ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 785
บทที่ 785 เกลียดชังมหันต์
“อาร์กบิชอบ? คนที่นายพูดถึงคืออาร์กบิชอบแซค?” สีหน้าของเย่หนานเทียนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
“ถูกต้องครับ!”
ตอนที่อู่จื่อโจวและเย่หนานเทียนยังหนุ่ม อาร์กบิชอบแซคเป็นตัวแทนคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคูเรีย
“คิดไม่ถึงจริงๆว่าตอนนี้เขาจะยังอยู่ที่คูเรีย ยังจะสามารถพบเจอเขาได้อีก!”
เย่หนานเทียนบอกกับเฉินเฟิงที่อยู่ด้านข้าง :“อาร์กบิชอบแซคคนนี้ ในตอนนั้นความสามารถของเขาแข็งแกร่งแต่เหี้ยมโหดกระหายเลือดมากเกินไป ดังนั้นจึงยกตำแหน่งพระสันตะปาปาให้กับโจ้ส์ หลังจากนั้นก็ไม่แน่ชัดว่าเขาไปอยู่ที่ไหน คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังอยู่ในโลก!”
“ถูกต้องครับ เขายังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในคูเรีย แต่ในเมื่อพระสันตะปาปาโจ้ส์สั่งให้เขามา ดูท่าอาร์กบิชอบแซคยังคงทำงานให้กับคูเรีย!”
ความเป็นจริงตอนแรกที่เจอแซค อู่จื่อโจวเองก็ตกใจ
“มีอาร์กบิชอบแซคมารับเฉินเฟิง ความปลอดภัยของเฉินเฟิงไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว แต่โจ้สสามารถส่งอาร์กบิชอบแซคมา เพียงพอแล้วที่จะทำให้รู้ว่าเขาเห็นความสำคัญของเฉินเฟิง เมื่อเป็นแบบนี้เขาคิดจะอะไรกันแน่?” อู่จื่อโจวพูดในสิ่งที่สงสัยออกมา
“อื้ม ปรมาจารย์อู่พูดถูกครับ ในเมื่อมียอดฝีมือคนนี้มาปกป้องผม ถ้าอย่างนั้นผมต้องไปดูว่ากษัตริย์คูเรียท่านนี้ต้องการอะไรจากผม!”
เฉินเฟิงลังเลอยู่พักหนึ่ง แสดงตนว่าจะไปร่วมงานเลี้ยง
อู่จื่อโจวและเย่หนานเทียนมองหน้ากัน ไม่ได้พูดอะไรอีก ไม่นานหลังจากนั้นขณะที่เย่หนานเทียนและอู่จื่อโจวอยู่ด้วย เฉินเฟิงเห็นคนที่เคยแข็งแกร่งมากๆที่โถงชั้นหนึ่ง
เขาสวมชุดคลุมตัวยาวสีดำ เป็นชายชราซูบผอม มองดูแล้วไม่มีอะไรแปลกตา หากเดินอยู่ตรงท้องถนนก็เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
แต่ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงชายชราธรรมดาๆคนนี้ เมื่อสิบกว่าปีก่อนแข็งแกร่งมาก ในวงการศิลปะการต่อสู้แทบจะไม่มีมีใครไม่รู้จัก
ตอนที่เฉินเฟิงมองชายชราอย่างพิจารณา ชายชราเองก็มองมาที่เฉินเฟิง
เพียงแค่มองแวบหนึ่ง หัวใจเฉินเฟิงบีบรัดด้วยความตกใจ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหลักแหลมและเย็นยะเยือก ภายใต้สายตานี้เหมือนความลับทุกอย่างของเฉินเฟิงถูกเปิดเผยออกมา ไม่สามารถซ่อนเอาไว้ นี่เป็นความรู้สึกแรกของเฉินเฟิง
“คุณคือเฉินเฟิงใช่ไหม พระสันตะปาปารับสั่งให้ฉันมารับคุณ!”
ชายชรายิ้มแล้วพูดกับเฉินเฟิง
“ขอบคุณครับ!”
