ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 788
บทที่ 788 ทำการเลือก
“ความหมายของพระสันตะปาปาคือ ถ้าหากผมไม่ตกลงแต่งงานกับทิฟฟานี่ ผมคงไม่สามารถออกไปจากงานเลี้ยงนี้อย่างปลอดภัย?”
สีหน้าของเฉินเฟิงเคร่งขรึม นัยน์ตาฉายความเย็นยะเยือก
“ไม่ใช่แบบนั้น ชายหนุ่มจากหวาเซี่ย คุณเข้าใจผิดแล้ว” พระสันตะปาปาโจ้ส์ส่ายหน้า พูด:“พวกเราและหวาเซี่ยเป็นมิตรสหายที่ดีกันมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีทะเลาะกันบ้าง แต่นั่นก็เพื่อให้คนหนุ่มสาวฝึกฝนและเติบโต”
พระสันตะปาปาหยิบไวน์บนโต๊ะอาหารขึ้นมา แล้วรินให้ตนเองครึ่งแก้ว จากนั้นยกแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วหันไปทางเฉินเฟิงพร้อมกับพูด:“คุณสามารถเอาสิ่งที่ผมพูดกับคุณ เป็นคำแนะนำที่ผู้อาวุโสแนะนำให้ผู้ที่อายุน้อยกว่า”
สิ้นเสียง พระสันตะปาปายกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม แล้วพูดกับเฉินเฟิง:“คุณต้องรู้ ก่อนที่คุณจะมาที่นี่ กงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าทั้งสามคนเกลียดคุณจนอยากจะกลืนกินเนื้ออยากจะถลกหนัง แต่เพราะแซคอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงไม่กล้าลงมือ แต่ว่า ถ้าคุณปฏิเสธการแต่งงานกับทิฟฟานี่ เช่นนั้นทุกคนในคูเรียของพวกเราก็จะมองว่าคุณดูถูกพวกเราชาวคูเรีย รู้สึกว่าพวกเราคูเรียไม่คู่ควรกับคุณที่เป็นอันดับหนึ่งของคนรุ่นใหม่ ถึงแม้คูเรียของเรากับหวาเซี่ยจะมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ผมก็ทำได้เพียงหลังจากงานเลี้ยงเลิก สั่งให้อัศวินส่งคุณกลับไป”
พระสันตะปาปาโจ้ส์เน้นยำคำว่า “อัศวิน” เพื่อลอบบอกเฉินเฟิง ว่าจะไม่สั่งให้แซคดูแลความปลอดภัยของเขาในการกลับไป
“ฮ่าๆ ทำไมคำแนะนำของผู้อาวุโสถึงได้ระคายแก้วหูจังเลยครับ?”
สีหน้าของเฉินเฟิงดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
เขาไม่กลัวกงปุ่นเหย่อู่พวกเขาสามคนมาแก้แค้นตน แต่กำลังคิดว่าต้องทำยังไงถึงจะไม่ทำลายมิตรภาพที่ดีระหว่างหวาเซี่ยและคูเรีย และยังสามารถปฏิเสธการแต่งงานได้?
“ถึงแม้คำพูดจะหยาบกระด้างไปหน่อย แต่นี่เป็นความจริง!” ราวกับพระสันตะปาปาโจ้ส์จะเอาชนะเฉินเฟิงให้ได้ พูดเอื้อนเอ่ยช้าๆ :“ไม่มีคูเรียของพวกเราออกหน้า หลังจากที่คุณออกไปจากงานเลี้ยงมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกพวกเขาจับไป ถูกพวกเขาจับไปจะมีจุดจบยังไง ผมไม่ต้องพูด คุณเองก็รู้ดี”
เฉินเฟิงถอนหายใจเบาๆ
“ขอบคุณความหวังดีของพระสันตะปาปาที่เคารพ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ผมไม่ขอรบกวนพระสันตะปาปา มีโอกาสจะมาเยี่ยมใหม่นะครับ”
น้ำเสียงของเฉินเฟิงไม่ถ่อมตนจนดูต้อยต่ำและไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง หลังจากประสานมือพูดขอบคุณพระสันตะปาปา เขาก็หมุนตัวหันหลังออกไป
“เฮ้อ คนหนุ่ม คุณรู้ไหมว่าการที่คุณออกไปแบบนี้ มันหมายความว่าอะไร? หมายความว่าคุณจะสูญเสียผู้หญิงที่สวยที่สุด สูญเสียอำนาจที่อยู่ใต้คนๆเดียว เหนือคนนับหมื่น หมายความว่าคุณจะสูญเสียโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นยอดฝีมือที่เก่งที่สุดของโลก หมายความว่าคุณจะสูญเสียชีวิตที่ล้ำค่า”
พระสันตะปาปาโจ้ส์พูดทั้งสี่ความหมายในครั้งเดียว ทุกความหมายเหมือนค้อนหนัก ที่ทุบตีหัวใจของเฉินเฟิงอย่างแรง
แต่ว่า เฉินเฟิงแกล้งทำเป็นหูหนวก เดินออกไปจากห้องจัดงานเลี้ยงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไป
พระสันตะปาปาโจ้ส์ไม่รู้ เมื่อกี้ตอนที่เขาพูดสิ่งเหล่านั้น หัวใจของเขามีเสียงเสี้ยเมิ่งเหยาดังขึ้น
ฉันเชื่อเฉินเฟิง……
“เป็นแบบนี้ได้ยังไงคะ? ทำไมเขาถึงตัดสินที่ไร้เหตุผลแบบนี้ได้?”
