ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 775
บทที่ 775 สภามืด
เดิมทีเฉินเฟิงคิดจะใช้น้ำโสมรักษาบาดแผลในร่างกาย ทว่าคิดไม่ถึงเขาประเมินฤทธิ์ของน้ำโสมต่ำเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงไม่เพียงแต่รักษาบาดแผลในร่างกายของเขาทั้งยังทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พลังแบบนี้หัวจิ้งชั้นกลางไม่เคยมีมาก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเฉินเฟิงอยากจะบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง ตอนนี้ถือเป็นสิ่งที่ง่ายมาก พูดได้ว่าเฉินเฟิงสามารถบรรลุได้ตลอดเวลา
เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่รีบร้อน เฉินเฟิงไม่รีบร้อนที่จะบรรลุ
เฉินเฟิงเข้าใจดีว่าอู๋คุนเป็นคนยังไง คนๆนี้เจ้าเล่ห์เพทุบาย ทั้งยังมีเล่ห์เหลี่ยมมาก ถ้าหากให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าตนบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง เช่นนั้นเป็นเรื่องยากที่จะคู่ต่อเข้าร่วมประลองการต่อสู้อย่างเป็นเอาตาย ถึงขั้นที่ว่าอู๋คุนอาจจะปฏิเสธการประลองกับเขา หากเป็นเช่นนั้น แผนการทั้งหมดก็จะปั่นป่วน
เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลาประลองแล้ว เฉินเฟิงลุกขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจ เวลานี้ตัวของเขาเหนียวเหนอะหนะ รู้สึกไม่สบายตัวมาก เพราะตอนเก็บตัวถือศีลเฉินเฟิงกระตุ้นน้ำโสมที่เหลือออกมา อีกทั้งในร่างกายก็ขับสิ่งสกปรกออกมา
ดังนั้นเฉินเฟิงจึงเตรียมตัวเล็กน้อยแล้วเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ หลังจากล้างสิ่งสกปรกออกไปจนหมด เขาจึงเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาด แล้วเก็บข้าวของออกไปจากห้องภายในโรงแรม
ตอนที่เฉินเฟิงเดินลงไปชั้นล่าง อู่จื้อโจว จียุ่น อาจารย์ฟางเจิ้นและชางโป๋ล้วนรออยู่ด้านล่างแล้ว
เมื่อเห็นเฉินเฟิงเดินมา พวกเขาจึงลุกขึ้นยืน
“ฮ่าๆๆ น้องเฉินเฟิง เก็บตัวถือศีลมาหลายวันรู้สึกยังไงบ้าง ความสามารถเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่? ได้ยินว่าอู๋คุนแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าอาเธอร์!”จียุ่นเดินขึ้นหน้าหลายก้าวพร้อมกับหัว
“น่าจะไม่มีปัญหา!” เฉินเฟิงยิ้มบางเบา
“อื้ม จริงหรอ?” สีหน้าของจียุ่นแปรเปลี่ยนเล็กน้อย รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย
ถึงแม้การประลองเมื่อคราวที่แล้วเฉินเฟิงจะสามารถเอาชนะอาเธอร์ได้ แต่มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เฉินเฟิงอาศัยประสบการณ์การต่อสู้ของเขาที่มีมากมายในการเอาชนะอาเธอร์
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ความสามารถของอู๋คุนแข็งแกร่งกว่าอาเธอร์ อีกทั้งยังมีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากมาย ไม่เป็นรองเฉินเฟิง ความสามารถแบบนี้ แน่นอนว่าเฉินเฟิงไม่มีปัญหา จียุ่นจึงทำได้เพียงเงียบ
ไม่เพียงแค่จียุ่น แม้แต่อู่จื้อโจว อาจารย์ฟางเจิ้น จีอู๋ฉาง ชางโป๋และเทียนอิงสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน
“เฉินเฟิง ลมปราณของนายในตอนนี้แปลกเล็กน้อย แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ฉันคิดว่านายบรรลุแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนนายยังคงเป็นหั้วจิ้งชั้นต้น มันแปลกเล็กน้อย!”
