ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 718
บทที่ 718 ผิดหวัง
หนึ่งหมัด เพียงหนึ่งหมัดก็ทำให้หัวสมองของหลี่ชางซีแตกสลาย ส่งเขาไปหายมบาลทันที
ทั้งสนามเงียบลงในทันใด ทุกคนตกตะลึงกับภาพตรงหน้าอย่างที่สุด ไม่ว่ายังไงหลี่ชางซีก็เป็นตัวแทนเข้าร่วมแข่งขันของประเทศกาว และก็มีกำลังที่แข็งแกร่ง
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ตายไปแล้ว สูญเสียหัวสมอง ก็เท่ากับสูญเสียกำลังทั้งหมด ศพล้มลงไป
“ดี”
“เฉินเฟิงสุดยอด สุดยอดดีๆ”
เวลานี้ผู้ชมนอกสนามต่างก็ตะโกนเรียกชื่อของเฉินเฟิง บรรยากาศพุ่งถึงสุดขีด เฉินเฟิงสังหารหลี่ชางซี ภาพนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึง ไม่ด้อยไปกว่าวิลเลียม
และวันนี้เฉินเฟิงแสดงฝีมือไม่เหมือนกับเมื่อวาน เมื่อวานเขาแข่งขันกับคนอื่น แทบจะไม่ได้ลงมือ แต่เป็นการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ไปเอง การกระทำแบบนี้ถึงแม้จะได้คำชื่นชมจากผู้คนส่วนหนึ่ง แต่คนอีกมากมายกลับเห็นเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในสายตา
วันนี้เฉินเฟิงได้เปลี่ยนท่าทีในก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ลงมือโจมตีหลี่ชางซีที่ท้าทายอยู่อย่างหลายครั้งนั้น อย่างไม่ลังเลที่จะเอาชีวิตเขา ทำให้ตื่นตระหนกกันไปทั่ว
“นี่ถึงจะเป็นเฉินเฟิง นี่ถึงจะเป็นความสามารถที่แท้จริงของเฉินเฟิง แค่ไม่ลงมือ เมื่อลงมือแล้วก็จะเป็นกระบวนท่าที่สะท้านฟ้า”
“หลี่ชางซีคนนั้นก็รนหาที่ตาย กล้าไปท้าทายเฉินเฟิง”
พวกผู้ชม ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่อย่างล้นหลาม ไม่เพียงพูดถึงความสามารถที่เฉินเฟิงแสดงออกมาให้เห็น ยังรู้สึกหวาดกลัว
คราวนี้พวกเขารู้แล้วว่า ทำไมเฉินเฟิงถึงเป็นแชมป์อันดับที่สี่ ตอนนี้ดูแล้ว เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งทั้งสามคน เขาไม่ได้ด้อยกว่าเลย
และเฉินเฟิงสังหารได้อย่างเด็ดขนาด ไม่ลังเลเลยสักนิด คนแบบนี้กับวิลเลียมที่มุ่งสังหารอย่างเดียว ยังคงทำให้น่าตื่นตระหนก
“เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปได้ยังไง”
ผู้นำของประเทศกาวลี่กับรอนที่อยู่นอกสนาม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติกลับมา ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเร็วมาก จนเฉินเฟิงหันตัวเดินไปแล้ว พวกเขาถึงค่อยบ่นพึมพำอย่างไม่อยากเชื่อ
ภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง ร่างกายของเฉินเฟิงเหมือนถูกแสงสีแดงปกคลุม ท่าทีของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเขา
แม้แต่ช่างภาพที่อยู่รอบ ๆ ก็รู้สึกประหม่า และตื่นเต้นกับการถ่ายภาพทุกเหตุการณ์อย่างมากในขณะนี้ กล้องถ่ายรูปถ่ายภาพทั้งหมดไว้ แม้แต่อารมณ์นิ่งของเฉินเฟิง ก็ถูกเก็บภาพไว้แล้ว
เวลาเพียงแค่หนึ่งวัน สิ่งที่เฉินเฟิงแสดงออกมาให้เห็นนั้นแตกต่างกันมาก เมื่อวานอ่อนโยนเหมือนดั่งแกะ นี่กลับเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก รวดเร็วเกินไป