หลังจากเฉินเฟิงเดินออกไปจากห้องจัดงานเลี้ยงอย่างไม่ลังเล ในที่สุดทิฟฟานี่ก็เอ่ยถามขึ้น:“คนที่ไม่รู้จักพิจารณาสถานการณ์แบบเขา เดินมาถึงขั้นนี้ได้ยังไงคะ?”
หลังจากผ่านการแข่งขันที่โดดเด่นของเฉินเฟิง ทิฟฟานี่คิดว่าเฉินเฟิงไม่ได้มีแค่ความสามารถที่โดดเด่นกว่าทุกคน อีกทั้งเขายังรู้จักการมองสถานการณ์เป็นอย่างดี เป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ว่า การกระทำของเฉินเฟิงเมื่อกี้ กลับทำให้มุมมองก่อนหน้านี้ของเธอหวั่นไหว เพราะคนที่ใช้ความรู้สึกในการทำงาน สุดท้ายจะเป็นแค่เครื่องมือที่ช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จเท่านั้น
ใบหน้าสิ้นหวังและไม่พอใจของทิฟฟานี่เมื่อก่อนหน้านี้เปลี่ยนไป ดวงตาของเธอเหมือนกำลังจะพ่นไฟออกมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ฐานันดรศักดิ์และตำแหน่งคูเรียธิดาเทพแห่งพรรคทำให้เธอสูงศักดิ์ไร้เทียมทาน คนหนุ่มผู้ประพฤติชั่วนับไม่ถ้วน ไม่เสียดายที่จะทำทุกอย่าง เพื่อได้รับความโปรดปรานจากเธอ
ไม่ว่าเธอจะเดินอยู่ที่ไหน ที่นั่นล้วนมีแต่เสียงตามจีบและประจบประแจง ถึงขั้นที่ว่าขอแค่เธอเอ่ยปากพูด พวกคนที่ตามจีบเธอก็จะไม่สนใจว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ขายชีวิตให้กับเธอ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเธอคือธิดาเทพแห่งพรรคของคูเรีย เป็นนางฟ้าของทุกคนบนโลก
เฉกเช่นเดียวกับอาเธอร์ที่สูญเสียแขนหนึ่งข้าง
แต่เฉินเฟิงกลับปฏิเสธเธออย่างใจคอโหดร้าย ต้องรู้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เธอลดเกียรติของตนลง ลดตัวลง เป็นผู้ชายคนแรกที่เธอเป็นฝ่ายแสดงความรู้สึกของตนเองออกไป ในตอนนั้นในใจของเธอเหมือนมีลูกกวางน้อยกำลังวิ่งเล่น เธอตัดสินว่าเฉินเฟิงคือสามีที่เธออยากจะได้ในอนาคต
แต่ว่า เฉินเฟิงกลับปฏิเสธเธอด้วยเหตุผลที่ว่าตนมีคู่หมั้นแล้ว นี่เป็นการพูดอ้อมๆว่าตนเทียบกับคู่หมั้นของเขาไม่ได้ไม่ใช่หรอ? ข้ออ้างนี้แย่ที่สุด!
ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่มีหน้าตาและหุ่นสมบูรณ์แบบ จะยอมให้คนอื่นทำลายศักดิ์ของตนที่สำคัญเท่ากับชีวิตได้อย่างไร
“เฮ้อ!ทิฟฟานี่ เธอผิดแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่ฉลาด นี่ต่างหากที่เป็นจุดที่เขาควรค่าให้คนอื่นชื่นชมที่สุด
พระสันตะปาปาโจ้ส์ส่ายหน้า มองดูทิฟฟานี่ที่กำลังโมโหด้วยสีหน้ารักใคร่ ถึงแม้การแต่งงานระหว่างทิฟฟานี่และเฉินเฟิงจะทำเพื่อผลประโยชน์ของคูเรีย แต่เขาก็เห็นทิฟฟานี่มาตั้งแต่เล็ก
ทิฟฟานี่ยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร คำพูดของเฉินเฟิงตราตรึงอยู่ในความคิดของเธอ
ฉันจะต้องได้หัวใจคุณให้ได้ ทำให้คุณยินดีที่จะแต่งงานกับฉัน ทิฟฟานี่พูดในใจ
ไม่นาน ทิฟฟานี่หันไปถามพระสันตะปาปาโจ้ส์:“พระสันตะปาปา ฟังสิ่งที่ท่านพูดกับเฉินเฟิงเมื่อครู่ กงปุ่นเหย่อู่ของญี่ปุ่น โซโลและหงเทียนป้าของประเทศอเมริกาเฝ้าเอาไว้ด้านนอก อยากรอให้หลังจากเฉินเฟิงออกไป แล้วฆ่าเขาทิ้ง ถ้าอย่างนั้นเขาออกไปจากวาติกันโดยไม่รู้ที่ตายแล้วรนหาที่ตาย แตกต่างอะไรกับการเอาชีวิตให้กับยมทูตคะ?”