เฉินเฟิงรีบพยักหน้า
แซคพยักหน้า ชำเลืองมองเย่หนานเทียนเหมือนไม่มีเจตนาที่จะมอง จากนั้นหมุนตัวหันหลัง
เฉินเฟิงเดินตามไปโดยไม่ลังเล ส่วนเย่หนานเทียนและอู่จื่อโจวยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน
หลังจากออกมาจากโรงแรม หน้าประตูโรงแรมมีรถม้าจอดเอาไว้สองคัน ที่นี่มียานพาหนะแบบนี้น้อยมาก ม้าเป็นม้าเลือดล้ำค่า และบนรถม้าปักด้วยลวดลายสลับซับซ้อน
บนรถม้ามีราชองครักษ์สองคน บริเวณโดยรอบรถม้ามีราชองครักษ์อีกแปดคน
หลังจากเฉินเฟิงมาถึง สายตาทั้งแปดคู่จับจ้องมาที่เฉินเฟิง แววตาเคล้าไปด้วยเจตนาฆ่า เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ที่พวกเขาเป็นแบบนี้ เพราะระหว่างการประลองเฉินเฟิงตัดแขนของอาเธอร์ทิ้งหนึ่งข้าง และในฐานะที่อาเธอร์เป็นหัวหน้าราชองครักษ์ แน่นอนว่าคนของเขาต้องเกลียดเฉินเฟิงเป็นธรรมดา
แต่พวกเขาก็ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด วันนี้หน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเฉินเฟิง ด้วยเหตุนี้ราชองครักษ์ทั้งแปดคนไม่ได้พูดแล้วเบนสายตาไปรอบๆ
“เชิญครับ!”
แซคมองเฉินเฟิงแล้วผายมือ
“ขอบคุณครับ!”
เฉินเฟิงพูดขอบคุณ จากนั้นขึ้นไปบนรถม้าหนึ่งในนั้น
หลังจากเฉินเฟิงขึ้นไปบนรถม้า แซคเดินไปที่รถม้าอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะขึ้นรถได้กวาดสายตามองกระจกฝั่งตรงหน้า
“เกิดอะไรขึ้น ไอ้แก่แซคก็โผล่มาที่นี่ด้วย หรือว่ามันมาเพื่อปกป้องไอ้เด็กเปรตเฉินเฟิง? ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!”
ฝั่งตรงข้ามโรงแรม โซโลเปิดหน้าต่างเบาๆแล้วมองไปด้านนอกอย่างระมัดระวัง การกระทำของเขาดึงดูดสายตาของแซค
โซโลตกใจ แววตาของแซคกำลังตักเตือน จุดนี้โซโลรู้ดีแก่ใจ
“คิดไม่ถึงจริงๆว่าไอ้แก่แซคจะโผล่มาที่นี่ด้วย!” กงปุ่นเหย่อู่ขมวดคิ้วเป็นปม แววตาฉายความตกตะลึง
หงเทียนป้ากลับนิ่งเงียบ เขาและกงปุ่นเหย่อู่ โซโลทั้งสามคนเฝ้าที่นี่เพื่อฆ่าเฉินเฟิง แต่ตอนนี้มีแซคที่เป็นยอดฝีมือคอยปกป้องเอาไว้ พวกเขาไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะสามารถฆ่าเฉินเฟิงได้
“ตอนที่แซคมีชื่อเสียง พวกเขายังเป็นแค่จอมยุทธ์ธรรมดา สำหรับความสามารถของแซคพวกเขาทั้งสามคนไม่รู้แน่ชัด เอาตัวเองไปเสี่ยงไม่ได้ อีกอย่างคนที่สามารถทำให้แซคต้องปกป้องได้ เพียงพอแล้วที่จะทำให้รู้ว่าเขาเห็นความสำคัญของไอ้เด็กเปรตเฉินเฟิง ฉันขอเสนอให้เปลี่ยนแผน!”
หงเทียนป้าเงียบและพูดน้อย แต่ก็ยังพูดความคิดของตนเองออกมา
“อืม ทำได้แค่นี้แหละ!”