ทำให้ผู้ชมทั้งหมดในตอนนี้ต่างก็เลือดเดือดพลุ่งพล่านกันขึ้นมาทันที ยิ่งที่เป็นแฟนคลับของเฉินเฟิง ตอนนี้ต่างก็ตะโกนร้องเรียกชื่อของเขา ดีใจกับเขาเป็นอย่างยิ่ง
“สาธุๆ ผมไม่เข้าใจว่าเมื่อเช้าหลี่ชางซีจากประเทศกาวลี่ลืมทานยาหรือ? ไปหาเรื่องเฉินเฟิงทำไม ไม่เป็นการรนหาที่ตายเองหรือ”
ศีลสามที่อยู่ในหมู่ผู้ชม ยังไงก็คิดไม่ออก
ต้องรู้ว่าที่ผ่าน เฉินเฟิงสุกใสเป็นประกายขนาดนั้น เหตุการณ์ในการต่อสู้พวกนั้นล้วนหมายถึงการนองเลือดสังหารหมู่ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลี่ชางซียังกล้าที่จะไปท้าทายเฉินเฟิง นี่ไม่ใช่เป็นการถูกประตูหนีบหัวสมองไว้แล้วหรือ
“ศีลสาม ถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือ? คนประเทศกาวลี่ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ยกตนข่มท่านมากเกินไป เหมือนบนโลกนี้นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีใครอีก”
จียุ่นเห็นศีลสามแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ จึงพูดอธิบายขึ้น
ตระกูลของจียุ่นมีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีเส้นสายอยู่ทั่วทุกที่ จึงพอรู้ข้อมูลของนักศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดในการแข่งขันในครั้งนี้อยู่บ้าง ส่วนศีลสามกับเทียนอิง จะค่อนข้างด้อยในทางด้านนี้ พวกเขาตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างเดียว
หูฟังจียุ่นกับศีลสามพูดคุยกัน เทียนอิงไม่ได้พูดอะไร กลับมองดูเงาร่างของเฉินเฟิงที่เดินจากไป ด้วยสายตาเร่าร้อน
หลังจากการแข่งขันในครั้งนี้จบสิ้น เชื่อว่านักศิลปะการต่อสู้รุ่นเยาว์ในประเทศหวาทั้งหมด จะต้องเอาเฉินเฟิงเป็นแบบอย่าง
และไล่ตามความสามารถของเฉินเฟิง มีบางอย่างเป็นไปไม่ได้ แต่การมีเฉินเฟิง สำหรับนักศิลปะการต่อสู้รุ่นเยาว์ เขากลายเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่ง ขอเพียงมีเขาอยู่ก็พอ
การแข่งขันจบสิ้นแล้ว ภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง บนเวทีมีศพที่เย็นเฉียบของหลี่ชางซีนอนอยู่ เจ้าหน้าที่คณะกรรมการจัดการแข่งขัน กับหัวหน้านำทีมประเทศกาวลี่ขึ้นไปพร้อมกัน ยกศพของหลี่ชางซีลงมา และยังมีคนมาทำความสะอาด
หัวหน้านำทีมประเทศกาวลี่ มองดูเงาร่างของเฉินเฟิงที่จากไป ด้วยสายตาโกรธแค้นอย่างที่สุด แต่ภายใต้ความโกรธแค้นนี้ ยังแฝงไปด้วยความหวาดกลัวที่ไม่อาจบรรยาย
ต้องรู้ว่าตระกูลของหลี่ชางซี มีอิทธิพลค่อนข้างมากในโลกนี้ ตอนนี้ทายาทที่ตระกูลหลี่ฝึกฝนมาอย่างดี ตายในระหว่างการแข่งขันแล้ว สำหรับเขาที่เป็นหัวหน้านำทีมนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี
ถึงแม้หลี่ชางซี ไม่ได้ถูกฆ่าตายด้วยวิธีที่ไม่เป็นธรรม แต่ถึงตอนนั้นหากประมุขของตระกูลหลี่โกรธขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจจะลงมือกับเขาที่เป็นหัวหน้านำทีมคนนี้
คิดถึงตรงนี้แล้ว หัวหน้านำทีมประเทศกาวลี่แสดงสีหน้าขมขื่น ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี
ภายใต้เสียงตะโกนร้องอันกึกก้องของพวกผู้ชม เฉินเฟิงเดินมายังห้องรับรองของผู้แข่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนขึ้นไปแข่งขันไม่สามารถนำสิ่งของใดๆติดตัวไปด้วย สิ่งของประจำตัวของเขาจึงเก็บไว้ในห้องรับรอง ตอนนี้จึงกำลังเดินกลับมาเอา
“คุณเฉินเฟิง คุณแข็งแกร่งมากจริงๆ”
ภายในห้องรับรอง เฟร์ตีตโตที่กำลังจะขึ้นแข่งขันเห็นเฉินเฟิงเดินมา จึงรีบลุกขึ้นพูดทักทาย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
เฉินเฟิงยิ้มตอบ ต่อมาเหมือนเขาคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงพูดเตือนเฟร์ตีตโตว่า “นี่เป็นเพียงแค่การแข่งขัน ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ต้องฝืนตัวเอง สถานการณ์ไม่เหมือนกัน การยอมแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร”
ที่เฉินเฟิงพูดเช่นนี้ อย่างแรกเพราะรู้สึกดีกับเฟร์ตีตโตคนนี้ อย่างที่สองก็คือรอน เขาไม่รู้จักรอย ไม่รู้ว่ารอนเป็นคนยังไง กลัวเขาลงมือฆ่าเฟร์ตีตโต
“ผมรู้ครับ ขอบคุณคุณเฉินเฟิงที่เตือน”
ได้ยินคำเตือนของเฉินเฟิง สีหน้าเฟร์ตีตโตเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง อย่างแรกคือขอบคุณเขาที่เมื่อวานเขาออมมือให้กับตน อย่างที่สองก็คือคำเตือนด้วยความหวังดีในตอนนี้
การแข่งขันระหว่างเฉินเฟิงกับหลี่ชางซีในวันนี้ คู่ต่อสู้ยังไม่ทันได้ตอบโต้ก็ถูกฆ่าตายแล้ว และความสามารถของหลี่ชางซี ก็แข็งแกร่งกว่าเขามาก เช่นนี้ โชคดีที่เมื่อวานเฉินเฟิงออมมือให้กับเขา
“อืม สู้ๆ”
เฉินเฟิงเดินไปยังตู้เก็บของ เปิดลิ้นชักแล้วก็นำสิ่งของของตัวเองออกมา หลังจากนั้นก็พูดทักทายกับเฟร์ตีตโต หลังจากเคารพซึ่งกันและกันแล้ว ก็หันเดินออกไปจากห้องพักรับรอง
ในขณะเดียวกัน ภายในห้องพักรับรองอีกห้องหนึ่ง รอนกำลังจะขึ้นสนามแข่ง ตอนนี้เขาไม่ได้มีความอวดดีเหมือนก่อนหน้านี้ เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าเงียบขรึม เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่ชางซีเผชิญหน้ากับเฉินเฟิง ยังไม่ทันได้อุ่นกาย ก็ถูกฆ่าตายแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถรับได้
รอนแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้กับหลี่ชางซีอยู่บ่อยครั้ง สามารถพูดได้ว่ารู้ถึงความสามารถของหลี่ชางซีเป็นอย่างดี และอีกฝ่ายก็ยังฉีดยาพันธุกรรม พลังในการต่อสู้มีเพิ่มมากขึ้น ไม่น่าที่จะพ่ายแพ้ได้อย่างอนาถเช่นนี้
เขาคิดว่าต่อให้ไม่สามารถฆ่าเฉินเฟิง แต่ก็น่าจะสามารถทำให้เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้ในรอบต่อไป เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ ยังไงก็ต้องตายแน่
แต่ทุกอย่างนี้ก็เป็นแค่ภาพจินตนาการ หลี่ชางซีถูกฆ่าตายด้วยกระบวนท่าเดียว ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้ตอบโต้ ตอนนี้ในใจของเขาค่อนข้างผิดหวัง ในหัวของเขาหวนคิดถึงภาพการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ในใจแอบวิเคราะห์ถึงความสามารถของเฉินเฟิง ว่าถึงแดนไหนแล้วกันแน่