“คำถามนี้ต้องถามเจ้าตัว”
พระสันตะปาปาโจ้สไม่ได้ตอบคำถามทิฟฟานี่ตรงๆ แต่ลูบไปที่ด้านหนึ่ง แล้วมองดูทิศทางที่เฉินเฟิงเดินจากไป แววตามีแสงไฟระยิบระยับเคลื่อนผ่าน……
อย่างรวดเร็ว เฉินเฟิงเดินออกมาจากห้องจัดงานเลี้ยงจนถึงด้านนอกแล้ว
ราชองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเห็นเฉินเฟิงเดินออกมา จึงรีบเดินมาตรงหน้าเฉินเฟิง ทำความเคารพเฉินเฟิงพร้อมกับพูด:“คุณเฉินที่เคารพ รถม้าจอดเอาไว้ที่เดิมที่คุณเฉินลง ผมพาคุณไปเองครับ”
เฉินเฟิงมองไปยังทางที่มา รถม้ายังคงเป็นคันเดียวกับตอนที่ม้า
เฉินเฟิงคิดบางอย่างขึ้นในใจ จึงบอกกับราชองครักษ์ :“เมื่อกี้ผมกับพระสันตะปาปาและธิดาเทพแห่งพรรคของพวกคุณคุยกันสนุกมาก จึงกินเยอะโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้อยากจะเดินเล่น ย่อยอาหารสักหน่อย”
เฉินเฟิงใช้มือลูบท้องสองรอบ ทำเป็นเหมือนกินจนอิ่มแปล้
“แต่ว่า รบกวนพวกคุณใช้รถม้าไปเอาของกำนัลแทนผมที่โรงแรมวาติกันหน่อยได้ไหมครับ? ตอนมาเร่งรีบเกิน ผมลืมเอาของขวัญเจอกันครั้งแรกที่เตรียมเอาไว้ให้พระสันตะปาปามา”
“ไม่มีปัญหาครับ!คุณเฉินที่เคารพ”
ราชองครักษ์มองเฉินเฟิงที่อิ่มแปล้แล้วรู้สึกแปลกๆ แต่คุณเฉินเป็นแขกวีไอพีที่พระสันตะปาปาเชิญมา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเสียมารยาท รีบรับคำทันที
เฉินเฟิงบอกขอบคุณราชองครักษ์ จากนั้นตัวของเขาค่อยๆจางหาย จนสุดท้ายก็หายไปตรงหน้าราชองครักษ์
ภาพนี้ ทำให้ราชองครักษ์ตกใจจนนิ่งค้าง ตอนที่ดึงสติกลับมา ราชองครักษ์ไม่ได้ไปเอาของขวัญเจอกันครั้งแรกที่โรงแรมวาติกันตามที่เฉินเฟิงสั่ง แต่รายงานเรื่องนี้ให้กับหัวหน้า
เวลานี้ เฉินเฟิงใช้ทักษะของตนไม่หยุดหย่อน ผ่านสิ่งปลูกสร้างโบราณหลังแล้วหลังเล่า จนกระทั่งห่างออกมาจากศูนย์กลางคูเรีย ตัวของเขาจึงค่อยๆปรากฏออกมาในสิ่งปลูกสร้างหลังหนึ่ง
ถูกต้อง เฉินเฟิงไม่ได้ออกไปจากเมืองวาติกันทันที เพราะเขารู้ การที่เขาออกไปจากวาติกันอย่างโจ่งแจ้ง สิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือการตามฆ่าและแก้แค้นของพวกกงปุ่นเหย่อู่สามคน
ดังนั้นเขากำลังรอ รอให้หลังจากรถที่รับส่งเขาออกไปจากวาติกัน แล้วค่อยออกไป เขาใช้รถม้ากลบเกลื่อน ใช้วิธีการล่อเสือออกจากถ้ำ
มองดูรถม้าค่อยๆออกจากเมืองวาติกัน เฉินเฟิงขบกรามเล็กน้อย ร่างของเขาหายไปในความมืดอีกครั้ง