เทียนอิงเงียบครู่หนึ่ง เอ่ยถามสิ่งที่สงสัยในใจ
“ตอนนี้ไม่สะดวกที่จะบอก แต่เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง!”
เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อกลุ่มคนตรงหน้า แต่เฉินเฟิงมีนิสัยระมัดระวัง ไม่เปิดเผยความสามารถของตนเองออกมา
“เป็นแบบนี้หรอ!” เทียนอิงพยักหน้า คนที่เหลือพากันมองหน้า ไม่รู้ว่าเฉินเฟิงมีกลเม็ดอะไร ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงไม่ได้พูด พวกเขาจึงไม่ได้ถาม
ขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ศีลสามมาถึง เวลานี้เขาถูกผ้าพันแผลพันรอบตัว เดินถือไม้เท้ามาตรงหน้าทุกคน
“หื้ม? ศีลสามนายมาได้ยังไง ทำไมถึงไม่รักษาตัวดีๆในโรงพยายาม มาที่นี่ทำไม!”
เมื่อเห็นศีลสามเดินเข้ามา อาจารย์ฟางเจิ้นเดินมาต้อนรับ แล้วพูดตำหนิ
“ยังต้องพูดอีกหรอก ฉันมาที่นี่เพื่อมาหาพวกนาย อีกทั้งวันนี้เป็นการประลองรอบตัดสินของน้องชายฉัน ฉันจะไม่มาได้ยังไง!” ศีลสามหัวเราะแห้ง
“น้องชาย นายควรจะรักษาตัวให้ดี!”เฉินเฟิงยิ้มเศร้า
“น้องชาย นายไม่รู้อะไร วันนี้ตอนเช้าฉันเจอเจ้าโง่คูเรียที่แพ้นายที่โรงพยาบาลด้วย เขาเอาแต่พูดว่าน้องชายทำให้เขาอับอาย อีกทั้งตอนนี้ถึงแม้เขาจะสูญเสียแขนไปแล้วข้างหนึ่งแต่เขาก็สามารถรักษาวรยุทธ์เอาไว้ได้!”
ศีลสามสูดลมหายใจเข้าแล้วพูดต่อ:“อีกทั้งเจ้าโง่คูเรียยังบอกว่านายต้องถูกอู๋คุนฆ่าตายแน่ๆ แน่นอนว่าฉันไม่ยอม ดังนั้นฉันจึงทะเลาะกับเขา วันนี้ฉันจะพิสูจน์ว่านายสามารถฆ่าอู๋คุนได้ ฉันจะดูสิเจ้าโง่คูเรียยังจะกล้าพูดอะไรไหม!”
ฟังคำพูดของศีลสาม ทุกคนหมดคำพูด ความคิดในหัวจินตนาการภาพศีลสามที่มีผ้าพันแผลพันรอบตัวทะเลาะกับอาเธอร์
“จริงด้วย น้องชายของฉัน นายไม่มีวันทำให้ฉันผิดหวังใช่ไหม!”
จู่ๆศีลสามก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หันไปจ้องมองเฉินเฟิงแล้วเอ่ยถาม
“วางใจเถอะ ฉันจะทำให้อาเธอร์ผิดหวัง!” น้ำเสียงของเฉินเฟิงจริงจัง
ลอนดอน ประเทศอังกฤษที่อยู่ไกลออกไปอีกหมื่นกิโล
ภายในห้องทำงานของบริษัทลอตเตอรี ผู้ช่วยเริ่มรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงสองสามวันที่ผ่านมาด้วยความเคารพ
“ช่วงนี้พวกเราใช้วิธีการบางอย่างทำให้ได้คลิปวิดีโอการประลองของอาเธอร์ หลังจากวิดีโอถูกแพร่ออกมา ทว่ากลับดึงดูดสายตาของนักพนันบางส่วน แต่เงินที่เข้ามาในบริษัทกลับมีไม่มาก!”