กงปุ่นเหย่อู่และโซโลพยักหน้า ตัดสินใจเปลี่ยนแผน พวกเขาทั้งสามคนตกลงกันแล้ว ไม่ให้เฉินเฟิงมีชีวิตรอดออกไปจากวาติกัน
ดึกมากแล้ว รถม้าสองคนทำลายความเงียบยามค่ำคืน ใช้เวลาไม่นานความเร็วก็ค่อยๆช้าลง สุดท้ายรถม้าก็จอดตรงหน้าสิ่งปลูกสร้างโบราณ
“คุณเฉิน พระสันตะปาปาและธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่กำลังรอคุณในห้องจัดเลี้ยง ต่อจากนี้จะมีอัศวินลูคาคุตนำทางคุณไป!”
แซคลงมาจากรถม้าอีกคน แล้วบอกกับเฉินเฟิง
“รบกวนคุณแล้ว!”
เฉินเฟิงรีบประสานมือขอบคุณ
“งานเลี้ยงในคืนนี้ไม่ธรรมดา คิดว่าคุณเฉินต้องได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน!”
มองดูคนหนุ่มตรงหน้า แซคเผยยิ้มเป็นครั้งแรก
เฉินเฟิงฉงนงุนงง ไม่รู้ว่าชายชราหมายความว่าอะไร ในเวลานี้เองแซคก็หายไปทันที
โดยรอบล้อมไปด้วยอัศวินสิบนายของคูเรีย สีหน้าตื่นตระหนก มองไปไกลด้วยความตะลึงงัน เฉินเฟิงเองก็ตกตะลึง ความเร็วระดับนี้เขาเพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก เขาถึงขึ้นมองไม่เห็นว่าแซคไปจากทิศทางไหน
“แขกที่เคารพ เชิญตามผมมาครับ!”
ลูคาคุตทำความเคารพเฉินเฟิงแบบฉบับการทำความเคารพที่ถูกต้องของอัศวิน แต่ความเกลียดชังในแววตาของเขาเปิดเผยความคิดที่แท้จริงของเขาออกมา
“ถ้าอย่างนั้น รบกวนแล้ว!”
ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของเฉินเฟิง แต่เขากลับไม่ได้แสดงอะไรออกมา
นี่เป็นราชวังขนาดใหญ่มีตำหนักมากมาย ตลอดทางที่เดินไปมีทหารเฝ้าทุกสามก้าวห้าก้าว ระบบรักษาความปลอดภัยคุมเข้มเป็นอย่างดี
เฉินเฟิงเดินไปด้านหน้าด้วยสีหน้านิ่งสงบ ในเวลานี้เองเขาสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตที่ชัดเจน เฉินเฟิงมองไป ภายในตำหนักแห่งหนึ่ง ร่างหนึ่งกำลังมองมา
ถึงแม้ระยะห่างจะไกลเล็กน้อย แต่เฉินเฟิงมองจากเงาก็ดูออก คืออาเธอร์
ตลอดทางเฉินเฟิงไม่ได้หยุดเดิน แม้เขาจะรับรู้ได้ถึงสายตาอาฆาตของอาเธอร์ แต่เขายังคงไม่หยุดเดิน เดินตรงไปด้านหน้า
“สารเลว!”
อาเธอร์ที่อยู่ภายในตำหนักหน้าตาบิดเบี้ยว ตบโต๊ะหินอ่อนตรงหน้าอย่างแรง ความเกลียดชังของเขามากมายมหาศาล
ความเกลียดชังนี้มาจากเฉินเฟิง เฉินเฟิงทำลายแขนของเขา เหมือนเตะเขาลงเหวจากแท่นสวรรค์
ความเกลียดชังนี้มาจาก งานเลี้ยงในคืนนี้ จุดประสงค์หลักของงานเลี้ยงในคืนนี้คืออะไรเขารู้ดีแก่ใจ ซึ่งก็คือให้ธิดาแห่งพรรคทิฟฟานี่แต่งงานกับเฉินเฟิง