ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 78
บทที่ 78 เกิดเรื่องขึ้นกับกู้ตงเซ็น
ท่าทีที่ลื่นไหลเหมือนน้ำของเฉินเฟิงทำให้เสี้ยเมิ่งเหยา ตาค้างอีกครั้ง ถึงขึ้นมีความคิดที่ว่า เฉินเฟิงคือนักต่อสู้ ยอดเยี่ยมในตำนาน
“พวกแกสองคน ดึกดื่นค่ำคืนเสียงดังอะไรกัน…..” สวี เฟยหรงสวมใส่ชุดนอนสีชมพูพูด พูดด้วยความงัวเงีย หลัง จากที่เห็นภาพตรงหน้าแล้วนั้น เสียงของเธอก็หยุดลงใน ทันที
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?! “ดวงตาคู่สวยของสวีเฟยหรงนิ่ง ค้าง เธอนอนหลับไปงีบเดียว ทำไมบนพื้นถึงมีคนมากขึ้น ถึงสองคน
“พวกมันมาหาคุณ” เฉินเฟิงเลิกคิ้วขึ้น เขาคิดไม่ถึงว่า ตระกูลไป๋จะแก้แค้นเร็วขนาดนี้
“ไป่กว่างยี่ส่งคนมา?!
สีหน้าของสวีเฟยหรงเปลี่ยนไป แล้วพูดขึ้น
“ไปกว่างยี่อะไรกัน? เฟยหรง แกมีเรื่องปิดบังฉันเอาไว้ ใช่ไหม?” เสี้ยเมิ่งเหยามองไปทางสวีเฟยหรงด้วยสายตา สงสัย เธอนึกว่า คนที่จับสวีเฟยหรงเอาไว้ในห้องเมื่อวาน จะเป็นแค่อันธพาลทั่วไป ดูจากตอนนี้แล้วนั้น เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่
สีหน้าของสวีเฟยหรงไม่แน่นอน เธอไม่ได้บอกเรื่องของ ไป่กว่างยี่ให้เสี้ยเมิ่งเหยาฟัง อำนาจของตระกูลไป่๋นั้นน่ากลัวมาก เธอไม่อยากเอาเสียเมิ่งเหยามาเกี่ยวข้อง
“เมิ่งเหยา ฉัน….สวีเฟยหรงเม้มกัดฟัน ไม่รู้ว่าควรจะ พูดอะไรดี
เฉินเฟิงถอนหายใจในใจ แล้วพูดขึ้น: “มีเรื่องอะไรก็พูด มาตามตรงเถอะ ไม่แน่ว่าผมกับเมิงเหยาอาจจะช่วยคุณ ได้”
สวีเฟยหรงเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ใช่คน ธรรมดา เธอสามารถเลือกที่จะผ่านเสี้ยเมิ่งเหยา เอาตัวเอง ลงน้ำ แล้วให้เธอช่วยตน
แต่สวีเฟยหรงไม่ได้ทำแบบนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอเห็นเสี้ย เมิ่งเหยาเป็นเพื่อน ไม่ใช่เพื่อนที่คบกันหลอกๆเท่านั้น เวลานี้ ถ้าเฉินเฟิงยังไม่ลงมือ จะกลับกลายเป็นคนแล้ง
น้ำใจ
“อืม” สวีเฟยหรงพยักหน้า เล่าเรื่องที่บ้าน และเล่าเรื่องที่ เชิญให้ไปกว่างยี่มาช่วยให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟัง
หลังจากที่ฟังจบแล้วนั้น เฉินเฟิงเข้าใจในทันที ที่แท้พ่อ
แม่ของเธอถูกคนทำร้าย ไม่แปลกที่สวีเฟยหรงถึงไปหาไป๋
กว่างยี่
เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วเป็นปม เธออยู่ที่จินหลิง รู้จักเพื่อน หลายคน แต่เพื่อนหลายคนของเธอ กลับไม่สามารถเข้ามา ยุ่งกับเรื่องนี้ได้
“เฉินเฟิง คุณสามารถ..เสี้ยเมิ่งเหยามองไปที่เฉินเฟิ งด้วยความเกรงใจ เวลานี้ ทำได้เพียงฝากความหวังเอาไว้ที่เฉินเฟิงแล้ว เฉินเฟิงมักจะนำพาความเซอร์ไพรส์มาให้กับ เธอ แต่ทุกครั้งที่ไปรบกวนเฉินเฟิงนั้น เธอกลับรู้สึกเกรงใจ
“เมิ่งเหยา ไม่ต้องรบกวนเฉินเฟิงแล้ว เรื่องนี้ฉันจะคิดหา วิธีเอง” สวีเฟยหรงรีบพูดขึ้น เพื่อหยุดเสี้ยเมิ่งเหยา ถึง แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเฉินเฟิงมีภูมิหลังยังไงกันแน่ แต่ไม่ว่า เขาจะมีภูมิหลังยังไง การช่วยคน ล้วนต้องใช้คนและ ทรัพยากร เธอไม่อยากให้ตนเองเป็นต้นเหตุ ทำให้เฉินเฟิง ไม่พอใจเสี้ยเพิ่งเหยา
“ไม่มีอะไรรบกวนหรอก เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เฉินเฟิงพูด แล้วโทรศัพท์ไปหาเฉินจง ถามเฉินจง ว่าที่จิน หลิงมีคนตระกูลเฉินหรือไม่
“แต่ว่า…. สวีเฟยหรงพูดแล้วหยุดพูดอีกครั้ง
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น” เฉินเฟิงพูดขัดสวีเฟยหรงขึ้นมา ทันที เขารู้ว่าสวีเฟยหรงอยากจะพูดอะไร แต่กับแค่ตระกูล ไป๋นั้น ไม่มีสิทธิ์มาอยู่ในสายตาของเขา อีกทั้งกู้ตงเชินก็ได้ มีเรื่องกับตระกูลไปไปแล้ว
กู้ตงเป็น!
เฉินเฟิงคิดบางอย่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นลอบ พูดในใจ แย่แล้ว!
ในเมื่อไปกว่างยี่ส่งคนมาถึงที่ของสวีเฟยหรงแล้ว เช่นนั้น ทางด้านกู้ตงเชิน ก็ต้องส่งคนไปแล้วแน่นอน!
กู้ตงเซินตกอยู่ในอันตราย!
เฉินเฟิงรู้สึกโมโห เรื่องนี้เขาประมาทไปแล้ว
ในเวลานี้เอง หานหลงก็โทรศัพท์มา
%3D “คุณชายเฉิน เกิดเรื่องขึ้นกับกู้ตงเชิน”
“พูดมา! “เฉินเฟิงกดหน้าอกแล้วพูดอย่างร้อนใจ
“เมื่อกี้ลูกน้องพึ่งบอกกับผมว่า มีชายชุดดำสองคน ไป ล้างเลือดที่สมาคมของกู้ตงเชิน ฆ่าคนไปสิบกว่าคน พาตัว กู้ตงเชินไปแล้ว” หานหลงพูดเสียงเคร่งขรึม เขาเองก็คิดไม่ ถึงว่า ไป๋กว่างยี่จะแก้แค้นเร็วขนาดนี้
“กู้ตงเซินยังมีชีวิตอยู่?” เฉินเฟิงโล่งอก ได้ยินว่ากู้ตงเชิน %3D ถูกพาตัวไป เช่นนั้นก็หมายความว่าเขายังไม่ตาย
“น่าจะยังมีชีวิตอยู่ ผมเดาว่าไปกว่างยี่ อยากจะจัดการกู้ ตงเชินด้วยตนเอง เอาตัวกู้ตงเชินไประบายอารมณ์ ตอนนี้ กู้ตงเซินน่าจะถูกพาตัวไปที่จินหลิงแล้ว”
“จัดเตรียมให้พร้อม ฉันจะไปจินหลิงตอนนี้เลย” เฉินเฟิง พูดเสียงเข้ม เขายังเป็นหนี้บุญคุณกู้ตงเชินหนึ่งครั้ง ถ้า หากว่านิ่งดูดายมองดูกู้ตงเชินถูกฆ่า หน้าของเขาก็คงไม่ดี อีกทั้งจะทำให้คนของหานหลงเย็นชา
“คุณชายเฉิน ดึกขนาดนี้แล้ว คงไม่มีตั๋วเครื่องบินแล้ว”
เมืองชางโจวอยู่ห่างจากจินหลิงประมาณหนึ่ง นั่งเครื่องบิน ก็ต้องใช้เวลาสองถึงสามชั่วโมง “ถ้าอย่างนั้นก็ซื้อตั๋วรถไฟ” เฉินเฟิงพูด เขาไม่ได้สูงส่ง ขนาดนั้น อีกทั้งเวลาไม่คอยคน เขาไปสายนิดหน่อย เกรง
ว่าสิ่งที่จะได้เห็น คงเป็นศพของกู้ตงเชิน
“ครับ คุณชายเฉิน”หานหลงรีบตกลง ภายในใจรู้สึกตื้นตัน เฉินเฟิงกับพูดคุณชายในตระกูลรวยๆนั้นไม่เหมือนกัน เขาเองก็ไม่ได้เลือดเย็นแม้แต่น้อย การติดตามคนแบบนี้ ไม่ต้องคอยกังวลว่าวันหนึ่งตนเองจะถูกตัดหางปล่อยวัด
ตัดสาย เฉินเฟิงหันไปมองเสี้ยเมิ่งเหยา ยิ้มเศร้าแล้วพูด ขึ้น : “เมิ่งเหยา ผมคงต้องไปจินหลิงก่อนแล้ว คุณกับ เฟยหรงตามมาที่หลัง”
” เกิดเรื่องขึ้นกับกู้ตงเชิน? เสี้ยเมิ่งเหยาเม้มกัดริมฝีปาก แล้วถามขึ้น เกิดเรื่องขึ้นกับกู้ตงเชิน เฉินเฟิงก็ไม่ได้หนีเอา ตัวรอดไปคนเดียว เพียงแต่ เมื่อไปถึงจินหลิง ไม่รู้จักคนไม่ คุ้นชินพื้นที่แบบนั้น เกรงว่าเฉินเฟิงจะมีอันตรายได้
“อืม”
“ขอโทษด้วยนะ เฉินเฟิง” สีหน้าของสวีเฟยหรงเต็มไป ด้วยความละอาย สุดท้ายแล้ว กู้ตงเชินมีปัญหากับไป๋กว่าง ยี่เพราะเธอ แต่เฉินเฟิงช่วยเธอเอาไว้ได้ ทว่าช่วยกู้ตงเชิน เอาไว้ไม่ได้
“ไม่เป็นไร” เฉินเฟิงส่ายหน้าไปมา แล้วพูดขึ้น: “เขายังมี ชีวิตอยู่ อย่างมากสุดก็แค่ต้องเจ็บตัวก็เท่านั้น”
“ถ้าอย่างนั้นคุณไปคนเดียวก็ระวังตัวด้วย” เสี้ยเมิ่งเหยา พูดกำชับ
“วางใจเถอะ” เฉินเฟิงยิ้ม แล้วเดินออกไป
หลังจากที่เดินออกไปจากประตูแล้วนั้น เฉินเฟิงโทรศัพท์ ไปหาหานหลง ให้หานหลงส่งคนมา ช่วยปกป้องดูแลเสี้ย เมิ่งเหยากับสวีเฟยหรงยี่สิบสี่ชั่วโมง เขาเป็นกังวลว่าหลังจากที่เขาไปแล้วนั้น ไปกว่างยี่จะส่งนักฆ่ามาที่นี่
หลังจากที่ไปถึงสถานีรถไฟ หานหลงได้รอเอาไว้แล้ว ใน เวลาเดียวกันเฉินเฟิงก็พบว่า อาเหาเองก็อยู่ด้วย
“คุณชายเฉิน อีกครึ่งชั่วโมงจะมีรถไฟหนึ่งเที่ยว” หาน หลงพูดด้วยความเคารพ
“อืม” เฉินเฟิงพยักหน้า แล้วมองไปที่อาเหา: “นายเองก็ จะไปด้วย?”
“ครับ คุณชายเฉิน!
อาเหายังคงเป็นคนที่พูดน้อย เมื่อกี้ตอนที่ไป่กว่างยี่ส่ง คนมานั้น เขาไม่ได้อยู่ที่สมาคม ดังนั้นกู้ตงเชินจึงถูกพาไป ถ้าหากว่าเขาอยู่ที่สมาคมด้วยนั้น เกรงว่าคนของไป๋กว่างยี่ คงไม่สามารถเอาตัวกู้ตงเชินไปได้ง่ายๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ” เฉินเฟิงเองก็ไม่ได้พูด อะไร เขายังคงมองว่าอาเหามีอนาคตที่ไกลอาเหาเป็นคน ฉลาด และมีความจงรักภักดี ทั้งยังพูดไม่มาก
“คุณชายเฉิน จะเอาคนไปเพิ่มอีกไหม?” หานหลงลอง ถามดู เฉินเฟิงเอาแค่อาเหาไปคนเดียว เกรงว่าไปถึงที่นั่น คงจะทำอะไรลำบาก
เฉินเฟิงส่ายหน้าไปมา แล้วพูดขึ้น: “ไม่ต้องแล้ว ทหารมี ราคาแพงที่ความสามารถไม่ใช่เพราะจำนวน การเอาคนไป จำนวนมากจะทำให้ส่งผลกระทบที่ไม่ดี”
“ครับ คุณชายเฉิน” หานหลงพยักหน้า เป็นจริงตามนั้น จากความสามารถของเฉินเฟิง การพาคนไปมาจะทำให้เขาเหนื่อยเปล่าๆ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เฉินเฟิงและอาเหาก็ขึ้นไปนั่งบน ขัน รถไฟ