“ตรงกันข้ามกับเฉินเฟิง นักพนันจำนวนไม่น้อยล้วนเดิมพันที่เขา อีกทั้งยังดำเนินด้วยเงินจำนวนมาก ฉันล้วนไม่เข้าใจ ทำไมคนโง่พวกนี้ถึงเชื่อว่าเฉินเฟิงจะสามารถเอาชนะการเดิมพันในครั้งนี้ได้!” ผู้ช่วยส่ายหน้าเขาคิดไม่ออกจริงๆว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน
“หึ คนพวกนั้นไม่ใช่นักพนัน ส่วนมากเป็นแค่พวกญาติมิตรและเพื่อนของเฉินเฟิงในประเทศหวาเท่านั้น!”
เทียบกับคำพูดของผู้ช่วย บอสของบริษัทลอตเตอรีหนักแน่นมาก เพราะถึงอย่างไรเขาก็เคยเห็นอะไรมามากแล้ว
“จริงด้วย ตอนนี้มีเงินเข้ามาเท่าไหร่!” บอสนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาจึงเอ่ยถามขึ้น
“จนถึงตอนนี้มีเงินเข้ามาในบริษัทกว่าหนึ่งพันสองร้อยล้าน อัตราส่วนของเฉินเฟิงและวิลเลียมคือสี่ต่อหก ในตอนแรกเริ่มอัตราต่อรองของเฉินเฟิงและวิลเลียมคือหนึ่งต่อเก้า แต่ว่าในตอนหลังกลับเพิ่มขึ้นมาสองต่อหนึ่ง!”
ผู้ช่วยยังพูดไม่จบ ก็มีเสียงขัดขึ้นมา
สีหน้าของบอสเคร่งขรึม เอามือตบโต๊ะอย่างแรง ผู้ช่วยหดคอลง ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ในเวลานี้เองเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น บอสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ตอนนี้ฉันติดต่อสภามืดไปแล้ว สภามืดต้องให้วิลเลียมฆ่าเฉินเฟิงอย่างแน่นอน ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ยกอัตราต่อรองของเฉินเฟิงให้สูงขึ้น!”
ปลายสายมีเสียงแหบพร่าดังขึ้น บริษัทลอตเตอรีรีบตอบรับทันที ไม่กล้ารู้สึกดีใจแม้แต่น้อย
ปลายสายคือบอสตัวจริงของบริษัทลอตเตอรี มีชื่อเสียงอย่างมากในโลก
วาติกัน โรงแรม
หลังจากอู๋คุนอาบน้ำเสร็จ เตรียมที่จะนั่งทำสมาธิ ในเวลานี้เองโทรศัพท์ดังขึ้น
“ท่านเมอร์ล็อต ท่านมีอะไรให้รับใช้?” อู๋คุนเอ่ยถามด้วยความเคารพ
ท่านเมอร์ล็อตคนนี้คือบุคคลอันดับสองของสภามืด เป็นผู้ช่วยของออกัสตัส และเป็นถึงที่ปรึกษาของสภามืด คำสั่งหลายอย่างของออกัสตัสล้วนผ่านเมอร์ล็อต
สิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนที่ผู้มีอำนาจที่สุดในสภามืดออกัสตัสเก็บตัวถือศีล กิจการงานทุกอย่างของสภามืดล้วนอยู่ในการดูแลของเมอร์ล็อต
ถึงแม้อู๋คุนจะเป็นเสินจื่อของสภามืด แต่สำหรับเมอร์ล็อตคนนี้ เขายังคงให้ความเคารพ
“อืม วิลเลียม คำสั่งใหม่ล่าสุดของหัวหน้า ช่วงที่ผ่านมานี้ จากการทำความเข้าใจประเทศหวาเฉินเฟิง คนๆนี้มีความสามารถมาก เป็นอัจฉริยะแห่งวงการศิลปะการต่อสู้ อีกทั้งยังมีความสามารถแข็งแกร่ง สิ่งสำคัญที่สุดช่วงนี้เขาเริ่มถูกปิดล้อมด้วยลูกน้องของเย่หนานเทียน คนๆนี้เมื่อเติบโตขึ้นมา ต้องกลายเป็นภัยคุกคามของสภามืดอย่างแน่นอน คำสั่งของหัวหน้าคือให้นายฆ่าเขา!”
เสียงของเมอร์ล็อตทุ้มต่ำ เป็นคำสั่งที่ชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย