้หลี่ชางซีแพ้ค่อนข้างมากกว่า บางทีอาจเป็นเพราะเมื่อวานเขาตั้งใจแพ้ให้กับรอน
“เพื่อนหลี่ ความสามารถของคุณผมรู้ดีแก่ใจ หากคุณสามารถเอาชนะเขาได้ ก็ให้ไว้ชีวิตเขา ให้ผมได้ฆ่าเขาด้วยมือตัวเอง ให้เขารู้ว่าการปฏิเสธความร่วมมือกับตระกูลชาย์เฟร์ เป็นเรื่องที่โง่เขลาขนาดไหน ผมจะทำให้เขาเสียใจอย่างที่สุด”
รอนทำการฉีดยาพันธุกรรมเช่นเดียวกัน เขาเข้าใจดี ยาพันธุกรรมสามารถทำให้ความแข็งแกร่งของคนเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าในช่วงเวลาสั้นๆ และสามารถแสดงพลังได้อย่างยาวนาน
“ใช่ คนไม่รู้จักเจียมตัว กล้าปฏิเสธความร่วมมือกับตระกูลชาย์เฟร์ โฉดเขลา ไม่หวาดหวั่น”
“คุณวางใจ ผมไม่ฆ่าเขาหรอก ผมจะเก็บเขาไว้ให้คุณแน่นนอน” น้ำเสียงของหลี่ชางซีเต็มไปด้วยความมั่นใจ เหมือนเฉินเฟิงพ่ายแพ้อยู่ภายใต้อำนาจเขาแล้ว
หลังจากนั้นหลี่ชางซีก็ออกมาจากเขตผู้ชม เดินมุ่งหน้าไปยังห้องรับรองของผู้แข่ง
“ตอนนี้เฉินเฟิงก็กำลังเดินไปที่ห้องรับรองของผู้แข่งเช่นกัน ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ เขาพบเจอกับหงหยี้พอดี”
“เชอะ”
หลังจากที่หงหยี้เห็นเฉินเฟิง ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นสายตาก็กลายเป็นเยือกเย็น เมินใส่เฉินเฟิง สายที่มองดูเฉินเฟิงเต็มไปด้วยความอาฆาต
แต่เฉินเฟิงก็ไม่ได้สนใจเขา ทำเป็นเหมือนมองไม่เห็นเขา
การกระทำเช่นนี้ของเฉินเฟิง ทำให้สีหน้าหงหยี้เปลี่ยนไป จึงเดินไปตรงหน้าเฉินเฟิง พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “เสแสร้งอะไรกัน ผมหวังว่าคุณจะตั้งใจ อย่าตายอยู่ในมือคนอื่น ดีที่สุดรอให้มาเจอผม ผมจะจัดการคุณด้วยมือผมเอง”
“ฮ่าๆ” ได้ยินคำพูดของหงหยี้ เฉินเฟิงอดหัวเราะไม่ได้ พูดขึ้นว่า “ผมอยากรู้ว่าคนอย่างคุณ เอาความมั่นใจมาจากไหน? หรือเพราะยาพันธุกรรมอะไรนั่นหรือ?”
เฉินเฟิงค่อนข้างไม่เข้าใจ หากอาเธอร์หรือวิลเลียมพูดเช่นนี้ เขายังพอเข้าใจ คนอย่างหงหยี้ กับหลี่ชางซี จั่วจู้ ไม่รู้จริงๆว่าพวกเขาเอาความมั่นใจมาจากไหน
“ฮ่าๆ ฆ่าคุณเป็นเรื่องที่ง่าย นิดเดียว”
หงหยี้หัวเราะเย้ย เฉินเฟิงเดาไม่ผิด เขารู้จั่วจู้ หรือหลี่ชางซี ต่างก็เคยใช้ยาพันธุกรรมพวกนั้น เพราะเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาอวดดี จนไม่เห็นเฉินเฟิงอยู่ในสายตา
คุยกับคนแบบนี้ไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เฉินเฟิงก็ไม่อยากพูดให้เปลืองน้ำลายตนเอง จึงเดินจากไป
รอนเห็นเฉินเฟิงเดินผ่านตนเองไป ในใจกระตุก สักพักก็อดทนไว้ไม่ได้ลงมือทำอะไรเฉินเฟิง ต้องรู้ว่าหากเขาลงมือ สามารถฆ่าเฉินเฟิงได้หรือไม่ยังไม่รู้ แต่เขาจะถูกสำนักงานศิลปะการต่อสู้ระดับโลกลงโทษเสียก่อน